หน้า 1 จากทั้งหมด 1

จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ'

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 8:15 am
โดย pakapong_u
จาก 'เสื้อกาวน์' สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ''นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ'
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)

Monday, August 20, 2012 05:38


ใครๆ ก็ฝันอยากมีอิสระในการเลือกใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการ ภายใต้สภาวะความมั่นคงทางการเงิน
หนึ่งในนั้น คือ "หมอมุข" นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ อดีตหมอสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์
มุ่งมั่นออกเดินทางเพื่อค้นหาความหมาย Financial Freedom
ปัจจุบันเขาค้นพบปลายทางของจุดหมาย "อิสรภาพทางการเงิน" อยู่บนถนนสายตลาดหุ้นที่เขาเลือกเดิน !!
กับการก้าวสู่เซียนหุ้นวีไอชั้นแนวหน้า
เปิดตัวคุณหมอนักลงทุน 'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ' ผู้มุ่งมั่นออกเดินทางเพื่อค้นหา Financial Freedom จากแพทย์สูติ-นรีเวช โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ก้าวสู่เซียนหุ้นวีไอชั้นแนวหน้า
"หมอมุข" นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ อดีตหมอสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ มุ่งมั่นออกเดินทางเพื่อค้นหาความหมาย Financial Freedom ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในสมองของเขา! หลังเล่นหุ้นแบบไม่มีหลักการมานานหลายปี...ปัจจุบันนายแพทย์ประมุขในวัย 43 ปี ค้นพบปลายทางของจุดหมาย "อิสรภาพทางการเงิน" อยู่บนถนนสายตลาดหุ้นที่เขาเลือกเดิน!!
ไม่เพียงเขาเป็นหนึ่งในเซียนหุ้นวีไอชั้นแนวหน้านพ.ประมุขยังมีบทบาทเป็นอุปนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เจ้าของล็อกอิน Paul vi ในเว็บไซต์ "ไทยวีไอ" ที่สมาชิกรู้จักดี
เขาจบแพทย์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล รุ่นที่ 98 รุ่นเดียวกับ นพ.ธเนศ พัวพรพงษ์ ศัลยแพทย์ โรงพยาบาลวิภาวดี ผู้พัฒนาเว็บไซต์ www.thaiclinic.com รวมถึง นพ.สมพงษ์ พัฒนกิจไพโรจน์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลบางสะพานน้อย เจ้าของรางวัลแพทย์ชนบท ดีเด่นประจำปี 2553 หลังเรียนจบไปประจำที่โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ แถวหนองแขม ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ให้อยู่แผนกสูติ-นรีเวช ส่วนภรรยาที่เรียนแพทย์ มาด้วยกันประจำอยู่แผนกเด็ก ทำงานเพียง 3 ปี ก็ลาออกไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา เป็นเวลา 3 ปี ส่วนภรรยาก็ลาออกไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางภาควิชากุมารเวช- ศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี คุณหมอนักลงทุนย้อนประวัติการการศึกษาให้กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟังว่า เหตุผลที่เลือกเรียนคณะสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา เป็นวิชาที่รวมทั้งการผ่าตัดและยาเข้าด้วยกัน ไม่ได้เน้นด้านใดด้านหนึ่ง แตกต่างจากภาควิชาอายุรกรรม หรือภาคอายุรศาสตร์ที่จะมีความเป็นวิชาการสูงมาก
