กุญแจ 5 ดอกอย่างย่อ / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2

กุญแจ 5 ดอกอย่างย่อ / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

กุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า แปลโดยคุณพรชัย รัตนนนทชัยสุข(ต้นฉบับมาจาก The 5 Keys to Value Investing เขียนโดย J. DennisJean-Jacques) นับว่าเป็นแนวคิดที่ผมเชื่อว่าเป็นต้นแบบหนึ่งที่ดีที่สุดของการลงทุนแนวพื้นฐานหรือที่หลายๆท่านเรียกว่าValue Investment (VI) แนวคิดที่ว่าประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 5อย่าง ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางที่เรายึดถือปฏิบัติได้จริงก่อนพิจารณาลงทุนในบริษัทหนึ่งๆกุญแจ 5 ดอกกับการประยุกต์ใช้ที่ว่า ได้แก่ 

1. ธุรกิจการพิจารณาตัวธุรกิจที่เราจะลงทุนควรจะเริ่มจากการที่เราเข้าใจในธุรกิจนั้นๆอย่างถี่ถ้วน ว่าธุรกิจนั้นๆมีการเข้าออกของเงินอย่างไรปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อรายจ่ายและรายได้ของตัวบริษัทคืออะไรความเสี่ยงของตัวธุรกิจคืออะไรรวมไปถึงธรรมาภิบาลของผู้บริหารในบริษัทนั้นๆ เป็นอย่างไรข้อมูลส่วนนี้เราอาจจะหาเบื้องต้นได้จาก แบบ 56-1 ซึ่ง download ได้จากset.or.th หรือ sec.or.th อย่างน้อยๆ สิ่งที่เราควรจะต้องผ่านตาคือ บทของBusiness, Product, Risk, Financial ใน แบบ 56-1 นอกจากนั้นข้อมูลอื่นๆอาจจะหาได้จากบทสัมภาษผู้บริหาร, Oppday, AGM, หรือเว็บไซท์ของบริษัท 

2. มูลค่าที่เหมาะสมมูลค่าที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่บอกด้วยตัวเลขที่แน่นอนค่อนข้างยากมูลค่าที่เหมาะสมของตัวเราอาจจะไม่เท่ากับของคนอื่นเนื่องจากแต่ละคนมีสมมุติฐานในการคำนวณมูลค่าแตกต่างกันปกติแล้ววิธีการคำนวณมูลค่ามีหลายวิธี ที่นิยมใช้กันมากคือใช้ค่า P/Eไปจนถึงวิธีที่ต้องใช้สมมติฐานค่อนข้างเยอะคือ DCF ผมมองว่าการใช้ P/Eในการบอกมูลค่าที่เหมาะสม จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เนื่องจากค่าP/E ที่เราให้กับบริษัทหนึ่งๆ ค่อนข้าง subjectiveเรามักจะต้องสั่งสมประสบการณ์ในตลาดพอสมควรจึงจะบอกได้ว่า P/Eที่เหมาะสมของบริษัทนั้นนี้ น่าจะมีค่าเท่าไหร่ ซึ่งการอยู่ในตลาดนานๆและการมองค่า P/E ของบริษัทในอดีตประกอบ จะทำให้เราเข้าใจและให้ค่า P/Eกับบริษัทในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมได้ดีขึ้น สำหรับ DCFนั้นต้องใช้องค์ประกอบหลายตัวในการคำนวณโอกาสในการผิดพลาดก็ยิ่งจะมากขี้นไปอีกสำหรับหนังสือเล่มนี้ใช้วิธีการหามูลค่าที่เหมาะสมหลายๆวิธีแล้วนำมาหาค่าเฉลี่ยอีกทีซึ่งผมก็คิดว่าทำให้เราได้ค่าที่ออกมาไม่โอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งมากเกินไป 

