Thai VI

อยากรู้ว่าเขา ซ่อนกันอย่างไร ถือผ่านใครบ้างครับ

ผมเดาว่าน่าจะเป็นพวก developer ตามแนวราบนะครับ

แต่จะหาไปทำไมล่ะครับเนี่ย ?

ครับ แนวราบแน่นอนครับ แต่อยากทราบว่าใครถือครองแล้วสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากๆ นะครับ
หรือที่เก่าเก็บ ซื้อไว้นานแล้วอยู่กลางเมือง รอคนใจถึงมาซื้อ หรือพัฒนาเองโดนตัวเองไม่ได้เป็น
นักพัฒนาที่ดินมาก่อน อะไรประมาณนี้นะครับ

ประเด็นก็คือ ตัวเองทำธุรกิจในตลาดฯ มีกำไรดีอยู่แล้ว แต่ถือครองที่ดินไว้มาก รอกรุสมบัติระเบิด
หรือมีสินทรัพย์ที่ลงราคา ประเมินไว้นานแล้ว ยังไม่สะท้อนมูลค่าจริงในปัจจุบันครับ ไม่รู้จะมีหรือเปล่า
ช่วยกันหน่อยนะครับ จะได้เอาไปศึกษาต่อครับ

ถึงขั้นกรุแตกกันเลยหรือครับ

ถ้านับจำนวนไร่ ก็ยกให้SFP
แต่ราคานี่ น่าจะเป็นกลุ่มโรงแรมหรือสนามกอล์ฟ

หากสนใจค้นคว้า ค้นได้จาก 56-1 ของแต่ละบริษัทฯ

ส่งอมตะเข้าประกวดแบบขำๆ
14,000 ไร่

ขอบคุณพี่ปรัชญามากครับ
น่าสนใจมากครับ 19,856 ไร่ เป็นเจ้าของและไม่มีภาะผูกพันธ์
มูลค่าต้นทุน 291 ล้าน
ตกไร่ละ 14,655 บาท
ถูกไหมครับ

ธรรมชาติ เขียน:ขอบคุณพี่ปรัชญามากครับ
น่าสนใจมากครับ 19,856 ไร่ เป็นเจ้าของและไม่มีภาะผูกพันธ์
มูลค่าต้นทุน 291 ล้าน
ตกไร่ละ 14,655 บาท
ถูกไหมครับ

มีความตั้งใจค้นคว้า ขุดได้ดีมากครับ

5. ทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ

(1) ลักษณะสำคัญของทรัพย์สินถาวรหลักที่บริษัทใช้ในการประกอบธุรกิจ
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 บริษัทมีสินทรัพย์ถาวรหลักที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ดังนี้

ประเภท/ลักษณะทรัพย์สิน
ลักษณะกรรมสิทธิ์ มูลค่าต้นทุน(ล้านบาท) ภาระผูกพัน
1. ที่ดิน ที่ตั้ง
- ที่ดินตั้งโรงงาน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี 1,337-1-35 ไร่
- ที่ดินไร่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
12,159-0-98 ไร่
- ที่ดินไร่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
2,897-2-94 ไร่
- ที่ดินไร่ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี 1,975-3-29 ไร่
- ที่ดินตั้งโรงงาน อ.วังม่วง จ.สระบุรี
1,486-2-45 2/10 ไร่
รวมเนื้อที่ดินทั้งหมด 19,856-3-1 ไร่ เป็นเจ้าของ 290.89
23.94

38.37

52.01

62.85

113.72
ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี

ไม่มี
2. ที่ดิน ที่ตั้ง
- ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
รวมเนื้อที่ 1,678-0-1 ไร่
-ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
รวมเนื้อที่ 440-3-25 ไร่
-ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
รวมเนื้อที่ 451-1-80 ไร่
-ต.หนองเสือช้าง อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี
รวมเนื้อที่ 2,159-1-67 ไร่
รวมเนื้อที่ ที่เช่าทั้งหมด 4,729-2-73 ไร่ ทำสัญญาเช่าระยะยาว 2-3 ปี
- -
3. อาคารสำนักงานใหญ่ ที่ตั้ง
195 ถ.สาทรใต้ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์
ชั้น 43 แขวงยานนาวา เขตสาทร
กรุงเทพฯ ทำสัญญาเช่าระยะยาว 3 ปี
- -
ประเภท/ลักษณะทรัพย์สิน
ลักษณะกรรมสิทธิ์ มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) ภาระผูกพัน
4. อาคารโรงงานและคลังสินค้า ที่ตั้ง
- 218 ม.4 ถ.ฉะเชิงเทรา-สัตหีบ
ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
- 333 ม.1 ต.แสลงพัน อ.วังม่วง จ.สระบุรี
เป็นเจ้าของ

