สรุป สัมนา Approaching Turning Points By Macquarie&KSEC
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2012 3:51 pm
ผมสรุปเท่าที่ทำได้นะครับถ้าพี่ๆท่านไหน ไปแล้วมีประเด็นที่ผมตกหล่น กรุณานำมา Share ด้วยครับ
สรุป สัมนา
Approaching Turning Points Macquarie Equities Research And KSEC จัดที่ โรงแรม Renaissance Bangkok 3-5-2555 by Peter Eadon-Clarke
• หาก EU ฟื้น จะเป็นเหมือน Japan คงไม่เห็น GDP Growth รออีก 2-3 ปีข้างหน้า EU ถึงจะเติบโตเป็นบวกได้
• ช่วงปี 2000-2004 World Economic เติบโตเป็นบวกพร้อมๆกันแบบ Synchonize ต่อไปจะไม่เห็นภาพแบบนี้อีก ดังนั้นจึงต้องเลือกหุ้นเน้ เป็นราย Sector ไป
• ช่วงปี 2004-2007 ตลาดหุ้นเป็นกระทิงเพราะว่า Earning Revision ของ Analyst ต่างๆเป็นบวกทำให้ หุ้นขึ้น
• นโยบาย การรัดเข็มขัดในประเทศ EU จริงๆแล้ว Peter มองว่าเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า การตัดสินใจด้าน Economic ด้านเดียว
• เรื่องตลาดหุ้นจีน คงจะไปต่อได้แต่สิ่งที่ Peter กังวลคือ ผลประกอบการของหลายๆบริษัทจะไม่ดีตามที่ Analyst คาด ซึ่งจะทำให้ตลาด ปรับฐาน ได้ แนวโน้ม Private Consumption ลดลงในจีนแต่ภาค Investment สูงขึ้น
• ความเสี่ยง EU อยู่ที่ Banking System ว่าจะล้มหรือไม่แต่มาตราการ เพิ่มทุนและ Reserve ต่างๆ คาดว่าจะไม่ทำให้ Banking Sector ล่มสลาย
• น้ำมันเป็น Bullish ขาขึ้น ด้าน Commodity ที่ได้ประโยชน์ก็มี เหล็ก ทองแดง อื่นๆ ที่ได้ประโยชน์ จากภาคการลิต ที่สูงขึ้นใน จีน
กลยุทธ์การลงทุน โดย KSEC
• ไทยฟื้นตัวจากผลกระทบ น้ำถ่วมได้เร็วกว่าคาด GDP คาดว่าจะเพิ่มต่อเนื่อง 2% ใน 1Q55 สู่ระดับ 10% ใน 4Q55
• กำไรของบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง และจะเห็นการปรับประมาณการของบริษัทใน SET50 อีก 1.8% ใน3 เดือนข้างหน้า
• การบริโภคในประเทศแข็งแกร่งจะเห็น กลุ่ม บริโภคในประเทศ เช่น ธนาคาร สื่อสาร ค้าปลีกได้ประโยชน์
• เม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลาง Hub ของ AEC ส่งผลต่อกลุ่ม รับเหมา นิคมอุตสาหกรรม และ ที่เกี่ยวข้อง
• ไตรมาส 3 จะเป็นช่วงผันผวน จากทิศทางค่าเงินบาทและการเข้าสู้ภาวะ Recession อย่างเต็มตัวของบางประเทศใน EU และ ปัญหาเงินเฟ้อหลายๆประเทศ ซึ่งอาจกดดันให้เกิดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ ชะลอมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ KSEC มองเป็นโอกาศการลงทุนที่ดี
• ความขัดแย้งการเมืองลดลง เมื่อรวมGrowth หลัง AEC ในปี 2558 จะทำให้ความสนใจของ ประเทศไทย และ ตลาดทุน สูงขึ้น หุ้น ไทยจะถูกซื้อขายที่ PER สูงขึ้น ระดับ 8-12 X
• ประเมิณ SET Index 1350 จุด ณ PE 13X
• Asia ยังคงเป็นภูมิภาคการเติบโตทางเศรษกิจ GDP โดดเด่นสุด โอกาศที่จะเห็น หุ้นใน ไทยและ Asia Trade ที่ PE สูงกว่า หุ้นที่ EU และ USA เป็นไปได้สูงเพราะมี Earnings Growth and GDP มารองรับ ในขณะที่ฝั่ง EUและ USA นั้น จะไม่เติบโตดังเช่นที่ผ่านมา
