ศาลสั่งจำคุก "ราเกซ" 10 ปี ชดใช้เงิน 1,132 ล้านบาท คดียักยอก
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 08, 2012 1:20 pm
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ วันที่ 8 มิ.ย.เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 503 ศาลอ่านคำพิพากษา คดีนายราเกซ สักเสนา ฉายา พ่อมดการเงิน คดียักยอกทรัพย์ บีบีซี สั่งให้จำคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้านบาท และร่วมกันชดใช้เงินเป็นจำนวน 1,132 ล้านบาท ถ้าไม่จ่ายเงินค่าปรับให้กักขังแทนค่าปรับ 2 ปี ในฐานะที่ นายราเกซ เป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิด เนื่องจากนายราเกซเป็นที่ปรึกษาของ นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อันเป็นความผิดตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ
จากคดีหมายเลขดำ ด.3054/2552 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายราเกซ สักเสนา ฉายา พ่อมดการเงิน อดีตที่ปรึกษาของนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำผิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 3, 4, 307, 308, 311, 315, 334 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 กรณีระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2538
นายราเกซ ร่วมกับ นายเกริกเกียรติกับพวก ซึ่งถูกฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วและกับพวกที่ยังหลบหนี ร่วมกันยื่นขอสินเชื่อกู้ยืมเงินในนามบริษัทซิตี้ เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 2,000,000,000 บาท จากผู้เสียหายโดยอ้างวัตถุประสงค์การกู้และการนำหลักทรัพย์ใบหุ้นและที่ดินมาเป็นหลักประกันโดยจำเลยเป็นผู้ดำเนินการทางเอกสารเสนอต่อนายเกริกเกียรติ ซึ่งความจริงแล้วจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติไม่มีเจตนาที่จะเอาใบหุ้นมามอบให้และใช้เป็นหลักประกันและที่ดินมีราคาประเมินที่แท้จริงเพียง 26,900,000 บาท มิใช่ 1,350,100,000 บาทที่จำเลยกับพวกทำหลักฐานขึ้น ซึ่งการกระทำของพวกจำเลยเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์สินของ บีบีซีผู้เสียหายไปเป็นของจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,657,000,000 บาท
ทั้งนี้อัยการขอศาลสั่งให้จำเลยร่วมกันคืนหรือใช้เงินจำนวน 1,657,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญที่ นายราเกซถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศ แคนาดากลับมาดำเนินคดีในไทยข้อหายักยอกทรัพย์ บีบีซี หลังจากที่หลบหนีไปยังต่างประเทศกว่า 20 ปี ขณะที่คดีนี้ถือเป็นคดีแรกของนาย ราเกซ ซึ่งศาล จะมีคำพิพากษา
ทั้งนี้นายราเกซ มีอาการป่วยและถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยหลังจากที่ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมา นาย ราเกซ ยังไม่เคยได้รับการประกันตัว อย่างไรก็ตาม การพิจารณาคดีนี้อัยการได้นำพยานประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กลต. ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคาร มาสืบพยานตั้งแต่ปี2553 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธและนำพยานเข้าสืบหักล้าง โดยมีการอ้างพยานผู้เชี่ยวชาญ มาเบิกความอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม นายราเกซ มีสีหน้าและสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน แม้จะนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ก็ตาม
-------------------------------
ข้อมูลจาก http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1339132685
จากคดีหมายเลขดำ ด.3054/2552 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายราเกซ สักเสนา ฉายา พ่อมดการเงิน อดีตที่ปรึกษาของนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำผิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 3, 4, 307, 308, 311, 315, 334 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 กรณีระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2538
นายราเกซ ร่วมกับ นายเกริกเกียรติกับพวก ซึ่งถูกฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วและกับพวกที่ยังหลบหนี ร่วมกันยื่นขอสินเชื่อกู้ยืมเงินในนามบริษัทซิตี้ เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 2,000,000,000 บาท จากผู้เสียหายโดยอ้างวัตถุประสงค์การกู้และการนำหลักทรัพย์ใบหุ้นและที่ดินมาเป็นหลักประกันโดยจำเลยเป็นผู้ดำเนินการทางเอกสารเสนอต่อนายเกริกเกียรติ ซึ่งความจริงแล้วจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติไม่มีเจตนาที่จะเอาใบหุ้นมามอบให้และใช้เป็นหลักประกันและที่ดินมีราคาประเมินที่แท้จริงเพียง 26,900,000 บาท มิใช่ 1,350,100,000 บาทที่จำเลยกับพวกทำหลักฐานขึ้น ซึ่งการกระทำของพวกจำเลยเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์สินของ บีบีซีผู้เสียหายไปเป็นของจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,657,000,000 บาท
ทั้งนี้อัยการขอศาลสั่งให้จำเลยร่วมกันคืนหรือใช้เงินจำนวน 1,657,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญที่ นายราเกซถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศ แคนาดากลับมาดำเนินคดีในไทยข้อหายักยอกทรัพย์ บีบีซี หลังจากที่หลบหนีไปยังต่างประเทศกว่า 20 ปี ขณะที่คดีนี้ถือเป็นคดีแรกของนาย ราเกซ ซึ่งศาล จะมีคำพิพากษา
ทั้งนี้นายราเกซ มีอาการป่วยและถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยหลังจากที่ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมา นาย ราเกซ ยังไม่เคยได้รับการประกันตัว อย่างไรก็ตาม การพิจารณาคดีนี้อัยการได้นำพยานประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กลต. ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคาร มาสืบพยานตั้งแต่ปี2553 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธและนำพยานเข้าสืบหักล้าง โดยมีการอ้างพยานผู้เชี่ยวชาญ มาเบิกความอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม นายราเกซ มีสีหน้าและสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน แม้จะนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ก็ตาม
-------------------------------
ข้อมูลจาก http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1339132685