Thai VI

สมัยปี 40 คนที่เล่นมาจิ้นมีมากกว่าปัจจุบันนี้มาก พอมีมาตรการแมนเทเนนมาจิ้นออกมาควบคุม แล้วพอดีเกิดภาวะวิกฤต ระบบก็เลยทำงาน ใครเป็นหนี้มาจิ้นก็พยามจะไม่ให้ถูกขาย เอาหุ้นมาฝาก จนที่สุดก็เอาทรัพย์สินอื่นมาฝาก แต่ก็ห้ามแรงขายไม่ไหว เพราะใครๆก็โดนจับขาย ขายไปขายมาก็กระทบกันเป็นลูกโซ่ ที่สุดก็เจ๊งทั้งระบบ หายากที่จะมีคนรอดเหลือเงินกลับบ้าน
ปี 55 นี้คนเล่นมาจิ้นไม่เยอะเท่าก่อน แต่ว่ามีระบบใหม่เข้ามากดดันตลาดแทนซึ่งผมว่าหนักหนากว่ามาก นั่นคือ การช๊อตเซล อันนี้คนขายเค้าต้องการให้หุ้นมันลงก็เลยนำหุ้นมาขาย ต่างจากแบบเดิมที่คนขายคือโบรคที่ขายหุ้นในปริมาณจำกัดแค่พอใช้หนี้บางส่วน ในเมื่อคนขายเค้าขายเพราะต้องการให้หุ้นมันลงแล้วยังลงไม่ถึงเป้า เค้าก็ยิ่งหาหุ้นมาขาย ยืมหุ้นก็เอา ทำไงก็ได้ให้หุ้นมันลง คนที่ชื่นชอบระบบนี้ก็จะอ้างว่ามีแรงซื้อสู้คนขายอาจขาดทุนก็ได้ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น ตลาดขาดปัจจัยหนุน คนขายมักเป็นฝ่ายชนะเสมอ เพราะแรงซื้ออ่อนแอมาก
คนส่วนมากถนัดในตลาดขาขึ้นตลาดมีชีวิตสดใสขึ้นมาเพราะมีแต่คนได้ แต่ในตลาดขาลงแบบทุกวันนี้ ตลาดอับเฉาลงทุกวันเพราะมีแต่คนเสีย ในต่างประเทศมีวิธีแก้ความเลวร้ายอันนี้ก็โดยการยกเลิกช๊อตเซล ซึ่งก็เห็นตอนผันผวนมากๆเค้าทำกันมาหลายตลาดแล้ว ถึงเวลาหรือยังครับ ที่ ตลท จะเร่งพิจารณาเรื่องนี้ ก่อนวิกฤตจะลุกลามไปเหมือนปี 40 ...

short selling ใน hong kong สูงสุดในรอบ 13 ปี

Hong Kong short-selling eases from record high

HONG KONG (MarketWatch) -- Thursday's stock session in Hong Kong saw short-selling pressure abating from its 13-year high seen Wednesday, suggesting that traders were no longer so confident the market will decline. The ratio of short sales to total market value traded in Hong Kong eased to 6.7% during the morning session, down from 14.7% of total market volume Wednesday, the highest since February 1999. Piper Jaffray analyst Andrew Sullivan in Hong Kong said at the midday break Thursday that the decline in the ratio was reflective of awareness of upside risk, with sophisticated investors no longer so quite confident of a continuing downtrend in the market. In mid-afternoon trade, Hong Kong's benchmark Hang Seng Index /quotes/zigman/2622475 HK:HSI -0.30% was down 0.2%, extending Wednesday's 1.3% drop.

ผมว่าดีนะ การshort sell ทำให้ตลาดผันผวนหนัก

ยิ่งลงยิ่งขาย แล้วสุดท้ายก็ซื้อคืน

ใครที่ทำก็ต้องใหญ่จริง ช่างเขา

แต่เวลาลงหนักๆ มันเป็นโอกาสทีเราจะได้ของดีราคาถูก

แต่ถ้าลงต่อ ก็คิดว่า ครอื่นโชคดีเท่านั้นเองครับ

ในเมกา มีมาเกือบร้อยปี ยกเลิกได้เหรอคับ

เวลาหุ้นลงก็อยากให้ยกเลิกชอร์ตเซล

เวลาหุ้นขึ้นก็บอกปั่นชัดๆ ทำไมไม่จับ

นักลงทุนนี่เอาใจยากน่าดู

คุณเข้าใจระบบ short sell ผิดแล้วล่ะ
การ short sell นั้นต้องยืมหุ้นมาขาย
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเจ้าของหุ้นจะขายเอง หรือ ให้คนอื่นยืมไปขาย
ค่ามันก็เท่ากันแหละครับ จริงๆแล้วไม่เท่ากันซะทีเดียว
การ short sell ดีกว่าด้วยซ้ำเพราะ คนยืมมาเทขายช่องซ้ายไม่ได้
ต้องตั้ง offer รอคน bid มาซื้อ แต่ถ้าเป็นเจ้าของขายเอง เทซ้ายได้เลย
และอย่าลืม เมื่อขายแล้วก็ต้อง "ซื้อคืน" ครับ

ดังนั้นการ short sell เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดได้ดี

