หน้า 1 จากทั้งหมด 1

อาชีพ Fund Manager/วรวรรณ ธาราภูมิ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 06, 2012 4:07 pm
โดย Thai VI Article

โค้ด: เลือกทั้งหมด

อาชีพ Fund Manager 

วรวรรณ ธาราภูมิ
CEO บลจ.บัวหลวง

5 สิงหาคม 2555

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ มีหลายคนที่อยากเป็น Fund Manager กันมาก 

ผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อนฝูง คนรู้จักมั่ง ไม่รู้จักมั่ง พากันฝากลูกหลานมาให้เป็น Fund Manager กันมาก หากมีตำแหน่งเปิด เราก็เปิดให้ทุกคนโดยเสมอภาค  ให้ผ่านกระบวนการปกติเพื่อคัดเลือกโดยไม่คำนึงว่าต้องรับเพราะมีคนฝากงาน เนื่องจากเราคิดว่าคนที่ไม่มีกำลังภายในควรได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน 

เห็นไหม มาตรฐานเดียวเท่านั้น แม้จะเป็นมาตรฐานของฉันเองก็ตาม 5555+

เคยถามว่าทำไมอยากมีอาชีพนี้กันนัก เขาตอบกันว่า  1. เท่  2.มีพลังอำนาจกำหนดทิศทางตลาดได้  3. จะได้รวย

ข้อ 1 ที่ว่าเท่นั้น ไม่รู้ว่าเท่ตรงไหน เพราะอาชีพอย่างพวกเราต้องทำงานหนัก  ต้องเผชิญแรงกดดันมากมาย และต้องมีวินัยสูง ต้องถ่อมตน ไม่เหิมเกริม เนื่องจากเรากำลังจัดการเงินทองของผู้คนกัน และคนที่เขาไว้ใจ เอาเงินมาให้เราบริหาร เขาก็ทำงานมาเหนื่อยยากกว่าจะมีเงินเก็บ หากเราประมาท ไม่สำนึกในเรื่องนี้ เราก็จะทำร้ายเจ้าของเงินที่เขาอุตส่าห์ฝากความหวังไว้กับเรา

จริงอยู่ที่ว่าเราอาจไม่สามารถทำให้เขาได้กำไรเสมอไป  แถมบางครั้งยังขาดทุนได้หากตลาดไม่เอื้ออำนวย  แต่หากเราทำอย่างเต็มความสามารถ และทำไปด้วยความรู้คิด ด้วยสติ และสุจริตมีจริยธรรม เราก็เป็น Fund Manager ที่ดี ที่ควรภาคภูมิใจในตนเอง หรือว่าความเท่มันอยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้

ข้อ 2 ที่ว่ามีพลังอำนาจกำหนดทิศทางตลาดได้นั้นมันก็ไม่ใช่  น่าจะเข้าใจผิดกันมากกว่า  ไม่มีใครกำหนดทิศทางให้ Mr.Market ได้อย่างแท้จริง หากเป็นหุ้นเล็กๆ มีปริมาณการซื้อขายน้อย ก็อาจดันราคาได้ แต่ก็ชั่วคราวเท่านั้น เพราะในระยะยาว ซึ่งไม่ยาวมากเลย ราคาหุ้นย่อมต้องสะท้อนความเป็นจริง  ดังนั้น การที่ใครจะไปดันราคาหรือไปแกล้งทุบลง ก็ย่อมเจ็บตัวเองในที่สุด ยกเว้นพวกที่ทำเพื่อตนเอง ซึ่งพวกนี้เป็นเหลือบในวงการ (หากมี) ที่เราต้องช่วยกันชี้เบาะแสและกำจัดออกไป

ในอีกด้านหนึ่ง พลังอำนาจที่ว่ามันเกิดได้หากไปคิดในแง่ว่า Fund Manager เป็นลูกค้าของโบรกเกอร์ โบรกเกอร์บางรายเลยพยายามเอาใจ ให้นั่น ให้นี่  หรือ Fund Manager ที่นิสัยไม่ดี (ก็ชั่วนั่นแหละ) ก็อาจไปข่มขู่ เรียกร้องผลประโยชน์ส่วนตัวจากโบรกเกอร์ เช่น ให้พาไปเลี้ยงของแพงๆ  ให้พาไปอาบน้ำ (โบราณชะมัด) ไม่งั้นไม่ส่งออร์เดอร์ซื้อขายหุ้นให้อีก 

หากมี Fund Manager ประพฤติตนเสื่อมเสียอย่างนั้น โบรกเกอร์มีหน้าที่แจ้งไปยัง บลจ. ต้นสังกัด หรือแจ้งไปยังสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคม บลจ. หรือ AIMC) หรือแจ้ง กลต. ไปเลย  อย่าไปกลัวว่าจะเสียออเดอร์  เรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้หากโบรกเกอร์ไม่บอกก็จริงอยู่ แต่หากคุณปล่อยให้มันเกิด  คุณก็กลายเป็นทาสเขา และคุณเองก็ผิดกฎระเบียบ ผิดจรรยาบรรณโบรกเกอร์  หากโบรกเกอร์ยังทำอยู่ คุณก็จะถูกพวกเราจำนวนมากที่อยู่ฝั่งไม่เอาอามิสสินจ้างหยุดส่งออเดอร์  และของอย่างนี้ ไม่มีความลับ สักวันหนึ่งเราก็รู้

