การลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 26, 2012 8:22 am
ผมมีโอกาสได้เห็นประจักษ์กับการทำบูญ ที่ผมคิดว่ายิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งครับ
...ไม่ใช่มหาเศรษฐีอย่าง warren buffet หรือ bill gates บริจาคเงินช่วยการกุศล
...ไม่ใช่มหาเศรษฐีไทยบริจาคสิ่งของช่วงคนน้ำท่วม หรือผ้าห่มกันหนาว
ไม่ใช่มหาเศรษฐีทำน้ำดื่มของตนจากโรงงานให้คนขาดน้ำ
....แต่เป็นคนไทยธรรมดาคนหนึ่ง และทำอยู่ทุกวัน โดยแทบไม่มีใครได้สังเกต
...หลายปีก่อน ผมมีโอกาสพาลูกไปมูลนิธีเพื่อเด็กปัญญาอ่อนและพิการซ้ำซ้อน
แถวๆรามอินทรา ตั้งใจไปทำบูญ และให้ลูกได้มีโอกาสเห็นคนอื่นๆ
ว่าแตกต่างต้อยโอกาสแค่ไหนเมื่อเปรียบเทียบกับเขา
...ที่นั่น เด็กส่วนใหญ่อายุไม่มาก ไม่น่าจะเกินน10ขวบ ปัญญาอ่อน
และมีความพิการอย่างอื่นๆด้วย เช่นตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ ปากแหว่ง
แขนขาลีบ ไม่ครบองค์ประกอบ พิการหลายๆด้าน
....เห็นแล้วจะหดหู่มาก บางคนแทบไม่อยากดู ทนดูไม่ได้ บางคนกระอักกระอ่วน
ไปแล้วกลับมากินข้าวไม่ลงไปหลายวันหลายมื้อ
...แต่ความซาบซึ้งของผมเกิดขึ้นจากการไปเห็นผู้หญิงสาวคนหนึ่ง
ธรรมดาๆเหมือนพวกเรา กำลังนวดแขนขาของเด็กปัญญาอ่อนและพิการแขนขาลีบ
เดินไม่ได้ นอนน้ำลายไหลยืด อายุแทบบอกไม่ได้ว่าเท่าไร
...ผู้หญิงคนนี้นวดแขนนวดขา ป้อนอาหาร ด้วยความเต็มใจ ไม่มีความรังเกียจ
ผมมีโอกาสถามว่าเป็นญาติใกล้ชิด หรือแม่เด็กหรือเปล่า
...เธอบอกผมว่า ไม่ได้เป็นอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่มาที่นี่บ่อยๆและพบเด็กคนนี้
ซึ่งตามธรรมชาติแล้ว จะมีอายุอยู่ได้ไม่นาน ก็จะตายเพราะพิการอย่างมาก
แต่เธอมานวดให้เช้าเย็น เพราะไม่อย่างงั้นจะพิการมากขึ้นและตายเร็วขึ้น
...ผมถามว่าเธอทำงานอะไร ที่ไหน อยู่ที่ไหนและมาที่นี่อย่างไร บ่อยแค่ไหน
คำตอบคือ
เธอเป็นนักกายภาพ ทำงาน รพ.ในเมือง บ้านอยู่ไกลพอควร
นั่งรถเมล์มาตอนเช้าและเย็นหลังเลิกงาน และวันหยุด
เป็นอาสาสมัครที่ไม่มีชื่อในทะเบียนเพราะมาช่วยงานเฉยๆ
...แต่ทำทั้งหมดด้วยความสงสารเด็ก และได้ทำมาระยะหนึ่งแล้ว
พวกเราครับ ผมเห็นเธอป้อนอาหารเด็กพิการ น้ำลายไหลยืด ป้อนไปเช็ดไป
นวดให้เด็กทั้งเช้าและบ่าย นั่งรถเมล์มาแล้วไปทำงานแล้วนั่งรถเมล์มาให้ตอนเย็น
อุทิศเวลาที่คนอื่นอาจจะไปหาความสำราญ ดูทีวี ดูเลดี้กาก้า
...ไม่เคยคิดว่าต้องเป็นข่าว ให้คนอื่นรู้ ให้หนังสือพิมพ์ถ่ายรูป ให้ทีวีมาถ่ายทำ
ไม่เคยแคร์ว่าคนอื่นจะเห็นว่าโง่ ไม่เคยเสียดายเวลา หรือโอกาสในการหาเงิน
ไม่แม้แต่เงยหน้าว่ามีคนมองหรือไม่
...ผมคิดว่านี่คิดสุดยอดของผู่ทำบุญครับ
เสียดายผมไม่ได้ถามชื่อเบอร์โทรไว้ พวกเราหากอยากเห็นภาพจริง
ว่างๆแวะไปดูด้วยตาตัวเองที่มูลนิธีนะครับ
...................................