ตัวร้ายจริงๆคือ tfex ต่างหากครับ เพราะ tfex เป็นเพียงการซื้อขายกระดาษ
ทำให้บิดเบือนกลไลตลาดไปมาก

short sell โดยหลักแล้วเป็นการ balance ตลาดมากขึ้นนะครับ ถ้าหุ้นมัน overvalued ไปแล้วการที่อยากจะมีคนขายก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แล้วอีกอย่างถ้าไม่มีเหตุที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นด้านเศษฐกิจ การเมือง หรือตัวบริษัทเองเข้ามาป่วน ราคามันก็ลงไม่ได้มากหรอกครับ

คนที่ short sell เองก็มีความเสี่ยง ยกตัวอย่างง่ายๆ อยู่ดีๆ US ออก QE3 Euro ก็อัดฉีดเงินเข้ามาทำให้ cash ในระบบมันเยอะไม่มีที่ไปก็เข้าตลาด commodity หรือไม่ก็ ตลาดทุน หุ้นจากลงอาจจะกลายเป็นขึ้นไปเลยก็ได้ คน short sell เองก็อาจจะขาดทุนกันไปตามๆกัน

Let’s slow it down little bit
ขึ้นให้สุด ต้องลงให้มิด
(...ช้าไว้ ช้าๆ ไว้นิดได้เลยพี่)




แล้วถ้า "ขึ้นสุด-ลงมิด" -> Gap ในการทำกำไรย่อมกว้าง และมากขึ้นเป็นธรรมดาครับ ^ ^

http://www.set.or.th/set/shortsales.do

ข้อมูลการขายชอร์ต ณ วันที่ 21 พ.ค. 2555

หลักทรัพย์ ปริมาณหุ้นที่ขายซอร์ต(หุ้น) มูลค่าการขายชอร์ต(บาท) %ปริมาณการขายชอร์ตเทียบกับปริมาณการซื้อขายบนกระดานหลัก
ADVANC 295,800 53,681,050.00 5.09 %
AJ 101,000 1,295,000.00 10.82 %
AMATA 246,900 3,821,530.00 6.77 %
AOT 101,500 5,927,800.00 6.78 %
AP 6,100 38,430.00 0.06 %
ASP 32,000 70,130.00 1.69 %
BANPU 181,300 88,792,400.00 6.17 %
BAY 782,800 21,183,050.00 7.59 %
BBL 432,000 76,143,000.00 6.66 %
BCP 381,700 8,530,640.00 6.37 %
BEC 114,000 5,766,950.00 7.52 %
BGH 91,800 8,132,800.00 4.75 %
BIGC 45,600 8,878,150.00 3.55 %
BJC 75,200 2,887,375.00 4.32 %
BLA 58,200 2,553,825.00 3.08 %
BTS 3,481,200 2,614,500.00 2.70 %
CPALL 924,000 32,597,800.00 5.56 %
CPF 501,800 18,922,425.00 1.57 %
CPN 121,400 5,366,050.00 8.58 %
DELTA 46,500 1,040,780.00 4.07 %
DTAC 111,900 8,328,775.00 7.29 %
EGCO 22,400 2,162,900.00 5.56 %
ESSO 212,600 2,119,110.00 2.34 %
GFPT 20,500 197,435.00 1.00 %
GLOW 86,000 5,338,400.00 15.99 %
GUNKUL 70,000 1,106,000.00 9.95 %
HEMRAJ 71,600 196,184.00 0.26 %
HMPRO 343,700 4,113,460.00 4.43 %
IRPC 1,219,600 4,668,738.00 3.52 %
ITD 509,800 1,740,128.00 3.48 %
IVL 1,040,300 30,135,325.00 7.45 %
JAS 6,717,000 20,311,700.00 3.60 %
KBANK 510,500 75,852,150.00 4.40 %
KBS 10,000 101,000.00 1.91 %
KTB 3,903,600 60,684,040.00 8.79 %
LH 541,000 3,793,295.00 2.90 %
LHBANK 165,000 218,550.00 2.23 %
LPN 100,000 1,650,000.00 2.71 %
MAJOR 9,500 172,000.00 0.46 %
MAKRO 12,900 4,418,100.00 5.33 %
MINT 177,000 2,247,900.00 2.18 %
PS 139,000 1,890,590.00 3.11 %
PTL 1,000 14,000.00 0.15 %
PTT 284,000 92,438,000.00 7.58 %
PTTEP 288,800 47,833,450.00 8.24 %
PTTGC 846,700 51,218,175.00 4.87 %
QH 3,662,900 5,921,407.00 8.53 %
RATCH 67,500 2,705,175.00 5.33 %
ROBINS 70,200 3,712,275.00 3.78 %
SCB 680,200 95,675,400.00 6.90 %
SCC 125,700 41,504,500.00 5.15 %
SCCC 18,900 5,678,300.00 25.20 %
SMT 13,000 102,700.00 2.29 %
SPALI 57,800 913,340.00 1.09 %
SSI 202,000 127,410.00 0.50 %
STA 301,900 4,720,760.00 7.24 %
STEC 130,000 1,646,500.00 5.55 %
STPI 8,500 239,250.00 2.48 %
TCAP 60,600 1,623,225.00 1.27 %
TDEX 358,100 2,912,714.00 56.08 %
THAI 204,400 4,694,040.00 4.18 %
THCOM 200,000 2,660,000.00 2.47 %
TISCO 23,400 811,200.00 2.09 %
TMB 5,991,700 9,350,048.00 10.82 %
TOP 393,700 23,068,225.00 5.09 %
TRUE 765,100 2,978,946.00 0.47 %
TTA 9,900 165,710.00 1.27 %
TUF 52,200 3,742,750.00 3.86 %


