หน้า 1 จากทั้งหมด 1

การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 2:22 pm
โดย iruma
อุตสาหกรรมแต่ละอย่างมีการเปลี่ยนแปลงช้าเร็วไม่เท่ากัน บางอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แต่บางอย่างช้ามาก การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมักจะมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หรือพฤติกรรมของคน หรือไม่ก็เกิดจากลักษณะ หรือคุณสมบัติของกิจการที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อม หรือภาวะเศรษฐกิจสูง ซึ่งทำให้บางช่วงเวลาบริษัทในอุตสาหกรรมประสบกับความล้มเหลวอย่างรุนแรงและกว้างขวาง และทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม


ผลของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมที่ชัดเจน ก็คือ บริษัทที่เคยรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ กลายเป็นบริษัทที่ล้มเหลวตกต่ำลง ขณะเดียวกัน บริษัทที่เคยเป็นรอง หรือบริษัทขนาดเล็กเติบโตขึ้น กลายเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่แทนในระยะเวลาอันสั้น ลองมาดูกันว่าอุตสาหกรรมอะไรที่เปลี่ยนเร็ว และอุตสาหกรรมอะไรที่เปลี่ยนช้า


อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็วที่สุด คือ อุตสาหกรรมไฮเทคทั้งหลาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และการสื่อสารโทรคมนาคม เพราะนี่คือภาคอุตสาหกรรมที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้ ถ้าลองนึกย้อนหลังไปไม่นานนัก พบว่า บริษัทที่ยิ่งใหญ่ในอดีตจำนวนมาก บัดนี้กลายเป็นบริษัทที่ "มีปัญหา" ไล่ตั้งแต่อดีตยาวนาน ก็มี บริษัท เท็กซัสอินสตรูเม้นท์ ที่โด่งดังมากสมัย 40 ปีก่อน ที่ผมยังเรียนวิศวกรรมในมหาวิทยาลัยที่เป็นผู้ผลิตเครื่องคิดเลขเครื่องแรกๆ ของโลกและ ฟิลิปส์ ฟิชเชอร์ ปรมาจารย์การลงทุนคนหนึ่งที่ บัฟเฟตต์ ยกย่อง กล่าวถึงว่าเป็นบริษัทที่เป็น "ซูเปอร์สต็อก" แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้อยู่ไหน


ต่อมาก็มีบริษัท IBM คอมพิวเตอร์ หรือ BIG BLUE หรือ "ยักษ์สีฟ้า" สัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เป็นตัวแทนของอเมริกันที่เป็น "จ้าวแห่งเทคโนโลยีโลก" แต่แล้ว บริษัทเล็กๆ ก่อตั้งโดยเด็กอายุไม่ถึง 20 ปีชื่อ ไมโครซอฟท์ ก็ก้าวขึ้นมาแข่งขันด้วยซอฟต์แวร์ควบคุม "คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล" ที่ในที่สุดสามารถแย่งชิงการนำในธุรกิจคอมพิวเตอร์ และกลายเป็น "ราชันย์แห่งโลกของไอที" ในเวลาอันสั้น แม้บริษัท IBM ก็ยังยิ่งใหญ่อยู่ แต่บทบาทในฐานะผู้นำทางด้านธุรกิจก็แทบไม่เหลือแล้ว


มาถึงยุคของโทรคมนาคม เรามีโมโตโรล่า ที่ในยุคแรกของโทรศัพท์มือถือ ทุกคนต้องใช้เครื่องของโมโตโรล่า แต่แล้วในเวลาไม่นานนัก ทุกคนต่างต้องการใช้มือถือของโนเกีย บริษัทสุดยอดด้านไฮเทคจากฟินแลนด์ ที่อดีตถูกปรามาสว่าเป็น "ประเทศหลังเขาแห่งยุโรป" โนเกียกลายเป็นความภาคภูมิใจของฟินแลนด์และหุ้นโนเกีย ใหญ่คับตลาดหุ้นฟินแลนด์ แต่แล้ว โนเกียก็ประสบชะตากรรมแบบเดียวกับโมโตโรล่า เพราะบริษัทกำลังประสบกับปัญหา เนื่องจากแอ๊ปเปิ้ลได้เข้ามายึดกุมตลาดของสมาร์ทโฟนที่เป็นที่คลั่งไคล้ของคนทั้งโลก หุ้นของแอ๊ปเปิ้ลกลายเป็นหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก


ผมยังไม่ได้พูดถึงบริษัทไฮเทคที่เคยยิ่งใหญ่จำนวนมาก อาทิเช่น พานาโซนิค โซนี่ ชาร์ป หรือ บริษัทโกดัก ต่างก็ตกลงมาจากจุดสูง และแทนที่อาจจะโดยซัมซุงและบริษัทที่เคย "รองบ่อน" อื่นๆ เพราะคงไม่มีเนื้อที่พอที่จะกล่าวถึง และนี่ยังไม่นับผู้เล่นที่กำลังกลายเป็น "ราชัน" ใหม่ๆ อย่าง กูเกิลและเฟซบุ๊ค ประเด็นของผม คือ "ราชัน" ในวันนี้อาจกลายเป็น "ยาจก" ในวันข้างหน้าได้ บางทีในเวลาไม่นานนัก


อีกด้านหนึ่ง อุตสาหกรรมอาหารเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงช้ามาก โค้ก เป็นเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมาช้านานอาจจะเกือบร้อยปี ถึงวันนี้โค้กก็ยังยิ่งใหญ่เหมือนเดิม หรือยิ่งใหญ่ขึ้น โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะมีเครื่องดื่มชนิดไหนมาแซงได้ เช่นเดียวกัน แมคโดนัลด์ ก็เป็นอาหารที่ยิ่งใหญ่พอๆ กันและนับวันมันจะขยายไปทั่วโลก โดยที่ยังหาคนที่มาต่อกรได้ยาก นอกจากอาหารแล้ว ธุรกิจค้าปลีกประเภทขายสินค้าราคาถูกอย่างวอลมาร์ท คาร์ฟูร์ และเทสโก้ เหล่านี้ต่างก็เป็นผู้นำในตลาดของประเทศตนเอง และตลาดโลกมาช้านาน โดยที่ไม่มีความเสี่ยงที่จะมีคู่แข่งมาทำลายตำแหน่งของตนเองได้ เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งสองอุตสาหกรรมต่างก็เป็นธุรกิจ "โลว์เทค" ที่มีการใช้เทคโนโลยีน้อยมาก


อุตสาหกรรมที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเร็วระดับกลางๆ ผมคิดว่า น่าจะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความไวต่อสภาวะเศรษฐกิจ หรือมีความเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร ที่มักจะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงภาวะวิกฤติที่ทำให้ผู้นำ หรือบริษัทที่โดดเด่นแต่บริหารงานอย่างไม่ระมัดระวังต้องประสบปัญหาล้มหายตายจากไปและมีบริษัทระดับรองก้าวขึ้นมาแทนที่ เช่นเดียวกัน การวางกลยุทธ์ หรือการบริหารงานที่ผิดพลาด อาจจะทำให้บริษัทที่เป็นผู้นำค่อยๆ เสียส่วนแบ่งการตลาดไปทีละน้อยจนในที่สุดกลายเป็นผู้ตามได้



กลับมาที่ตลาดหุ้นไทย ค่าที่ว่าเราไม่มีอุตสาหกรรมไฮเทคจริงๆ ผมจึงลองมาคิดดูว่าอุตสาหกรรมอะไร ที่น่าจะถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงเร็ว คำตอบของผมคือ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะที่ทำเพื่อขาย เช่น บริษัทขายบ้านจัดสรร เหตุผลก็คือ นี่คือธุรกิจที่ต้อง "นับหนึ่งใหม่" ทุกปี เพราะลูกค้าเดิมไม่ซื้อซ้ำ ดังนั้น เราจึงเห็นบริษัทที่เป็นผู้นำอันดับหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ระหว่างอันดับหนึ่งกับอันดับ 2 และ 3 ยอดขายไม่ได้ทิ้งห่างกัน และดูเหมือนว่าโอกาสที่อันดับหนึ่งอาจจะ "แพ้" เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา


ธุรกิจการเงินเองซึ่งรวมถึงธนาคารด้วย ดูเหมือนว่า จะเปลี่ยนแปลงที่เร็วพอสมควร อันดับหรือความโดดเด่น อยู่ในระดับที่สู้กันได้อย่างน้อยใน 3 อันดับแรก ในธุรกิจหลักทรัพย์ ผมคิดว่ามีโอกาสที่ผู้นำจะเปลี่ยนแปลงได้เสมอ บางทีอาจจะเกิดขึ้นจากการขยายตัวภายใน หรืออาจจะมีการควบรวมกับรายอื่นทำให้สถานะและความสามารถในการแข่งขันเปลี่ยนแปลงไปในเวลาไม่นานนัก


