Thai VI

มันเริ่มลงหนักๆแบบตอนวิกฤติ subprime แล้วครับ

ตอนนั้นเป็นยังไง ผมไม่ทราบ แต่เท่าที่รู้คือ มันตกลงมา ไม่มีใครสนใจ ไม่มีข่าว

คนส่วนใหญ่ก็บอกให้เก็บเพิ่ม ซื้อเพิ่ม แล้วมันก็ตกไม่หยุด สุดท้ายคนออกไม่ทัน

แต่รอบที่แล้วหนัก เพราะเมกาดึงเงินกลับเยอะมั้ง

รอบนีิ เห็นหลายคนไปแล้ว เห็นข่าวออกมาโครมๆ เห็นประเทศยุโรปจะพังทลาย

แล้วยังไง บริษัทบ้านเรามีเยอะแยะ ตัวไหนดีตัวไหนถูก คิดว่าดีแล้ว ก็ซื้อไป

อย่างไปสนใจมาก เป็นคนดูดีกว่าเป็นคนแสดง ครับ

โชคดีในการลงทุน

มีคำพูดที่มักจะพูดกันว่า

"ถ้าคนกังวลว่าวิกฤตจะเกิดมาก ๆ วิกฤตจะไม่เิกิด"

ผมสงสัยว่าตอนนี้มีคนกังวลกันมาก แต่ถ้ากรีซออกจากยูโรโซนหรือชักดาบ แล้วทำให้อิตาลี สเปน เป๋ไปด้วย
ตลาดหุ้นจะไม่ตกได้อย่างไร เพราะคิดว่าเงินน่าจะไหลไปทางด้านที่ค่าเงินแข็งกว่าอย่าง usa

หรือจริง ๆ ถ้าจะนับว่า "การไม่กังวลที่จะยอมให้กรีซสร้างหนี้ในอดีต" คือสิ่งที่ทำให้เกิดวิกฤตมากกว่า เพียงแต่ถูกยื้อ
มาเรื่อย ๆ เพราะต้องการผลัดผ่อนปัญหา ทำให้มันต้องระเบิดขึ้นในวันใดวันหนึ่ง
ดังนั้นการบอกว่า ถ้าคนกังวลว่าวิกฤตจะเกิดมาก ๆ วิกฤตจะไม่เิกิด จะใช้กลับวิกฤตครั้งนี้ได้หรือเปล่า
หรือต้องรอให้วันที่ทุกคนตายใจ ตลาดไม่สนใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น จึงจะเกิดวิกฤตได้

panwasit เขียน:อย่าไปสนใจมาก เป็นคนดูดีกว่าเป็นคนแสดง ครับ

ประโยคนี้เอาไป +1

ilekis เขียน:มีคำพูดที่มักจะพูดกันว่า

"ถ้าคนกังวลว่าวิกฤตจะเกิดมาก ๆ วิกฤตจะไม่เิกิด"

ผมสงสัยว่าตอนนี้มีคนกังวลกันมาก แต่ถ้ากรีซออกจากยูโรโซนหรือชักดาบ แล้วทำให้อิตาลี สเปน เป๋ไปด้วย
ตลาดหุ้นจะไม่ตกได้อย่างไร เพราะคิดว่าเงินน่าจะไหลไปทางด้านที่ค่าเงินแข็งกว่าอย่าง usa

หรือจริง ๆ ถ้าจะนับว่า "การไม่กังวลที่จะยอมให้กรีซสร้างหนี้ในอดีต" คือสิ่งที่ทำให้เกิดวิกฤตมากกว่า เพียงแต่ถูกยื้อ
มาเรื่อย ๆ เพราะต้องการผลัดผ่อนปัญหา ทำให้มันต้องระเบิดขึ้นในวันใดวันหนึ่ง
ดังนั้นการบอกว่า ถ้าคนกังวลว่าวิกฤตจะเกิดมาก ๆ วิกฤตจะไม่เิกิด จะใช้กลับวิกฤตครั้งนี้ได้หรือเปล่า
หรือต้องรอให้วันที่ทุกคนตายใจ ตลาดไม่สนใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น จึงจะเกิดวิกฤตได้