3. ราคาหุ้นสำหรับปัจจัยนี้ ผมคิดว่าเป็นแค่ตัวที่ใช้อ้างอิงให้เรารู้ว่า ณ เวลานี้เราควรลงทุนกับบริษัทนี้หรือไม่ ซึ่งเราอาจจะมีกฏการลงทุนของเราเอง เช่นในกรณีที่ค่า P/E ของทั้งตลาด < 10เราอาจต้องการลงทุนในบริษัทที่ราคาหุ้นในปัจจุบันมีส่วนลดจากมูลค่าที่เหมาะสมที่เราคำนวณได้ในข้อ 2 มากกว่า 50% หรือในกรณีที่ P/E ของทั้งตลาด >10เราอาจจะหาบริษัทที่มีส่วนลดดังกล่าวยากเราอาจจะกำหนดให้ส่วนลดที่ว่าเป็น มากกว่า 30% ในหนังสือการลงทุนเล่มนี้กล่าวไว้ว่า เราควรรู้ที่มาที่ไปของราคาด้วย หมายถึงสาเหตุอะไรที่ทำให้ราคาหุ้นขณะนั้นอยู่ที่เท่านั้น เราสามารถดูค่า P/Eที่ตลาดมอบให้กับหุ้นตัวนั้นในเวลานั้นๆพร้อมกับเวลาในอดีตมาประกอบในการคิดพิจารณา บางครั้งตลาดอาจจะให้ค่า P/Eของบริษัทต่ำประมาณ 5-6 ซึ่งเราอาจจะหาข้อมูลเพิ่มเติมและพบว่าบริษัทให้ปันผลในอัตราต่ำมาโดยตลอด หรือกำไรของบริษัททำนายได้ยากปัจจัยดังกล่าวเหล่านี้ทำให้ตลาดมองข้ามบริษัทนี้ไปส่วนตัวผมกลับมาว่าจริงๆแล้วบริษัทที่ว่าอาจสร้างโอกาสทองให้เราได้ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หรือตัวเร่งขึ้น ไม่ภายในก็ภายนอกจนทำให้พื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนไปในทางที่มีแนวโน้มให้ตลาด ปรับ P/Eของบริษัทให้สูงขึ้น 

4. ตัวเร่งการลงทุนแบบ VI ไม่ใช่การลงทุนแบบถือยาวแต่เป็นการลงทุนในบริษัทที่มีราคาซื้อขายในตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงที่เราคำนวณได้และเชื่อว่าราคาหุ้นดังกล่าวจะ รับตัวขึ้นไปยังมูลค่านั้นๆในระยะเวลาที่เหมาะสม จริงๆแล้วการถือหุ้นเป็นระยะเวลานานเกินไปกว่าราคาจะปรับขึ้นไปยังเป้าหมายที่เราคาดไว้อาจทำให้ผลตอบแทนต่อปีที่เราได้ลดลงเนื่องจากเรามีต้นทุนอีกตัวที่คอยลดหลั่นผลตอบแทนที่เราจะทำได้เรียกว่าต้นทุนเวลาซึ่งตัวเร่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราลดต้นทุนดังกล่าวเราอาจจะพบตัวเร่งได้จากข้อมูลที่ประกาศใน set.or.thก่อนตลาดเปิดช่วงเช้า ช่วงบ่าย หรือแม้แต่หลังตลาดปิด หรือจากบทสัมภาษผู้บริหารและการถามตอบใน Oppday หรือ AGM รวมทั้ง CompanyVisit ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากเราอาจจะได้ข่าวสารมาจากหลายแหล่งทุกทั่วสารทิศเราจึงควรประเมินตัวเร่งดังกล่าวอีกครั้งว่ามีโอกาสเกิดมากน้อยเพียงไรการพิจารณาเป็นกรณีๆไปถึงโอกาสเกิดของตัวเร่งแต่ละตัวอันจะส่งผลให้ราคาในตลาดวิ่งไปหามูลค่าที่เหมาะสมที่เราคาดไว้จะช่วยให้เราประเมินคร่าวๆ ได้ถึงผลตอบแทนที่คาดหวังได้ใน ช่วงเวลาหนึ่งๆ 

