หน้า 1 จากทั้งหมด 2

ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 01, 2012 9:08 pm
โดย little wing

โค้ด: เลือกทั้งหมด

โลกในมุมมองของ Value Investor           1 เมษายน 2555
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

	ในเรื่องของการลงทุนในหุ้นนั้น  นักวิชาการจำนวนมากมักจะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่  “เสี่ยง”  กว่าการลงทุนในพันธบัตร  เงินฝากธนาคาร  หุ้นกู้  เพราะที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเงินต้นจะยัง  “อยู่ครบ”  เสมอ  พร้อมกับดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแน่นอน   นอกจากนั้น  หุ้นก็ยังถูกมองว่ามีความเสี่ยงกว่าที่ดินหรือทองคำในสายตาของคนทั่วไปในแง่ที่ว่า   ทั้งสองอย่างนั้น  “จับต้องได้และไม่สึกหรอ”  และมันรักษาคุณค่าของมันได้เสมอ  ราคาทองคำและที่ดินมีแต่จะ  “เพิ่มขึ้น”  แม้ว่าในช่วงหลังนี้ราคาทองคำอาจจะมีการ “ปรับตัวลงบ้าง” ในระยะสั้น ๆ  แต่ในระยะยาวแล้ว  มัน “ไม่เสี่ยง”  ผิดกับหุ้นที่ราคาขึ้นลงทุกวัน   หุ้นบางตัวนั้น   ราคาตกลงไปมากในเวลาสั้น ๆ  จนแทบจะหมดค่า   หุ้นสำหรับบางคนนั้นคงเหมือนกับ  “กระดาษ”  ที่ราคาขึ้นลงได้รวดเร็ว  บางครั้งขึ้นไปหลายเท่าได้ในเวลาอันสั้น   แต่บางครั้งก็สามารถตกลงมาได้มากมายแทบจะไม่มีค่าเหมือน  “กระดาษ”   ดังนั้น  หุ้นจึงเป็นอะไรที่ “เสี่ยงมาก”
	ข้างต้นนั้นก็เป็นการวิเคราะห์เรื่องของความเสี่ยงในบางมิติ  นั่นก็คือ  เป็นการวิเคราะห์โดยอิงอยู่กับการลงทุน  “ระยะสั้น”  และเป็นการมองทรัพย์สินหรือหุ้นเป็น  “รายตัว”  แต่ถ้าเรามองการลงทุนเป็น  “ระยะยาว”  และลงทุนในทรัพย์สินหรือหุ้นเป็นแบบ  “พอร์ตโฟลิโอ”  หรือกระจายการลงทุนโดยการถือทรัพย์สินหรือหุ้นเป็นกลุ่ม   เรื่องของความเสี่ยงก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง  เหตุผลสำคัญก็คือ  ในระยะยาวแล้ว  มิติสำคัญที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกตัวหนึ่งก็คือ  “อัตราเงินเฟ้อ”  เพราะนี่จะทำให้เงินมีค่าลดลงแม้ว่าเม็ดเงินของเราจะยังอยู่ครบ  ตัวอย่างเช่น  ถ้าสมมุติว่าในอีก 20 ปีข้างหน้าอัตราเงินเฟ้อเท่ากับปีละ 3%  แต่เงินลงทุนของเราได้ผลตอบแทนปีละ 2%  เมื่อครบ 20 ปี  เงินลงทุนของเราจะโตขึ้นจาก 100 บาท  เป็น  149 บาท  แต่ในวันนั้น  สินค้าจะขึ้นราคาจาก 100 บาท  เป็น 181 บาท  ทำให้เรา  “ขาดทุน”  32 บาท หรือซื้อของได้น้อยลงไปประมาณ 18%  และนี่ก็คือความเสี่ยงของการถือทรัพย์สินที่มีมูลค่าคงที่แต่ไม่เติบโตหรือเติบโตช้ากว่าเงินเฟ้อในระยะยาว
