หน้า 1 จากทั้งหมด 2
ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 28, 2012 10:05 pm
โดย comrade
เผอิญ ผมได้ยินคำพูดนี้บ่อยขึ้น ๆ เลยชักสงสัยครับว่า มีใครเคยทำกันจริง ๆ หรือ ประเภท ขายบ้านขายรถ มาซื้อหุ้น เพราะโดยส่วนตัวคงไม่กล้าทำ แม้ว่าจะเจอหุ้นตีแตกขนาดไหนก็ตาม
แต่คิดว่าคงเป็นแค่คำเปรียบเทียบว่า หน้าตักมีเท่าไหร่ลงหมด
ไม่ได้เป็นการชักชวน แนะนำหรือชี้แนะใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ
เีพียงอยากขอฟังประสพการณ์ของคนที่กล้าหาญมาก ๆ ในการลงทุนกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ไม่ต้องขนาดขายบ้านขายรถ แต่อยากฟังว่า ลงทุนกันขนาดไหนครับ เพราะอะไรถึงมั่นใจ และ จะมีโอกาสอีกจะทำอีกหรือเปล่า
ถือว่าเป็นวิทยาทานให้น้องๆ ได้ฟังกันหน่อยครับ
ส่วนตัว ผมยังไม่เคยแม้แต่เล่น margin เลยนึกไม่ออกว่า คิดได้ไง
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 1:51 am
โดย Notelio
ผมว่าคำพูดนี้มันเหมือนกับเป็นการเปรียบเปรย มากกว่าว่าถ้ามั่นใจว่าหุ้นตัวนั้นจะขึ้นแน่ๆ ก็เอาสินทรัพย์ที่มีทั้งหมดมาทุ่มไปเลย
ถ้าจะถามเป็นกรณีส่วนตัวของผมก็คงมี case เดียวตอนปี 52 ที่ ผบห. svi ทำ MBO แล้วในหนังสือที่ทำ tender มีระบุเรื่องแหล่งที่มาของเงินที่ ผบห. จะต้องนำมาชำระหนี้ให้ bank ที่ปล่อยกู้มาทำ tender ว่าจะมาจากการปันผลจากกำไรสะสมของหุ้น svi ซึ่งตัวเลขที่คิดได้ตอนนั้นขั้นต่ำที่จะปันผลก็คือ .50-1 บาท แต่ตอนนั้นผมถือตัว warrant อยู่ ซึ่งต้องแปลงเป็นตัวแม่ให้ได้ไม่งั้นอดปันผล ในตอนนั้นสิ่งที่ผมทำคือตรวจสอบเงินสดทั้งหมดที่มีหุ้นตัวอื่นตัวไหนที่สามารถขายเป็นเงินสดได้ รวมถึงขอเงินที่บ้านมากสุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อที่จะแปลง warrant ที่มีทั้งหมด เพราะผมไม่อยากเสียโอกาสไปแม้แต่หุ้นเดียว และโอกาสครั้งนี้มันชัดที่สุดตั้งแต่เล่นหุ้นมา อารมณ์ผมตอนนั้นเหมือนกับเข้าห้องสอบแล้วครูเขียนคำตอบให้บนกระดาน แล้วอยู่ที่ใครจะเงยหน้าขึ้นมามอง บทสรุปคือเงินสดเกือบจะหมดทั้งบ้าน เงินติดตัวผม1อาทิตย์สุดท้ายก่อนที่เงินเดือนจะออกเหลืออยู่ไม่ถึง 2พันบาท บทสรุปของการตีแตกก็คือ บริษัทปันผลทั้งหมดประมาณ .90 บาทต่อหุ้น หุ้น svi ตอนนั้นขึ้นจาก 2 บาท ไป 2.80 ก่อนขึ้น xd
ข้อคิดจากกรณีนี้คือ โอกาสในตลาดหุ้นมีมาเรื่อยๆ แต่โอกาสทองฝังเพชรแบบไม่มีความเสี่ยงจริงๆ มีไม่เยอะมากบางทีมันซ่อนอยู่ใน wording ของงบการเงินหรือในหนังสือทำ tender ถ้าหาเจอแล้วก็ต้องคว้าไว้ให้ได้มากที่สุดครับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 5:54 am
โดย amornd
ถ้าเป็น ดร นิเวศ ก็คือ "ตีแตก"
ถ้าเป็นพวก geek ตาม website เวลาเจออะไรโดนใจ อยากได้มาก อาจบอกว่า "shut up and take my money"
แต่การจะมั่นใจอย่างนั้นได้ ถ้าไม่ใช่ตลาดขาขึ้นจริงๆ แบบที่ว่าซื้อหุ้นอะไรก็ขึ้น