ข้อมูลการขายชอร์ต ณ วันที่ 22 พ.ค. 2555

หลักทรัพย์ ปริมาณหุ้นที่ขายซอร์ต(หุ้น) มูลค่าการขายชอร์ต(บาท) %ปริมาณการขายชอร์ตเทียบกับปริมาณการซื้อขายบนกระดานหลัก
ADVANC 734,800 131,906,750.00 18.84 %
AMATA 560,700 8,635,000.00 20.61 %
AOT 323,100 18,425,375.00 18.69 %
AP 18,000 115,450.00 0.16 %
BANPU 169,200 80,266,600.00 4.38 %
BAY 2,198,500 60,450,475.00 22.07 %
BBL 1,345,600 237,368,850.00 24.70 %
BCP 330,600 7,370,460.00 8.27 %
BEC 449,700 22,288,500.00 27.71 %
BGH 396,300 35,271,075.00 19.81 %
BH 24,000 1,528,000.00 3.33 %
BIGC 169,300 32,726,400.00 21.60 %
BJC 359,300 13,598,600.00 18.81 %
BLA 273,000 11,828,850.00 16.30 %
BTS 8,819,300 6,676,237.00 9.83 %
CPALL 3,475,600 121,497,100.00 15.91 %
CPF 1,580,600 59,825,975.00 12.19 %
CPN 447,800 19,562,700.00 13.19 %
DCC 15,000 839,375.00 4.90 %
DELTA 183,900 4,039,360.00 20.81 %
DTAC 512,600 37,934,300.00 27.84 %
EGCO 72,200 6,970,700.00 23.64 %
ESSO 2,142,100 21,253,265.00 15.87 %
GFPT 10,000 94,250.00 0.73 %
GLOW 333,700 20,354,650.00 37.13 %
HANA 200 4,200.00 0.09 %
HMPRO 1,325,800 16,051,630.00 19.10 %
IRPC 5,059,900 19,223,682.00 20.14 %
ITD 84,200 289,648.00 0.56 %
IVL 1,305,600 37,902,100.00 6.48 %
JAS 12,916,300 38,974,526.00 6.42 %
KBANK 1,262,000 185,501,150.00 9.87 %
KTB 4,534,000 69,845,430.00 8.78 %
LH 2,217,500 15,613,600.00 26.37 %
LOXLEY 162,000 550,800.00 1.29 %
LPN 45,900 748,740.00 1.38 %
MAJOR 1,000 18,600.00 0.06 %
MAKRO 53,700 18,232,600.00 5.49 %
MINT 507,400 6,731,660.00 5.05 %
PS 513,100 6,892,830.00 14.52 %
PTL 32,500 455,250.00 2.85 %
PTT 642,500 206,663,600.00 17.77 %
PTTEP 809,800 131,130,050.00 26.94 %
PTTGC 2,840,100 173,245,375.00 14.08 %
QH 442,000 710,940.00 1.34 %
RATCH 345,400 13,893,750.00 17.49 %
ROBINS 261,900 14,089,925.00 30.81 %
SCB 956,900 132,624,350.00 11.46 %
SCC 386,200 128,640,900.00 13.63 %
SCCC 40,400 12,069,000.00 31.44 %
SIRI 5,000 10,200.00 0.01 %
SPALI 159,300 2,469,800.00 6.76 %
SSI 1,439,600 901,012.00 3.67 %
STA 356,400 5,555,910.00 13.64 %
STEC 7,500 96,750.00 1.37 %
TCAP 279,000 7,606,400.00 6.86 %
TDEX 234,400 1,897,170.00 73.83 %
THAI 1,369,000 30,450,130.00 12.45 %
TISCO 112,900 3,934,375.00 8.02 %
TMB 11,595,600 17,987,195.00 18.69 %
TOP 978,000 56,738,100.00 10.11 %
TPIPL 121,000 1,431,600.00 2.40 %
TRUE 2,208,600 8,632,340.00 1.40 %
TTA 20,000 334,730.00 3.62 %
TUF 258,800 18,573,200.00 12.79 %