	มิติของการลงทุนแบบ  “พอร์ตโฟลิโอ”  นั้น   ช่วยให้การลงทุนมี  “ความผันผวน”  น้อยลงมากทั้งในระยะสั้นและระยะยาว  การลงทุนในทรัพย์สินอย่างอื่นนั้น  อาจจะมองได้ไม่ชัด   แต่การลงทุนในหุ้นนั้น  ถ้าเราลงทุนในหุ้นเพียงตัวเดียว  ความเสี่ยงจะสูงมาก  เนื่องจากหุ้นตัวนั้นอาจจะประสบปัญหารุนแรงได้  กิจการอาจจะเจ๊งไปและทำให้ราคาหุ้นกลายเป็นศูนย์   แต่ถ้าเราถือหุ้นหลาย ๆ  ตัว  โอกาสที่ทุกกิจการจะล้มละลายมีน้อยมาก  ดังนั้น  ราคาของหุ้นก็จะคละเคล้ากันไป  บางตัวดี  บางตัวอาจจะไม่ค่อยดี  แต่โดยรวมแล้ว  ราคาหุ้นก็จะเปลี่ยนแปลงไปไม่มากนัก   อย่างไรก็ตาม  ในระยะสั้น  แม้ว่าเราจะถือหุ้นเป็นพอร์ตหลาย ๆ  ตัวหรือถือกองทุนรวมที่มีหุ้นจำนวนมาก  มูลค่าหุ้นก็อาจจะลดลงได้เนื่องจากปัจจัยร้อยแปด   แต่ในระยะยาวแล้ว  มูลค่าหุ้นโดยรวมก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย  และถ้าเราสามารถถือหุ้นได้ถึง 20 ปี  โอกาสที่มูลค่าหุ้นจะลดลงนั้นน้อยมาก  ในทางตรงกันข้าม  โอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปสูงจะมีมาก  โดยเฉลี่ยแล้ว  ผลตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณ  10% ต่อปี  เงิน  100 บาทจะกลายเป็นประมาณ 673 บาทในเวลา 20 ปี  เทียบกับการฝากเงินที่เราจะได้ประมาณ 149 บาทแล้ว  ต้องบอกว่าการลงทุนในหุ้นนั้น  ดีกว่ามากถ้าเรามีเวลาลงทุนถึง 20 ปี หรือเป็นการลงทุนระยะยาว
	ข้อสรุปในขั้นนี้ก็คือ  ถ้าเรามีเวลาลงทุนถึง 20 ปีแล้ว  การลงทุนในหุ้น  โดยการลงทุนแบบเป็นพอร์ตโฟลิโอหรือถือกองทุนรวม  จะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดโดยที่มีความเสี่ยง  “ต่ำที่สุด”  และนี่ทำให้เราควรถือหุ้นเป็นสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับทรัพย์สินอย่างอื่น  มากเท่าไรนั้นคงขึ้นอยู่กับความมั่งคั่งและความรู้เกี่ยวกับการลงทุนของแต่ละคน  แต่ใจผมคิดว่าอย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า 50%  ของทรัพย์สมบัติที่มีอยู่  และคนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนเป็นอย่างดีจะมีหุ้นเกิน 90%  ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
	ประเด็นสำคัญต่อมาก็คือ  คนมักจะคิดว่าตนเองแก่แล้วหรือมีอายุมากแล้ว  การลงทุนในหุ้นอาจจะเป็นเรื่องที่  “สายเกินไป”  แล้ว  เขาไม่มีเวลา  10 หรือ 20 ปี ที่จะทำให้การลงทุนในหุ้นเป็นเรื่องที่  “ไม่เสี่ยง”  ดังนั้น  เขาขอฝากเงินหรือซื้อพันธบัตรดีกว่า  นี่อาจจะเป็นเรื่องที่  “ผิดพลาด”  เรามาดูกันว่าเพราะอะไร?
	เรื่องที่ทำให้คนคิดผิดน่าจะอยู่ที่ประเด็นของ  “อายุเกษียณ”  หรือเวลาเลิกทำงานที่มักกำหนดไว้ที่ 60  ปี  นี่ทำให้เรารู้สึกว่าเราแก่แล้วตั้งแต่อายุใกล้เกษียณที่ 50 ปีขึ้นไป  แต่ความเป็นจริงก็คือ  อายุของคนกำลังยืนขึ้นเรื่อย ๆ  เช่นเดียวกับสุขภาพก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ  และผมคิดว่า  คนรุ่นนี้จำนวนมากน่าจะมีอายุถึง 80 ปีขึ้นไปก่อนตาย  นอกจากนั้น  ความสามารถในการลงทุนในหุ้นก็น่าจะทำได้จนถึงอายุ 80 ปี  และนี่ทำให้ผมคิดว่าการวางแผนเกี่ยวกับการลงทุนของเรานั้น  เราควรกำหนดว่าเราจะลงทุนจนถึงอายุ 80 ปี  และถ้าเป็นเช่นนั้น  คนส่วนใหญ่ที่ยังไม่เกษียณในวันนี้หรือแม้แต่คนที่กำลังเกษียณจึงมีเวลาที่จะลงทุนอีกถึง 20 ปี  ซึ่งทำให้การลงทุนในหุ้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด
	คำแนะนำของผมสำหรับคนที่คิดว่าตนเอง  “แก่” เกินที่จะเริ่มลงทุนก็คือ  การลงทุน  โดยเฉพาะในแนว  Value Investment นั้น  ไม่ได้ยากหรือใช้พลังอะไรมากมายนักแต่มันใช้ความสุขุมรอบคอบและใจเย็นยึดมั่นศรัทธาในสิ่งที่เราเห็นว่าถูกต้องซึ่งสิ่งเหล่านี้คนมีอายุไม่ได้เสียเปรียบคนหนุ่มสาวเลย  ดังนั้น  คนแก่ทำได้แน่นอน  แต่จริง ๆ  แล้วบางทีคุณอาจจะไม่ได้แก่อย่างที่คุณคิด  และถ้าคุณสามารถลงทุนได้อีกถึง 20 ปี  คุณก็สามารถเริ่ม “อาชีพใหม่”  นี้ได้แม้ว่าคุณจะอายุ 60 ปีแล้ว  และถ้าคุณทำได้ดี  โอกาสที่คุณจะเป็น  “เซียน”  และมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมหาศาลก็ยังมีอยู่
	พูดถึงเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึง  แอนน์ ไชเบอร์ ซึ่งผมเคยเขียนถึงนานมาแล้วว่า  เธอน่าจะเป็น “ไอดอล” ของนักลงทุน  “คนแก่”  ทั่วโลก  เพราะเธอเริ่มลงทุนเมื่ออายุ 50 ปี โดยที่เธอเป็นเพียงเสมียนและมีเงินเดือนน้อยมากไม่ต้องพูดถึงความรู้ในการเลือกหุ้น  เธอเริ่มจากเงินประมาณ 5,000 ดอลลาร์ โดยลงทุนซื้อหุ้นที่เป็น  “ซุปเปอร์สต็อก” ที่ผลิตและขายสินค้าที่เธอรู้จักดีเช่น โคคาโคลา   บริษัทยาเช่นเชอริงพลาวก์  เธอซื้อแล้วก็เก็บ  ติดตามดูกิจการของบริษัทไปเรื่อย ๆ  เมื่อได้เงินปันผลมาก็ลงทุนเพิ่มในหุ้นทบต้นไปเรื่อย ๆ  สุดท้ายในวันที่เธอตาย  ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านเหรียญ ซึ่งเธอบริจาคให้กับโรงพยาบาลหมดเนื่องจากเธอไม่เคยแต่งงานและไม่มีญาติพี่น้อง  สิ่งที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จระดับนั้นก็คือ  เวลาในการลงทุนอีก 51 ปี เพราะเธอตายตอนอายุ 101 ปี และผลตอบแทนที่เธอทำได้คือเฉลี่ยปีละประมาณ 17-18%   ซึ่งก็เป็นผลตอบแทนที่ดีมาก ๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ Value Investor มีโอกาสทำได้
	คนมักจะถามว่า  แก่แล้วจะหาเงินมาก ๆ  ไปทำอะไร  ได้แล้วก็  “ไม่มีโอกาสใช้”   หรือคนที่มีเงินเก็บ  “พอดี ๆ” ก็อาจจะกลัวว่าจะขาดทุนจากหุ้นแล้วเงินจะไม่เหลือพอใช้จนตาย   คำตอบของผมก็คือ  เราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร  เราอาจจะคำนวณว่าเราจะตายเมื่ออายุ 80 ปี  แต่เราอาจจะอยู่จนถึง 100 ปีก็ได้   และเมื่อถึงเวลานั้นเรายังจะมีเงินพอใช้หรือไม่?  ดังนั้น  การไม่ลงทุนในหุ้นจึงอาจจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงพอ ๆ หรือมากกว่าการลงทุนในหุ้นก็ได้  ข้อสรุปสุดท้ายของผมก็คือ  มีโอกาสสูงที่คุณควรลงทุนในหุ้นแม้ว่าคุณจะอายุมากแล้ว  ไม่มีคำว่าสายเกินไป
[/size]