เช่นเดียวกับต่างประเทศ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับอาหาร ค้าปลีก และอาจจะรวมถึงพลังงาน น่าจะเปลี่ยนแปลงไปช้า ผู้นำก็ยังคงเป็นผู้นำ ตำแหน่งทางการตลาด ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ง่าย เช่นเดียวกับผลประกอบการที่มักจะมีความสม่ำเสมอมากกว่าธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว


ธุรกิจไอที สื่อสาร บันเทิง สื่อ และสิ่งพิมพ์ น่าจะเปลี่ยนแปลงที่เร็วพอสมควร โดยเฉพาะช่วงที่มีเทคโนโลยีและการกำกับควบคุมใหม่ๆ เกิดขึ้น ในธุรกิจเหล่านี้ บางทีเราต้องระวังว่าผู้นำอาจจะเพลี่ยงพล้ำและผู้ตามหรือผู้เล่นหน้าใหม่ขึ้นมากลายเป็น "ดารา" ได้


มองในมิติของหุ้น ผมเองไม่ชอบอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว เพราะบริษัทในอุตสาหกรรมจะมีความเสี่ยงมากกว่าปกติ บ่อยครั้งผมจะหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะถ้ากำลังอยู่ในช่วงที่เปลี่ยนแปลงรุนแรง แต่ถ้าผมคิดจะลงทุนในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ผมมัก "ขอส่วนลด" หรือให้ค่า PE ของหุ้นต่ำกว่าหุ้นของบริษัทที่มีสถานะใกล้เคียงกันแต่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ "มั่นคง" กว่า



8 พฤษภาคม 2555

คอลัมน์ โลกในมุมมองของ Value Investor ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร




http://bit.ly/J2XlLp

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 2:28 pm
โดย aonzzung
บทความมาแล้ว

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 3:00 pm
โดย dragonrider
เห็นด้วยครับผม ขอบคุณครับ

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 4:28 pm
โดย harikung
เหมาะกับช่วงนี้จริงๆเลยครับอาจารย์

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 5:14 pm
โดย WorriedInvestor
ขอบคุณ จขกท. และ อ.นิเวศน์ เป็นอย่างยิ่งครับผม

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 6:41 pm
โดย torpongpak
เห็นด้วยเหมาะกับช่วงนี้มากๆครับ หุ้นที่กำลังร้อนเเรงอยู่ช่วงนี้ เป็นเพราะความ"คาดหวัง"ที่เปลี่ยนเเปลงหรือเป็นตัว"ธุรกิจ"ที่เปลี่ยนเเปลงกันเเน่? :wink:

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 7:10 pm
โดย py106
Many thanks for the sharing

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 9:50 pm
โดย chukieat30
เช่นเดียวกับต่างประเทศ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับอาหาร ค้าปลีก และอาจจะรวมถึงพลังงาน น่าจะเปลี่ยนแปลงไปช้า ผู้นำก็ยังคงเป็นผู้นำ ตำแหน่งทางการตลาด ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ง่าย เช่นเดียวกับผลประกอบการที่มักจะมีความสม่ำเสมอมากกว่าธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว

ขอบคุณครับท่านอาจารย์

ธรรมชาติ สอนผมว่า เมื่อมืดก้มีสว่าง เมื่อมีหนาวก้มีร้อน

ครั้งนึง เราเคยมองว่าอาหารจะล้นโลก จนต้องเร่งพัฒนาอุตสาหกรรม

แต่เมื่อ อุตสาหกรรมถึงจุดพีคแล้ว อาหารและการเกษตรกลับขาดแคลน

เฉกเช่นเดียวกับบ้านเราที่ ช่วงนึงปาลม์ขาดจนต้องโค่นยางตอนราคายางตกต่ำไปปลูกปาลม์

แต่พอราคาปาลม์ถูก คนก้จะหันไปปลูกยางแทน

เมื่ออาหารและเกษตร ซึ่งมันเคยเป็นพระอาทิตย์ตกดิน ในสายตาหลายๆคน

มันก้ต้องมีช่วง ที่เป็นพระอาทิตย์ขึ้นครับ

สำหรับอาหารและเกษตร

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 9:58 pm
โดย chukieat30
ผมมองว่า อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ตะวันขึ้นแล้วครับ หลังจากผ่านช่วงตกดิน