ยกตัวอย่างน้ำท่วมแล้วกัน

ที่ปีก่อนน้ำท่วมเสียหายมากเพราะอะไร ไม่ใช่เพราะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อนเพราะไม่เคยเจอ รัฐบาลก็คิดว่าเอาอยู่ เอกชน นิคมต่างๆ ตอนแรกก็คิดว่าเอาอยู่กันหมด เลยเสียหายหนัก

ปีนี้ ต่อให้มรสุมเข้า ฝนตกหนักกว่าปีก่อน คิดว่าความเสียหายจะมากกว่ามั้ยครับ


เรื่องกรีซก็เช่นกัน ถ้าคุณเป็นเจ้าหนี้ เจ้าของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตนี้ แล้วในสถานการณ์แบบนี้จะอยู่เฉยๆ หรือจะวางมาตรการรับมือล่ะครับ

ตอนนี้ยังลงไม่เยอะนะครับ ตอนซับไพร์มนี่จาก800กว่าจุดเหลือ380กว่าจุด หายไปเกิน50% ตอนนี้ยังลงมาแค่100กว่าจุดจาก1200กว่าจุด ยังแค่10%

ยังลงไม่มากคิด แค่นิดเดียวเองครับ

อ.ดร.ศุภวุฒิ เคยออกบทความว่า
วิกฤตเลย์แมน เป็นวิกฤติสถาบันการเงิน
วิกฤตยุโรป (ถ้าเกิด) เป็นวิกฤติประเทศ(หรือทวีป)
ขนาดต่างกันมาก

อ.mprandy ที่tvi ภาคใต้ครั้งที่แล้ว
วิเคราะห์ไว้ว่า วิกฤติยุโรป ถ้าจะเกิด
ต้องมีปัญหาสภาบันการเงินก่อน

เมื่อวานดูข่าว
ฟังดูคล้ายๆกับเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ เป็นภาครัฐ
ภาคเอกชนจะเหลือแต่สถาบันการเงินฝรั่งเศส

ยิ่งดูยิ่งงง
แต่ผมว่าตาม อ.ลูกอิสาน
"วิกฤติยุโรปมาแน่ล้าน%"

เต่าน้อยสแตนบายครับ
(stand bye bye ?)
555

ผมว่าตอนนี้แค่น้ำจิ้มมาก ๆ ถ้าจะลงจริง ๆ คงลงได้กว่านี้มาก ลองมองย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว set ประมาณ 1100 ก็มีคนหลาย ๆ คนถอยถือเงินสดไปเยอะแล้ว รอบนี้ลงมาแค่ 10 % (กลับมาที่เดิม) จะบอกว่าถูกหรือแพงของแต่ละคนคงไม่ควรเปลี่ยนไปมากเพราะปัจจัยบริษัทต่าง ๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรกันมากนัก

ผมว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีในการศึกษาหาหุ้นตัวที่ตระหนักว่าจะไม่เจ็งแม้ว่าจะเกิดวิกฤตจริง ๆ ก็ตาม เพราะว่าในวิกฤตเองมีโอกาสเสมอจริงไหมครับ

ลงมา100กว่าจุดแค่คันๆน่า ไว้หลักร้อยก่อนค่อยบ่นดีกว่า

ปล.มีหุ้นอยู่แต่แอบแช่งให้ลงทู้กกวัน

วิกฤติรอบแฮมเบอร์เกอร์ ปัญหาอยู่ที่สถาบันการเงินที่ไม่กระทำตามกฏระเบียบต่างๆ
แต่วิกฤติของยุโรปเกิดจากภาครัฐ ที่ดำเนินการผิดทางอยู่ ซ้ำเติมด้วย
เรื่องของระบบเงินตราที่ผูกติดกับเงินตราแค่สกุลเงินเดียวทั้งกลุ่มทำให้ไม่เกิดการกระจายความเสี่ยงเรื่องค่าเงินเกิดขึ้น
ถ้าประเทศใดประเทศหนึ่งในกลุ่มมีปัญหา ทำให้ประเทศอื่นๆในกลุ่มก็แย่ไปด้วยละ
ปัญหาคือ เมื่อไรที่ประเทศหนึ่งออกจากลุ่มไปแล้ว เหมือนลูกแกะที่หลงฝูงโดยเหล่าหมาป่าไล่ขย้ำ