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 01, 2012 9:23 pm
โดย rerkit
ขอบคุณบทความดี ๆ ครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 01, 2012 9:29 pm
โดย imerlot
ขอบคุณครับ..ดร.
Anne Scheiber
http://money.cnn.com/magazines/moneymag ... /index.htm

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 01, 2012 10:18 pm
โดย MYBIZ
ขอบคุณครับสำหรับความรู้ดีๆ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 01, 2012 10:28 pm
โดย ลูกเต่า
ยอดเยี่ยมเช่นเดิมครับ :wink:

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 01, 2012 10:38 pm
โดย pakhakorn
กระตุ้นความคิดและมุมมองดีจริงๆ แผนชีวิตที่ " ไม่มีคำว่าสาย "

ชอบมาก ครับ แตกต่างจากที่ได้ยิน ได้ฟังมาบ่อยๆ จริงๆ

ขอบคุณ ท่าน ดร. มากๆ และคุณ little wing ด้วย ครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 7:16 am
โดย Oatarm
การลงทุนแบบ อาวุโส OK. ไม่จำกัดอายุ เมือ่จากไปก็ยังมีเงินปันผลให้ลูกหลานทุกปี

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 8:58 am
โดย springs
เป็นบทความที่ให้กำลังใจสำหรับคนที่กำลังจะท้อแท้เนื่องจากอายุมากๆครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 9:04 am
โดย caffeol
ขอบคุณครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 9:05 am
โดย dragonrider
กว่าที่ผมจะเข้ามาสู่การลงทุนก็อายุ 33 แล้ว บ่อยครั้งที่คิดว่าน่าจะเข้ามา
เร็วกว่านี้ เห็นหลายคนยังเด็กแต่ก็เริ่มลงทุนกันแล้ว พอมาคิดอีกทีก็คิดว่า
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยหลายอย่างมันเปลี่ยนไป ถ้าข้อมูลข่าวสารต่างๆ ยัง
เข้าถึงยาก และ มาตรฐานบัญชี ยังไม่มีระบบอย่างปัจจุบัน การลงทุนก็อาจไม่
ได้ต้อนรับนักลงทุนรุ่นใหม่ๆ อายุน้อยๆ เหมือนอย่างปัจจุบัน

คิดอีกทีก็อาจเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองก็ได้ ที่เริ่มลงทุนในช่วงที่
วัยอยู่ในช่วงนี้ ที่ความคิดอะไรต่างๆ เปลี่ยนไปพอสมควรจากช่วงที่เรียนจบ
ใหม่ๆ ซึ่งสมัยนั้น ส่วนใหญ่เริ่มมองหางานทำ เรียนต่อ ป โท หาแฟน เที่ยว
และ ยังสนุกกับชีวิต ซึ่งตัวเองก็ผ่านมาหมดไม่ได้พลาดอะไรไป

ปัจจุบันทำงานประจำ รายได้ประจำเหมือนกระแสเงินสด ส่วนสินทรัพย์ และ
ความมั่งคั่ง มาจากการลงทุนโดยส่วนใหญ่

อย่างที่อาจารย์บอก ไม่มีใครแก่เกินไปที่จะลงทุน น้ำยังเหลืออีกตั้งครึ่งแก้ว
มันไม่ได้หมดไปแล้วครึ่งแก้วเสียหน่อย

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 9:10 am
โดย บูรพาไม่แพ้
ขอขอบพระคุณอาจารย์มากๆครับ ได้เตือนสติและให้คิดถึงวันข้างหน้า :D

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 9:30 am
โดย กล้วยไม้ขาว
บทความชิ้นนี้เขียนดีมากๆ เลยครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 9:38 am
โดย Teerasak Boonrat
ขอบพระคุณมากครับ สร้างกำลังใจเสมอครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 9:43 am
โดย rakoilnaka
ขอบคุณครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 10:14 am
โดย wyn
ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมครับ เวลาเป็นสิ่งสำคัญในการลงทุนจริงๆครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 10:33 am
โดย superboy
ขอบคุณครับ อาจารย์

