Thai VI

ตอนนี้ผมถือหุ้นอยู่ 3 ตัวถือมาเกือบสามเดือนแล้ว มี 2 ตัวที่กำไร 20 กว่าเปอร์เซนต์ ถือว่า กำไรที่มีนี้เป็น MOS ได้ไหมครับ ทั้งสองตัวกำลังจะจ่ายปันผลช่วงเมษา จากราคาของผมได้ปันผลประมาณ 7% แล้วผมควรถือต่อรอปันผลดีไหมครับ แต่จากประสบการณ์ หลัง XD ราคาจะลงมาค่อนข้างเยอะเลย ผมเข้ามาที่ราคาค่อนข้างสูงแล้ว. ยังลังเลอยู่

หลักการทุกอย่างยังเหมือนเดิมครับ ไม่ว่าเราจะถือยาวถือสั้น
1 หาธุรกิจที่ดี ที่เราเข้าใจและอยากเป็นเจ้าของ
2 ประเมินมูลค่าหุ้น ซื้อที่เราคิดว่ามีmos ดูdownsideเป็นหลัก กำไรตั้งแต่เข้าซื้อ
3 ใจนิ่งๆรอ ตรวจสอบที่เราคิดไว้ ถ้าคิดผิดก็ขาย แล้วนำไปพัฒนาในการหาตัวต่อๆไป

ถ้าราคาขึ้นมา 20% จะถือว่ามีmos ก็ได้ครับ เพราะต้นทุนเราต่ำ
แต่มันจะทำให้เราหวั่นๆ กลัวกับราคาหุ้น ถ้าเราไม่รู้มูลค่า ไว้เป็นหลักยึดในใจเรา
ทางที่ดีควรจะประเมินมูลค่า ได้ด้วยตัวเองครับ ไม่ต้องเป๊ะแต่คร่าวๆก็ได้
แล้วถ้าเราไม่แน่ใจ ก็ทำคลายเคลียดเรโช เอากำไรออกมาบ้างก็ได้
ถือในปริมาณที่เราสบายใจครับ เสียดายดีกว่าเสียใจ
ตัวผมไม่ได้อะไรกับการถือหุ้นตัวไหนนานหรือไม่นาน
ขึ้นอยู่กับราคาในใจครับ ขึ้นกับวัตถุประสงค์ที่ซื้อด้วย
เช่น ถือจะเก็งกำไรถือไม่นานก็ได้ แต่ถ้าเป็นมรดกก็ยาวเลย
แต่เท่าที่ประสบมา ถ้าเราซื้อขายบ่อยๆหลายๆตัว
เราอาจจะต้องทำการบ้านเยอะมาก เหนื่อยบ่อย
หรือเราอาจจะศึกษาในแต่ละตัวได้ไม่ลึกซึ้งพอ
หรืออาจจะมองอะไรพลาดได้มากขึ้นครับ
และที่เป็นประจำคือ ขายหมูอู๊ดๆๆๆ 555

อาจจะไม่ได้ตอบคำถามพี่เท่าไหร่ ถือว่าคุยกันคลายเครียดครับ
มีความสนุกกับการลงทุนนะคร้าบบ

Richman3025 เขียน:ตอนนี้ผมถือหุ้นอยู่ 3 ตัวถือมาเกือบสามเดือนแล้ว มี 2 ตัวที่กำไร 20 กว่าเปอร์เซนต์ ถือว่า กำไรที่มีนี้เป็น MOS ได้ไหมครับ ทั้งสองตัวกำลังจะจ่ายปันผลช่วงเมษา จากราคาของผมได้ปันผลประมาณ 7% แล้วผมควรถือต่อรอปันผลดีไหมครับ แต่จากประสบการณ์ หลัง XD ราคาจะลงมาค่อนข้างเยอะเลย ผมเข้ามาที่ราคาค่อนข้างสูงแล้ว. ยังลังเลอยู่

เอ่ออออ ผมว่ามันคนละเรื่องกันนะครับ

สมมติผมขายเหรียญบาทให้คุณที่ราคา 1.50 บาท แล้วพอดีมีคนอยากมาขอซื้อต่อจากคุณที่ 2 บาท

ถามว่าส่วนต่างจาก 1.50 ไป 2 บาท ถือเป็น MOS หรือไม่ครับ

ผมคิดว่าไม่นะครับ

ถามใหม่
back to basic

MOS คืออะไร ?