คงต้องวิเคราะห์หรือเห็นจุดที่คนอื่นไม่ได้สังเกต
ไม่ว่าจาก ประกาศของบริษัท, งบการเงิน, ตรวจสอบกิจการด้วยตนเอง ครับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 7:25 am
โดย picatos
เงินก้อนแรกในการลงทุนของผม เกิดจากการขาย (ไถ่ถอน) ประกันชีวิตที่แม่ทำเอาไว้ให้มาแต่เด็กครับ
ไม่เคยขายบ้านขายรถมาซื้อหุ้น แต่ไม่ซื้อบ้าน ซื้อรถ นั่งรถเมล์เอา เพื่อประหยัดเงินมาซื้อหุ้นอยู่ 8-9 ปี กว่าจะซื้อรถ ซื้อบ้านครับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 7:34 am
โดย chukieat30
เป็นการเปรียบเปรยและเตือนสติครับ
คุณอาจจะโชคดีแล้วครับ ที่ได้รับคำเตือน เพราะ ถ้าเค้าไม่เห็นนักลงทุนยุคหลัง
เป็น น้อง พี่เค้าคงไม่เตือน เพราะ คงเปลืองตัว เปลืองเวลา
นานๆ จะเห็นล็อคอินระดับๆ มาคอมเม้นท์ หลังจากที่พี่พวกนี้หายไปนาน
สำหรับผม เราควรรีบตักความรู้ที่เค้าส่งมาให้ เพราะมันคือ การตกผลึกชั้นยอดครับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 7:38 am
โดย chukieat30
picatos เขียน:เงินก้อนแรกในการลงทุนของผม เกิดจากการขาย (ไถ่ถอน) ประกันชีวิตที่แม่ทำเอาไว้ให้มาแต่เด็กครับ
ไม่เคยขายบ้านขายรถมาซื้อหุ้น แต่ไม่ซื้อบ้าน ซื้อรถ นั่งรถเมล์เอา เพื่อประหยัดเงินมาซื้อหุ้นอยู่ 8-9 ปี กว่าจะซื้อรถ ซื้อบ้านครับ
ชื่นชมพี่ picatos ครับ คนฉลาดต้องรู้ว่า ถ้ามีเงินจะซื้ออะไรก้ซื้อได้
ถ้าซื้อบ้านและรถ โดยเป็นหนี้ เงินที่จะเอามาลงทุนก้จะหายไป ชีวิตก้จะมีแต่คำว่า
หาเงินเพื่อจ่ายหนี้
ผมเองก้ยึดแนวทางเดียวกับพี่ picatos คือ ลงทุนให้มีเงิน ซื้อสด ไม่เชื่อ ไม่ผ่อน
คนเรา ยอมลำบากในครั้งแรกแต่ไปสุขสบายเมื่อถึงเป้า
ย่อมจะดีกว่า สบายบนกองหนี้ และไปลำบากในยามแก่
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 7:59 am
โดย pat4310
ตอนเจอ GFPT ที่ราคา 20 บาท@par10 แต่มีกำไรต่อหุ้น 8 บาทครับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 8:36 am
โดย CONAN
chukieat30 เขียน:picatos เขียน:เงินก้อนแรกในการลงทุนของผม เกิดจากการขาย (ไถ่ถอน) ประกันชีวิตที่แม่ทำเอาไว้ให้มาแต่เด็กครับ
ไม่เคยขายบ้านขายรถมาซื้อหุ้น แต่ไม่ซื้อบ้าน ซื้อรถ นั่งรถเมล์เอา เพื่อประหยัดเงินมาซื้อหุ้นอยู่ 8-9 ปี กว่าจะซื้อรถ ซื้อบ้านครับ
ชื่นชมพี่ picatos ครับ คนฉลาดต้องรู้ว่า ถ้ามีเงินจะซื้ออะไรก้ซื้อได้
ถ้าซื้อบ้านและรถ โดยเป็นหนี้ เงินที่จะเอามาลงทุนก้จะหายไป ชีวิตก้จะมีแต่คำว่า
หาเงินเพื่อจ่ายหนี้
ผมเองก้ยึดแนวทางเดียวกับพี่ picatos คือ ลงทุนให้มีเงิน ซื้อสด ไม่เชื่อ ไม่ผ่อน
คนเรา ยอมลำบากในครั้งแรกแต่ไปสุขสบายเมื่อถึงเป้า
ย่อมจะดีกว่า สบายบนกองหนี้ และไปลำบากในยามแก่
คนส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างที่พี่ชูว่าครับ เราจึงเห็นมนุษย์เงินเดือนมากมาย ที่ทำงานเพื่อหนี้สิน ไม่ใช่เพื่อสินทรัพย์
