Thai VI

อยากรู้การ วัดมูลค่าหุ้นทั้ง 3 แบบ อะครับ

1 reproduction cost of asset วิธีการหา มันคือยังไงครับผมอ่านในหนังสือตะแกรงร่อนหุ้นแล้วไม่ค่อยเคลีย
คือจะ หา r and d กับ มูลค่าbrand name กับ hidden asset จากไหน รายการเหล่านี้มีแสดงในงบดุลไหม

1.2แล้วสมมุติว่าหารายการพวกนี้ได้แล้วจะต้องนำ มูลค่าที่หาได้มา ลบหนี้สิน แล้วหาร จำนวนหุ้นเพื่อหา ราคาต่อหุ้นที่แท้จริง รึป่าว

2. epv ที่บอกว่านำ กำไรสุทธิ หาร ผลตอบแทนที่คาดว่าน่าจะทำได้ต่อปีเป็นเปอร์เซน percentที่ว่านี้ใช้ต้นทุนของเงินทุน (wacc) บริษัทหรือป่าวครับแล้วถ้าไม่ใช้มันคืออะไร

2.1แล้วก็มันใช้การหา terminate value ของกำไรสุทธิหรือป่าวเพราะเห็นคล้ายๆสูตร ที่อ่านเจอใน หนังสือของคุณสุมาอี้ที่ บอกว่า dividend/r

2.2 แล้วพอหาได้ จะต้องทำยังไงต่อครับ เช่นจากในหนังสือตะแกรงร่อนหุ้นที่บอกไว้ว่า บริษัทมีกำไร 100 ล้านบาท สมมุติเรามีเงินหนึ่งก้อนและเราสามมารถ ทำผลตอบแทนจากเงินก้อนนี้ ได้ 7%ต่อปี ดังนั้นมูลค่า ของเงินลงทุนของเราที่ต้องใช้ คือ 100/0.7 เท่ากับ 1429 ล้านบาท อยากถามว่าไอ้ 1429 ล้านบาทเนี่ย ถ้าจะหา มูลค่าต่อหุ้น ต้อง ลบด้วยหนี้สินทั้งหมดแล้ว หาร จำนวนหุ้นหรือป่าว

2.3 ถ้าเราจะใช้ eps เฉลี่ย ในการหามูลค่าที่แท้จริงต่อหุ่นเลยได้รึป่าว แล้วถ้าได้ควรใช้ eps เฉลี่ย กี่ปีย้อนหลัง

2.4 แล้วถ้าใช้ eps เฉลี่ยได้ ทำไมไม่ใช้ dividend แบบ ที่คุณสุมาอี้เขียน

3. DCF อยากรู้ว่า กำไรที่เกิดจากการลงทุน ได้รวมเป็นส่วนหนึ่งของกำไรสุทธิหรือยัง แล้วถ้ายัง กระแสเงินสดจากการลงทุนต้องนำมาคิด DCF ด้วยหรือป่าวเช่นกำไรจากการลงทุนในหุ้นและในที่ดิน

3.1 cash flow from financing นี้ใช้ที่มาจากการกู้ยืมและ จ่ายเงินปันผล หรือป่าว แล้วต้องนำมาคิดDCF ด้วยไหม เพราะ เคยอ่านเจอในหนังสือว่าบางบริษัทที่มีเงินสดไม่พอ ถึงกับต้องกู้มาจ่ายเงินปันผล

ถ้าผมเข้าใจอะไรผิดก็ช่วยบอกด้วยนะครับ พอดียังใหม่อยุ่

แล้วก็ช่วยแนะนำหนังสือที่ สอนการวัดมูลค่าแบบทั้ง3อันนี้หน่อยรับ
แต่ก่อนวัดแบบ ดูแค่ p/e p/bv dividend แต่พอมาอ่านเจอวิธีอื่น เลยอยากรู้วิธีอื่นเพราะเห็นบอกว่า
p/e p/bv dividend มันไม่สมบูรณ์ ซึง่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ถ้าใครรู้ก็ช่วยบอกทีครับ

ลองมั่วระหว่างรอผู้รู้จริงละกันคับ
ข้อ 3 ปกติ ถ้าเราประเมินกำไรจากการลงทุนมักจะเป็น one time
แต่ถ้าสมมติว่าเราเก่งจนประเมินได้ทุกปีอย่างแม่นยำ
(รู้ว่าใช้ทุนเท่าไหร่ ได้กำไรเท่าไหร่)
ก็น่าจะถือ เป็นfcf ได้หรือเปล่าคับ
เช่น กองทุนอสังหา หรือพวก holding comp
แต่ถ้าบอกไม่ได้ทุกปี หรือไม่สม่ำเสมอ คงแล้วแต่วิจารณญาณมั้งคับ
แตถ้าเป็น one time มันก็จะเป็น present value อยู่แล้ว
ปีอ
นาคตเราคงบอกไม่ได้
ซึ่งกรณีนี้ถ้าแปลงเป็นcash แล้วก็ไม่จำเป็น
เพราะสุดท้ายจะไป add ในมูลค่ากิจการ หลังได้ค่า d9scount อยู่ดี

3.1 ใช่คับ
ใช้หนี้ กู้หนี้ จ่ายปันผล
เช่าซื้อ
รายการนี้ ไม่ใช่ fcf จากการดำเนินงาน ไม่น่าเอามาคิด dcf
มันน่าจะสะท้อนแค่เงินไหลเข้าออกบ. ผ่านกิจกรรมอะไร

จริงถ้าเริ่มคุ้ยข้อมูลจาก fcf ก่อนน่าจะง่ายกว่านะคับ

ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ผมถามอีกข้อละกัน
ถ้าสมมุติใช้วิธี epv กับหุ้นที่เติบโตแต่ไม่มาก จะเข้าสูตร net profit / r-g แบบในหนังสือคุณสุมาอี้ที่เป็น dividend/r-g ได้หรือป่าวครับ g = growth

