หน้า 1 จากทั้งหมด 1

คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้าง ?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 20, 2012 10:45 pm
โดย Mastermind
ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมยังเป็นมือใหม่อยู่ อาจจะมีข้อสงสัยที่ยังไม่จัดเจนสักหน่อย

พอดีว่าวันนี้ผมไปหาซื้อหนังสือหุ้นเล่มใหม่มาอ่าน ระหว่างรอพี่สาวเลือกหนังสือ ผมได้ลองหยิบหนังสือเล่มนี้มาลองอ่านได้คร่าวๆประมาณ 10 หน้าแรก และพอจับประเด็นได้ว่า....

ปกติที่ผมเข้าใจ คือ การลงทุนในตลาดหุ้นนั้น เหมือนเราไปลงทุนในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ซึ่งจะประกอบไปด้วยข้อมูลหลายๆส่วนเข้าด้วยกัน และเข้าซื้อและขายในเวลาที่ถูกต้อง (ขึ้นขาย ลงซื้อ) แต่หนังสือเล่มนี้กลับแนะนำว่าให้ทำตรงกันข้ามกับที่เราคิด (หรือนักลงทุนส่วนใหญ่คิด) ในเรื่องของการซื้อขาย เพราะตลาดหุ้นเป็น zero sum game ซึ่งเจ้ามือก็คือ พวกนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนชั้นเซียน หรือสถาบันต่างๆ กรณีที่เราวิเคราะห์ว่าต่างชาติจะเข้าลงทุนในตลาดเมื่อใด แต่ทางกลับกันต่างชาติก็วิเคราะห์เราเช่นกัน เหมือนเป็นการซ้อนแผนอีกทีเพื่อผลกำไรจากนักลงทุนรายย่อยอย่างเรา

พี่สาวซื้อของเสร็จ หมดเวลา ปิดหนังสือ

มันเลยค้างคาว่า แบบนี้ VI จะทำยังไงกับเกมส์จิตวิทยาการลงทุนแบบนี้ ? แล้วใครที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว ช่วยคอมเม้นหน่อยได้ไหมครับ ถ้าน่าสนใจจะได้ซื้อหามาอ่านให้จบในโอกาสหน้า ?

ขอบคุณครับ :)

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 20, 2012 11:21 pm
โดย xavi
ผมก็มือใหม่สำหรับแนว VI ครับ :D

ผมว่ามุมมองสำคัญน่าจะเป็นเรื่อง "มิติของเวลา" มากกว่าครับ
ถ้ามองว่าเป็น Zero Sum นั่นก็เพราะเรามองว่า ณ เวลานั้นๆ (Snap Shot) ของการซื้อขายหุ้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็ต้องมีแค่กำไร ขาดทุน หรือ เท่าทุน เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเราเข้าเร็วออกเร็ว เราก็จะมองกำไรจากการซื้อขายนั้นเป็นครั้งๆ ซึ่งคนโดยมาก 99.99% ก็ต้องหวังกำไรจากการเข้าในครั้งนั้น การซื้อขายแบบนี้ก็เรียกว่าอยู่ในกลุ่มเก็งกำไร

แต่โดยส่วนตัวหลังๆมาผมไม่ค่อยชอบวิธีนี้เท่าไร เพราะราคาในช่วงสั้นๆนั้น เหมือนกับว่าจะอยู่ภายใต้การควบคุมของ "นายตลาด" ซึ่งชอบทำตัวเป็นพวกของสถาบัน ต่างชาติ หรือแม้กระทั่งกลุ่มทุนรายใหญ่ๆ เขามักจะทำให้เราใช้ "ความโลภและความกลัวที่เกิดจากอารมณ์" ในการตัดสินใจซื้อขายเสมอ :wall:

แต่ถ้าเราลงทุนในระยะยาว เราแทบจะไม่มองการกำไรจากการซื้อขายเป็น "ครั้งๆ" แต่เราจะมอง "มูลค่า" ของ Port เราว่าโตไปขนาดไหน สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเรา สร้าง Passive Income ได้มากขนาดไหน ที่สำคัญนายตลาดก็จะไม่ค่อยมีผลกับการลงทุนแบบนี้สักเท่าไร เพราะท้ายที่สุด "ราคาหุ้นก็จะกลับเข้าหาผลกำไร" ของบริษัทครับ

เศรษฐกิจมหภาคจะเป็นอย่างไร ใครจะทำนายผลประกอบการอย่างไร ใครจะมาใบ้หุ้นอะไราคา เท่าไร
แต่ท้ายสุดถ้าบริษัทที่เราเลือกมาดีจริงๆ ยังทำกำไรได้จริง เติบโตได้จริง ราคาก็จะสะท้อนพื้นฐานเหล่านี้ออกมาเอง ซึ่งผมมองว่ามันคือ "การลงุทน" ครับ :mrgreen:

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 20, 2012 11:23 pm
โดย xavi
อ้อลืมบอกไป ผมยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มที่ว่าเลยครับ
ถ้าเข้าใจเรื่อง Content ผิดไปต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ :bow:

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 20, 2012 11:26 pm
โดย Mastermind
xavi เขียน:อ้อลืมบอกไป ผมยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มที่ว่าเลยครับ
ถ้าเข้าใจเรื่อง Content ผิดไปต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ :bow:
ไม่เป็นไรครับ เข้ามาให้ข้อคิดแบบนี้ ผมก็รู้สึกว่าเดินถูกทางแล้วครับ :)

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2012 6:42 pm
โดย sipoonya
มันขึ้นกับตัวคุณเองมีหลักการแบบไหน มีเป้าหมายในการลงทุนแบบไหนด้วย
เข้าใจว่าตามหลักหนังสือเล่มนี้ พูดว่า คนส่วนใหญ่มักผิด เราเลยต้องทำตรงกันข้าม
ในเกมส์แบบนี้ มีเรื่องจิตวิทยามวลชนผสมอยู่ด้วย อาจจะมองว่าเป็น contrarian ก็ได้
ซึ่งมันก็มีเหตุผลของมัน เพียงแต่เราเข้าใจที่จะใช้มันหรือเปล่า
http://dekisugi.net/archives/6054 บทความพี่สุมาอี้เรื่องcontrarian

ส่วนตัวแล้ว พยายามลงทุนอย่างสบายใจ มากกว่า
แล้วก็เชื่อว่า ผลประกอบการเป็นตัวกำหนดราคาหุ้น
แน่นอนการรู้ว่าคนอื่นจะคิดยังไงแล้วจะทำยังไงเป็นเรื่องที่ดี
แต่ไม่ใช่เรื่องแรก ที่ผมให้ความสำคัญครับ
หนุกหนานในการลงทุนนะฮะ :8)

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2012 9:49 pm
โดย Mastermind
sipoonya เขียน:มันขึ้นกับตัวคุณเองมีหลักการแบบไหน มีเป้าหมายในการลงทุนแบบไหนด้วย
เข้าใจว่าตามหลักหนังสือเล่มนี้ พูดว่า คนส่วนใหญ่มักผิด เราเลยต้องทำตรงกันข้าม
ในเกมส์แบบนี้ มีเรื่องจิตวิทยามวลชนผสมอยู่ด้วย อาจจะมองว่าเป็น contrarian ก็ได้
ซึ่งมันก็มีเหตุผลของมัน เพียงแต่เราเข้าใจที่จะใช้มันหรือเปล่า
http://dekisugi.net/archives/6054 บทความพี่สุมาอี้เรื่องcontrarian

ส่วนตัวแล้ว พยายามลงทุนอย่างสบายใจ มากกว่า
แล้วก็เชื่อว่า ผลประกอบการเป็นตัวกำหนดราคาหุ้น
แน่นอนการรู้ว่าคนอื่นจะคิดยังไงแล้วจะทำยังไงเป็นเรื่องที่ดี
แต่ไม่ใช่เรื่องแรก ที่ผมให้ความสำคัญครับ
หนุกหนานในการลงทุนนะฮะ :8)
เช่นกันครับ ขอบคุณนะครับ

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 22, 2012 12:01 am
โดย charonp
ประเด็นผมคิดว่า VI ไม่สนใจตลาด แต่สนใจในตัวธุรกิจแทน

หนังสือเล่มนี้ สนใจว่าคนส่วนใหญ่คิดอย่างไร หรือพูดง่ายๆก็คือ สนใจตลาด

ผมว่าเป็นแนวคิดที่ดีครับ ในการทำตรงข้าม กับคนส่วนใหญ่ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า คนส่วนใหญ่ คิดอะไร

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 02, 2012 1:27 pm
โดย chinn
ผมคิดว่า ผสมผสานกับระบบคิดแบบ vi ได้นะครับ

เหมือนที่คุณตันว่า การทำอะไร intrend นั่นคือ out แล้ว

มองให้ไกลกว่าผู้อื่น 1 step

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 02, 2012 2:53 pm
โดย leksystem
ลองค้นหาใน youtube ดูก่อนครับ "พิชัย จาวลา" เป็นความคิดที่แปลกดี
แต่ผมว่านำมาประยุกต์ใช้ยาก

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 03, 2012 1:02 am
โดย dino
:) ยังไม่ได้อ่านอะครับ
แต่จากที่เจ้าของกระทู้บอกมา
คงจะคนละแนวทางละครับ หึหึ :mrgreen:

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 03, 2012 8:38 am
โดย khwannaret
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบความแตกต่าง....และไม่เหมือนใครครับ.