คนเราต้อง ทานข้าว ต้องกินอาหาร

ดังนั้น ทั้งน้ำและอาหารจะขาดไม่ได้ จะกุ้งจะหมูจะแพงไก่จะแพงก้ยังต้องกินต่อไป

ประชากรโลกเพิ่มทุกปี แต่พื้นที่การปลูกอาหารลดลงทุกปี

ไม่แน่ว่าในอนาคต อาจจะเป็นแบบที่เค้าว่า food is the last resource.

มีเงิน มีทอง ก้ต้องมีไว้เพื่อซื้ออาหาร

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2012 11:59 pm
โดย KGYF
ขอบคุณมากครับ



:bow: :bow: :bow:

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2012 9:50 am
โดย miracle
มีเกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมชาติของโลก

:)

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2012 11:48 am
โดย tigerroad197
ขอบคุณ ท่านเจ้าของกระทู้ และ ดร.นิเวศน์ ฯ ครับ

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2012 2:04 pm
โดย siamkrub
วิกฤติการเงินรอบใหม่อาจจะเกิดจาก FACEBOOK หรือหุ่นเทคโนโลยีอื่น ๆ

ผมมองว่าตลาดให้ราคาหุ้นเทคโนโลยี เว่อมาก และใช้เงินอย่างบ้าคลั่ง FACEBOOK ซื้อ Instagram โปรแกรม ถ่ายรูปที่เป็นกระแส ชั่วคราวด้วยวงเงินเป้นพันล้าน และซื้อเกมส์ต่าง ๆ มา ใช้เงิน อย่างเยอะ รายได้และกำไรของบริษัท ก็ยังไม่ชัดเลย จะมาจากไหน ผมว่าน่ากลัวและเป็นห่วงบริษัทพวกนี้ :P

ขอบคุณท่านอาจารย์ มุมมองเฉียบคมเสมอครับ

ยังไงค้าปลีก กลุ่มอาหาร กลุ่มสุขภาพ ก็เป็นอะไรที่ยั่งยืนครับ จริงแท้และตลอดไป :mrgreen:

Re: การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2012 11:27 pm
โดย arjin
ขอบคุณสำหรับบทความครับ แต่ขอเพิ่มข้อมูลตรง IBM หน่อย จริงอยู่ว่าวันนี้ IBM ไม่มีบทบาทในฐานะผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แล้ว (ถ้าวัดความใหญ่ ก็สมัยก่อนคอมพิวเตอร์มีสองแบบคือแบบไอบีเอ็มกับแอปเปิลนั่นแหละ) และก็จริงอีกที่ ณ เวลาหนึ่ง Microsoft ขึ้นแซง IBM ด้วยความเป็นบริษัท Software

แต่ความจริงวันนี้คือ IBM เลือกทิ้งอดีตอันยิ่งใหญ่แล้วเปลี่ยนแนวทางธุรกิจเป็นบริษัท IT Solution ผลที่ได้นั้นใหญ่หรือไม่ใหญ่ ก็พิสูจน์ได้จากตอนนี้มูลค่ากิจการในตลาดหลักทรัพย์ IBM ก็แซงหน้า Microsoft ไปแล้ว

การเปลี่ยน Core Business ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาทำให้ IBM มีภาพกลายเป็นบริษัทที่มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงตัวเองได้รวดเร็วตามกับเทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็วแล้วนำเทคโนโลยีมาขายเป็นบริการด้านไอทีให้กับลูกค้า ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลให้ Warren Buffett ตัดสินใจลงทุนใน IBM ถึงกว่าหมื่นล้านเหรียญในปีที่แล้วครับ

IBM เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของบริษัทที่เปลี่ยนตัวเองจากการไล่ล่าขายและผลิตเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ มาเป็นบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีสำหรับองค์กรซึ่งลดความเสี่ยงทางธุรกิจได้มากครับ กำไรและรายได้ของ IBM ช่วงหลายปีให้หลังนั่นค่อนข้างแข็งแรงมาก