ดังนั้น AEC จึงไม่ดำเินินการใช้เงินตราสกุลเงินเดียวกันจากบทเรียนยุโรป

ผมก็จำได้ตอน Subprime เซอร์กิตเบรคเกอร์ 2 ที จำได้ติดใจ แต่ไม่รู้ว่าอันไหนมันหนักกว่ากัน นี่ยังไม่เห็นมีไรเลยครับ แล้วมันก็ผ่านไป

ผมคงรอดูสถาบันการเงิน ถ้าล้มเมื่อไร...เมื่อนั้นก็ทิ้งดิ่งละครับ

ดูแล้วน่าจะออกแนว แบบหนังผีหลอก วิญญาณหลอน หรือผีปอบหยิบ สารพัดตอน ปล่อยออกมาหลอก ออกมาหลอน เป็นพักๆ อีกนาน

ปลายปีที่แล้วเริ่มตอนแรก ช่วงนี้กำลังเริ่มตอนที่สอง

แต่รอบนี้ ทำไมรู้สึก เหมือนตลาดหุ้นไทย ตกใจ และกลัว น้อยกว่าคราวที่แล้ว

สงสัย เริ่มชินชาเสียแล้ว หรือคิดว่าจะไม่หนักเท่า subprime

แต่ถ้ามี ชักดาบ เบี้ยวหนี้ แยกวง หนีเพื่อน แบงค์ล้ม เที่ยวนี้ สงสัยจะโดนของจริงอย่างหนัก

แต่ระหว่างรอผล ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป

boy2t เขียน:ผมก็จำได้ตอน Subprime เซอร์กิตเบรคเกอร์ 2 ที จำได้ติดใจ แต่ไม่รู้ว่าอันไหนมันหนักกว่ากัน นี่ยังไม่เห็นมีไรเลยครับ แล้วมันก็ผ่านไป

วิกฤติยุโรป+น้ำท่วม มีเเต่ปลั๊กหลุด 555

เรื่องนี้รู้ตัวกันนานเป็นปีๆ การที่กรีซจะออกจากยูโรโซนมันกระทบกับทุกคนแม้กระทั่งตัวกรีซเองและตัวเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ไม่ปล่อยให้ล้มง่ายๆหรอกครับ แต่เสี่ยงอยู่ที่การเมืองกรีซเองอาจทำพิษให้ต้องออกทั้งๆที่เป็นผลแย่กับกรีซเอง

ถ้า Syriza เข้ามาชักดาบอาจทำให้เยอรมนีและฝรั่งเศสก่ายหน้าผากไปสักพัก แต่หมัดเด็ดขงสองประเทศนี้คือการอ่อนค่าของเงินยูโรจะทำให้ประเทศที่แข็งแกร่งส่งออกสินค้าได้มากขึ้น กรณีเลวร้ายถึงต้องชักดาบยังไงเยอรมนีที่ได้ผลดีโดยตรงจากค่าเงินอ่อนก็คงไม่ปล่อยให้กรีซออกครับ ยังไม่มองผลร้ายอื่นๆที่ตามมาอีก

ว่าแต่ ถ้าเดินสายคุณค่าจริงๆแล้ว ถ้าธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบ เพียงแค่ราคาตลาดคงไม่มีผลต่อการตัดสินใจขายมั้งครับ

ผมคิดวว่ารอบนี้หนักกว่ารอยที่แล้วครับ
กรีซตายไม่ได้เพราะเงินยูโร แต่กรีซดึงเพื่อนๆแย่ด้วย
เพื่อนจะทิ้งกรีซเพื่อรักษาเงินยูโรหรือ
เพื่อนจะแบกกรีซเพื่อไม่ให้เงินยูโรแตกแล้วรักษาแผลกรีซ