• เมื่อพิจารณา Real Return ของการลงทุนในพันธบัตร ประเทศต่างๆ ซึ่งปัจจุบันต่ำมาก จะส่งผลให้ การลงทุนในพันธบัตร จากนี้จะเริ่มเสี่ยงกับการเผชิญอัตราผลตอบแทนติดลบ ช่วงแรก หุ้นอาจได้ผลกระทบจากเงินเฟ้อแต่ระยะยาว หุ้น เป็นการลงทุนที่ดีที่สุดที่ชนะเงินเฟ้อ
• ไทยแนวโน้ม GDP โตมากกว่าเงินเฟ้อ ทำให้ประเด็นเงินเฟ้อไม่มีผลนัก
• หุ้นไทยส่วนใหญ่ยัง trade ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ ต่างประเทศ จีงเริ่ม ถูก re-rate มาซื้อขายในระดับที่สูงขึ้น
ภาพการลงทุนสำหรับช่วงที่เหลือ ปี 2555
• Q2 การเก็งกำไรเป็นบวก จาก ผลประกอบการ Q 1 ที่ออกมา ดี ปัญหาหนี้ EU เริ่มคลี่คลาย World Econ เริ่มฟื้น มอง SET INDEX ทำ New High ทดสอบที่ 1250 จุด
• Q3 ตลาดจะผันผวนทิศทางขาลง จากการ สิ้นสุดกระตุ้น Econ ของ เมกา และ EU เข้าสู่ Recession ในบางประเทศ SET INDEX อาจลงทดสอบ 1100 จุด
• Q4 USA Econ จะฟื้นตัวอย่างเด่นชัด และ Asian Economic จะเป็นขาขึ้นอีกครึ้งหลังชะลอตัวมาระยะ 1
คาด SET ทดสอบ 1350 จุด
ความเสี่ยง
KSEC มอง เรื่องการเมือง เงินเฟ้อ และ Exit Strategy คือการดึงเงินออกจากระบบ แต่คาดว่าจะไม่เกิดก่อนการเลือกตั้ง ประธานาธิปดี พ.ย. 2555
กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก AEC โดย KSEC
ยานยนต์
STANLY SAT
อาหาร เกษตร
CPF TUF KSL
โรงพยาบาล
BGH BH
โรงแรม
CENTEL MINT
พาณิชย์
CPALL HMPRO ROBINS
นิคม
AMATA HEMRAJ TICON
รับเหมา
CK STEC
พลังงานปิโตร
PTT SCC BANPU
ขนส่ง
AOT THAI TTA
สรุป สัมนา
Approaching Turning Points Macquarie Equities Research And KSEC จัดที่ โรงแรม Renaissance Bangkok 3-5-2555 by Peter Eadon-Clarke
• หาก EU ฟื้น จะเป็นเหมือน Japan คงไม่เห็น GDP Growth รออีก 2-3 ปีข้างหน้า EU ถึงจะเติบโตเป็นบวกได้
• ช่วงปี 2000-2004 World Economic เติบโตเป็นบวกพร้อมๆกันแบบ Synchonize ต่อไปจะไม่เห็นภาพแบบนี้อีก ดังนั้นจึงต้องเลือกหุ้นเน้ เป็นราย Sector ไป
• ช่วงปี 2004-2007 ตลาดหุ้นเป็นกระทิงเพราะว่า Earning Revision ของ Analyst ต่างๆเป็นบวกทำให้ หุ้นขึ้น
• นโยบาย การรัดเข็มขัดในประเทศ EU จริงๆแล้ว Peter มองว่าเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า การตัดสินใจด้าน Economic ด้านเดียว
• เรื่องตลาดหุ้นจีน คงจะไปต่อได้แต่สิ่งที่ Peter กังวลคือ ผลประกอบการของหลายๆบริษัทจะไม่ดีตามที่ Analyst คาด ซึ่งจะทำให้ตลาด ปรับฐาน ได้ แนวโน้ม Private Consumption ลดลงในจีนแต่ภาค Investment สูงขึ้น
• ความเสี่ยง EU อยู่ที่ Banking System ว่าจะล้มหรือไม่แต่มาตราการ เพิ่มทุนและ Reserve ต่างๆ คาดว่าจะไม่ทำให้ Banking Sector ล่มสลาย
• น้ำมันเป็น Bullish ขาขึ้น ด้าน Commodity ที่ได้ประโยชน์ก็มี เหล็ก ทองแดง อื่นๆ ที่ได้ประโยชน์ จากภาคการลิต ที่สูงขึ้นใน จีน
กลยุทธ์การลงทุน โดย KSEC