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 8:41 am
โดย richierich
Notelio เขียน:ผมว่าคำพูดนี้มันเหมือนกับเป็นการเปรียบเปรย มากกว่าว่าถ้ามั่นใจว่าหุ้นตัวนั้นจะขึ้นแน่ๆ ก็เอาสินทรัพย์ที่มีทั้งหมดมาทุ่มไปเลย
ถ้าจะถามเป็นกรณีส่วนตัวของผมก็คงมี case เดียวตอนปี 52 ที่ ผบห. svi ทำ MBO แล้วในหนังสือที่ทำ tender มีระบุเรื่องแหล่งที่มาของเงินที่ ผบห. จะต้องนำมาชำระหนี้ให้ bank ที่ปล่อยกู้มาทำ tender ว่าจะมาจากการปันผลจากกำไรสะสมของหุ้น svi ซึ่งตัวเลขที่คิดได้ตอนนั้นขั้นต่ำที่จะปันผลก็คือ .50-1 บาท แต่ตอนนั้นผมถือตัว warrant อยู่ ซึ่งต้องแปลงเป็นตัวแม่ให้ได้ไม่งั้นอดปันผล ในตอนนั้นสิ่งที่ผมทำคือตรวจสอบเงินสดทั้งหมดที่มีหุ้นตัวอื่นตัวไหนที่สามารถขายเป็นเงินสดได้ รวมถึงขอเงินที่บ้านมากสุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อที่จะแปลง warrant ที่มีทั้งหมด เพราะผมไม่อยากเสียโอกาสไปแม้แต่หุ้นเดียว และโอกาสครั้งนี้มันชัดที่สุดตั้งแต่เล่นหุ้นมา อารมณ์ผมตอนนั้นเหมือนกับเข้าห้องสอบแล้วครูเขียนคำตอบให้บนกระดาน แล้วอยู่ที่ใครจะเงยหน้าขึ้นมามอง บทสรุปคือเงินสดเกือบจะหมดทั้งบ้าน เงินติดตัวผม1อาทิตย์สุดท้ายก่อนที่เงินเดือนจะออกเหลืออยู่ไม่ถึง 2พันบาท บทสรุปของการตีแตกก็คือ บริษัทปันผลทั้งหมดประมาณ .90 บาทต่อหุ้น หุ้น svi ตอนนั้นขึ้นจาก 2 บาท ไป 2.80 ก่อนขึ้น xd
ข้อคิดจากกรณีนี้คือ โอกาสในตลาดหุ้นมีมาเรื่อยๆ แต่โอกาสทองฝังเพชรแบบไม่มีความเสี่ยงจริงๆ มีไม่เยอะมากบางทีมันซ่อนอยู่ใน wording ของงบการเงินหรือในหนังสือทำ tender ถ้าหาเจอแล้วก็ต้องคว้าไว้ให้ได้มากที่สุดครับ
อยากเจอหุ้นแบบนี้มั่งครับ ต้องทำยังไงถึงจะเจอหุ้นแบบนี้นะ
แล้วก็ผมว่าสำคัญที่จิตใจ ถ้าไม่เชื่อมั่นจริงๆ ทำอย่างนี้ไม่ได้ครับ
หนักแน่นดีครับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 9:36 am
โดย comrade
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 12:35 pm
โดย suwicha
ผมเคยนะ ประมาณปี50ขายบ้านได้เงินมา1ล้านบาท
แล้วไปซื้อบ้านใหม่โดยไม่วางเงินดาวน์
เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นเงินทุนที่มีอยู่มันค่อนข้างน้อยเกินไปหน่อยที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมาย
แต่ไม่ได้เทซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษนะครับ พอร์ทผมจะมีหุ้น3-7ตัวเสมอ
แค่เชื่อว่าผลตอบแทนที่หาได้มากกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็แค่นั้น
ทุกวันนี้บ้านกับรถก็ยังผ่อน ทั้งที่สามารถจะตัดสดได้แล้วยังเหลือมูลค่าหุ้นที่มากกว่าขายบ้านตอนนั้นเป็นสิบเท่า
ผมเชื่อเหมือนดร.นิเวศน์ครับ ลงทุนในหุ้นชั้นดีเกือบ100%เสมอ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 1:00 pm
โดย todto