ขอตอบในประเด็นที่พอจะตอบไ้ด้นะครับ
- มูลค่าที่คำนวนได้ต้องนำมาหักหนี้สินก่อนหรือไม่
มันขึ้นกับตัวแปรที่ใช้ว่าเป็นกำไร/กระแสเงิน ก่อนหรือหลังหักค่าใช้จ่ายทางการเงิน (ดอกเบี้ย)
ถ้าเป็นรายการก่อนหักค่าใช้จ่านทางการเงิน (เช่น Free Cash Flow to Firm , กำไรก่อนดอกเบี้ย) มูลค่าที่คำนวนได้จะยังไม่ได้คำนึงถึงส่วนของการจัดหาเงิน ในกรณีนี้จึงต้องนำพวกหนี้สิน(เฉพาะที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย) มาหักออกก่อนจึงจะได้มูลค่าที่เหลือตกถึงผู้ถือหุ้นจริงๆ
ถ้าเป็นรายการหลังหักดอกเบี้ยไปแล้ว (เช่นใช้กำไรสุทธิ,Free Cash Flow to Equityเป็นตัวตั้งใน Model) มูลค่าที่คำนวนได้ก็ไม่ต้องหักหนี้สินอีก

คุณ pop007 หมายความว่า ถ้าเป็นกำไรสุทธิซึ่งหักดอกเบี้ยไปแล้วก็ไม่ต้อง ก็ไม่ต้องลบหนี้สิน ให้นำหารจำนวนหุ้นเลย

แต่ถ้าใช้ ebit ก็ต้องนำมาลบกับหนี้สินก่อนจึง หารจำนวนหุ้น ผมเข้าใจไหม


แต่ ผมสงสัยอีกว่า ถ้าสมมุติว่าบริษัทมีหนี้ เมหือนกัน แต่เป็นหนี้ที่ไม่มีต้นทุนทางการเงินเช่นเจ้าหนี้การค้า อย่างนี้ จะต้อง ลบหรือป่าวเพราะยังไงกำไรสุทธิที่หามาได้ก็ต้องคืน เจ้าหนี้ส่วนหนึ่ง แล้ว ค่อยแบ่งหารกันระหว่างผู้ถือหุ้น

buffman55 เขียน:คุณ pop007 หมายความว่า ถ้าเป็นกำไรสุทธิซึ่งหักดอกเบี้ยไปแล้วก็ไม่ต้อง ก็ไม่ต้องลบหนี้สิน ให้นำหารจำนวนหุ้นเลย

แต่ถ้าใช้ ebit ก็ต้องนำมาลบกับหนี้สินก่อนจึง หารจำนวนหุ้น ผมเข้าใจไหม


แต่ ผมสงสัยอีกว่า ถ้าสมมุติว่าบริษัทมีหนี้ เมหือนกัน แต่เป็นหนี้ที่ไม่มีต้นทุนทางการเงินเช่นเจ้าหนี้การค้า อย่างนี้ จะต้อง ลบหรือป่าวเพราะยังไงกำไรสุทธิที่หามาได้ก็ต้องคืน เจ้าหนี้ส่วนหนึ่ง แล้ว ค่อยแบ่งหารกันระหว่างผู้ถือหุ้น

ตรงนี้เป็นส่วนของ การเปลี่ยนแปลง wc นี่คับ
แล้วแต่ assumption เช่น พวกค้าปลีกเงินสดเป็นเงินของเจ้าหนี้
เวลาคิด wc ก็ไม่นำมารวม
หรือถ้าคุณไม่คิดแง่นั้น ก็จับ current asset (operate)- current liability
ไปเลย

แต่ถ้าเอาตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือไม่ต้องลบ
เพราะ ส่วนนี้มันจะมีการหมุนไปมา ระหว่าง cash กับ ลูกหนี้ inv อยู่แล้ว
กำไรสุทธิ อาจจะคิดคนละส่วนกัน
ถ้าต้องเอากำไรสุทธิมาจ่ายเจ้าหนี้การค้าหมด
คงจะไม่ไหว อาศัยหมุนไปมาอย่างทีืบอกคับ

ย้ำเหมือนเดิม
ค่อยๆทำความเข้าใจกับ fcf ให้ลึกขึ้นเรื่อยๆจะได้คำตอบทั้งหมดเอง

อยากรู้ลึกแนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้ครับ

การวิเคราะห์การลงทุนในตราสารทุน (Equity Investments) : แบบจำลองในการประเมินมูลค่า II

ซื้อได้ที่ TSI อาคารตลาดลักทรัพย์เท่านั้นไม่มีจำหน่ายทั่วไปนะเธอว์
http://www.tsi-thailand.org/index.php?o ... mid=991%20

ถ้าผมยังไม่ได้อ่านเล่ม 1 จะอ่าน 2 รู้เรื่องหรอ หรือ ซื้อทั้ง2 ดี

buffman55 เขียน:ถ้าผมยังไม่ได้อ่านเล่ม 1 จะอ่าน 2 รู้เรื่องหรอ หรือ ซื้อทั้ง2 ดี

ถ้าอ่านของคุณสุมาอี้ได้เล่มนี้ก็ขนมครับ

ผมลองไปซื้อเล่ม วิเคราะงบการเงินอ่านแล้วจะหลับเลย ของ cisa 1 แล้ว ของ cisa 2 จะไหวไหมเนี่ย
เล่มที่ คุณแนะนำมาผมก็อยากซื้อนะแต่กลัวว่าถ้าผมพื้นถานไม่แน่นอาจจะอ่านไม่รู้เรื่อง