สำหรับผม ก็ถือว่ากำไร 20% เป็น MOS นะครับ เพราะยังไงก็เห็นๆอยู่ว่าเราทุนต่ำกว่าราคาตลาด สบายใจได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องจะถือต่อมั๊ย ก็แล้วแต่แนวทางล่ะครับ ถ้าคิดว่าราคาลงแล้วเห็น unrealize น้อยลงแล้วไม่สบายใจ ก็ขายก็ได้ แต่จริงๆปันผลได้มาก็ทำให้ต้นทุนที่แท้จริงเราลดลง แล้วอีกอย่าง หุ้นก็อาจจะลงน้อยกว่าปันผลก็ได้ ยิ่งถ้าหุ้นดีๆมีหลายตัวไปที่ปันผลแล้วถือรอแป๊บๆราคาก็กลับมาเท่าก่อนปันผลครับ

ถ้าคิดว่า...

ซื้อหุ้น ก. มา 10 บาท แล้วราคาขึ้นมา 12 บาท มี MOS 20%

แล้วทีนี้...

ถ้าหุ้น ก. ราคาลดลงเหลือ 8 บาท MOS = ???!!!

Back to Basic ครับ MOS คืออะไร

ผมก็ชอบคิดว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้น ปันผลที่ได้รับ นั่นอาจทำให้เรารู้สึก"ปลอดภัย" เเต่อาจไม่ใช่เรียกว่าMargin of safety

Margin of safety อาจหมายถึงส่วนต่างของราคาหุ้นที่เราซื้อมากับมูลค่าจริงๆที่เราคำนวณได้ ใช่ไหมครับ?

MOS คือส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย

ปลอดภัยจากอะไร ? ปลอดภัยจากสิ่งที่ไม่คาดคิด ไม่ได้คาดการณ์

ทีนี้ก็ย้อนกลับไปในสิ่งที่ผมถาม

ถ้าซื้อหุ้น ก. มา 10 บาท แล้วตลาดซื้อขายกันที่ 12 บาท

เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยจริงหรือ ? หรือว่าสบายใจ ?

ทีนี้ ถ้าซื้อหุ้น ก. มา 10 บาท ต่อมาตลาดซื้อขายกันที่ 8 บาท
เป็นการลงทุนที่ไม่ปลอดภัยหรือเปล่า ?

มูลค่าจริงควรจะเป็นเท่าไหร่ ผมก็ไม่รู้หรอกครับ

ขอยกตัวอย่าง บ.ก มีพอร์ตลูกค้าเป็น บ.ข อยู่ 85%
วันดีคืนดี ถ้า บ.ข เบี้ยว, ไม่ซื้อ, หรือไม่สามารถ
ซื้อสินค้า หรือ บริการของ บ.ก ได้ บ.ก จะเป็นอย่างไร
ถ้าเราสนใจ บ.ก และ บ.ก ยินดีจะขาย บ.ก ให้เราทั้งหมด
เราควรจะเสนอราคา บ.ก ที่ราคาเท่าไหร่ ?

และที่สำคัญ ราคาที่ บ.ก เสนอมา ปลอดภัยพอสำหรับเราหรือยัง ?

ซึ่งมันคนละเรื่องกับราคาตลาด

พอนึกภาพออกไหม ?

ดังนั้น ถ้าผมซื้อ บ.ก มาทั้ง บ. เลย ที่ราคา 10 บาท
แล้ววันดีคืนดี ก็มีคนมาขอซื้อต่อจากผมที่ราคา 8 บาท
จะสรุปว่าการลงทุนของผมไม่ปลอดภัยได้หรือเปล่า ?
ผมควรจะทำอย่างไร ?

