Thai VI

ผมก็คนหนึง ที่บริโภคข่าว ออนไลน์ อ่านข่าวตามหนังสือพิมพ์
ที่เพื่อนส่งมาให้ทาง วอทแซพพ์ บ้าง
รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้ว่าเป็น ข่าวจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง

ผมมาได้คำตอบสำหรับการ จะหาข่าว หรือ บริโภคข่าว มาให้ได้ประโยชน์สูงสุด
จะรู้ว่าข่าวจริง หรือ ไม่จริง เชื่อถือได้มากน้อยกี่เปอร์เซ็นต์ เราต้อง "รู้เรื่องราว" ของหุ้นนั้น

สิ่งที่บอกเรื่องราวของหุ้นได้ดีที่สุด คือ "งบการเงิน" นั่นเอง
การนำเอางบการเงินของหุ้นนั้น มาใส่ spread sheet รายไตรมาส หลายๆปี ย้อนหลัง
แล้วดูการเปลี่ยนแปลงของงบ แล้วศึกษาหมายเหตุประกอบงบ ทุกอย่างที่มี

จดบัญทึกจุดที่เป็นข้อสังเกตุ ข้อสงสัย หรือจุดที่ไม่เข้าใจ แล้วค่อยไปค้นหาคำตอบ
"การบริโภคข่าว" เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลที่จะให้คำตอบได้

ดังนั้นผมจึงมีความเห็นว่าก่อนเราจะ "บริโภคข่าว ได้ดี ต้องมีงบการเงินเป็นพื้นฐาน" ครับ

เข้ามาแลกเปลี่ยนครับ ใครได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ อย่างไรกับข่าวบ้าง

ขอบคุณสำหรับมุมมองที่ดีๆครับพี่โดม..ทำให้ผมต้องตั้งใจเรียนรู้เกี่ยวกับงบการเงินมากขึ้นครับ

เห็นด้วยครับ. การลงทุนในหุ้นงบการเงินที่ดีเป็นปัจจัยที่ทำให้ยังได้ผลตอบแทนที่ดีครับ. ถ้าลงทุนหุ้นตามข่าวละก็...

ยิ่งทำให้ไม่เข้าใจ สาย technical ไปกว่าเดิม

งบการเงินบอกอดีต ข่าวบอกสิ่งที่จะเกิด หรือ กำลังเกิด ซึ่งอาจมี
ผลกระทบต่อผลประกอบการในอนาคต มาก น้อย หรือ ไม่มีผลใดๆ เลย ก็ได้
ผมเลยไม่ค่อยเข้าใจนะครับ ปกติข่าวที่เกิด จะมีผลสะท้อนกับงบข้างหน้า
คุณโดมแนะนำให้ดูงบการเงินแล้วไปตรวจสอบข่าวย้อนหลังนำมาเปรียบเทียบใช่ไหมครับ
หากเป็นดังนั้นเราก็จะช้ากว่าตลาดเสมอไม่น่าจะถูกต้องหรือเปล่าครับ

นักลงทุนที่เก่งๆ ประสบความสำเร็จ มักจะมีสิ่งที่เรียกว่า vision ที่เข้าใจถึงผลกระทบต่อ
ธุรกิจที่เค้าลงทุนเมื่อมีข่าว ดังนั้นเค้าจะนำตลาดก่อน 1 ก้าวเสมอ การตรวจสอบแบบ
ที่คุณโดม แนะนำ อาจจะนำนักลงทุนไปสู่การมี vision เมื่อข่าวหรือ เหตุการณ์เดียวกัน
เกิดขึ้น และ เราได้เรียนรู้แล้วว่ามีผลกระทบอย่างไรต่อธุรกิจที่เราลงทุนอยู่ เราจะได้รับ
มือได้ก่อน 1 ก้าว เช่น กรณี น้ำท่วมที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก งบการเงิน
ของหุ้นเหล่านี้ mcs ktc ps snc เป็นต้น

dragonrider เขียน:งบการเงินบอกอดีต ข่าวบอกสิ่งที่จะเกิด หรือ กำลังเกิด ซึ่งอาจมี
ผลกระทบต่อผลประกอบการในอนาคต มาก น้อย หรือ ไม่มีผลใดๆ เลย ก็ได้
ผมเลยไม่ค่อยเข้าใจนะครับ ปกติข่าวที่เกิด จะมีผลสะท้อนกับงบข้างหน้า
คุณโดมแนะนำให้ดูงบการเงินแล้วไปตรวจสอบข่าวย้อนหลังนำมาเปรียบเทียบใช่ไหมครับ
หากเป็นดังนั้นเราก็จะช้ากว่าตลาดเสมอไม่น่าจะถูกต้องหรือเปล่าครับ

นักลงทุนที่เก่งๆ ประสบความสำเร็จ มักจะมีสิ่งที่เรียกว่า vision ที่เข้าใจถึงผลกระทบต่อ
ธุรกิจที่เค้าลงทุนเมื่อมีข่าว ดังนั้นเค้าจะนำตลาดก่อน 1 ก้าวเสมอ การตรวจสอบแบบ
ที่คุณโดม แนะนำ อาจจะนำนักลงทุนไปสู่การมี vision เมื่อข่าวหรือ เหตุการณ์เดียวกัน
เกิดขึ้น และ เราได้เรียนรู้แล้วว่ามีผลกระทบอย่างไรต่อธุรกิจที่เราลงทุนอยู่ เราจะได้รับ
มือได้ก่อน 1 ก้าว เช่น กรณี น้ำท่วมที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก งบการเงิน
ของหุ้นเหล่านี้ mcs ktc ps snc เป็นต้น