ข้อมูลการขายชอร์ต ณ วันที่ 23 พ.ค. 2555

หลักทรัพย์ ปริมาณหุ้นที่ขายซอร์ต(หุ้น) มูลค่าการขายชอร์ต(บาท) %ปริมาณการขายชอร์ตเทียบกับปริมาณการซื้อขายบนกระดานหลัก
ADVANC 136,200 24,287,200.00 2.14 %
AJ 4,000 49,400.00 0.28 %
AMATA 911,700 13,595,380.00 19.30 %
AOT 142,400 7,939,650.00 5.73 %
AP 974,000 6,167,100.00 3.59 %
ASP 4,000 8,560.00 0.09 %
BANPU 151,950 70,504,700.00 6.12 %
BAY 522,500 14,486,850.00 5.48 %
BBL 400,500 70,416,650.00 10.79 %
BCP 207,000 4,552,000.00 3.76 %
BEC 41,600 2,085,000.00 3.70 %
BECL 10,000 218,000.00 0.42 %
BGH 22,700 1,986,375.00 2.08 %
BIGC 23,800 4,461,750.00 3.07 %
BJC 25,200 933,600.00 1.05 %
BLA 3,500 152,250.00 0.36 %
BTS 819,000 620,440.00 1.06 %
CPALL 1,202,300 40,086,875.00 3.61 %
CPF 88,800 3,284,975.00 0.45 %
CPN 23,600 1,044,300.00 2.07 %
DELTA 17,800 388,160.00 3.02 %
DTAC 25,600 1,881,600.00 1.25 %
EGCO 5,600 550,200.00 0.43 %
ESSO 267,700 2,498,215.00 1.88 %
GFPT 4,800 44,320.00 0.33 %
GLOW 23,100 1,409,275.00 3.12 %
GUNKUL 5,000 75,720.00 0.78 %
HANA 200 4,140.00 0.04 %
HMPRO 77,100 925,200.00 0.91 %
IRPC 821,200 2,972,016.00 1.56 %
IVL 2,235,600 63,096,125.00 11.23 %
JAS 11,167,000 31,261,090.00 2.38 %
KBANK 285,700 41,111,850.00 4.78 %
KH 2,000 18,700.00 0.02 %
KK 3,500 112,000.00 0.20 %
KTB 1,121,000 16,815,000.00 2.51 %
LH 849,100 5,929,590.00 14.69 %
LPN 22,800 368,190.00 0.98 %
MAJOR 10,400 192,110.00 0.23 %
MAKRO 11,600 3,881,600.00 1.84 %
MINT 85,200 1,116,120.00 1.73 %
PS 23,800 316,540.00 1.05 %
PTL 40,000 560,000.00 5.14 %
PTT 209,900 65,711,900.00 4.78 %
PTTEP 453,800 69,822,200.00 6.94 %
PTTGC 3,892,900 223,306,950.00 6.39 %
QH 304,600 473,817.00 0.66 %
RATCH 2,500 100,625.00 0.20 %
ROBINS 12,000 645,000.00 0.83 %
SAMART 70,000 637,000.00 3.24 %
SAMTEL 50,000 607,000.00 1.98 %
SCB 488,700 66,403,500.00 7.88 %
SCC 61,200 19,957,400.00 2.34 %
SCCC 32,200 9,308,300.00 32.17 %
SIRI 50,000 98,500.00 0.07 %
SMT 5,500 41,995.00 1.64 %
SPALI 169,100 2,562,820.00 3.51 %
SSI 152,100 93,856.00 0.78 %
STA 221,600 3,350,940.00 8.24 %
TCAP 24,400 647,700.00 0.26 %
TDEX 443,100 3,517,193.00 67.78 %
THAI 229,400 4,829,000.00 2.99 %
THCOM 48,000 612,000.00 0.48 %
TISCO 1,000 35,500.00 0.05 %
TMB 4,841,100 7,237,185.00 4.72 %
TOP 1,186,200 65,633,975.00 9.61 %
TPIPL 20,000 232,000.00 0.52 %
TRUE 3,233,900 12,305,534.00 2.23 %
TTA 26,100 425,080.00 2.61 %
TUF 35,300 2,465,300.00 1.12 %


ลองดูปริมาณการใช้ เครื่องนี้ ครับ

โดยเฉพาะ ในวันที่ 22-5-2012 ครับ ปริมาณที่สูงมากกว่า 10%ต่อยอดซื้อขายทั้งวัน ทั้งจำนวนรายการและระดับ% มันน่าเร้าใจมากจริงๆ แล้วลองไปดูแยกประเภทนักลงทุนซื้อขาย ตามวันนั้นๆดูอีกที นะ ครับ

ในวันนี้มันเป็นไปตามกติกาที่มี

ผมไม่เคยใช้และใช้ไม่เป็น แต่ติดตาม เพื่อหาทางรู้จัก เรียนรู้ ผลและฤทธิ์ ของเครื่องมือนี้ โดยเฉพาะยามตลาดผันผวนรุนแรง

ผมขอแชร์แนวความคิดที่นึกภาพดูเองนะครับ

แค่รู้สึกว่า short sell น่าจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ทำให้ตลาด หรือบริษัทที่รักของพวกเรามีราคาปรับขึ้นได้อย่างมั่นคง

เทียบกับนิสัยของคนทั่วไปที่เล่นหุ้นตามปกติดูครับ ซื้อหุ้น หุ้นขึ้น ขึ้น ขึ้น จนชักหวั่น จนไม่ไหว ...
จนขายทำกำไรดีกว่า สบายตัว >o<

ในขณะเดียวถ้าเขาคนเดียวกันนั้นลองขายชอร์ตดู ราคาตก ตก ตก จนชักหวั่น มันน่าจะรีบาวน์แล้วนะ ...
จนไม่ไหวละ ซื้อปิดชอร์ตดีกว่า สบายตัว ^^

แน่นอนครับเครื่องมือนี้คงเหมาะกับสไตล์การลงทุนแบบเก็งกำไร แต่ผมแค่นึกภาพว่า short sell จะทำให้คนกลุ่มหนึ่งกดราคามันไม่ให้วิ่งเป็นจรวดอยู่ตลอดเวลา ข้อดีคือ อาการแบบฟองสบู่ก็น่าจะมีโอกาสเกิดน้อยลงรึป่าวครับ

