อยากให้บริษัทที่ธรรมมาภิบาลแย่ๆเจอแบบนี้บ้างคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 01, 2012 1:28 pm
เข้าไปอ่านเพจของ THL ที่มีรายย่อยรวมตัวกันเพื่อโหวตไล่ผู้บริหารที่เข้าใจว่าคดโกง (ผมไม่ได้ว่าเค้าโกงนะครับ) อ่านแล้วรู้สึกดีครับ เพราะที่ผ่านๆมา สิ่งที่สำคัญที่สุด และ ยากที่สุดในการเลือกหุ้น ก็คือการมองหาหุ้นที่ดี บริษัทมีธรรมมาภิบาลที่ดีและผู้บริหารรับฟังความคิดเห็นของ ผถห รายย่อยนี่แหละ
เลยคิดว่าถ้าจะมีองค์กรตรวจสอบ หรือ อะไรแบบนี้บ้างก็น่าจะดี
ผมว่าการที่ตลาดหุ้นเมืองไทย พัฒนาช้ากว่าต่างประเทศส่วนนึงก็เพราะ การที่ตลาดเราบริษัทประเภทนี้อยู่เยอะนี่แหละ
จำได้ว่าเคยฟังพี่ลูกอีสานพูดในงานสัมมนา แกบอกว่าหุ้นทั้งตลาดแกจับตาดูแค่ 200 กว่าบริษัทเท่านั้น เนื่องจากบริษัทอื่นๆที่เหลือ มีปัญหาเรื่องธรรมมาภิบาล ฟังแล้วอึ้งเลย ตลาดหุ้นเมืองไทย
เลยคิดว่าถ้าจะมีองค์กรตรวจสอบ หรือ อะไรแบบนี้บ้างก็น่าจะดี
ผมว่าการที่ตลาดหุ้นเมืองไทย พัฒนาช้ากว่าต่างประเทศส่วนนึงก็เพราะ การที่ตลาดเราบริษัทประเภทนี้อยู่เยอะนี่แหละ
จำได้ว่าเคยฟังพี่ลูกอีสานพูดในงานสัมมนา แกบอกว่าหุ้นทั้งตลาดแกจับตาดูแค่ 200 กว่าบริษัทเท่านั้น เนื่องจากบริษัทอื่นๆที่เหลือ มีปัญหาเรื่องธรรมมาภิบาล ฟังแล้วอึ้งเลย ตลาดหุ้นเมืองไทย
https://www.facebook.com/pages/THL/288318717900573
เรียน คุณvalentine จากเมื่อก่อนพวกเราต่างก็คิดว่าตนเองมีหุ้นน้อย เลยไม่มีความคิดว่าจะมีส่วนร่วม กระทั่งราคาหุ้นเคยสูงสุดประมาณ 10บาท ตอนปิดเหลือ 50สต. ก็เกือบหมดตัว และมีผู้เสนอตัวเป็นแกนนำในการต่อสู้ซึ่งเป็นคนไทย และมีรายย่อยหลายคนที่เป็นฝรั่งต่างชาติรวมกันหลายสิบล้านหุ้นมอบความไว้ว่างใจให้ร่วนโหวตกับพวกเรา และตอนนี้ก็ยังมีความสัมพันธ์ที่เหนียวแหน่นยังคงเป็นพันธมิตรกับเราอยู่ การต่อสู้ครั้งนี้ได้
เปิดหน้าประวัติศาตร์ในวงการตลาดทุนแล้ว แต่คนวงนอกกำัลังมองว่าความสามารถในการบริหารของคณะเราจะไม่สามารถจะบริหารกิจการได้ คงจะเป็นจริงอยู่ในช่วงต้นที่เข้าไปยังไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้เสียผลประโยชน์ แต่ก็เป็นโชคดีของพวกเราที่ได้ คุณวิจิตร คุณสุเมธ คุณธนภูมิ และคุณกฤตภาส มีความสามารถพอที่จะทำให้ผู้ศูนย์เสียผลประโยชน์หวั่นไหว อีกทั้งท่านสุทธิชัย สังขมณี มาร่วมต่อสู้ ทำให้คณะของพวกเรามีความชอบธรรมมากขึ้น และหลังจากทำการปลดกรรมการอีกครั้งแล้ว ก็น่าจะเดินหน้าบริหารกิจการของเราได้อย่างมีเอกภาพ ส่วนงานข้างหน้าเรื่องการเงิน น่าจะไม่มีปัญหามากอย่างแต่ก่อน เพราะเราต้องขายธุระกิจที่ไม่มีความชำนาญ และเร่งเจราจาหนี้กับธนาคาร และยังมีนักธุระกิจสนใจที่จะเป็นพันธมิตรกับเราหลายราย อย่างไรก็ตามแผนอนาคตจะเป็นไปด้วยดีได้นั้น ต้องผ่านวันประชุมวิสามัญที่จะถึงนี้ให้เรียบร้อยก่อนครับ