"ช่วงหนึ่งผมเคยชื่นชอบภาควิชา หู คอ จมูก เป็นวิชาที่มีความถนัดมากที่สุด เรียนแพทย์เคยได้เหรียญทองแดง 3 วิชา (เหรียญทองแดงเป็นเหรียญที่มีคะแนนสอบสูงสุด) แบ่งเป็นสาขาวิชาพยาธิวิทยาคลินิก เหรียญนี้ได้ตอนเรียนปี 3 และภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา (หู คอ จมูก) ได้ตอนเรียนปี 5 และสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน (การป้องกันโรค และป้องกันการบาดเจ็บ) ได้ช่วงเรียนปี 6"
หลังจบแพทย์เฉพาะทาง นพ.ประมุข ไปทำงานที่โรงพยาบาลกลาง แผนกสูติ-นรีเวช ทำได้เพียงครึ่งปี ก็ถูกส่งตัวไปช่วยงานที่โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ส่วนภรรยาแยกไปทำงานที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ก่อนจะกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ เพราะโรงพยาบาลขาดแคลนแพทย์ ทำได้ 3 ปี ก็ลาออกมาเปิดคลินิกในต่างจังหวัดเกี่ยวกับสูติ-นรีเวช
"ผมเปิดคลินิกมาแล้ว 18 ปี (ไม่บอกชื่อคลินิก) ส่วนภรรยาก็ทำงานในโรงพยาบาลประมาณ 10 ปี ก่อนจะลาออกมาเปิดคลินิกส่วนตัวเกี่ยวกับหมอเด็ก เปิดมาแล้ว 6-7 ปี คลินิกของเรา 2 คน อยู่ห่างกันไม่มาก เหตุผลที่ลาออกเพราะอยากเป็น "นายตัวเอง" ช่วงที่ออกมาเปิดคลินิกส่วนตัวก็รับเป็นที่ปรึกษาตามโรงพยาบาลเอกชน 2-3 แห่ง สัปดาห์ละ 1 วัน ทำงานวันละ 4 ชั่วโมง ตอนนี้ไม่ได้รับงานเป็นที่ปรึกษาแล้ว"
สำหรับจุดเริ่มต้นที่ก้าวเข้ามาในตลาดหุ้น คุณหมอ เล่าว่า สนใจมาตั้งแต่ปี 2534 ช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย สมัยยังเป็นนักศึกษาแพทย์ก็คิดแล้วว่าอยากทำงานอิสระ ไม่อยากมีเจ้านาย มีเงินสักก้อนอยากลงทุนทำเงินให้งอกเงยตอนนั้นก็มองไว้หลายอย่าง..สุดท้ายมองว่าลงทุนในตลาดหุ้นน่าจะตอบโจทย์ได้ทั้งหมด "ช่วงนั้นผมเริ่มไปหาหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการลงทุนมาอ่าน ยังไม่มีพอคเก็ตบุ๊คเกี่ยวกับการลงทุนให้อ่านมากเหมือนสมัยนี้ บางครั้งก็อาศัยถามรุ่นพี่ ถามเพื่อนที่เขาลงทุนอยู่แล้ว จำได้ว่าเคยถามเพื่อนว่าตัวเลขสีเขียวๆ แดงๆ ที่วิ่งอยู่ตามหน้าจอโทรทัศน์มันคืออะไร..ผมศึกษาข้อมูลต่างๆ จนคิดว่ารู้แน่นปึก หลังจบออกมาทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็ไปเปิดพอร์ตลงทุนจำได้ว่าปี 2535 ทุนเริ่มต้น "หลักหมื่นบาท" ช่วงนั้นยังเล่นหุ้นแบบไม่มีข้อมูล ซื้อหุ้นตาม สตอรี่ และไม่สนใจดูงบการเงิน เน้นลงทุนระยะสั้น 3 วัน 7 วัน นานสุด 1 เดือน"
ประสบการณ์เล่นหุ้นช่วงแรกกำไรครั้งละ 5-10% สูงสุด 20% บางตัวเคยกำไรสูงถึง 80-90% แต่มาเสียหนักตรงที่ยึดนโยบาย "ไม่ขาย ไม่ขาดทุน" (หัวเราะ) เคยขาดทุนวอร์แรนท์ตัวหนึ่งถือไว้นานจนราคาหุ้นแทบจะกลายเป็น "ศูนย์"
"ครั้งหนึ่งผมเคยขาดทุนหุ้น บงล.เอกชาติ ตอนนั้นเจ็บใจมากซื้อมาหมื่นกว่าหุ้น มาร์เก็ตติ้งบอกหุ้นตัวนี้ดีมาก ตอนแรกๆ ราคาขึ้นมา ก็คิดว่าน่าจะสูงกว่านี้ พอหุ้นลงก็คิดอีกว่าเดี๋ยวมันขึ้นมาใหม่ สุดท้ายราคาก็ลงเรื่อยๆ จนทำให้จำนวนเงินในพอร์ตหายไปประมาณ 80-90%"