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 03, 2012 3:24 pm
โดย untrataro25
คนส่วนใหญ่ หรือ คนส่วนน้อย เราจะรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้เราอยู่ฝั่งไหน

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 03, 2012 4:14 pm
โดย tatar_2522
ผมได้ติดตามหลักการทำนายของท่าน มาตลอด 2 ปี ทำนายถูก80-90 ครับ % แต่ยังประยุกต์ใช้ไม่เป็นครับ

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 03, 2012 6:10 pm
โดย Dr. Manhattan
คุณพิชัยบอกว่า มีให้เลือก 2 แนวทาง
1.ทำตามวอเรน ดูธุรกิจไม่ต้องกะเก็งตลาด
2.ถ้าอยากจะกะเก็งตลาดแล้ว ทฤษฏีแนวสวนตลาด(สวนทางกับคนส่วนใหญ่)นั้น ควรจะได้ผลดีที่สุด เพราะคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะรวย ซึ่งวอเรนก็เคยบอกเหมือนกันว่าถ้าจำเป็นจะต้องกะเก็งตลาดแล้วเค้าขอให้ซื้อเมื่อคนอื่นกลัว ไม่ใช่ซื้อเมื่อคนอื่นกล้า

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 03, 2012 6:11 pm
โดย Guiman
รู้ไว้ใช่ว่า

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 04, 2012 12:19 am
โดย โอรสสวรรค์
คงต้องกลับไปอ่านผลงานเล่มแรกเรื่อง"เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง"ให้เข้าใจก่อน (โดยเฉพาะเข้าใจ "MASS") แล้วค่อยมาอ่านเล่มนี้ครับ

ผมเองยังไม่ได้อ่านเล่มแรกครับ แต่มีเก็บไว้แล้ว ไว้อ่านแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อเล่มนี้ไหม

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 06, 2012 7:32 pm
โดย rabbitz
คุณพิชัยบอกให้ดู mass แต่ไม่ได้บอกว่าให้ดูที่ไหน ดูอย่างไร

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 10, 2012 2:18 pm
โดย iruma
Welcome market declines
"[Many] investors who expect to be ongoing buyers of investments throughout their lifetimes... illogically become euphoric when stock prices rise and unhappy when they fall. They show no such confusion in their reaction to food prices: Knowing they are forever going to be buyers of food, they welcome falling prices and deplore price increases. (It's the seller of food who doesn't like declining prices.) Similarly, at the Buffalo News we would cheer lower prices for newsprint -- even though it would mean marking down the value of the large inventory of newsprint we always keep on hand -- because we know we are going to be perpetually buying the product.

"Identical reasoning guides our thinking about Berkshire's investments. We will be buying businesses -- or small parts of businesses, called stocks -- year in, year out as long as I live (and longer, if Berkshire's directors attend the seances I have scheduled). Given these intentions, declining prices for businesses benefit us, and rising prices hurt us.

"The most common cause of low prices is pessimism -- some times pervasive, some times specific to a company or industry. We want to do business in such an environment, not because we like pessimism but because we like the prices it produces. It's optimism that is the enemy of the rational buyer.

"None of this means, however, that a business or stock is an intelligent purchase simply because it is unpopular; a contrarian approach is just as foolish as a follow-the-crowd strategy. What's required is thinking rather than polling. Unfortunately, Bertrand Russell's observation about life in general applies with unusual force in the financial world: 'Most men would rather die than think. Many do.'"
-- 1990 Shareholder Letter

http://www.fool.com/news/foth/2001/foth011030.htm

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 31, 2013 9:33 pm
โดย leonleon
เนื้อหาคล้ายๆเศรษฐศาสตร์แห่งความจริงครับ
แกคงเอามาปรับใหม่ใหม่ขึ้น

ผมชอบนะวิธีคิดเรื่อง ทฤษฏีผลประโยชน์ ของแก
แต่เอามาใช้ก็งงว่าตอนนี้ Mass คิดอะไรฟระ?
แล้วไอ่เราคนที่กำลังนั่งคิดอยู่เนี่ย เราจะรู้ได้ไงว่าเราไม่ใช้ mass ด้วย
หรือความคิดเราอาจจะไปเหมือน mass คนอื่นๆก็ได้

สรุปก็คือ งงครับ ฮ่าๆ

แกคงเอาทฤษฎีมาจากทฤษฏีของ Soros มั๊งครับ ผมเดาเอานะ
โซรอสมองทุกอย่างตามความจริงที่ไม่ถูกบิดเบือน
ตรงข้ามกับ mass ที่อาจจะมองความจริงอย่างบิดเบือนในบางเวลา(เจอฟองสบู่ก็มองว่าดี)
แต่ Soros เห็นช่องว่างนั้นก็เลยสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากตรงนั้นได้

น่าจะประมาณนี้มั๊งครับ

ผมมั่วนะ : )

Re: คิดยังไงกับหนังสือ "รวยหุ้นล้นฟ้า ด้วยระบบคิดใหม่" กันบ้

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 02, 2013 7:09 pm
โดย suport495562
พูดกลับไป กลับมา จับประเดนไม่ได้ อ่านแล้วงง ครับ