ในทางตรงข้ามหากภาวะตลาดมันเศร้าเหงาหงอย ราคาค่อยๆลงทุกวันๆ ก็จะมีกลุ่มที่ทนไม่ไหวคอยซื้อคืน สร้างฐานราคาให้แน่นหนา ราคามันก็ไม่ลงไปหนัก (แน่นอนว่ายังไม่นับพลังของเหล่าคนผู้เห็นมูลค่าแฝงของกิจการ)

แต่อย่างที่พี่ๆข้างบนให้ความเห็นแหละครับ พวกทำ short sell คงต้องมือเติบทุนหนา ถ้าทำให้มีประสิทธิภาพขึ้นอีก คงต้องเทียบอัตราส่วนเม็ดเงินของขาทุบ กับขาซื้อปิด short + ซื้อเก็บ ว่าฝั่งใดจะมีสรรพกำลังมากกว่ากัน

ผมว่านิสัยชาว VI คงอยากให้ราคาหุ้นของเราปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆและมั่นคงใช่ไหมครับ short sell น่าจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้กรอบการเหวี่ยงของราคามีเสถียรภาพขึ้นอะครับ (ไม่ได้เชียร์ให้ทำเยอะๆหรอกครับ หุ้นตัวเองลงก็จ๋อยเหมือนกัน T^T)

ปล. แค่อยากให้มองว่าทุกสิ่งย่อมมีทั้งด้านที่เหมาะและไม่เหมาะกับเราครับ หากเหมาะ เราก็รับใส่ตัว ติดอาวุธเพิ่ม แต่หากพิจารณาแล้วไม่เหมาะ ก็ต้องเฝ้ามอง และเรียนรู้มันอยู่ดีครับ เพราะเราอยู่ในตลาดเดียวกัน หาหลีกเลี่ยงได้ไม่ ... เรียนรู้ และ ปรับตัว น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีว่ามั้ยครับ ^^

เห็นด้วยเรื่องทีเฟคครับ. ไม่ควรมีเลย.แล้ว อย่าอ้างตลาดเมกามีเลยครับ คุณภาพมันต่างกันเยอะ.
แค่นี้ก็ทราบแล้วครับว่าขาช๊อตมีแค่ไหน. คนส่วนใหญ่ที่มาตอบเห็นดีกับช๊อตทั้งนั้น. ขนาดเป็นบอร์ดห้องวีไอนะเนี่ย.

วัตถุประสงค์ของ tfex แท้ๆ คือ มีไว้สำหรับจำกัดความเสี่ยงในการลงทุนครับ

บ้านเราเปิดเป็นบ่อนแทน

ช๊อตเซลล์

เอาไว้ฆ่า มาร์จิ้น

ช๊อตลงให้หนักๆ จะได้ถูกจับขาย

ไม่ควรเลิกครับ เพราะมันก็ยังทำกำไรให้หลายๆคนได้ครับ ไม่ต่างจากการเรียกร้องให้ยกเลิก margin tfex option warrant เพียงเพราะบางคนเสียหนักๆกับมัน แค่หลีกเลี่ยงไม่เข้าไปก็ไม่เสียครับ
ผมชอบและใช้เครื่องมือพวกนี้อยู่ครับ

ช่วงที่ตลาดผันผวนหนักๆ ในต่างประเทศก็มีการห้ามช็อตเซลล์นี่ครับ

short sell เทซ้ายได้นะครับ แต่ต้องเป็นราคาปัจจุบัน
หมายถึงเทตามน้ำ ไม่ใช่เทคนแรก
พอมีการโยนหุ้นที่ไม่ใช่การ short แค่ไม้เดียว100 หุ้น จากนั้นก็เท short sellได้เลยครับ
จะมีหุ้นบางตัวที่Market maker กันพวกshort อยู่จะรีบ Buy อยู่เรื่อยๆทีละนิดๆ

ส่วนตัวคิดว่าจำนวนหุ้นที่อยู่ใน SBL มีจำนวนน้อยมาก ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่
ถ้าเราคิดว่ายังไง short ยังไงก็ชนะ ทำไมไม่ลองเล่นshortดูล่ะครับ
ตลาดหุ้น ไม่มีทางไหนได้เงินง่ายๆหรอกครับ มันมี Invisible hand อยู่ ผมคิดว่างั้นนะ

ว่าไปผมเองก็มาร์จิ้น อยากรู้เหมือนกันว่า จะขายจนผมโดน force sell หรือเปล่า

ผมเห็นด้วยให้มีครับ
Shortsell มันคือ Balancing tool ของตลาดอย่างหนึ่ง
VI ทุกคนน่าจะเคยพูดกับตัวเองว่า "ทำไมหุ้นตัวนี้มันแพงขนาดนี้"
ตอนนี้ล่ะ Shortseller จะเข้ามาปรับสมดุลให้ตามกลไกตลาด
และยังสามารถป้องกันการปั่นหุ้นได้ด้วยในระดับหนึ่ง
ลองนึกดูว่าแก๊งปั่นหุ้นรวมตัวกันซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งแล้วรอขายตอนสูง ด้วยเม็ดเงินเค้าทำได้ไม่ยากเลย
แต่ถ้ามี Shortseller พวกปั่นหุ้นจะทำได้ไม่ง่ายนักเพราะต้องระวังโดน Shortsell

เครื่องมือพวกนี้ทำให้ตลาดหลักทรัพย์เป็นบ่อนการพนัน
สมควรยกเลิก ประโยชน์น้อยมากเมื่อเทียบกับผลเสีย