ุผมว่า subprime หนักกว่าเยอะ
เพราะเอาเศษกระดาษมาเสกเงินหลายชั้น ซ้อนไปมา
แถมกระจายไปทั่วโลก ฟองสบู่ของแท้

ส่วน กรีซ แค่หนี้เยอะไม่มีจ่าย
ถ้ากรีซไม่จ่ายหนี้ ก็เหมือน บ. ล้มละลาย
เอาทรัพย์สินมาขายก็ได้ หรือจะให้เงินเพิ่มไปแก้ไขกิจการ
แล้วก็รับรู้ปัญหากันมานานแล้ว

ส่วน subprime เหมือนโดนต้มทั้งโลก

มองกันแล้วในท้ายที่สุดก็กรีซก็ต้องไม่สามารถใช้หนี้ได้ครับ เพราะประเทศกรีซนั้นไม่มีศักยภาพเพียงพอ
ปัญหาคือถ้ากรีซเจ๊ง Bank ของประเทศต่างๆที่เป็นเจ้าหนี้จะเป็นอย่างไร
ถ้าเป็นประเทศใหญ่ๆ ผมว่าพออุ้มกันได้ เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศษ น่าจะรอดไปได้ ไม่เจ็บตัวมาก
แต่ประเทศที่ตัวเองก็ไม่ค่อยรอดอยู่แล้วอย่างสเปนกับอิตาลีก็น่าจะรับผลกระทบไปด้วย

ถ้าประคองให้ผลเสียหยุดได้แค่กรีซ แล้วไม่ลามต่อได้ ผมว่าไม่หนักเท่า Sub prime
ซึ่งในกรณีนี้ผมว่าเยอรมัน (หรืออาจรวมฝรั่งเศษ) ต้องออกแรงเยอะหน่อย บางคนว่ากันว่าถ้าเยอรมันเข้าไปอุ้มจริงๆจะกระทบกับการเติบโตของตนเองมากกว่า 20 ปี
แต่ถ้าลามต่อมาสเปน อิตาลี น่าจะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่แน่นอนครับ

ท้ายที่สุดผมเชื่อว่าถึงจะเกิดเหตุร้ายกว่า Sub prime ตลาดจะไม่ต่ำได้เท่าช่วงนั้นอีกแล้ว
เพราะวิกฤติครั้งนี้ คนพูดถึงกันนานกว่ามาก ผมเชื่อว่าหลายคนในตลาดก็เตรียมตัวไว้ระดับหนึ่งแล้ว

ตอนนี้ผมก็เตรียมกระสุนไว้เยอะเช่นเดียวกันครับ

สำหรับผมมองไม่ออกจริงว่าเหตุการณ์จะจบลงยังไง

ผมเองก็เชื่อว่ารูปแบบการลงทุนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
บางคนมั่นใจพื้นฐานในหุ้นที่ถือ บางคนยอมทนรอเพื่อให้ได้โอกาส

การลงทุนคือการสร้างความสุขให้กับตนเองในรูปแบบหนึ่ง เพราะมันคือความคาดหวัง
ในผลกำไรที่จะได้ในอนาคต

หากเรายังคงมีความเชื่อมั่น ก็จงอย่าละทิ้งความเชื่อมั่นนั้น
หากเรายังคงมีความไม่สบายใจในการลงทุนในช่วงเวลานี้ ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้หลบ
ออกมาพักและหาข้อมูลเพื่อรอโอกาสครั้งใหม่

รูปแบบการลงทุนและการใช้ชีวิตนั้นสัมพันธ์กัน
วินัยในการลงทุนในรูปแบบของตนก็เป็นอีกหนทางหนึ่ง ที่จะช่วยให้ชีวิตในการลงทุนของเรา
ดำเนินไปได้อย่างมีความสุขครับ