Notelio เขียน:ผมว่าคำพูดนี้มันเหมือนกับเป็นการเปรียบเปรย มากกว่าว่าถ้ามั่นใจว่าหุ้นตัวนั้นจะขึ้นแน่ๆ ก็เอาสินทรัพย์ที่มีทั้งหมดมาทุ่มไปเลย
ถ้าจะถามเป็นกรณีส่วนตัวของผมก็คงมี case เดียวตอนปี 52 ที่ ผบห. svi ทำ MBO แล้วในหนังสือที่ทำ tender มีระบุเรื่องแหล่งที่มาของเงินที่ ผบห. จะต้องนำมาชำระหนี้ให้ bank ที่ปล่อยกู้มาทำ tender ว่าจะมาจากการปันผลจากกำไรสะสมของหุ้น svi ซึ่งตัวเลขที่คิดได้ตอนนั้นขั้นต่ำที่จะปันผลก็คือ .50-1 บาท แต่ตอนนั้นผมถือตัว warrant อยู่ ซึ่งต้องแปลงเป็นตัวแม่ให้ได้ไม่งั้นอดปันผล ในตอนนั้นสิ่งที่ผมทำคือตรวจสอบเงินสดทั้งหมดที่มีหุ้นตัวอื่นตัวไหนที่สามารถขายเป็นเงินสดได้ รวมถึงขอเงินที่บ้านมากสุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อที่จะแปลง warrant ที่มีทั้งหมด เพราะผมไม่อยากเสียโอกาสไปแม้แต่หุ้นเดียว และโอกาสครั้งนี้มันชัดที่สุดตั้งแต่เล่นหุ้นมา อารมณ์ผมตอนนั้นเหมือนกับเข้าห้องสอบแล้วครูเขียนคำตอบให้บนกระดาน แล้วอยู่ที่ใครจะเงยหน้าขึ้นมามอง บทสรุปคือเงินสดเกือบจะหมดทั้งบ้าน เงินติดตัวผม1อาทิตย์สุดท้ายก่อนที่เงินเดือนจะออกเหลืออยู่ไม่ถึง 2พันบาท บทสรุปของการตีแตกก็คือ บริษัทปันผลทั้งหมดประมาณ .90 บาทต่อหุ้น หุ้น svi ตอนนั้นขึ้นจาก 2 บาท ไป 2.80 ก่อนขึ้น xd
ข้อคิดจากกรณีนี้คือ โอกาสในตลาดหุ้นมีมาเรื่อยๆ แต่โอกาสทองฝังเพชรแบบไม่มีความเสี่ยงจริงๆ มีไม่เยอะมากบางทีมันซ่อนอยู่ใน wording ของงบการเงินหรือในหนังสือทำ tender ถ้าหาเจอแล้วก็ต้องคว้าไว้ให้ได้มากที่สุดครับ
ถ้าเจอแบบนี้อีก มายืมผมนะพี่โน๊ต

ผมจะได้รู้ว่าตัวไหน ^_^
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 1:04 pm
โดย nut776
ถ้ามีขายเมีย มาซื้อ นี่รีบกันเลยป่าวคับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 1:17 pm
โดย roek09
ถ้าเจอหุ้นที่ผมสามารถ ตีแตก ผมก็คงขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น เพราะโอกาสได้มากว่าเสียจากการวิเคราะห์ของเรา โอกาสดีๆไม่ได้มีบ่อยๆ ถ้าเจอผมจะกินคำใหญ่ๆ ไม่กินคำเล็กๆ เพราะเวลาตลาดหุ้นเอาคืนก็คงไม่ปราณีเรา
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 1:49 pm
โดย ซุนเซ็ก
สูงสุดผมเคยซื้อหุ้นตัวเดียว 100%
ในชีวิตเคยทำ 4 ครั้งครับ สำเร็จ 3 พลาด 1
แต่ขนาดขายบ้านขายรถ ต่อให้หุ้นมันดีและถูกแค่ไหน ผมจะไม่มีวันทำแบบนั้น
การรวยช้าไม่ใช่ทุกข์แต่อย่างใด. การขายบ้านขายรถมาซื้อหุ้น แม้จะมีโอกาสพลาดแค่ 1% จาก 100% ผมก็ไม่เอาแล้วครับ
เพราะถ้า 1% นั้นเกิดขึ้นมา...ทุกข์ระทมกันทั้งครอบครัว, คนเล่นหุ้นที่ฆ่าตัวตายกันก็เพราะเหตุการณ์แบบนี้
ชีวิตเรา restart เหมือนในเกมส์ไม่ได้ครับ การจะกลับมาจุดเดิมอาจทำไม่ได้อีกแล้วในชีวิต
อีกอย่างคนในบ้านเราคงนอนไม่หลับหรอกครับ ระหว่างเวลาที่เราขายบ้านขายรถไปไล่ซื้อหุ้น
