*** Footnotes ข้อระมัดระวังในการใช้คำ quotes
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 9:58 am
*** Footnotes ข้อระมัดระวังในการใช้คำ quotes
มองต่างมุมบ้างนะครับ คำ quotes มีข้อดี แต่มันก็มีข้อเสีย
คำ quotes คือ คำที่เรายกมาจากคำพูดของคนอื่น คนพูดเขาพูดยาวเลย แต่คนที่ quotes เขาเอามาท่อนเดียวหรือสั้นๆ ผมก็ต้องไปอ่านหาเพิ่มเติมว่ามาจากไหน อย่าง เวลาอ่าน Security Analysis ของเบน แกรม นี่เห็นได้ชัด ถ้าอ่านหน้าอย่างเดียว ไม่ค่อยได้อะไร แต่ถ้าตามอ่าน appendix หรือ footnotes ที่เขาใส่ไว้ตัวเล็ก ๆ หรือกรอบเล็ก ๆ เมื่อผมไปตามอ่านเล่มอื่นจากตรงนั้น ความเข้าใจก็มากขึ้นเมื่อกลับมาอ่าน Security Analysis อีกครั้ง
เวลาอ่านคำ quotes สมัยก่อนผมชอบอ่านมาก กระชับ สั้นๆ เอาเนื้อ ๆ เลย ตอนนั้นเคยคิดว่าดีกว่าอ่านหนังสือซะอีก ประหยัดเวลาได้ตั้งเยอะ แต่พอประสบการณ์นานๆ เข้า มีคนมาถามว่าผมเคยเขียนบทความอย่างนั้น ผมพูดอย่างนั้น หมายถึงอะไร ผมลืมไปด้วยซ้ำ ต้องให้เขาบอกว่าเอามาจากบทความไหน ผมเริ้่มให้นำหนักคำ quotes น้อยลง แต่ไปเพิ่มน้ำหนักว่าเขาพุดตอนไหน พูดเมื่อไหร่ พูดกับใคร แล้วพูดเพราะมีแรงจูงใจอะไร เขาพูดเพราะว่าเขาผ่านประสบการณ์อะไรมา ตอนนี้เขายังเชื่อในคำพูดอย่างนั้นอีกหรือไม่
แล้วก็มานั่งคิดว่า คนอื่นไม่เข้าใจที่เขียน เพราะอะไร ผมยกคำ Quotes ของคนอื่นมามาเขียนบทความ อย่างของมังเกอร์ เอามาเยอะมาก แต่เวลายกมา คนอ่านกลับก็ไม่เข้าใจเท่ากับที่เราเข้าใจ ก็ต้องไปหาตั้นตอหรือฉบับจริงตอนที่เขาใช้ประโยคนั้น บางทีผมต้องอ่านทั้งสุนทรพจน์ เพราะเขาปูเนื้อเรื่องเอาไว้ยาวมาก
ผมเปรียบเหมือนสาวใช้ที่บ้าน เกือบทุกคนเลยที่มาทำงาน ชอบดูละคร และดูได้ทุกเรื่อง พอโฆษณาเรื่องนี้ ก็เปลี่ยนไปอีกเรื่อง สมาธิดีมาก สามารถจับใจความเรื่องต่างๆ ได้เร็วมาก เนื้อเรื่องก็ไม่เข้าใจ ก็ดูกันได้ครับ และที่ชอบมากคือ เรื่องไหนอวสานขอให้บอก ดูได้หมด ทั้งๆ ที่เคยไม่ดูละครเรื่องนั้นมาก่อนเลย พอเห็นว่าเป็นตอนอวสานก็ดูเลย เพราะตอนจบมันมีแต่ความสุข แต่ความเข้าใจเรื่องมันไม่มีเลย ดูเพราะมันเฉลยทุกอย่าง มีความสุขและสงสัยไปด้วย อ้าว....ทำไมแม่นางเอกถูกจับ ไปทำอะไรมา อ้าว......ทำไมพระเอกเข้าใจนางเอกผิด ไม่อยากคิดดีกว่า ไม่อยากสงสัย ดูเลย จบแบบ happy ending เป็นพอ ผมเปรียบเหมือนกินม่าม่า กินอาหารกล่องของ 7-11 ใส่ไมโครเวฟก็กินได้เลย เหมือนคนที่ทำเกมปัญหาต่างๆ ตามนิตยาสาร เช่น เกมจับผิดภาพ เห็นปัญหาเมือไหร่ พอทำไมได้ก็ดูเฉลยดีกว่า สำหรับผม คำ quotes ก็เป็นแบบนั้น
เวลามอง Quotes มองให้เหมือนเวลามองปัญหาตีโจทย์คณิตศาสตร์ ดูแล้วคิดตาม ว่ามันจริงไหม เอามาใช้กับเราได้ไหม ใช้ตอนไหน แล้วข้อเสียของมันคืออะไร อย่ามองเห็น quotes แล้วเชื่อโดยไม่คิด ไม่ตั้งคำถามเลย พอสงสัยอะไรแล้ว มันก็เป็นจุดเริ่มต้น ให่้เราไปค้นหาเพิ่มเติม เหมือนแผนที่อย่างไรอย่างนั้น ไม่ใช่เห้นแล้วเหมือนเป็นขุมสมบัติ quotes ไม่ใช่ข้อสรุป มันคือจุดเริ่มต้นต่างหากครับ
จากเรื่องความเข้าใจ Quotes นี้ ผมเอามาปรับใช้ในการลงทุนครับ
เวลามีน้องๆ มาถามว่า พี่ long หรือ short หุ้น xxx หรือปล่าว ถ้าผมตอบว่า long เขาจะถามต่อว่า พี่ long จากราคาเท่าไหร่ ผมก็จะตอบว่าไปสนใจทำไม สิ่งที่ควรสนใจคือ ผมลงทุนในหุ้นตัวนั้นเพราะอะไร อะไรเป็นแรงจูงใจให้ผมลงทุน และปัจจุบันแรงจูงใจตัวนั้นยังอยู๋และจะอยู่ไปอีกในอนาคตหรือไม่ และถ้าไม่มีแรงจุงใจนั่นแล้ว ผมจะทำอย่างไร จะขายเลยไหม คำถามเหล่านั้นมีเพื่อหาความเสี่ยงว่าราคาหุ้นตัวนั้นมี risk/reward เป็นอย่างไรในปัจจุบัน
เวลาอ่าน quotes เราต้องประเมิณ risk/reward อย่างนั้นเช่นกันครับ