• ไทยฟื้นตัวจากผลกระทบ น้ำถ่วมได้เร็วกว่าคาด GDP คาดว่าจะเพิ่มต่อเนื่อง 2% ใน 1Q55 สู่ระดับ 10% ใน 4Q55
• กำไรของบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง และจะเห็นการปรับประมาณการของบริษัทใน SET50 อีก 1.8% ใน3 เดือนข้างหน้า
• การบริโภคในประเทศแข็งแกร่งจะเห็น กลุ่ม บริโภคในประเทศ เช่น ธนาคาร สื่อสาร ค้าปลีกได้ประโยชน์
• เม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลาง Hub ของ AEC ส่งผลต่อกลุ่ม รับเหมา นิคมอุตสาหกรรม และ ที่เกี่ยวข้อง
• ไตรมาส 3 จะเป็นช่วงผันผวน จากทิศทางค่าเงินบาทและการเข้าสู้ภาวะ Recession อย่างเต็มตัวของบางประเทศใน EU และ ปัญหาเงินเฟ้อหลายๆประเทศ ซึ่งอาจกดดันให้เกิดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ ชะลอมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ KSEC มองเป็นโอกาศการลงทุนที่ดี
• ความขัดแย้งการเมืองลดลง เมื่อรวมGrowth หลัง AEC ในปี 2558 จะทำให้ความสนใจของ ประเทศไทย และ ตลาดทุน สูงขึ้น หุ้น ไทยจะถูกซื้อขายที่ PER สูงขึ้น ระดับ 8-12 X
• ประเมิณ SET Index 1350 จุด ณ PE 13X
• Asia ยังคงเป็นภูมิภาคการเติบโตทางเศรษกิจ GDP โดดเด่นสุด โอกาศที่จะเห็น หุ้นใน ไทยและ Asia Trade ที่ PE สูงกว่า หุ้นที่ EU และ USA เป็นไปได้สูงเพราะมี Earnings Growth and GDP มารองรับ ในขณะที่ฝั่ง EUและ USA นั้น จะไม่เติบโตดังเช่นที่ผ่านมา
• เมื่อพิจารณา Real Return ของการลงทุนในพันธบัตร ประเทศต่างๆ ซึ่งปัจจุบันต่ำมาก จะส่งผลให้ การลงทุนในพันธบัตร จากนี้จะเริ่มเสี่ยงกับการเผชิญอัตราผลตอบแทนติดลบ ช่วงแรก หุ้นอาจได้ผลกระทบจากเงินเฟ้อแต่ระยะยาว หุ้น เป็นการลงทุนที่ดีที่สุดที่ชนะเงินเฟ้อ
• ไทยแนวโน้ม GDP โตมากกว่าเงินเฟ้อ ทำให้ประเด็นเงินเฟ้อไม่มีผลนัก
• หุ้นไทยส่วนใหญ่ยัง trade ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ ต่างประเทศ จีงเริ่ม ถูก re-rate มาซื้อขายในระดับที่สูงขึ้น
ภาพการลงทุนสำหรับช่วงที่เหลือ ปี 2555
• Q2 การเก็งกำไรเป็นบวก จาก ผลประกอบการ Q 1 ที่ออกมา ดี ปัญหาหนี้ EU เริ่มคลี่คลาย World Econ เริ่มฟื้น มอง SET INDEX ทำ New High ทดสอบที่ 1250 จุด
• Q3 ตลาดจะผันผวนทิศทางขาลง จากการ สิ้นสุดกระตุ้น Econ ของ เมกา และ EU เข้าสู่ Recession ในบางประเทศ SET INDEX อาจลงทดสอบ 1100 จุด
• Q4 USA Econ จะฟื้นตัวอย่างเด่นชัด และ Asian Economic จะเป็นขาขึ้นอีกครึ้งหลังชะลอตัวมาระยะ 1
คาด SET ทดสอบ 1350 จุด
ความเสี่ยง
KSEC มอง เรื่องการเมือง เงินเฟ้อ และ Exit Strategy คือการดึงเงินออกจากระบบ แต่คาดว่าจะไม่เกิดก่อนการเลือกตั้ง ประธานาธิปดี พ.ย. 2555
กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก AEC โดย KSEC
ยานยนต์
STANLY SAT
อาหาร เกษตร
CPF TUF KSL
โรงพยาบาล
BGH BH
โรงแรม
CENTEL MINT
พาณิชย์
CPALL HMPRO ROBINS
นิคม
AMATA HEMRAJ TICON
รับเหมา
CK STEC
พลังงานปิโตร
PTT SCC BANPU
ขนส่ง
AOT THAI TTA