เป็นเจ้าของ
52.46

296.39
ไม่มี

ไม่มี
5. อาคารสำนักงานไร่ ที่ตั้ง
- 160/1 ม.6 ถ.ฉะเชิงเทรา-สัตหีบ
(กม.ที่ 72 สี่แยกหนองปรือ)
ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
- 15 ม.7 ต.นิคมลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล
จ.ลพบุรี
เป็นเจ้าของ


เป็นเจ้าของ

12.16


2.71
ไม่มี


ไม่มี

6. เครื่องจักร เป็นเจ้าของ 449.96 ไม่มี
(2) นโยบายการลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
เนื่องจากบริษัทมีที่ดินจำนวนมาก ทั้งในจังหวัดชลบุรีและระยอง บางส่วนอยู่ใน ZONE ที่เหมาะแก่การพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ซึ่งรัฐบาลได้ลงทุนสาธารณูปโภคอย่างมาก บริษัทจึงได้ขายที่ดินส่วนหนึ่งให้แก่บริษัทที่ดำเนินการพัฒนาที่ดิน และร่วมลงทุนในบริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ดอินดัสเตรียลเอสเตท (ระยอง) จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียน 358 ล้านบาท และมีกรรมการของบริษัทเป็นกรรมการในบริษัทร่วม โดยดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ 1 ท่าน และกรรมการอีก 2 ท่าน รวม 3 ท่าน ในจำนวนกรรมการทั้งหมด 7 ท่าน
ผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไปยังคงซบเซาอยู่ แต่อุตสาหกรรมรถยนต์ได้เติบโตขึ้น และบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลก เช่น GM, FORD - MAZDA ได้เลือกลงทุนในโครงการของบริษัทร่วม ทำให้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น ประเภทอาหาร, Packaging ก็เลือกลงทุนในโครงการของบริษัทร่วมเช่นกัน

__________________________



http://www.plantheon.co.th/links.html


http://www.plantheon.co.th/corporate-chairman.html

พี่ปรัชญาครับ เขาลงบัญชีราคาต้นทุนใช่ไหมครับ
ยังไม่มีการปรับราคาประเมินใหม่

ผมเข้าไปดูเว็บที่พี่แปาะ link ไว้ ผมสังสัยว่า ท่านเจ้าสัวเจริญกำลังจะครอบครองผลผลิตทางการเกษตร
หรือที่ดิน ที่สามารถทำการเกษตรได้กันแน่

ถ้าผลตอบแทนต่ำที่สุดของผลผลิตทางเกษตร หักต้นทุน แล้วมีกำไรชนะเงินเฟ้อได้เท่ากับว่า
ท่านเจ้าสัว สร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก แต่ราคาที่ดินขึ้นทบต้นไปเรื่อยๆ แบบนี้พี่ปรัชญามีความเห็นว่าอย่างไรครับ

เป็นระบบเก่า ยังไม่ได้ปรับทางบัญชี

การลงทุนของท่านเจ้าสัว มีมาก ยังไม่ได้นับบริษัทเสริมสุข ที่เพิ่งได้มาปีนี้
โดยส่วนตัวไม่มีหุ้นตัวนี้ในพอท์ต เนื่องจากไม่มีจังหว่ะในการเข้าลงทุน
การครอบครองทรัพย์สินเพื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้ ของฝ่ายวางแผนทางกลยุทธของการลงทุน
โครงสร้างการลงทุน สร้างอาณาจักรธุรกิจขยายไปเรื่อยๆ ฯลฯ
ผมพบกลุ่มนี้ตอนลงทุนโออิชิครับ

เมืองไทยตอนนี้มี2กลุ่ม ที่ควรจับตา

กลุ่มCP กลุ่มนี้ครอบครองที่ดินตามเมืองใหญ่เป็นโครงสร้างการลงทุน
สี่แยกพญาไทยอาคารแบ๊งค์ทหารไทยเดิม กลุ่มซีพีแลนด์ก็ได้มา
คาดว่าจะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ปริ่มๆออกมาหลายครั้ง(แต่ยังไม่ออกเลยต้องคอย)
เทสโก้โลตัส ก็อยู่ในโครงสร้างในเครือซีพี ทำกันถึงคอนโด ศูนย์ส่งสินค้าCPALL
แม็คโคร ดาวเทียมสื่อสาร มือถือ เคเบิ้ลทีวี ฯลฯยิ่งเล่ายิ่งยาว เอาแค่นี้ก่อนนะครับ

