Thai VI

อยากรู้ว่าพี่ๆ เพื่อนๆใช้วิธีไหนประเมินมูลค่าหุ้นวัฏจักรบ้างครับ
pe pbv ที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่
dcf dcfc ค่าterminal growthควรเป็นเท่าไหร่

ดูว่ามีเหตุปัจจัยอะไร เมื่อไหร่ ที่มันจะพลิกกลายเป็นขาขึ้นของวัฏจักรครับ ส่วนค่าพวก PE PBV CF ปัจจุบันกับอนาคต ยิ่งถูกก็ยิ่งดีครับ

การลงทุนหุ้นวัฏจักรสิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดมาหรือยัง ผมคิดว่าเราไม่ควรดู PE หรือ PBV เลย นอกจากนี้อย่าหวังจะไปใช้ DCF เนื่องจาก DCF เหมาะกับธุรกิจที่คาดการณ์กระแสเงินสดได้ยาวๆ

สิ่งที่ต้องดูคือปัจจัยที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มเช่นราคาสินค้าเริ่มฟื้นตัว และมีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ต้นทุนไม่ค่อยเพิ่ม ซึ่งจะทำให้กำไรอาจจะดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาครับ

ผมคิดว่าจุดซื้อลงทุนของหุ้นวัฏจักรจะต้อง

1. เลือกบริษัทที่ไม่ล้ม อันนี้สำคัญมาก ถ้าบริษัทล้มคุณก็จบเลย บริษัทที่มีเงินสดอยู่บ้างและหนี้ไม่สูงจนทำให้ล้มได้ หรือมีเหตุที่ทำให้ยังไงก็ไม่ล้ม เช่นรัฐวิสาหกิจบางอย่าง หรือบริษัทที่มีคนหนุนหลังทุนหนาเป็นต้น

2. การพิจารณาจุดลงทุนต้องดู Downside risk เป็นหลักมากกว่า MOS เนื่องจากการประเมินมูลค่าหุ้นทำได้ยากดังนั้นการคำนวณ MOS จะทำได้ไม่แน่นอน และหลักๆคือบริษัทต้องอยู่รอดก่อน

3. ถ้าอยากลงทุนโดยใช้เวลาไม่นานก็ต้องเลือกจุดที่ธุรกิจกำลังจะ turn around ด้วย ผลประกอบการเริ่มขาดทุนน้อยลง หรือ ยอดขายเริ่มมากขึ้นเป็นต้น

ผมคิดว่าใน Thai VI มีคนเก่งหุ้นวัฏจักรอยู่มากโดยเฉพาะท่านอดัตประธาน Web คือคุณหมอสามัญชน ลอง search ดูในคลังกระทู้คุณค่าดูสิครับ

ซื้อไม่รู้
ตอนขายถ้าเอาตามเนฟ คือ เราประมาณการว่า
ผลกำไรของ บ. peak ตอนไหนก็ควรขายตอนนั้น


ฟังดูง่าย แต่เหมือนต้องใช้ข้อมูลและความเข้าใจสูงมาก

หุ้นวัฏจักรถ้า PE ต่ำๆ ROE สูงๆ นักวิเคราะห์เชียร์ซื้อ เป็นธุรกิจแห่งอนาคต เม่าชอบ บลาฯ ขายไปเถะ เพราะมันจะอยู่ช่วง peak ของอุตสาหกรรมพอดี Downside riskสูงมัก

ขอบคุณทุกท่านมากครับ

kraikria เขียน:การลงทุนหุ้นวัฏจักรสิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดมาหรือยัง ผมคิดว่าเราไม่ควรดู PE หรือ PBV เลย นอกจากนี้อย่าหวังจะไปใช้ DCF เนื่องจาก DCF เหมาะกับธุรกิจที่คาดการณ์กระแสเงินสดได้ยาวๆ

สิ่งที่ต้องดูคือปัจจัยที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มเช่นราคาสินค้าเริ่มฟื้นตัว และมีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ต้นทุนไม่ค่อยเพิ่ม ซึ่งจะทำให้กำไรอาจจะดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาครับ

ผมคิดว่าจุดซื้อลงทุนของหุ้นวัฏจักรจะต้อง

1. เลือกบริษัทที่ไม่ล้ม อันนี้สำคัญมาก ถ้าบริษัทล้มคุณก็จบเลย บริษัทที่มีเงินสดอยู่บ้างและหนี้ไม่สูงจนทำให้ล้มได้ หรือมีเหตุที่ทำให้ยังไงก็ไม่ล้ม เช่นรัฐวิสาหกิจบางอย่าง หรือบริษัทที่มีคนหนุนหลังทุนหนาเป็นต้น

2. การพิจารณาจุดลงทุนต้องดู Downside risk เป็นหลักมากกว่า MOS เนื่องจากการประเมินมูลค่าหุ้นทำได้ยากดังนั้นการคำนวณ MOS จะทำได้ไม่แน่นอน และหลักๆคือบริษัทต้องอยู่รอดก่อน

3. ถ้าอยากลงทุนโดยใช้เวลาไม่นานก็ต้องเลือกจุดที่ธุรกิจกำลังจะ turn around ด้วย ผลประกอบการเริ่มขาดทุนน้อยลง หรือ ยอดขายเริ่มมากขึ้นเป็นต้น

ผมคิดว่าใน Thai VI มีคนเก่งหุ้นวัฏจักรอยู่มากโดยเฉพาะท่านอดัตประธาน Web คือคุณหมอสามัญชน ลอง search ดูในคลังกระทู้คุณค่าดูสิครับ

ตอนซื้อ ผมซื้อด้วยPBVจริงๆครับ ตอนนี้คาดว่าคงขาดทุนจนBVลงมาเท่าที่ผมซื้อแน่ๆ ก่อนจะturnaround
ตอนซื้อก็ไม่คิดว่าบ.จะล้มเพราะเจ้าของมีกำลังภายใน(เงิน)เยอะ จากธุรกิจที่ต่อเนื่อง
ถ้าปล่อยธุรกิจนี้ล้ม จะกระทบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องไปด้วย
ส่วนDownside Riskต้องยอมรับว่าผมพลาดจริงๆครับ ดูแค่demand&supplyไม่พอ
ต้องไปดูสาเหตุที่demand&supplyจะเพิ่มหรือลดด้วย ถือว่าได้ประสบการณ์ที่ดีมากๆ

ตอนนี้รอให้เหตุการณ์จบก่อน ค่อยสรุปสาเหตุปัจจัยต่างๆ จะเก็บไว้เป็นกรณีศึกษาครับ
เคสนี้ผมว่าสนใจมากๆ

หือ.....กระทู้แบบนี้ต้องพี่ชูเกียรติเลย.......

ผมจะรอฟัง

เอ่อ ผมมาคิดว่าการประเมินมูลค่าจะใช้dcf/dfcfได้มั้ย
โดยให้terminal growth=0 ปีสุดท้ายที่คำนวนคือปีที่วัฏจักรพีค
แล้วแบ่งสมมติฐานราคาสินค้าเป็น3-5เคสตามความน่าจะเป็นจะพอได้มั้ยครับ

ถ้าถามผม ผมว่าไม่ควรจะใช้อะไรในการประเมินค่าหุ้นวัฐจักรเลยครับ เหตุผลก็คือหุ้นวัฎจักรส่วนใหญ่มักจะอิงกับราคาอะไรสักอย่างซึ่งยากมากที่เราจะรู้ว่าราคานั้นจะขึ้นไปถึงเท่าไหร่ เพราะงั้นถ้าจะซื้อหุ้นวัฏจักรแล้วคุณต้องมั่นใจว่ามันผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และควรจะมี catalyst อะไรสักอย่างที่จะส่งผลให้ราคาอ้างอิงหรือผลประกอบการในอนาคตนั้นมีแนวโน้มจะ turnaround (ถ้าภาษาบ้าน ๆ เรียกว่าทำให้ "เขื่อนแตก") เมื่อซื้อไปแล้วก็ไม่ต้องคำนวณหาค่า PE PBV ให้เมื่อยครับ ควรจะคอยติดตามดูว่าราคาอ้างอิงนั้นเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาเขื่อนแตกนั้นยังคงอยู่หรือไม่ ส่วนขายก็ต่อเมื่อเหตุการณ์นั้นเปลี่ยนแปลงหรือคลี่คลายลง หรืออีกวิธีคือให้ technical analysis ช่วยหาจุด stop profit ก็ได้ครับ