จริงๆแล้วทุกอย่างที่มี ก็เพื่อให้ตลาดมีประสิทธิภาพ ให้ราคามันไปอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการคาดหวังในตอนปัจจุบัน

ถ้าได้รู้จักมันจะรู้ว่ามีประโยชน์ในเชิงบริหารความเสี่ยง และในเชิงการประเมินมูลค่า แต่ว่าคนเราเอามาเก็งกำไรกันเยอะเกินไป

แต่ผมว่าส่วนใหญ่แล้วคนโวยวายคือคนที่เสียเงิน พอได้เงินก็ต้องสนับสนุนให้มีต่อไป

คุณ BHT คิดไปเองหรือเปล่าว่า คนส่วนใหญ่ที่โวยวาย
คือคนที่เสียเงิน ผมว่าดูถูกคนที่ไม่เห็นด้วยมากเกินไป

Basic Shorting
Shorting Stock
Shorting Stock 2
Is short selling bad?

ทุกอย่างมันมีข้อดีข้อเสียนะ ผมว่าอยู่ที่จะมองด้านไหนกัน ในเมื่อมันมีแล้ว ทำไมเราไม่หาประโยชน์จากมันล่ะ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม

ผมก็เห็นว่า TFEX ครับ ที่ร้ายกว่า Short Sell มันโหดมาก

WorriedInvestor เขียน:ผมก็เห็นว่า TFEX ครับ ที่ร้ายกว่า Short Sell มันโหดมาก

ถ้ามีสติ มองภาพออก ก้ได้สตางค์ครับ

มองภาพใหญ่ออก

ถ้ารู้น้ำจะท่วม ต้องช๊อต บนๆๆ

ท่วมหมดแล้วรู้ว่าต้องวิ่งควาย ก้ต้อง ลองล่างๆ ครับ

wc เขียน:short sell เทซ้ายได้นะครับ แต่ต้องเป็นราคาปัจจุบัน
หมายถึงเทตามน้ำ ไม่ใช่เทคนแรก
พอมีการโยนหุ้นที่ไม่ใช่การ short แค่ไม้เดียว100 หุ้น จากนั้นก็เท short sellได้เลยครับ
จะมีหุ้นบางตัวที่Market maker กันพวกshort อยู่จะรีบ Buy อยู่เรื่อยๆทีละนิดๆ

ส่วนตัวคิดว่าจำนวนหุ้นที่อยู่ใน SBL มีจำนวนน้อยมาก ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่
ถ้าเราคิดว่ายังไง short ยังไงก็ชนะ ทำไมไม่ลองเล่นshortดูล่ะครับ
ตลาดหุ้น ไม่มีทางไหนได้เงินง่ายๆหรอกครับ มันมี Invisible hand อยู่ ผมคิดว่างั้นนะ

^^ ถ้าเข้าใจผิดก็ไปศึกษาก่อนนะครับ ยืนยันครับว่าโยนซ้ายไม่ได้
แหม ถ้าโยนได้มันคงง่ายไปแล้วมั้งครับ

มันมีประโยชน์นะ เวลาเห็นเขาทุบกัน แค่ตามน้ำยืมหุ้นมาช่วยทุบ ก็ได้กำไรแล้ว

เพราะถึงเราไม่ช่วยทุบราคามันก็ลงอยู่ดี สำคัญอย่าไปรับตอนเขากำลังทุบ

ลองถามตัวเองก่อนว่าถ้ามีคนมารุมทุบหุ้นที่คุณถืออยู่บ้างล่ะ. กงกรรมกงเกวียนครับ. คุณช๊อตได้กำไรมาจิ๊ดนึง หันมาดูพอร์ตตัวเอง อ้าวขาดทุนบาน ไอ้ตอนขาขึ้นมันไม่มีใครเจ็บตัว. แต่ขาลงเนี่ยการมีเครื่องมือพวกนี้ก็ทำให้หุ้นที่มันต้องลงอยู่แล้วมันลงเกินความจำเป็น. ยกตัวอย่างก็ตอนปี 40 ไงครับจากพันกว่าหุ้นลงมาเรื่อยๆจนเหลือ ไม่ถึง 200 จุด. (อย่าคิดว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกนะครับ) บางทีถ้าไม่มีแมนทาแนนหุ้นอาจจะลงแค่ 500 จุดก็ได้. แต่คนทุบเค้าก็ทุบในจังหวะที่ตลาดอ่อนแอ. ตอนนั้นคนทุบคือโบรค ขายล้างทุกราคาเพื่อเอาเงินกลับตามหน้าที่พันธสัญญา. แต่ตอนนี้หนี้โบรคไม่มีอะไรน่าห่วงครับเพราะโบรคเค้าระวังเรื่องมาจิ้นมาก ที่น่าห่วงคือพวกช๊อตนี่แหละ ความโลภอยากได้เงินกลายเป็นแฟชั่นเอาอย่างกัน. อีกอย่างถ้ามีคนช๊อตเยอะก็เข้าทางเจ้าที่เค้าขายไปแล้วข้างบนตอนราคาสูง ยิ่งลงเยอะเค้าก็ยิ่งกำไรมากและก็ซื้อหุ้นกลับได้ในราคาต่ำ. จุดที่จะเด้งก็เนิ่นนานออกไปอีก ที่ผมเตือนเนี่ยก็แค่หวังดีไม่อยากให้วิกฤตปี 40 มันกลับมาอีกเท่านั้นแหละครับ