บทเรียนการขาดทุนครั้งนั้นทำให้ นพ.ประมุข มีความคิดว่าการลงทุนในหุ้นเหมือน "เล่นพนัน" ดีๆ นี่เอง ลงทุนแบบไร้ทิศทางอยู่ 2-3 ปี ก็ "ถอยออกมา" ช่วงนั้นต้องออกมาเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง แต่ก็มีซื้อหุ้นปันผลและเก็บหุ้นที่ขาดทุนติดพอร์ตไว้ 2-3 ตัว จากปกติจะถือประมาณ 20 ตัว
"ทุกครั้งที่นึกย้อนกลับไปในช่วงที่เลิกลงทุน ผมถือว่าเป็นคนที่ "โชคดีมาก" (ลากเสียงยาว) เพราะช่วงนั้นเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ถ้าขืนลงทุนต่อชีวิตผมคงต้องเดือดร้อนแน่นอน"
หลังเรียนจบแพทย์เฉพาะทางปี 2541 หมอหนุ่มก็ยังไม่คิดจะกลับมาลงทุน ช่วงนั้นตลาดหุ้นซึมๆ ซื้อขายวันละ 1,000-2,000 ล้านบาท โบรกเกอร์ถึงขนาดนั่งตบยุง ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าการที่ตลาดหุ้นเป็นแบบนี้มันเหมาะมากที่จะหาซื้อหุ้นดีๆ เป็นอย่างยิ่ง!!! กว่าที่จะกลับมามองตลาดหุ้นอีกครั้งก็ปี 2544
การกลับมาครั้งนี้ นพ.ประมุข พัฒนาตัวเองโดยหาหนังสือแนวธุรกิจและการลงทุนมาอ่าน เล่มหนึ่ง "พ่อรวยสอนลูก" ของ โรเบิร์ต คิโยซากิ ที่สอนว่าเงินมี 4 แบบ คือ 1.E (Employee) เงินเดือนที่ได้จากการทำงานให้กับกิจการที่เราไม่ได้เป็นเจ้าของ ข้อนี้..ผมไม่ชอบ ข้อ 2.S (Self-Employed) กิจการส่วนตัวหรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ข้อ 3.B (Business Owner) เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่หรือเจ้าของบริษัท สุดท้าย คือ I (Investor) นักลงทุน
ในหนังสือเขาจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ซ้ายมือ จะเป็น E กับ S เป็นด้านที่อยู่ในวนเวียนของกับดักหนู คือ ไม่มีทางได้พบอิสระทางการเงิน ส่วนขวามือ คือ B กับ I หลายคนทำอยู่ด้วยการให้เงินเป็นคนทำงาน ซึ่งข้อ 4 "ถูกใจ" ผมมากที่สุด และช่วงนั้นเป็น "แฟนคลับ" ของ ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ผู้ก่อตั้งชมรมคนออมเงิน ซื้อหนังสือของอาจารย์มาอ่านเกือบทุกเล่ม และก็เป็น แฟนคลับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เพราะทันทีที่อาจารย์ ออกหนังสือ "ตีแตก" ก็ซื้อมาอ่าน..อ่านจบก็ปิ๊งๆ ๆ เลย
ก่อนจะหันมาลงทุนแนว VI ช่วงแรกของการเปลี่ยนแปลง นพ.ประมุข ยังคงลงทุนระยะสั้นเหมือนเดิม เพียงแต่จะมีหลักการมากขึ้น โดยเริ่มวิเคราะห์กิจการและแนวโน้มธุรกิจ หลังวิกฤติปี 2540 เริ่มจะมองออกว่าธุรกิจอะไรจะ "รุ่ง" ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาท อ่อนตัวโดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับส่งออกดีมาก ช่วงนั้นบอกตรงๆ งบการเงินไม่ดูเลย ไม่รู้เรื่อง เป็น "ไม้เบื่อ ไม้เมา" อ่านทีไรหลับทุกที (หัวเราะ)
"แม้ไม่ค่อยสนใจงบการเงิน แต่ผมก็ได้กำไรเกือบทุกตัว ส่วนใหญ่เล่นหุ้น "พิมพ์นิยม" กลุ่มแบงก์ และพลังงาน ฯลฯ เอากำไรไม่มาก 10-20% ตอนนั้นเริ่มมีหลักการ จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหวไปตามตลาด เชื่อหรือไม่! ผมไม่ขาดทุนเลย เล่นหลักการแบบนี้จนถึงปี 2547 วันหนึ่งผมกลับมานอนคิดว่า ถ้าเรายังลงทุนแบบนี้ต่อไป ก็คงไม่ต่างอะไรจากการซื้อมาขายไป ไม่ใช่นักลงทุนที่ แท้จริง สุดท้ายจะมีอิสรภาพทางการเงินได้อย่างไร ทำให้ต้องกลับมาค้นหาเส้นทางสู่ Financial Freedom ใหม่อีกครั้ง"