เห็นด้วยครับสำหรับหลายๆข่าวมักพูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่บางครั้งข่าวก็รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต
หรือบางครั้งข่าวเก่าเอามาเล่าใหม่

งบการเงินเป็นการรายงานผลประกอบการในอตีดอันนี้ก็จริงเห็นด้วยครับ แต่บางครั้งงบการเงินก็รายงาน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตครับ ดูใส้ในของงบ บางบริษัท ทำให้เราคาดการผลในอนาคตได้ครับ

ดังนั้นผมจึงเห็นว่าข่าวไม่ได้บอกเฉพาะสิ่งที่จะเกิด และงบการเงินไม่ได้รายงานเฉพาะผลในอดีต ครับ

ในข้อมูลที่ไหลท่วมมาแต่ละวัน สิ่งที่สำคัญที่สุด ผมว่า คือ การจัดประเภทของข้อมูล ว่าข้อมูลอะไรที่ควรเสพ ไม่ควรเสพ มีสาระสำคัญหรือไม่มี และให้ระดับของความสำคัญ

งบการเงินก็เป็นข้อมูลประเภทหนึ่ง ที่ผมไม่ได้แบ่งแยก ให้ความสำคัญอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับข่าว งบการเงินเป็นทั้งข้อมูลที่สะท้อนอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เช่นเดียวกับข่าว

ประเด็น คือ ข้อมูลที่ไหลท่วมเข้ามาแต่ละวันในชีวิตของเรา เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่สาระสำคัญซะเยอะ ในขณะที่สิ่งที่เป็นสาระสำคัญจริงๆ กลับเป็นอะไรที่เราต้องพยายามแสวงหาเอง ไม่ใช่มารอเสพ

ใช่ เราอาจจะเห็นสัญญาณ บางอย่างที่น่าสนใจจากข้อมูลที่เข้ามากระทบ และมันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องกระโดเข้าไปจับ ไปเกาะ ไปเจาะลึกหาความจริงที่เราสังเกตเห็นจากสัญญาณนั้นๆ

ซึ่งผมว่า นั่น คือ สิ่งที่แบ่งแยก ความเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จออกจากกัน นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ killer instrict ของแต่ละคนที่ช่างรุนแรงเหลือเกินครับ

แค่เห็นข้อมูลที่ไหลเข้ามา ก็พร้อมที่จะปล่อยให้ข้อมูลนั้นไหลผ่านไป หรือ พร้อมที่จะตระปบแล้วครับ

All news are not created equal kub

ดูแต่ข่าวสร้างภาพพจน์ดีๆในอนาคต ยังไงก็เหมือนรู้หน้าไม่รู้ใจ สมัยก่อนหมดเม็ดอะไรไว้บ้างหรือเปล่าเราก็ไม่รู้

ถ้าดูงบการเงินก็เหมือน เรารู้อดีตตัวตนที่ผ่านมาของบริษัทด้วย ยังไงก็ต้องดูทั้งสองอย่างพร้อมกัน

และถ้าไม่ดูงบ ถึงหุ้นจะมีอนาคตมีคุณภาพดีจริงๆ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นแพงไปแล้วล่ะ

(คือ ถ้าไม่ดูงบ อยากทราบว่าจะประเมิน fair value ยังไงครับ)

อย่างข่าวดี ดูแต่ข่าวก็รู้ว่ากิจการมันน่าจะดี แต่จะดีแค่ไหน มันก็ต้องลงรายละเอียดว่ากันที่ตัวเลขกันอยู่ดี ถูกไหมครับ

ข่าวที่ลงส่วนใหญ่จะเป็นการมองไปข้างหน้า ใช้เป็น assumption ในการ forecast
งบการเิงินเหมือนบัญชีหนังหมาที่คอยบันทึกผลกรรมที่ผู้บริหารได้เคยโม้เอาไว้ตามหน้าหนังสือพิมพ์

ถ้าเอาข้อมูลทั้งหมดมายำแล้ว "เชื่อ" ว่ามันดีจริงอย่างที่เขาโม้ก็ซื้อครับ

เห็นด้วยเลยครับ อ่านข่าวและประกอบด้วยการดูงบ เหมือนฟังคำเล่าของคนไข้ และ พลิกดูผลตรวจเลือดกับฟิลม์ Xray จะได้วินิจฉัยโรคถูก

nut776 เขียน:ยิ่งทำให้ไม่เข้าใจ สาย technical ไปกว่าเดิม

ผมว่าการที่มีสาย technical ก็ทำให้สาย fundamental ได้ซื้อหุ้นในราคาที่ถูกกว่ามูลค่าพื้นฐาน หรือบางครั้งก็ช่วยทำให้ราคาหุ้นวิ่งไปหามูลค่าพื้นฐานได้เร็วขึ้นน่ะครับ

ผมชอบทำบ่อยๆนะ ตอนแรกก็ดูเหมือนจะเสียเวลา แต่ทำไปเรื่อยๆมันเหมือนกับเราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ยิ่งเอาความเห็นของนักลงทุนที่ลงทุนแล้วประสบความสำเร็จหรือลงทุนแล้วผิดพลาดมาประกอบด้วย ทำให้เราสามารถนำข้อดีหรือข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาวิเคราะห์ ยิ่งทำมากๆยิ่งเริ่มรู้ Business Model ต่างๆ รู้ถึงกลยุทธ์ที่ผู้บริหารตัดสินใจ บางครั้งก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์ของนักลงทุนในสมัยนั้น ยิ่งเรียนรู้เยอะก็ยิ่งสนุก ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตเป็นข้อเตือนใจเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นในอนาคต