Thai VI

เห็นนักลงทุนรายใหญ่พูดออกมาในงานสัมมนา แล้วอดฝันไม่ได้ มานั่งคิดง่ายง่าย หลายคนคิดเหมือนกันว่า แล้ว P/E จะตามทันได้ไง อย่างไรก็ดีแล้วหุ้นเราจะเท่านี้เหรออีก 5 ปี หุ้นอินโด เกาหลี เมื่อก่อนก็เท่าเรา ไม่ถึง 1,000 แล้วทำไมเค้าวิ่งไปไกลแล้ว หรือเพราะว่า เกาหลีมี global stock อย่าง samsung หรือ หลาย industry ของเรามีแค่พลังงาน แบงค์ ใหม่ก็มีก็มีหุ้นอาหารอย่าง CPF take over ใหญ่ แบบ global เกิดขึ้นมา หรือ หุ้น ICT มีแค่ 3G, พลังงานทดแทนคงยาก จะมี industry ไหน drive ตลาด ขึ้นมาน้อ

ฝรั่งจะเอาเงินเข้ามาเยอะ แล้วออกไปแบบช่วงเวลาสั้นสั้น เหมือนที่ผ่านมามั้ยเหนอ

The only reason Indonesia and South Korea develop more rapidly is because they are doing things that Thailand is not doing. Thailand cant even do simple things like getting 3G or cleaning out corruption or even improving education. We dont encourage our people to work hard or our students to study hard. Thailand sabai sabai forever.....Thailand has the most potential due to our geographical location and abundant natural resources.....the only problem is our human resources. I find it very hard for the index to go up if it did go past 1500 i would just dump my whole portfolie and wait for the crash. Sorry its in english typing on a smartphone.

Unstablemind เขียน:The only reason Indonesia and South Korea develop more rapidly is because they are doing things that Thailand is not doing. Thailand cant even do simple things like getting 3G or cleaning out corruption or even improving education. We dont encourage our people to work hard or our students to study hard. Thailand sabai sabai forever.....Thailand has the most potential due to our geographical location and abundant natural resources.....the only problem is our human resources. I find it very hard for the index to go up if it did go past 1500 i would just dump my whole portfolie and wait for the crash. Sorry its in english typing on a smartphone.

ผมค่อนข้างจะเห็นต่างเรื่องการศึกษาซึ่งผมคิดว่าเด็กไทย ณ ตอนนี้เรียนหนักมาก เช้าถึงดึกเรียนตลอด
และผมคิดว่า สาเหตุส่วนใหญ่ที่ตลาดไม่สามารถขึ้นไปเป็นหลายพันจุดได้เพราะบริษัทใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ในประเทศที่อยู่นอกตลาดสามารถระดมทุนได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตลาดทุนและยังต้องการที่จะบริหารภายใต้การนำของคนในตระกูลทำให้ ตลาดทุนในไทยไม่สามารถโตได้แบบต่างประเทศ และอีกเรื่องหนึ่งก็คือที่คุณบอกว่า ตลาดขึ้นไปเกิน1500จุดแล้วจะล้างเลยนี้ ผมว่าอาจจะประเมินหลวมไปหน่อยเพราะหาก ณ ตอนนั้น พีอี ตลาด = 5 เป็นผมก็ยังไม่ไปไหนครับ

ราคาทุกอย่างเป็นค่าเปรียบเทียบระหว่างค่าเงินกับค่าสิ่งนั้น
ยิ่งตอนนี้ประเทศพัฒนาแล้วค่าเงินจะอ่อนไปเรื่อยๆ
เพราะคนในประเทศนั้นไม่มีงานทำเพราะค่าแรงสูงเกินไป
อุตสาหกรรมตั้งแต่ไม้ตียุงไปจนกระทั่งดาวเทียมจะถูกจีนและอินเดียแย่งไปทำหมด
การแก้ปัญหาของประเทศรวยถ้ามันล้มละลาย มันจะพร้อมใจกันลดค่าเงิน
ถ้าประเทศจนล้มละลายมันจะบังคับให้ประเทศจนขายทรัพย์สิน และทรัพยกรในราคาถูกๆ
เมื่อค่าเงินประเทศรวยลดลง ค่าเงินของทุกประเทศในโลกก็ลดตาม
set 2000 จุด ผมว่ามันจะไปถึงก่อน 5ปีด้วยซ้ำ ไม่น่าตื่นเต้นอะไร

คุณพี่คนคอนอนผมอาจจะมองแง่ลบในเรื่องการศึกษาไทยไปหน่อยเพราะตอนนี้ผมก็เรียนอยู่ ม มหิดล เซ็งๆต้องมาทบทวนสอบ final ช่วงปีใหม่คนไทย
แต่ก็ต้องขอบคุณเรื่องที่บอกว่าถ้าพีอี5ก็ไม่ทิ้งแต่ถ้าพีอี30คงต้องประเมิณใหม่แต่การที่ตลาดหุ้นบ้านเราจะเพิ่มมูลค่าได้ผมก็ยังคงมองไม่ออก มันจะถึง 2000 ได้หรอคงต้องรอดูกันต่อไป

อาจจะต้องแวะไปที่ 500 ก่อน (มั้งครับ)