สำคัญคือราคาจะมาก่อนกำไรของบริษัทเสมอครับ เพราะงั้นถ้าราคามันเปลี่ยนไปแล้วก็ไม่ควรจะรอ earning ออกครับ มันจะช้าไปแล้ว สรุปว่าหุ้นวัฐจักร ถ้าอยู่ในช่วงเขื่อนแตกสามารถทำกำไรได้เยอะ โดยไม่สนว่าตลาดรวมจะเป็นยังไง แต่ถ้ากะจังหวะผิดก็ขาดทุนได้เยอะเหมือนกัน คนซื้อต้องมีเวลาติดตามและมีวินัยในการลงทุนมากครับ

อันนี้มาจากประสบการณ์อันน้อยนิดในการลงทุนหุ้น P_L นะครับ หวังว่าคงช่วยได้บ้าง

คล้ายๆว่าหมอสามัญชนเคยpostไว้ดีมากทีเดียว

ให้มอง pe ratio ครับ ถ้าช่วงพีอีเรโชสูง แสดงว่ากำลังจะเป็นช่วงขาขึ้นของวัฎจักร

แต่ทั้งนี้

เราต้องเข้าใจวัฎจักรของมันเป็นอย่างดี เราจึงจะสามารถทำกำไรได้ครับ

ถ้าถูกทดแทนได้ง่าย วัฎฎะ หรือ รอบของมันก้จะจบเร็ว

เช่น อุตสาหกรรมเรือ ครั้งแรกดีมานท์>>ซัพพลาย

แต่พอสั่งต่อเรือ ซัพพลายก้>>>>ดีมานท์ จบรอบ

สรรพสิ่งบนโลกล้วนกำหนดจุดเขื่อนแตก ด้วยดีมานท์/ซัพพลาย ครับ

ให้ดูช่วงน้ำท่วม เรือ ลำนึงขาย7000 พอหมดน้ำท่วมขาย 2500 เราก้เอาหลักการข้อนี้

มาประยุกต์ได้ครับ

คือ ซื้อหุ้นในอุตสาหกรรม ในเวลาเขื่อนแตก และขายหุ้นออกไปเมื่อ เขื่อนซ่อมเสร็จ

แต่หุ้นวัฎจักร พวกคอมโม โดยเฉพาะ soft commo ปราบเซียนมาเยอะและครับ

ถ้าไม่เข้าใจ และเห็นภาพไม่ชัดว่าเขื่อนจะแตก

นั่งเฉยๆหาหุ้นคุณภาพดีๆลงทุนดีกว่าครับ

chukieat30 เขียน:ให้มอง pe ratio ครับ ถ้าช่วงพีอีเรโชสูง แสดงว่ากำลังจะเป็นช่วงขาขึ้นของวัฎจักร

แต่ทั้งนี้

เราต้องเข้าใจวัฎจักรของมันเป็นอย่างดี เราจึงจะสามารถทำกำไรได้ครับ

ถ้าถูกทดแทนได้ง่าย วัฎฎะ หรือ รอบของมันก้จะจบเร็ว

เช่น อุตสาหกรรมเรือ ครั้งแรกดีมานท์>>ซัพพลาย

แต่พอสั่งต่อเรือ ซัพพลายก้>>>>ดีมานท์ จบรอบ

สรรพสิ่งบนโลกล้วนกำหนดจุดเขื่อนแตก ด้วยดีมานท์/ซัพพลาย ครับ

ให้ดูช่วงน้ำท่วม เรือ ลำนึงขาย7000 พอหมดน้ำท่วมขาย 2500 เราก้เอาหลักการข้อนี้

มาประยุกต์ได้ครับ

คือ ซื้อหุ้นในอุตสาหกรรม ในเวลาเขื่อนแตก และขายหุ้นออกไปเมื่อ เขื่อนซ่อมเสร็จ

แต่หุ้นวัฎจักร พวกคอมโม โดยเฉพาะ soft commo ปราบเซียนมาเยอะและครับ

ถ้าไม่เข้าใจ และเห็นภาพไม่ชัดว่าเขื่อนจะแตก

นั่งเฉยๆหาหุ้นคุณภาพดีๆลงทุนดีกว่าครับ

ยังคมเหมือนเดิมพี่

ยังคมเหมือนเดิมพี่

ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมความรู้งูๆปลาๆ ยังต้องฝึกหักอีกมาก