มาช่วยยืนยันครับ ตามกฎปัจจุบันโยนบิดแรกตามได้ ถ้ามีคนขายนำก่อน

หรือถ้าอยากโยนเองก็ไม่ยาก ซื้อเก็บไว้เอง 100 หุ้นก่อน แล้วก็ไปยืมมาอีกสมมติ 10,000 หุ้น เวลาจะชอร์ตซ้าย ก็เริ่มด้วยขาย 100 หุ้นของตัวเองก่อน ตามด้วยชอร์ตหุ้นที่ยืมมา (แต่กรณีนี้ระวัง กลต.จะถามหานะครับ)

ชอร์ตหุ้น SBL แบบบ้านเรายังไม่น่ากลัวนะ เพราะต้องยืมหุ้นจริงๆมาก่อน แต่ถ้าเป็น Naked Short จะหนาวกว่านี้เยอะ

ที่จริง VI ก็ได้ประโยชน์จากการชอร์ตนะ ทำให้ราคาหุ้นผันผวนได้มากขึ้น เร็วขึ้น โอกาสซื้อได้ถูกก็มากขึ้น โอกาสตกรถก็น้อยลง.. เฉพาะคนที่เชื่อหลักการว่า ระยะยาวราคาหุ้นต้องวิ่งเข้าหาพื้นฐานกิจการเท่านั้นนะ

ถ้าเรารู้เห็น ว่ามีคนขายยาเสพติดข้างบ้านเรา มันมาหนักหัวเราที่ไหน ปล่อยๆ มันไป ดีกว่าให้มันมาแย่งอาชีพที่เราทำอยู่ มันจะขายยาบ้าบอคอแตก ก็ช่างปะไร ดีซะอีก
ผลดีต่อสังคม คือมันจะได้มีอาชีพ มันอาจจะใจบุญบางเวลา ตอนรวยแล้ว เอาเงินไปทำบุญบ้างก็ได้นะ ทำบุญบังหน้าก็เถอะ แถมทำให้เกิดการการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะการหมุนเวียนของเงินตรานับแสนล้านบาทต่อปี ทฤษฎีเงินตรา velocity of money คือยิ่งหมุนมาก circulation value มูลค่ายิ่งมากทบขึ้นไป

แต่ที่จริง ทุกวันนี้ เราเห็นแล้ว ว่าเห็นเหตุการณ์ต่อเนื่องไอ้ขี้ยาจี้ปล้น ทุบหัวปางตายเพราะแค่แย่งมือถือราคาไม่กี่หมื่น ซักวันถ้าลูกหลานเราโดน
หรือซักวันอาจเป็นตัวเราเดินโทรศัพท์อยู่ข้างถนนก็โดนทุบหัวได้
แล้วเราถึงจะรู้ซื้งอีก เมื่อลูกหลานเราไปผิดทาง เจอลูกหลานเราเป็นไอ้ขี้ยาซะเอง เพราะมันระบาดเข้าไปทุกหย่อมหญ้า เพื่อนพาไป อาชญากรรมเกิดจากการปล่อยปละละเลย ไม่สนใจยอมให้คนทำผิด หรือสนับสนุนกระบวนการ ที่ชักจูงใจให้เกิดการกระทำทั้งหลาย


แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับการชอร์ต

โฮ่ๆๆๆ ไม่รู้คิดอะไรกันอยู่ VI ไม่ชอบพวกเล่นกราฟ บอกว่างมงาย แต่สนับสนุนการชอร์ตเซลหุ้นที่ตัวเองถืออยู่ ชอบให้กิจการตัวเอง ถูกลาก...
เคยถกไว้ในกระทู้ก่อนหน้าทีนึงแล้ว ว่าทำไมยอมหรือชอบที่จะให้คนอื่นมาทำให้กิจการเราถูกดบิดเบือนราคา

ถ้าชอร์ตแบบเอากำไรเล็กๆ น้อยๆ “ใสซื่อ” อย่างเราๆ อย่างคุณ patongpa เจ้าของกระทู้ว่า มันคงไม่เท่าไหร่

แต่ก็รู้ๆ กันอยู่ คุณคงไม่ innocent กัน ขนาดไม่รู้ว่า ว่าถ้าพวกขาใหญ่ช็อต จะไม่ยอมให้เป็นไปตามธรรมชาติ demand supply ของหุ้นเด็ดขาด เสียเวลาตายโฮ้ง เงินกะจิดริด
และไม่สนใจไอ้เรื่องโยนซ้ายโยนขวาอะไรกี่ขั้นกี่ช่อง ในเมื่อกำกับได้จึงเหมือนไม่มีกฎอะไร ไม่ยอมให้ตลาดพาเขาไปหาความเสี่ยง เพราะเขารวยมาจากทัศนคติที่ว่า คนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น มีไม่ถึง 5% เพราะตลาดหุ้นคือแหล่งพนันต้องมีคนเสียและคนได้ เขาจะต้องอยู่ใน 5% นั้น โดยมีความเสี่ยงต่ำ การมีความเสี่ยงต่ำ ก็คือการที่กำกับราคาหุ้นได้ เขาจะต้องเป็นคนได้เท่านั้นไม่ยอมเสีย และไม่ยอมกำไรกะแค่ไม่กี่ช่อง