ผมยังมองธุรกิจคือต้องหากำไรและขยายเครือข่ายแบบไม่มีวันหยุดนิ่ง

ขออนุญาตเสริมครับ
บริษัทใดๆควรนำเงินไปลงทุนในสิ่งที่ให้ผลประโยชน์มากกว่าต้นทุนการเงินของบริษัท
สำหรับในกรณีนี้ หากธุรกิจดังกล่าวเป็นหรือไม่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปโดยตรง อาจต้องตีความต่างกัน
สำหรับในกรณีทั่วไป ผมคิดว่าการลงทุนใดๆควรให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า Wacc ของบริษัทครับ

แจมดื้อๆด้วยทฤษฎี ไม่ว่าเม่านะครับ

Muffin เขียน:ขออนุญาตเสริมครับ
บริษัทใดๆควรนำเงินไปลงทุนในสิ่งที่ให้ผลประโยชน์มากกว่าต้นทุนการเงินของบริษัท
สำหรับในกรณีนี้ หากธุรกิจดังกล่าวเป็นหรือไม่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปโดยตรง อาจต้องตีความต่างกัน
สำหรับในกรณีทั่วไป ผมคิดว่าการลงทุนใดๆควรให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า Wacc ของบริษัทครับ

แจมดื้อๆด้วยทฤษฎี ไม่ว่าเม่านะครับ

ระดับนี้เรียกเม่า แล้ว คนอื่นจะเหลือเหรอครับ...

ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับความเห็น และข้อเสนอแนะ
เป็นประโยชน์มากครับ ต้องขยันมากๆ จะได้เก่งเหมือนพี่ๆ

แต่สงสัยบริษัท ที่มีรายการระหว่างกันมากๆ อย่าง bts จะประเมินค่ายังไงครับ

รบกวนพี่ๆ อีกรอบครับ

บริษัทฯนี้ ผ่านวิกฤตมาแบบเหนื่อยๆเหมือนกัน
เขียนถึงแบบ ย่อๆ

บริษัทBTSตอนแรกเริ่มจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์เมื่อ27 มีนาคม 2511
ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5,000,000 บาท
โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแรก
คือ “โครงการธนาซิตี้” ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนบางนา-ตราด กม.14 ในปี 2531
มีบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม และที่ดินเปล่าจัดสรร

ปี2540 ซวนเซ
เพราะเจอวิกฤติลดค่าเงินบาทถ้าจะเรียกให้ไพเราะก็ลอยตัวค่าเงินบาท

ปี 2545-2549
บริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
ซึ่งบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการจนกระทั่งศาลล้มละลายกลาง
ได้มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการในปลายปี 2549

ปี 2550-2552
ได้ซื้อที่ดินที่หาดกมลา จังหวัดภูเก็ต ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ
กาญจนบุรี และเขาใหญ่ อีกทั้งได้เช่าที่ดินที่เชียงใหม่
และทำการเปิดให้บริการโรงแรมบูติคแห่งแรกภายใต้ชื่อ “โรงแรม ยู เชียงใหม่”
โดยมีบริษัท แอ๊บโซลูท โฮเต็ล เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมเป็นผู้บริหาร
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จเพื่อออกแบบ
และก่อสร้างโรงแรมบริเวณสถานีบีทีเอสสุรศักดิ์

4 พฤษภาคม 2553
บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยการได้มาซึ่งหุ้นสามัญของบีทีเอสซี
ร้อยละ 94.60 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบีทีเอสซี
และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
ทำให้ธุรกิจหลักของกลุ่มเปลี่ยนไปเป็นธุรกิจระบบขนส่งมวลชน
ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจหลักใหม่ของบริษัทฯ

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553
บริษัทฯ จึงได้เปลี่ยนหมวดเป็น “ขนส่งและโลจิสติกส์” ภายใต้อุตสาหกรรม “บริการ”
และได้เปลี่ยนชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์เป็น “BTS”

เป็นประวัติของกิจการโดยย่อ

25 มกราคม 2554
บริษัทฯ ได้ออกและขายหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่ารวม 10,000,000,000 บาท
ให้แก่นักลงทุนในต่างประเทศทั้งจำนวน เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงิน
จากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินซึ่งใช้ในการเข้าซื้อหุ้นสามัญบีทีเอสซี

26 มกราคม 2554
บริษัทฯ ได้ลดทุนโดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นจาก 1 บาทต่อหุ้น เป็น 0.64 บาท
ต่อหุ้น เพื่อล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและลดผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ
และต่อมาในเดือนมีนาคม 2554 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทฯ ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในปี 2549

10 มี.ค. 2554
XD วันปิดสมุดทะเบียน 15 มี.ค. 2554
วันจ่ายปันผล 24 มี.ค. 2554 00:00
เงินปันผล(บาท/หุ้น) 0.0129