นพ.ประมุข เริ่มมาดูเรื่องการลงทุนใหม่ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ และหุ้นกู้ สุดท้ายก็รู้ว่าตัวเองไม่ถนัดอสังหาริมทรัพย์ เป็นคนหน้าบางทวงเงินใครไม่เป็น และไม่ใช่นักต่อรอง จึงหันไปลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 3-5% ของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยง เลือกลงทุน 3 กองทุนที่จ่ายเงินปันผลทุกไตรมาส ถึงปัจจุบันได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% โดยไม่เคยนำเงินปันผลมาใช้ มีแต่นำไป "ทบต้น"
นอกจากนี้ เมื่ออยากเจอกับคำว่า "อิสระทางการเงิน" ก็เป็นแฟนคอลัมน์ Value Way ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ BizWeek เขียนโดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ และ มนตรี นิพิฐวิทยา ที่เอามาลงในเว็บไซต์ พออ่านแล้วรู้สึก "ตรงใจ" ยิ่งได้มาอ่านหนังสือ "ตีแตก" ยิ่งตอกย้ำเลยว่า "ใช่"
ช่วงแรกๆ หมอแทบ "ถอดใจ" ในเว็บไซต์พูดถึงแต่เรื่องงบการเงินที่ตัวเองไม่ถนัด ไม่รู้เรื่องเลย แต่โชคดีมีเพื่อนนักลงทุนคอยให้กำลังใจตลอด ทุกคนพูดว่า "มาใหม่ๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ" จึงตัดสินใจ "ฮึด" ใหม่อีกครั้ง คราวนี้ไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับงบการเงินและวิเคราะห์ธุรกิจมาอ่านหลายเล่มมาก มีหนังสือของ ดร.นิเวศน์ 3-4 เล่ม กวาดมาหมด หนังสือ One Up On Wall Street ของ ปีเตอร์ ลินช์ และหนังสือแนวคิดของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ หนังสือที่แปลโดย พรชัย รัตนนนทชัยสุข หน้า 400-500 หน้า อ่านจบภายในระยะเวลาไม่นาน พออ่านมากๆ ทำให้รู้ถึงแก่นแท้ของแนวทางวีไอมากขึ้น
คุณหมอ บอกว่า หนังสือเกี่ยวกับการลงทุนแนว VI จะสอนให้เราดูตัวเลขการเงินสำคัญๆ ไม่จำเป็นต้องดู ทุกตัว แรกๆ จะสอนให้เราดูง่ายๆ ก่อน เช่น P/E, P/BV เมื่อเริ่มยากขึ้นเขาจะสอนให้ดูอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) และอัตราส่วนราคาต่อผลกำไรสุทธิต่อหุ้นเทียบกับการเพิ่มของผลกำไร (PEG Ratio)
"เมื่ออ่านจบทำให้ผมรู้ว่า เราไม่จำเป็นต้องเก่งตัวเลขทางการเงินทุกตัว การเป็นนักลงทุนแนว VI ที่ดี ไม่จำเป็นต้องเก่งบัญชี แต่ให้เน้นมองภาพใหญ่ของธุรกิจให้ออก "อาจารย์นิเวศน์" ยังเคยบอกว่า ตัวเขาก็ไม่ได้ดูงบการเงิน เป็นทุกตัว เน้นดูแนวโน้มธุรกิจ"
เรื่องราวของ นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ ยังไม่จบ!!! สัปดาห์หน้าตามต่อ "เทคนิคการลงทุน" เขามีกลยุทธ์อย่างไรจึงค้นพบ Financial Freedom โดยเฉพาะในปี 2554 มีกำไรจากการลงทุนสูงถึง 75%
"ช่วงปี 2541 ตลาดหุ้นซึมๆ ซื้อขายวันละ 1,000-2,000 ล้านบาท โบรกเกอร์ถึงขนาดนั่งตบยุง ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าการที่ตลาดหุ้นเป็นแบบนี้มันเหมาะมากที่จะหาซื้อหุ้นดีๆ เป็นอย่างยิ่ง!!!"