ส่วนข้อ 3. ที่ว่าจะได้รวยนั้น ต้องอธิบายกันให้ชัดเจนว่าหากเราจะรวยจากการซื้อขายตัดหน้ากองทุนที่เราบริหารนั้นเป็นการผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และผิดจรรยาบรรณด้วย ใครที่ทำก็โดนกฎหมายลงโทษ จะช้า จะเร็ว ก็โดนแน่ๆ  ตัวอย่างก็มีให้เห็นค่ะ การไปรับหุ้นจองเข้าประโยชน์ตนเองก็เช่นกัน ใครทำก็จะผิดกฎ ผิดจริยธรรม และจะเสื่อมเสียชื่อเสียงของทั้งตนเองและวงศ์สกุลด้วย 

ส่วนหากคิดว่าจะรวยจากการทำงานนั้น ขอบอกว่าอาชีพเราก็คือลูกจ้างบริษัทเหมือนคนชั้นกลางคนอื่น และสำหรับบริษัทที่มีเจ้าของนั้นก็ไม่มีเจ้าของรายใดยอมแบ่งผลกำไรเป็นโบนัสให้พวกเรามากเกินไปกว่าที่เราควรจะได้ในวิสัยที่เป็นลูกจ้าง เจ้าของเขาต้องทำให้เกิดสมดุลระหว่างผู้ถือหุ้นบริษัทกับดูตามผลงานค่ะ 

นอกจากนี้ จำได้ไหมคะที่ Mr. Cramer เจ้าของรายการ Mad Money เคยบอกว่า “ทำงานเป็นลูกจ้างอย่างเดียวไม่มีวันรวย ในตลาดมีหุ้นเป็นพันๆ ตัวที่ทำให้เรารวยได้ ...”  ตรงนี้เราก็มีข้อจำกัดในฐานะที่ทำงานด้านจัดการกองทุน นั่นก็คือ เราถูกปิดโอกาสในการลงทุนจากกฎเกณฑ์ กลต.  จากสมาคมฯ  และจากกฎภายในบริษัทมากมาย ทั้งนี้ ก็เพื่อไม่ให้พวกเราไปลงทุนโดยเอาเปรียบลูกค้า 

สรุปก็คือ เราไม่มีโอกาสลงทุนเพื่อให้ตนเองรวยได้โดยเสรีแบบคนอื่นๆ  This is the price we have to pay.  

บางคนบอกว่าไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่ให้ Nominee ลงทุนแทน  

อืม ... มันก็อาจจะมี เพราะไม่สามารถตอบแทนคนอื่นได้  แต่เชื่อมั่นว่าพวกเราส่วนใหญ่ไม่ทำ ไม่เคยทำ และจะไม่ทำ เนื่องจากเรารักในอาชีพนี้ รักในเกียรติและศักดิ์ศรีของเรามากกว่า  และเรารู้จักเพียงพอในสิ่งที่เราได้รับ

ที่สำคัญ การที่เราเป็นกันแบบนี้ มันทำให้เรากล้าที่จะพูด กล้าที่จะแสดงออกได้อย่างตรงไปตรงมา เพราะเราไม่มีแผลเลย มันสบายใจกว่ากันเยอะ

นอกจากนี้ ในการบริหารกองทุนให้ประสบผลสำเร็จก็ไม่ได้ขึ้นกับ Fund Manager เพียงเท่านั้น ยังต้องมีงานวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ที่เก่งๆ มีทีมวิจัยภายในที่ดี มีวิสัยทัศน์ มีความขยันหมั่นเพียร และต้องมีคนเคาะซื้อขายหลักทรัพย์ให้กองทุนตามคำสั่งของ Fund Manager ที่เก่งมากๆ ด้วย เราเรียกเขาว่า Dealer  

3 กำลังหลักนี้ มีความสำคัญเท่าๆ กัน แต่จะสำเร็จด้วยดีและยั่งยืนกว่า ถ้าทุกอย่างอยู่ในบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ มีความเข้าใจความเป็นไปในตลาด ในโลก และมีทีม Support ทุกๆ ด้านที่กลมเกลียว มีความเชื่อมั่นศรัทธาในสิ่งดีๆ ที่ทุกคนทำ

ทั้งนี้ หลายอย่างอาจเลียนแบบกันได้ แต่บางอย่างที่สำคัญมันต้องเกิดจากจิตวิญญาณและความศรัทธาในอาชีพที่สั่งสมกันมานานโดยต่อเนื่องค่ะ

Happy Investing and Invest Like A Champion นะคะ