เหตุการณ์ดังกล่าว มีวาทะอันหนึ่งที่เป็นวาทะเด็ดของเหตุการณ์เลยก็ว่าได้คือ "เอาอยู่"
พอพูดคำว่าเอาอยู่ เท่านั้นแหละ ประตูระบายน้ำก็ดี นิคมอุตสาหกรรมก็ดี สนามบินก็ดี ก็ค่อยๆโดนมวลน้ำคืบคลานเี่ยี่ยมเยียนแวะมาอยู่อาศัยร่วมชายคาเดียวกันโดยที่ไม่ต้องแต่งงานหรือสู่ขอ หรือ ต้องสร้างเซอร์ไพส์ละครับ มาโดยที่ไม่ได้รับเชิญ
เหตุการณ์ครั้งนั้นได้เกิดวีรบุรุษขึ้นคือ หนุ่มร่างท้วมสองคนที่คอยตระเวณรายงานข่าวน้ำท่วมจากสถานที่จริงจนกระทั่งเรียกขานกันว่า ซูเปอร์แมน นั้นคือคุณสุรยุทธ และคุณโก๊ะตี๋ นั้นเอง งานนี้ดังจนกระทั่งในงานแห่เทียนพรรษาของปีนี้ ที่ขอนแก่นต้องปั้นรูปคุณสุรยุทธและคุณโก๊ะตี๋ด้วยละ
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างคำถามให้แก่นักลงทุนต่างชาติว่า ปี 2555-2556 นั้นน้ำท่วมอีกหรือไม่
รัฐบาลก็ออกโร้คโชว์ ออกแผนด้านการป้องกันน้ำ ออก TOR ด้านการจัดการงาน มีเงินกู้จากพรก.มาเสริมทัพอีก
แต่ตอนนี้ผลปรากฏว่า น้ำได้เริ่มเริ่มมาเยี่ยมเยี่ยนพี่น้องๆหลายจังหวัดแล้ว ไล่ตั้งแต่ สุโขทัย ลำพูน เป็นต้น
จากเหตุการณ์มหาอุทกภัย ทำให้อุตสาหกรรมอันหนีึ่งที่เป็นอุตสาหกรรมที่คนไม่ใส่ใจซื้อผลิตภัณฑ์ไปแล้วก็ไม่รู้ว่าได้ใช้เมื่อไร มาถึงคราวน้องน้ำมาเยี่ยมเยียนถึงประตูหน้าบ้านก็ต้องใช้งาน นั้นคือ ผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย
ปีที่แล้วและปีนี้ก็ดี การจ่ายเครมน้ำท่วมยังไม่เสร็จสิ้นสำหรับโรงงานที่ได้รับความเสียหายจากน้องน้ำ ซึ่งเมื่อหลังจากอุทกภัยผ่านไป ก็มีการขึ้นค่าเบี้ยประกันวินาศภัยในส่วนที่เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ ขึ้นแบบ New High ตลอดเวลา ไม่มีลดลงเลย จนกระทั่งรัฐต้องออกกองทุนในรับประกันวินาศภัยโดยเฉพาะเลย ทำให้เบี้ยประกันวินาศถึงได้ลดลงได้ (แต่อย่างไงก็ตามแทนที่เป็นบริษัทรับผลกระทบในการเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม แต่กลับกลายเป็นประชาชนที่เสียภาษีเป็นผู้แบกรับความเสียหายหากน้องปลาวาฬมานอนในบ้านของเรา)
ดังนั้นตอนนี้พวกเรานักลงทุนควรที่จำเป็นต้องใส่ใจกับข่าวเกี่ยวกับน้ำให้มากขึ้นแล้ว
เพื่อที่ได้รู้กันว่า ปีนี้เอาอยู่ของจริง ไม่มี White Lies เกิดขึ้นอีกครั้ง