สรุปคือ การให้ชอร์ตโดยมีกฎหมายรองรับ เป็นการกระตุ้นให้เกิดความโลภ ที่จะให้ลากลงมากกกว่าปกติ เพื่อที่ตัวเองช็อต จะได้ซื้อเยอะ แล้วก็ปั่นขึ้นกลับ เพื่อตัวเองจะได้ปล่อย
คนเดือดร้อนก็พวกเม่าที่รู้ไม่ถึงการณ์ เห็นหุ้นตกเยอะ รีบเทขายขาดทุน จ้าละหวั่น เพราะตอนซื้อ ก็ไม่ได้ประเมินอะไรมาก

อย่าว่าแต่เม่าเลย ที่บอกเป็น VI ยอมรับกันตรงๆ เถอะ มีจำนวนมากที่พอเห็นหุ้นตัวเองตกเยอะๆ ก็ใจสั่นร่ำๆ จะขายทิ้งเหมือนกัน

ยิ่งมาเจอคนกำกับกฎ ที่ปรับเสี่ยนักปั่นแค่ห้าแสน แต่ทำให้หลานที่สถาปนาว่าเป็นพ่อมดมีกำไรหลายสิบล้าน เหตุการณ์ผ่านมาหลายปีจึงค่อยมา "เริ่มท่าที" ว่าจะเอาเรื่อง ... จะเอาจริงรึเปล่ายังไม่รู้ แล้วที่ผ่านมาที่คนอื่นชักนำราคาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ไม่เคยเจอมีปัญหาเลย จึงไม่มีคนกลัว ที่จะชักนำราคากันอย่างโจ๋งครึ่ม ใครกล้าพูดบ้าง ว่าไม่มี ทุกวันนี้มีอยู่จนคนชาชิน


แล้วที่ว่าหุ้นร้อนแรง ถ้ามันร้อนเพราะคนมารุมผลประกอบการจริง ทำไมต้องไปเบรคมัน ปล่อยให้มันเป็นไปธรรมชาติ demand supply ของหุ้นที่ว่า มันจะทำงานมันเอง เพราะสูงไป นักเก็งกำไรก็จะเทขายออกมาเองตกมาก็เข้าไปซื้อใหม่ พวกเล่นกราฟแนวรับแนวต้านจริงๆ มันมีเหตุผลรองรับตรงนี้ ถ้าเศรษฐกิจไปแบบนิ่มๆ สม่ำเสมอ และไร้คนชักนำราคา กราฟจึงจะบรรยายธรรมชาติการซื้อขายของฝูงชนได้
แต่ที่เราพบหุ้นร้อน มันก็หนีไม่พ้นพวกลักษณะเดียวกับที่ชอร์ต คือชักนำราคาให้สูงต่ำตามที่ตัวเองต้องการ
ความเหมือนกันทั้งสองกรณีตรงที่ทำให้รับต่ำแล้วดีดให้สูงแล้วขายแล้วทิ้ง
ต่างกันตรงที่การปั่นทั่วไป ปั่นขึ้นช่วงตลาดขาขึ้นหรือหุ้นขาขึ้น

ถ้าเราไม่สนับสนุนการปั่น ก็ไม่ควรสนับสนุนการช็อตเช่นกัน



ผมสรุปว่า ไม่ว่าลงทุน VI หรือไม่ VI ยังไงการชอร์ต ก็คือปัจจัยเชื่อมโยงให้เกิดการชักนำบิดเบือนตลาด และก่ออาชญากรรมในตลาด โศกนาฏกรรมเม่าตายหมู่ คนจะด่าว่าเป็นเม่าโง่เง่าก็เถอะ แต่ถ้าเขาขาดทุน โดยที่มันเป็นไปจากการตัดสินใจซื้อผิดราคา เขาจะเรียนรู้เอง แต่ไม่ควรเกิดขาดทุนจากการกระทำของคนบางคนบางกลุ่ม ซ้ำร้าย เริ่มต้นจากการมีกฎระเบียบ สนับสุนให้ทำด้วย

ผลดี ที่กล่าวอ้างเรื่องสภาพคล่อง มีนิดนึงจนแทบจะเป็นนามธรรมหรือยังกังขาว่ามันช่วยจริงหรือ ...ก็เหมือนสนับสนุนยอมให้เกิดเงินหมุนเวียนที่เกิดจากยาเสพติด... แต่ผลเสียมันมากกว่าทันตา กระทบในวงกว้าง สนับสนุนให้อาชญากรทำงานและลอยนวลโดยทำให้หุ้นเป็นตัวทำเงินแบบพนัน

อยากให้กิจการของเราเป็นแหล่งมั่วสุมขี้ยาและอาชญากรรม ไม่รู้ว่าคิดว่าเป็นแบบการลงทุนอาศัยปัจจัยพื้นฐานได้ไง

ผมคิดว่า
ถ้าอยากจะ shortsell จริงๆ ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ
ก็น่าจะทำได้เป็นช่วงบางเวลาเช่น หนึ่งวัน shortsell ได้ 3 ครั้ง
เช่น ช่วงเปิดเช้าเปิดบ่ายช่วง ato และช่วงปิดตลาด atc
อยาก short กันเท่าไหร่เอาให้เต็มที่ อย่าไปปั่นป่วนช่วงเวลาซื้อขายปกติ
และแฟร์กับทุกฝ่าย