การลงทุนที่ดีมันต้องมีความสุขไปด้วยระหว่างเดินทาง
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 2:23 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ถ้ามีบ้านหลายหลังรถหลายคันและมั่นใจหุ้นที่จะลงทุนจริงๆก็สามารถตีแตกได้เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างเป็นไปตามที่ได้วิเคราะห์ไว้ก็น่าจะได้บ้านหลังใหม่หรือรถคันใหม่เพิ่มคับ แต่ถ้าหากลงทุนผิดพลาดไปก็ยังสามารถเริ่มต้นใหม่ได้คับ เป็นกลยุท์ที่ดีสำหรับผู้ที่มีสินทรัพย์มาก

Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 3:39 pm
โดย chukieat30
คนส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างที่พี่ชูว่าครับ เราจึงเห็นมนุษย์เงินเดือนมากมาย ที่ทำงานเพื่อหนี้สิน ไม่ใช่เพื่อสินทรัพย์
ตามที่พี่นันว่าไว้ครับ
คนส่วนมาก ชอบมองคนแค่ เปลือก
แต่ VI ต้องมองที่ แก่นแท้
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 3:50 pm
โดย kraikria
ลงทุนหุ้นตัวเดียวหมดหน้าตัก ผมยังไม่เคยทำเลยครับ ทุกวันนี้ยังลงทุนในหุ้นไม่ถึงครึ่งของทรัพย์สินด้วยซ้ำ
แต่ถ้าลงทุนแบบ Focus น้อยตัวนี่ ทำแทบตลอดเลยครับ หลายๆครั้งที่ถือหุ้นตัวเดียวมากกว่าครึ่งของ Port หุ้น
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 4:12 pm
โดย wigraipat
ผมเคยจนมาก่อนคับ
ตอนจนอยู่คุณต้องเสี่ยงเพื่อตีแตกให้เรามีโอกาสรวย
แต่พอคุณรวยแล้วถึงจะตีแตกคุณก็ไม่ยอมลงเงินหมด
เชื่อเถอะคับไม่มีใครอยากกลับไปจนอีก
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 6:06 pm
โดย pullmeunder
ผมคงไม่ขนาดขายรถ ขายบ้านหรอกครับ
แต่จะหน้าด้านไปขอเงินจากครอบครัวเพิ่มเติมเอา
จะพยายามหลีกเลี่ยงมาร์จิ้น เพราะหากระยะสั้นโดน force sell มาแล้วมันจะไม่คุ้ม
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 7:31 pm
โดย ส.สลึง
ผมเคยพูดประโยคนี้ในออฟฟิศ
วันนั้นเป็นวันอุ๋ยร้อยจุดครับ
แต่ก็ไม่ได้ทำจริงๆ เพราะไม่มีทั้งบ้านทั้งรถ
มีพี่คนนึงฟังเสร็จ
ก็รีบต่อโทรศัพท์หามาร์เก็ตติ้งกันเลยทีเดียว
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 8:28 pm
โดย SupachaiZ594
ถ้ามันไม่คุ้มเสี่ยง กำไรไม่ได้มากมายเป็นเด้ง ๆ หรือศึกษาไม่ถ่องแท้ คงไม่มีใครคิดขายบ้านขายรถมาซื้อหุ้นหรอกคับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 8:31 pm
โดย suwicha
คนที่ต้องฆ่าตัวตายเพราะเจ๊งหุ้น..คงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ถึงต้องพบจุดจบที่น่าเศร้า
ถ้าเพียงแต่เค้าจะรู้ว่า ธุรกิจยอดเยี่ยมเป็นยังไง ผู้บริหารทีมีธรรมาภิบาลและความสามารถเป็นยังไง
มูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทอยู่ที่เท่าไหร่..ไม่มีทางหรอกครับที่จะต้องฆ่าตัวตาย
ถ้าให้ขา่ยทุกอย่างมาเก็งกำไรว่าหุ้นตัวนึงจะขึ้นหรือไม่ผมก็ไม่ทำ..