ปล. ถึง อ.ดร นิเวศน์ ไม่หล่อเท่า ณเดช แต่ท่านได้ใจผมไปเต็มเลย

บทความนี้ สุดยอด

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 11:44 am
โดย Dekfaifah
ขอบคุณบทความดีๆ อีกครั้ง ครับผม

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 3:33 pm
โดย PrasertsakK
ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับบทความดี ๆครับ :D :D :D :D :D :D

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 3:37 pm
โดย maneela
เคารพในความเข้มแข็ง และมั่นคงของ ดร.ไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 4:30 pm
โดย iruma
ดร. เคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องอายุกับการลงทุนในบทความชื่อ "เกมคนแก่" อยู่ในหนังสือ ชนะอย่างเต่า

"คนแก่นั้นกลัวขาดทุน ในขณะที่คนหนุ่มสาวมักจะเน้นหุ้นที่จำ 'ทำกำไร' ได้เร็ว ดังนั้น คนอายุน้อยมักจะเน้นไปที่หุ้นเก็งกำไรมากกว่า บางคนอาจจะมองว่า นี่ไม่ใช่ข้อได้เปรียบของคนแก่ แต่ผมเชื่อคำพูดของบัฟเฟต์ที่ว่า การลงทุนนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ 'อย่าขาดทุน' "

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 4:43 pm
โดย Petey
บทความดีๆขออาจารย์สามารถ "เปลี่ยนชีวิต" แมลงเม่าที่บินอย่างไร้จุดหมาย จากแต่ก่อนที่ชีวิต
ผลักดันด้วยความโลภ ที่ไหนมีไฟวูบวาบ ก็บินเข้าหา ถึงตอนนี้ได้แปลงร่างเป็นเต่าตัวน้อยๆ
ที่มีสติ ตัดสินใจโดยใช้"แก่น"เป็นหลักยึด มีความสุขกับปัจจุบัน และสามารถรอคอยการ"ชนะแบบเต่า"ได้

ขอบคุณอาจารย์มากครับ ที่กรุณาช่วยสั่งสอนลูกๆหลานๆ ผมถือว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่งของชีวิต
ที่ได้เจอหลักการ VI ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกๆอย่างของชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนเท่านั้น :)

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 8:41 pm
โดย ichbinpao
ขอบคุณบทความของดร.ครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 10:32 pm
โดย chukieat30
ยอดเยี่ยมมากครับ สมแล้วที่ท่านอาจารย์เป็นต้นตำรับคิดใหญ่ไม่เคยคิดเล็ก

คนคิดเล็กมักจะอ้างโน่นอ้างนี่ ว่าแก่ไปบ้าง เด็กไปบ้าง

คนจริง ทำจริงผิดก้คือผิด ถูกก้คือถูก

ถ้าไม่ล้ม จะเดินเป็นได้ยังไง นี่แหล่ะ มนุษย์

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 03, 2012 12:33 am
โดย boats26
ขอบคุณอาจารย์มากครับ สำหรับบทความดีๆ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 03, 2012 9:16 am
โดย per
ยิ่งอ่านยิ่งมีกำลังใจ ขอบคุณอาจารย์มากครับ

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 03, 2012 3:21 pm
โดย knapoj
ขอบคุณ ทั้งอาจารย์ และคุณ little wing ครับ...

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 03, 2012 9:55 pm
โดย methaanunkul
ผมยังมีเวลาอีกตั้ง 50 ปี :P

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 04, 2012 8:35 am
โดย dome@perth
บทความนี้ถูกใจคนแก่ อย่างผมด้วย ครับอาจารย์
ผมเริ่มลงทุนหุ้น 37 จะเปลี่ยน "อาชีพใหม่" 42 ครับ :D

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 04, 2012 9:44 am
โดย Rakkiat
ขอบคุณครับท่านอาจารย์ :P

Re: ไม่มีคำว่าสาย/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 06, 2012 2:24 pm
โดย tigerroad197
ขอบคุณ ท่าน ดร.นิเวศน์ ฯ และ ท่าน เจ้าของกระทู้ มากครับ

เป็นอีกหนึ่งบทความของ ดร.นิเวศน์ ฯ ที่ชอบมากครับ