คัดลอกมาจาก fb ของ moneytalktv ครับ
ผมคิดว่าการทำบุญแบบนี้เป็นการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครับ
คือการลงทุนโดยไม่หวังผลตอบแทนให้ตัวเอง
...ไม่ใช่มหาเศรษฐีอย่าง warren buffet หรือ bill gates บริจาคเงินช่วยการกุศล
...ไม่ใช่มหาเศรษฐีไทยบริจาคสิ่งของช่วงคนน้ำท่วม หรือผ้าห่มกันหนาว
ไม่ใช่มหาเศรษฐีทำน้ำดื่มของตนจากโรงงานให้คนขาดน้ำ
....แต่เป็นคนไทยธรรมดาคนหนึ่ง และทำอยู่ทุกวัน โดยแทบไม่มีใครได้สังเกต
...หลายปีก่อน ผมมีโอกาสพาลูกไปมูลนิธีเพื่อเด็กปัญญาอ่อนและพิการซ้ำซ้อน
แถวๆรามอินทรา ตั้งใจไปทำบูญ และให้ลูกได้มีโอกาสเห็นคนอื่นๆ
ว่าแตกต่างต้อยโอกาสแค่ไหนเมื่อเปรียบเทียบกับเขา
...ที่นั่น เด็กส่วนใหญ่อายุไม่มาก ไม่น่าจะเกินน10ขวบ ปัญญาอ่อน
และมีความพิการอย่างอื่นๆด้วย เช่นตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ ปากแหว่ง
แขนขาลีบ ไม่ครบองค์ประกอบ พิการหลายๆด้าน
....เห็นแล้วจะหดหู่มาก บางคนแทบไม่อยากดู ทนดูไม่ได้ บางคนกระอักกระอ่วน
ไปแล้วกลับมากินข้าวไม่ลงไปหลายวันหลายมื้อ
...แต่ความซาบซึ้งของผมเกิดขึ้นจากการไปเห็นผู้หญิงสาวคนหนึ่ง
ธรรมดาๆเหมือนพวกเรา กำลังนวดแขนขาของเด็กปัญญาอ่อนและพิการแขนขาลีบ
เดินไม่ได้ นอนน้ำลายไหลยืด อายุแทบบอกไม่ได้ว่าเท่าไร
...ผู้หญิงคนนี้นวดแขนนวดขา ป้อนอาหาร ด้วยความเต็มใจ ไม่มีความรังเกียจ
ผมมีโอกาสถามว่าเป็นญาติใกล้ชิด หรือแม่เด็กหรือเปล่า
...เธอบอกผมว่า ไม่ได้เป็นอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่มาที่นี่บ่อยๆและพบเด็กคนนี้
ซึ่งตามธรรมชาติแล้ว จะมีอายุอยู่ได้ไม่นาน ก็จะตายเพราะพิการอย่างมาก
แต่เธอมานวดให้เช้าเย็น เพราะไม่อย่างงั้นจะพิการมากขึ้นและตายเร็วขึ้น
...ผมถามว่าเธอทำงานอะไร ที่ไหน อยู่ที่ไหนและมาที่นี่อย่างไร บ่อยแค่ไหน
คำตอบคือ
เธอเป็นนักกายภาพ ทำงาน รพ.ในเมือง บ้านอยู่ไกลพอควร
นั่งรถเมล์มาตอนเช้าและเย็นหลังเลิกงาน และวันหยุด
เป็นอาสาสมัครที่ไม่มีชื่อในทะเบียนเพราะมาช่วยงานเฉยๆ
...แต่ทำทั้งหมดด้วยความสงสารเด็ก และได้ทำมาระยะหนึ่งแล้ว
พวกเราครับ ผมเห็นเธอป้อนอาหารเด็กพิการ น้ำลายไหลยืด ป้อนไปเช็ดไป
นวดให้เด็กทั้งเช้าและบ่าย นั่งรถเมล์มาแล้วไปทำงานแล้วนั่งรถเมล์มาให้ตอนเย็น
อุทิศเวลาที่คนอื่นอาจจะไปหาความสำราญ ดูทีวี ดูเลดี้กาก้า
...ไม่เคยคิดว่าต้องเป็นข่าว ให้คนอื่นรู้ ให้หนังสือพิมพ์ถ่ายรูป ให้ทีวีมาถ่ายทำ
ไม่เคยแคร์ว่าคนอื่นจะเห็นว่าโง่ ไม่เคยเสียดายเวลา หรือโอกาสในการหาเงิน
ไม่แม้แต่เงยหน้าว่ามีคนมองหรือไม่
...ผมคิดว่านี่คิดสุดยอดของผู่ทำบุญครับ
เสียดายผมไม่ได้ถามชื่อเบอร์โทรไว้ พวกเราหากอยากเห็นภาพจริง
ว่างๆแวะไปดูด้วยตาตัวเองที่มูลนิธีนะครับ
...................................
คัดลอกมาจาก fb ของ moneytalktv ครับ
ผมคิดว่าการทำบุญแบบนี้เป็นการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครับ
คือการลงทุนโดยไม่หวังผลตอบแทนให้ตัวเอง