[กฏหมาย] เครดิตภาษี สำหรับชาวไทยที่อยู่ในไทยน้อยกว่า 180 วัน
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2012 4:36 pm
เกี่ยวกับ "มาตรา 47 ทวิ และมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร" ครับ
จากเดิมผมเข้าใจว่า "ผู้มีเงินได้ที่เป็นอยู่ในประเทศไทยถึง 180 วันในปีภาษี หรือผู้ที่มีภูมิลำเนาในประเทศไทย" นั้นมีสิทธิที่จะได้รับเครดิตภาษีในสิ้นปี สรุปคือ
1. ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยเกิน 180 วันและมีรายได้ในปีภาษี
2. ชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทยเกิน 180 วันและมีรายได้ในปีภาษี
3. ชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทยน้อยกว่า 180 วันและมีรายได้ในปีภาษี
กรณี 1, 2 และ 3 นั้น มีสิทธิ์ที่จะรับเครดิตภาษีจากปันผลหุ้นคืน
แต่มีทนายทักท้วงมาว่า จากตัวอย่างคดีและการพิจารณาตัดสินของศาลฎีกา (สักแห่ง) บอกไว้ว่า ผู้ที่จะมีสิทธิ์ขอเครดิตภาษีคืนนั้นจะต้องเป็น "ผู้มีเงินได้ที่เป็นอยู่ในประเทศไทยถึง 180 วันในปีภาษี และผู้ที่มีภูมิลำเนาในประเทศไทย" กล่าวคือ เฉพาะกรณี 1 และ 2 ในขั้นต้นเท่านั้นที่จะได้เครดิตภาษี
นั่นก็คือ ชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทยน้อยกว่า 180 วันของปีภาษีนั้น จะไม่มีสิทธิ์ได้รับภาษีคืน
จากที่ลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตแล้ว ผมพบคำตอบที่ขัดแย้งกัน บ้างก็ว่าได้เครดิตภาษี บ้างก็ว่าไม่ได้ ไม่ทราบว่ามีผู้ใดพอทราบคำตอบที่ชัดเจนของกรณีนี้ ถ้าได้ความเห็นจากนักกฏหมายหรือแหล่งอ้างอิงก็จะดีมากเลยครับ
ขอบคุณครับ
จากเดิมผมเข้าใจว่า "ผู้มีเงินได้ที่เป็นอยู่ในประเทศไทยถึง 180 วันในปีภาษี หรือผู้ที่มีภูมิลำเนาในประเทศไทย" นั้นมีสิทธิที่จะได้รับเครดิตภาษีในสิ้นปี สรุปคือ
1. ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยเกิน 180 วันและมีรายได้ในปีภาษี
2. ชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทยเกิน 180 วันและมีรายได้ในปีภาษี
3. ชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทยน้อยกว่า 180 วันและมีรายได้ในปีภาษี
กรณี 1, 2 และ 3 นั้น มีสิทธิ์ที่จะรับเครดิตภาษีจากปันผลหุ้นคืน
แต่มีทนายทักท้วงมาว่า จากตัวอย่างคดีและการพิจารณาตัดสินของศาลฎีกา (สักแห่ง) บอกไว้ว่า ผู้ที่จะมีสิทธิ์ขอเครดิตภาษีคืนนั้นจะต้องเป็น "ผู้มีเงินได้ที่เป็นอยู่ในประเทศไทยถึง 180 วันในปีภาษี และผู้ที่มีภูมิลำเนาในประเทศไทย" กล่าวคือ เฉพาะกรณี 1 และ 2 ในขั้นต้นเท่านั้นที่จะได้เครดิตภาษี
นั่นก็คือ ชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทยน้อยกว่า 180 วันของปีภาษีนั้น จะไม่มีสิทธิ์ได้รับภาษีคืน
จากที่ลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตแล้ว ผมพบคำตอบที่ขัดแย้งกัน บ้างก็ว่าได้เครดิตภาษี บ้างก็ว่าไม่ได้ ไม่ทราบว่ามีผู้ใดพอทราบคำตอบที่ชัดเจนของกรณีนี้ ถ้าได้ความเห็นจากนักกฏหมายหรือแหล่งอ้างอิงก็จะดีมากเลยครับ
ขอบคุณครับ