ถ้ามองจริงๆ นะครับ ดัชนีอาจเป็นแค่ส่วนเดียวต้องดู market cap. ด้วยเหมือนกันถ้าเทียบกับสมัยก่อน 1700 ตอนนี้ market cap. สูงกว่านะครับ น่าจะประมาณ 3 เท่าตัวได้ แล้วเรื่องอื่นๆก็มีพวกบริษัทใหญ่ๆบางทีจะเข้าก็เข้าไม่ได้เช่น ThaiBev

อย่างไรก็ตามถ้าอยากให้ดัชนีไปสูงๆก็ต้องให้เข้า IPO ที่ต่ำหน่อยตอนคิดมูลค่าเริ่มต้นจะได้ไม่สูงมาก + การพัฒนาของบริษัทให้โตอย่างยั่งยืน ไม่ต้องถึงระัดับโลกก็ได้ให้ได้ระดับ Asia ก่อน

เรื่องการศึกษา ผมว่าเราก็เก่งๆเยอะนะพวกที่ได้เหรียญโอลิมปิกต่างๆ ทั้ง เลข เคมี ฟิสิกส์ อย่างไรก็ตามไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเด็กส่วนใหญ่ถึงไม่ชอบคำนวน ไปเรียนสายศิลป์ซะส่วนใหญ่ อันนี้น่าจะเป็นเหตุให้เราขาดด้านการพัฒนา Technology ที่สร้าง value added ได้สูง ครับ

ถ้าคิดให้ eps ที่ growth เฉลี่ยปีละ 15 - 20% ประมาณ 4 ปี set ก็ทะลุ 2000 จุดแล้วครับ

prichar s. เขียน:ถ้าคิดให้ eps ที่ growth เฉลี่ยปีละ 15 - 20% ประมาณ 4 ปี set ก็ทะลุ 2000 จุดแล้วครับ

ถ้าใช้วิธีแบบนี้คิด ผมว่า 4 ปีมันจะไม่ถึง 2,000 นะสิครับ
เพราะว่า GDP ของเราไม่น่าจะโตได้ 15-20% ต่อเนื่องทุกปีแบบนี้


เอ๊ะ.... หรือว่ามันกำลังจะเกิด !!

2000 จุดภายใน 5 ปี ดูแล้วเป็นไปได้ยากอยู่ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นภายใน 10 ปี ผมว่าเป็นไปได้ครับ
ปัจจัยที่จะทำให้ดัชนีขึ้นไปได้สูง นอกจากการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ก็มี การที่มีบริษัทเข้า IPO ในตลาดมากขึ้นครับ

narongthb เขียน:เห็นนักลงทุนรายใหญ่พูดออกมาในงานสัมมนา แล้วอดฝันไม่ได้ มานั่งคิดง่ายง่าย หลายคนคิดเหมือนกันว่า แล้ว P/E จะตามทันได้ไง อย่างไรก็ดีแล้วหุ้นเราจะเท่านี้เหรออีก 5 ปี หุ้นอินโด เกาหลี เมื่อก่อนก็เท่าเรา ไม่ถึง 1,000 แล้วทำไมเค้าวิ่งไปไกลแล้ว หรือเพราะว่า เกาหลีมี global stock อย่าง samsung หรือ หลาย industry ของเรามีแค่พลังงาน แบงค์ ใหม่ก็มีก็มีหุ้นอาหารอย่าง CPF take over ใหญ่ แบบ global เกิดขึ้นมา หรือ หุ้น ICT มีแค่ 3G, พลังงานทดแทนคงยาก จะมี industry ไหน drive ตลาด ขึ้นมาน้อ

ฝรั่งจะเอาเงินเข้ามาเยอะ แล้วออกไปแบบช่วงเวลาสั้นสั้น เหมือนที่ผ่านมามั้ยเหนอ

ลองย้อนกลับไปดูสิครับว่าซัก 5 ครั้งก่อนหน้าครั้งนี้เค้า "ทำนาย" ว่าจะไปกี่จุดบ้างแต่ละครั้ง

ฝันสลาย

และที่สำคัญแม้ดัชนีไป 2000 จุดจริง หลายคนก็จะยังขาดทุนจากการ "เล่นหุ้น"

พูดถึงเรื่องเรียนหนัก ทำให้นึกถึงคำพูดของไอน์สไตน์ที่ว่า
"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"

ยิ่งเห็นลูกต้องไปกวดวิชาหามรุ่งหามคำเพื่อสอบเข้าโรงเรียนหรือมหาลัยดังๆ
ก็ยิ่งอดคิดไม่ได้ว่า จะมีโรงเรียนไว้ทำอะไร

แล้วก็เตลิดคิดไปถึงคนอย่างคุณตัน คุณต๊อบ สตีฟ จ็อบ บิลล์ เกตต์
ว่าถ้าพวกเค้าเอาเวลาคิดค้นนวัตกรรม ไปท่องตำราเป็นนกแก้วนกขุนทอง จะมีวันนี้หรือไม่

แค่คำบ่นของคนขวางโลกนะครับ ไม่มีเจตนาจะว่าใคร

แล้วก็เตลิดคิดไปถึงคนอย่างคุณตัน คุณต๊อบ สตีฟ จ็อบ บิลล์ เกตต์
ว่าถ้าพวกเค้าเอาเวลาคิดค้นนวัตกรรม ไปท่องตำราเป็นนกแก้วนกขุนทอง จะมีวันนี้หรือไม่

ขอแก้ข้อความสีแดงเป็น ทำในสิ่งที่เชื่อ น่าจะตรงความหมายกว่าครับ