5. ส่วนเผื่อความปลอดภัยปัจจัยนี้เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุดในการเลือกลงทุนในบริษัทหนึ่งๆส่วนเผื่อความปลอดภัยในความหมายของผมไม่ใช่ Upsideหรือความแตกต่างระหว่างราคาปัจจุบันกับราคาเป้าหมายแต่เป็นความแตกต่างระหว่างราคาในปัจจุบัน กับราคาที่อาจจะเป็นไปได้ในกรณีที่เกิดอะไรแบบผิดคาด พูดง่ายๆ คือการที่เรามอง Downside risk ทางด้านราคาเป็นหลักไว้ก่อนนั่นเองการบอกถึงค่าที่แน่นอนของส่วนเผื่อความปลอดภัยนั้น ยากไม่แพ้การประเมินUpside ส่วนตัวผมคิดว่ายากกว่าการหา Upside ซะด้วยซ้ำเนื่องจากผมมองว่ามีหลายๆปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดสำหรับตัวผมเอง ผมมักจะดู อัตราเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับจากผลประกอบการที่คาดว่าจะเป็นในอนาคต ซึ่งส่วนใหญ่ตลาดชอบอัตราเงินปันผล > 10% และไม่ค่อยให้ราคาต่ำกว่านั้นยกเว้นในกรณีที่เกิดวิกฤติ นอกจากดูอัตราเงินปันผลแล้วผมมักจะดูถึงกระแสการลงทุนในขณะนั้น ว่าผมอยู่ในกลุ่มในของการลงทุน เช่นกลุ่มแรกที่พบบริษัทนี้ กลุ่มที่สองที่ซื้อตามกลุ่มแรกหรือกลุ่มที่สามที่พบหลังสุดที่ลงทุนเมื่อทุกคนต่างก็พูดถึงหุ้นตัวนั้นๆแล้ว การดู technical และ กราฟประกอบจะทำให้เราเห็นภาพได้ชัดขึ้นส่วนตัวไม่ชอบที่จะลงทุนในกลุ่มที่สามเนื่องจากส่วนใหญ่กลุ่มที่สามนี้มักจะได้ซื้อหุ้นในราคาที่มีส่วนลดน้อยกว่ากลุ่มอื่นและมีความเสี่ยงของการตกของราคาหุ้นในกรณีที่เกิดเหตุการที่ไม่คาดฝันในทางลบแม้เพียงนิดเดียว ตามการที่เราประมาณการได้ว่าเรามีโอกาสที่จะขาดทุนได้เท่าไหร่เมื่อเราลงทุนในบริษัทนั้นๆ เวลานั้นๆทำให้เรามองเห็นส่วนเผื่อความปลอดภัยที่เรามีและช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาเงินต้นของเราได้ 

   ท้ายที่สุดแล้ว การลงทุนไม่มีรูปแบบที่แน่นอนแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยยีดหลักแนวทางพื้นฐานที่เหมาะสมจะนำมาซึ่งผลตอบแทนที่เหมาะสมเช่นเดียวกันในระยะยาวขอให้ทุกๆท่านโชคดีในการลงทุนครับ
[/size]
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: กุญแจ 5 ดอกอย่างย่อ / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณ ดร. คาบุครับ

การเดินทางบนเส้นทางสายวีไอนั้น มันนานและต้องมั่นคงครับ
การมีเพื่อนร่วมเดินนั้นอย่างน้อยก็ทำให้เรามั่นใจในเส้นทางเดินร่วมกัน
เบี้ยว
Verified User
โพสต์: 403
ผู้ติดตาม: 0

Re: กุญแจ 5 ดอกอย่างย่อ / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

แต่ละดอกของกุญแจสำคัญทั้งนั้นเลยครับ อันดับแรก ดอกที่ 1 ถ้าไม่ผ่านดอกนี้ ดอกที่เหลือจะไม่สามารถประเมินได้เลย ดังนั้น ผมว่า ดอกแรกนี่แหละสำคัญที่สุด เพราะจะเป็นกุญแจไขดอกที่เหลือได้เอง
shooter
Verified User
โพสต์: 132
ผู้ติดตาม: 0

Re: กุญแจ 5 ดอกอย่างย่อ / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณครับ
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1254
ผู้ติดตาม: 0

Re: กุญแจ 5 ดอกอย่างย่อ / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="เบี้ยว"]แต่ละดอกของกุญแจสำคัญทั้งนั้นเลยครับ อันดับแรก ดอกที่ 1 ถ้าไม่ผ่านดอกนี้ ดอกที่เหลือจะไม่สามารถประเมินได้เลย ดังนั้น ผมว่า ดอกแรกนี่แหละสำคัญที่สุด เพราะจะเป็นกุญแจไขดอกที่เหลือได้เอง[/quote]

กุญแจดอกแรกนั้นทำขึ้นมาเพื่อไขประตูใหญ่ทางเข้าไปในปราสาทนั่นเอง ถ้าไขไม่ออกก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่นักลงทุนจะต้องรู้ว่ากุญแจดอกที่เหลือจะนำไปใช้ไขห้องอะไรในปราสาทหรือหีบสมบัติกล่องไหนคับ^ ^
akindle
Verified User
โพสต์: 159
ผู้ติดตาม: 0

Re: กุญแจ 5 ดอกอย่างย่อ / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เป็นหนังสือเล่มแรกๆ ที่ได้อ่าน แนวทาง VI ยอดเยี่ยมครับเล่มนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
kabu
Verified User
โพสต์: 2149
ผู้ติดตาม: 0

Re: กุญแจ 5 ดอกอย่างย่อ / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์ครับ ^^
ภาพประจำตัวสมาชิก
untrataro25
Verified User
โพสต์: 952
ผู้ติดตาม: 0

Re: กุญแจ 5 ดอกอย่างย่อ / ดร. ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

อ่านเข้าใจง่ายดี ขอบคุณครับ
โพสต์โพสต์