แต่ถ้าผมเจอหุ้นชั้นยอดที่มีผู้บริหารชั้นเยี่ยม และสามารถซื้อในราคาที่ตำ่กว่ามูลค่าที่เหมาะสมมากๆ
เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับ..
แต่จะไม่ซื้อหุ้นเพียงตัวเดียวแน่นอน ไม่ว่ากรณีใด..เพราะมันเข้าข่ายการเล่นพนัน ไม่ใช่การลงทุนครับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 29, 2012 9:17 pm
โดย dome@perth
ไม่เคยครับ ไม่เคยขายบ้าน ขายรถมาซื้อหุ้น
เคยแต่ขายหุ้น มาซื้อบ้าน ซื้อรถครับ

Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 30, 2012 6:16 am
โดย wyn
อยู่ที่ช่วงเวลามากกว่านะครับ อย่างช่วงวิกฤติแฮมเบอร์หุ้นถูกๆเยอะมาก ผมก็ขายรถเพื่อมาซื้อหุ้นเหมือนกันครับ ตอนนั้นยังใช้มาร์จิ้นไม่เป็น
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 30, 2012 9:04 am
โดย KissmeBrow
ช่วง PTT กำลังฮอตสุด ๆ ผมได้ยินเพื่อนพูดว่า "มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถมาซื้อ
แต่พอมาวันนี้ เวลาเปลี่ยนสถานการณ์เปลี่ยนไม่เห็นทำแบบที่พูด
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 31, 2012 12:16 am
โดย อ.เอง
สำหรับผม ก็ลงทุนเท่าที่มี ถึงจะถือตัวเดียวหนัก ๆ ก็ตาม มั่นใจแค่ไหนก็ไม่มาร์จิ้นเด็ดขาด
ผมว่ามันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะได้มากหรือได้น้อย รวยเร็วหรือช้า ถ้าหลักการเราถูกต้อง รักษาเงินต้น ทำกำไรได้ เงินที่มีอยู่(ไม่ว่ามากหรือน้อย) ก็จะโตขึ้นได้เอง ไม่เห็นจำเป็นต้องทำอะไรเกินตัว
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 31, 2012 3:13 pm
โดย koon007
ถ้าsetที่300กว่าอีก ก็น่าขายมาซื้อหุ้นครับ
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 01, 2012 9:27 pm
โดย cosmo
ขายรถไม่ว่า ถ้าขายบ้าน แล้วไม่รู้จะไปอยู่ไหน คงลำบากน่าดู
ถ้าเจอหุ้นแบบมั้นใจถึงระดับ ต้องขายรถ ขายบ้าน ก็น่าจะเป็นไปได้ แต่คิดในใจเสมอว่า การลงทุนมีความเสี่ยง
Re: ขายบ้าน ขายรถ มาซื้อหุ้น
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 02, 2012 12:19 am
โดย Note1310
ไม่กล้าขนาดนั้นครับ
ทุกวันนี้พยายามลงทุนหุ้น60% เงินสดหรือเทียบเท่า 40% จะพยายามให้อยู่ในระดับนี้ไปก่อน เพราะรู้ว่าประสบการณ์ยังน้อยวันไหนตกผลึกแล้ว ผมก็จะเพิ่มสัดส่วนเข้าไปครับ