dragonrider เขียน:“Markets are constantly in a state of uncertainty and flux and money is made by discounting the obvious and betting on the unexpected.”
ผมคิดว่าใน ประโยคดังกล่าว นั้น สามารถตีความได้หลากหลาย และ สามารถก่อให้เกิดการบูรณาการทางความคิดในเชิงคุณค่าได้
สำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่าแต่ละท่าน อะไร คือ the obvious และ อะไร คือ the unexpected ครับ
Soros มักจะสื่อสาร ด้วยสำนวนเชิงปรัชญาเสมอๆ
เพราะ การเป็นนักปรัชญา คือ สิ่งที่เขาใฝ่ฝัน
การลงทุน ของเขา หลายๆกรณี
เป็นสนามทดสอบ ทฤษฏีทางปรัชญาส่วนตัว
ด้วยซ้ำ
เขาบอกเสมอว่า... ถ้าเขาไม่มีเงิน
เสียงของเขา จะไม่ดัง และคำพูดของเขา
คงไม่มีใครมาสนใจ
การทำเงินได้ ในตลาด ก็เพียงเพื่อพิสูจน์ว่า
คำพูดของเขาถูกต้อง เท่านั้นเอง
สำหรับประโยคด้านบน
ถ้ายกตัวอย่าง ที่เขาเคยทำมาจริงๆ
Obvious คือ ข้อมูลเชิงประจักษ์
Unexpected คือ สิ่งที่ไม่มีใครคาดถึง
โดยเขา ทำการเดิมพัน ค่าเงินปอนด์ในปี 1990
ทำกำไรได้ประมาณ 1000 ล้านปอนด์
โดยเขาเชื่อว่า สิ่งนี้ ไม่มีใครคาดถึง
และสำหรับเขา ค่าเงินปอนด์ในตอนนั้น
คือ Discounting Obvious
กรณี การทำ Arbitrage ของ Buffet
ก็น่าจะเข้าข่าย Discounting Obvious ในแง่นี้ได้ด้วย
ส่วนอื่นๆของ Buffett ที่ไม่ได้ทำ Arbitrage
ก็น่าจะเป็นการ Betting ในความหมายนี้ ของ Soros
เพียงแต่ทักษะ ในการประเมิน
ของ Buffett ในส่วนของ Unexpected
สูงกว่า นักลงทุนคนอื่นๆ ในตลาด
แต่สิ่งที่
คนๆหนึ่งมองขาดว่าเป็น Discounting Obivous แล้ว
หลายๆคน
อาจจกำลังคิดว่ามัน Unexpected อยู่ก็ได้
สำหรับคำว่า...Markets
สำหรับ Soros หมายถึง ทุกตลาด
เพราะ มันมี s
และส่วนนี้
สอดคล้องกับการที่เขาเคยได้รับการยกย่องว่า
เป็นนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
โดยนิตยสาร Business Week
ตรงนี้
หลายๆคน โดยเฉพาะ ในเวบนี้
อาจจะรู้สึก ขัดเคือง เพราะ คงเทใจให้ Buffett ไปหมดแล้ว
แต่ นิตยสาร Business Week ให้เขาเหนือกว่า
Buffett และ Lynch (เมื่อกว่า 15 ปีที่แล้ว)
ตอนแรกที่อ่านเจอ
ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Buffett
เพราะ ทั้งระยะเวลาและจำนวนเงิน เขาคือ เบอร์ 1
ของโลก อย่างแท้จริง
แต่เหตุผล คงน่าจะมากจากการที่
Buffett กับ Lynch (ตอนนั้น )เน้นการลงทุนเฉพาะ หุ้น
และเน้นในตลาด Wall Street
อีกทั้ง แนวทางที่ใช้ก็เป็นแนวทาง
ที่ต่อยอด หรือ ประยุกต์มาจากนักลงทุนคนอื่นๆ
ในแนว Fundamental หรือ Value Investment
ส่วน Soros
มีความแตกต่างอย่างเด่นชัด 2 ประการ คือ
1. แนวคิดในการลงทุนเป็นแบบ เฉพาะ เชิงปรัชญาที่เขาสังเคราะห์ขึ้นมาเอง
2. เขาผ่านการลงทุน-เก็งกำไรมาแล้ว
ใน สมรภูมิสำคัญๆ ทั่วโลก ทั้งหุ้น ค่าเงิน Commodities ฯลฯ
ซึ่งตรงนี้ ก็ถือว่าเป็นมุมองของ Business Week
ส่วนใครจะเห็นด้วยหรือเห็นต่าง
คงต้องลองไปหาอ่านหนังสือเล่มนี้
แล้วประเมิน การประเมินของ Business Week
ในตอนนั้น ด้วยตัวเอง ก็ละกันครับ
http://www.toulo.com/product/ProductDet ... uctID=1256