บรรยายใต้ภาพ
นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ--จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 8:40 am
โดย theerasak24
ยอดเยี่ยมมากเลยครับคุณหมอพอล

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 8:59 am
โดย dome@perth
ไม่มีใครเด่นกว่านี้แล้ว เพราะเป็น "ประมุข"
มาแซวหน้าเล่นๆ นะครับพี่หมอ :D

ติดตามชมตอนต่อไปอย่าใจจดใจจ่อครับ

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 9:28 am
โดย ปรัชญา
หมอคือผู้เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อTVIและสังคมการลงทุน มาโดยตลอด :mrgreen:

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 9:42 am
โดย คลายเครียด
ยินดีด้วยครับ

:cheers: :cheers: :cheers: :cheers: :cheers: :cheers: :cheers: :cheers: :cheers:

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 12:18 pm
โดย yutt
ขอบคุณมากครับสำหรับบทความที่นำมาโพสต์

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 2:06 pm
โดย romee
:8) คนเก่งทำอะไรหลายๆอย่าง ก็สำเร็จไปหมด สุดยอดเลยครับพี่หมอมุข

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 2:35 pm
โดย airazoc
เจ๋งมากครับพี่หมอมุข :B

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 3:00 pm
โดย sorn adis
พี่มุขต่อสู้ ฟันฝ่า กับตัวเองมามากมาย

และแล้ว วันนี้ที่รอคอยก็มาถึง จนได้

หนทางต่อไปข้างหน้าดูสดใส

อย่าลืม กระเตงน้องๆ ไปด้วยนะครับ

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 3:25 pm
โดย monsoon
สุโค่ยยย^^

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 4:21 pm
โดย kotaro
:bow: :cool:

พี่หมอมุข สุดยอดครับ

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 4:27 pm
โดย โอ@
พี่พอล ป. ประมุข :B

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 4:56 pm
โดย simpleBE
เยี่ยมไปเลยคร๊าบบบ
:mrgreen:

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 5:39 pm
โดย ake3004
Great for both paying back to investing society and investing skill.

cant wait part 2 kab :D

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 6:19 pm
โดย saichon
คุณหมอเป็นอีกหนึ่งบุคคลตัวอย่างสำหรับนักลงทุนรุ่นหลังครับ

:bow: :bow:

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 6:29 pm
โดย moonorway
รอติดตามชมตอนหน้าครับ :D

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 9:25 pm
โดย Nevercry.boy
น่าชื่นชมครับหมอพอลของเราเป็นคนเก่งทุกด้านจริง ๆ

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 9:32 pm
โดย kabu
พี่หมอ Paul เก่งด้วยแล้วก็ใจดีด้วยครับ
ผมขอคำปรึกษาด้วยบ่อยๆ :mrgreen:

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 20, 2012 10:42 pm
โดย wigraipat
เก่งมากคับพี่พอล

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 21, 2012 8:20 am
โดย Lastpun
สุดยอดครับ รอติดตามตอนต่อไปอยู่

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 21, 2012 2:48 pm
โดย Tirama
ยอดเยี่ยมครับ :D :D :D

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 21, 2012 4:47 pm
โดย paul_n
ชื่อ Paul เหมือนกันครับ แต่ยังไม่เข้าขั้นเทียบ กับพี่หมอ Paul vi ครับ

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 21, 2012 5:16 pm
โดย kengvistock
ยินดีด้วยครับพี่หมอ ผมรุ่นน้องจะดำเนินรอยตามรุ่นพี่ครับ :D :D :D

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 21, 2012 8:27 pm
โดย teevalue
ขอชื่นชมพี่หมอมุขครับ รอติดตามตอนต่อไปสัปดาห์หน้า

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 22, 2012 7:48 am
โดย torpongpak
มายินดีกับพี่พอล ด้วยฮับ celebคนเเรกที่เคยคุยด้วย :B

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 22, 2012 1:05 pm
โดย << New >>
สุดยอดมากครับพี่หมอ :cool: :cool: :cool:

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 22, 2012 3:23 pm
โดย good to great
แปลกแต่จริง vi ฝั่งตะวันตก เก่งๆ หลายคน พี่บู พี่ฉัตรชัย พี่หมอมุข พี่พรชัย และน่าจะมีอีกไม่น้อย ที่ยังไม่รู้จักผ่านสื่อ ... ว่าแล้วต้องทวงให้จัดพบปะสังสรรค์ให้ใด้สัมผัสแบบใกล้ชิดซักครั้ง.... เพื่อประโยชน์ และความสุข นะครับพี่ครับ

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 22, 2012 6:47 pm
โดย peddd
หมอประมุข เคยทำแอมเวย์ จนเป็นเพชร
ตอนนี้เลิกทำแอมเวย์แล้วเหรอครับ

Re: จาก 'เสื้อกาวน์'สู่ 'เซียนหุ้นวีไอ'นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกีย

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 22, 2012 7:59 pm
โดย good to great
[quote="peddd"]หมอประมุข เคยทำแอมเวย์ จนเป็นเพชร
ตอนนี้เลิกทำแอมเวย์แล้วเหรอครับ[/
โอ้ เป็นเพชรแอมเวย์ด้วยเหรอครับ นับถือๆ ผมมีความเชื่อว่าคนที่ทำแอมเวย์สำเร็จนี่ทำอะไรก็สำเร็จเพราะเป็นที่ยากจริงๆ....ขอคารวะด้วยคนครับ