chukieat30 เขียน:ยังคมเหมือนเดิมพี่

ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมความรู้งูๆปลาๆ ยังต้องฝึกหักอีกมาก

ผมคิดว่าทุกคนคงต้องฝึกฝนตลอดเวลา แต่ที่คุณ chukieat30 บอกว่าตัวเองมีความรู้งูๆปลาๆนั้นออกจะถ่อมตัวไปนะครับ ผมตามอ่านมานานและยอมรับว่าคุณ chukieat30 มีความรู้กว้างขวางทีเดียว

ผมขออนุญาตแสดงความเห็นเพิ่มเติมเรื่อง ควรลงทุนที่ PE สูงสักนิดนึงนะครับ ผมคิดว่าที่หลายๆคนบอกว่าควรลงทุนหุ้นวัฏจักรที่ PE สูงนั้นเป็นการมองการเปลี่ยนแปลงของ PE มากกว่าการจะดูที่ค่า PE โดยตรง จึงมีคำกล่าวที่ว่าควรจะขายที่ PE ต่ำและซื้อที่ PE สูง ส่วนตัวผมเองคิดว่ามือใหม่ต้องระมัดระวังกับคำแนะนำดังกล่าวให้มากทีเดียว เนื่องจากการพิจารณาที่ตัวเลข PE โดยไม่ดูการเปลี่ยนแปลงของ PE จะทำให้เราผิดพลาดได้อย่างแรงเลยครับ

ทำไมต้องดูการเปลี่ยนแปลงของ PE? อันที่จริงน่าจะเรียกว่าดูการเปลี่ยนแปลงของ E มากกว่า เนื่องจาก ค่า P นั้นเป็นการกำหนดของ Mr.Market ซึ่งหลายๆครั้งไม่ได้สะท้อนรอบขาขึ้นของหุ้นวัฏจักรแต่อย่างใด ที่ต้องดูการเปลี่ยนแปลงของ E เป็นเพราะว่าหาก E ไม่ขยับขึ้นแต่เราดันซื้อเพราะ PE สูงละก็ อาจจะติดหุ้นยาวกว่าที่ธุรกิจจะกลับมามีกำไร จริงมั๊ยครับ

แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า E จะขึ้น? อันนี้ก็ต้องทำการบ้านหนักละครับ Supply Demand เอย ความพร้อมของบริษัทที่จะกอบโกยในช่วงขาขึ้นเอย หลายๆอย่างมากที่จะเป็นข้อมูลให้เราวิเคราะห์

ส่วนตัวผมคิดว่าการลงทุนหุ้นวัฏจักรนั้นยากจริงๆครับ ถ้าหากใครสนใจก็ขอให้ทำการบ้านหนักๆ ไม่งั้นเหนื่อยแน่นอน

อึกสิ่งที่ต้องระวังคือการขยายกำลังการผลิตช่วง high demand ทำให้คาดการผิดคิดว่าจะมียอดขายเพิ่ม พอเศรษฐกิจร่วง ราคาขายตกซะละ ไม่มี demand

เข้ามาติดตาม รอหลายๆท่านมาให้ความรู้ด้วยคน

ไม่เป็นไรคับคุณanubist
หุ้นที่คุณถืออยู่ผมก็พึ่งซื้อไม่นานคับ อยู่เป็นเพื่อนกันน่ะ อิอิ
ยังไงผมก็คิดว่ามันต้องฟื้นคับ แต่อาจจะต้องรอหน่อยแต่ก็ไม่น่าเกินสัก3-5ปี
ผมเป็นพวกหน้ามึนถือทนได้ก็เลยไปเรื่อยๆ 5555