อายุสัมปทานการเดินรถ ระยะเวลา30ปี

เริ่ม วันที่5 ธันวาคม 2542
ตามสัญญาสัมปทาน บีทีเอสซีจะต้องโอนกรรมสิทธิ์งานโครงสร้างให้แก่กทม.
เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งบีทีเอสซีได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ดังกล่าวแล้วใน
เดือนพฤศจิกายน 2542 สำหรับงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลนั้น
บีทีเอสซีต้องโอนให้กทม. เมื่อสิ้นสุดอายุสัมปทาน(น่าจะหมดสัมปทาน พ.ศ.2572)

3 พฤษภาคม 2555
บีทีเอสซีได้เข้าลงนามในสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง
โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร กับกรุงเทพธนาคม
ในการให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร
เป็นระยะเวลา 30 ปี นับแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2555 ถึง 2 พฤษภาคม 2585

บีทีเอสซีได้เล็งเห็นว่าธุรกิจสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้อง
และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบีทีเอสซีได้ รวมทั้งผลประกอบการตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
มีการเติบโตของรายได้และผลกำไรอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
บีทีเอสซีจึงได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของวีจีไอ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552
โดยวีจีไอได้รับสิทธิจาก บีทีเอสซีในการใช้พื้นที่บนขบวนรถไฟฟ้า
และบนสถานีรถไฟฟ้าในการหารายได้โฆษณา นอกจากนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
กลุ่มวีจีไอได้ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการให้บริการโฆษณา
พื้นที่โฆษณาป้ายภาพนิ่งและจอแอลซีดีในโมเดิร์นเทรดต่างๆ
ได้แก่ เทสโก้ โลตัส และเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และวัตสัน

โดยกลุ่มวีจีไอได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในพื้นที่ตามที่ระบุในสัญญาซึ่งส่วนใหญ่
มีระยะเวลาประมาณ 4-5 ปี ทั้งนี้ ปัจจุบันวีจีไออยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม
เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยวีจีไอได้ยื่นแบบคำ
ขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์
และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว
ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2555 และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต

โดยรายการระหว่างกันค่อนข้างมากและซับซ้อน
ผมเองไม่ได้ศึกษาโดยละเอียด
ข้อความด้านบน ตัดมาจาก56-1ครับอ่านเล่นแล้วกัน
การประเมินค่า ค่อนข้างยากสำหรับผมครับ
มีอีสป มีวอร์ มีหุ้นเพิ่มทุน มีหุ้นกู้แปลงสภาพ
มูลค่าของหุ้นผันแปรตลอด ตัวหารกำไรก็ไม่แน่นอน
ผู้บริหารก็ชอบทำให้ปวดหัว ลดพาร์มูลค่าจาก1บาทเหลือ0.64บาท

เดือนก่อนเอาใหม่..แบบนี้

การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (PAR)

เรื่อง : การรวมมูลค่าที่ตราไว้ (รวม par)
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 13 มิ.ย. 2555
มูลค่าที่ตราไว้(Par) เดิม(บาท/หุ้น) : 0.64
มูลค่าที่ตราไว้(Par) ใหม่(บาท/หุ้น) : 4.00
หมายเหตุ :
ในการคำนวณเพื่อเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ
ตามอัตราการคำนวณดังกล่าว (6.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่)
ให้แก่ผู้ถือหุ้นแต่ละราย หากมีเศษหุ้นเดิมเหลือจากการคำนวณ
ซึ่งจำนวนเศษหุ้นเดิมดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะแปลงเป็นหุ้นใหม่
บริษัทฯจะตัดเศษหุ้นเดิมนั้นทิ้งทั้งจำนวน โดยผู้ถือหุ้นแต่ละรายที่ถูกตัดเศษหุ้นเดิมทิ้ง

จะได้รับชดใช้ค่าเศษหุ้นเดิมที่ถูกตัดทิ้งในราคาเท่ากับราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
ของหุ้นสามัญของบริษัทฯในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกัน
ก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555
ตามสัดส่วนเศษหุ้นเดิมที่ถูกตัดทิ้ง ผ่านทางบริการของบริษัท
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ภายในกำหนด 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ
แล้วเสร็จ


อ่านแล้วกลุ้มใจไหมครับ
คิดว่าหาอะไรที่พอเข้าใจง่ายๆทำดีกว่า

แค่อ่านย่อๆ ยังตาลายเลยครับ
ขอไปกินยาแก้เวียนหัวก่อนครับ
bland bts พี่น้องกัน ทำรายการ ระรหว่างกันได้ งงมากฟ้องไปฟ้องมา ผู้ถือหุ้นจน เจ้าของรวยใช่ไหมครับพี่

คำขีดเส้นใต้ได้ใจมากเลยพี่ ขอน้อมรับด้วยความเคารพ


ขอบคุณพี่ปรัชญา มากครับ