ขายใช่ไหมเพราะมันไม่ปลอดภัย หรือว่าต้องรอให้มีคนมา
ขอซื้อที่ 12 บาทก่อน ถึงจะบอกว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย ?

ขอบคุณพี่ ส.สลึง มากครับ Margin of Safety ไม่เกี่ยวกับราคาหุ้นในตลาด...

"ส่วนต่างความปลอดภัย" ไม่ใช่ "ส่วนต่างความสบายใจ"

ถ้าหุ้นที่ถืออยู่มีกำไร 20% ถือว่ามี MOS 20% ไหมครับ?
ผมมองว่าสิ่งที่ จขกท. ถาม มันคือส่วนต่างความสบายใจมากกว่ครับ

ผมคิดว่าจขกทมีมอสมากกว่า20%ครับ
ยินดีด้วย ขอให้พยายามต่อไปครับ

มูลค่า(คุณค่า)กับราคา (Value VS Price) ความหมายใกล้เคียงกัน แต่จริงๆต่างกันลิบลับ
เอาต้นทุนเทียบกับมูลค่าเรียก Margin Of Safety
เอาต้นทุนเทียบราคา คือ กำไร/ขาดทุน

งั้นถ้าผมหลับหูหลับตาซื้อซื้อหุ้นที่ PE 36 เท่า พรุ่งนี้ขึ้นไป 20% สบายใจได้เลย เพราะว่ามี MOS ตามหลักการแล้ว???

MOS ควรจะมีตั้งแต่ตอนที่ซื้อครับ
ไม่ใช่ถือมาเรื่ิอยๆ จนราคาในกระดาน
สูงกว่าราคาทุนของเราถึงจะเรียกว่ามี MOS

ความจริง MOS ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไร
เป็นทั้งศาสตร์แล้วก็ศิลป์ และที่สำคัญ
ใกล้ตัวด้วย

ยกตัวอย่าง มีนัดสำคัญ 8.00 น.
บางคนบ้านไกล เผื่อเวลามากหน่อย
บางคนบ้านก็ไกล เผื่อเวลาแล้ว ยังวางแผนอีก
ว่าจะเดินทางด้วยเส้นทางไหน
ทางบกหรือว่าทางเรือ ฯลฯ
บางคนบ้านไกล ไม่ได้เผื่อเท่าไหร่ เป็นต้น

เห็นไหม MOS เกิดขึ้นมาก่อน ต้องคิดก่อน
ไม่ได้เกินขึ้นทีหลัง การไปถึงก่อนเวลา
เป็นผลจากการเผื่อ การเผื่อ ทำให้ผลลัพท์เราปลอดภัย
ไม่ไปสายเกินเวลา

ปล.
ไม่อยากอธิบายมาก เรื่องนี้หนังสือเขียนกันเยอะแล้ว
แล้วกระทู้เก่าๆ ก็คุยไปกันเยอะแล้วด้วย

ส.สลึง เขียน:MOS ควรจะมีตั้งแต่ตอนที่ซื้อครับ
ไม่ใช่ถือมาเรื่ิอยๆ จนราคาในกระดาน
สูงกว่าราคาทุนของเราถึงจะเรียกว่ามี MOS

ความจริง MOS ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไร
เป็นทั้งศาสตร์แล้วก็ศิลป์ และที่สำคัญ
ใกล้ตัวด้วย

ยกตัวอย่าง มีนัดสำคัญ 8.00 น.
บางคนบ้านไกล เผื่อเวลามากหน่อย
บางคนบ้านก็ไกล เผื่อเวลาแล้ว ยังวางแผนอีก
ว่าจะเดินทางด้วยเส้นทางไหน
ทางบกหรือว่าทางเรือ ฯลฯ
บางคนบ้านไกล ไม่ได้เผื่อเท่าไหร่ เป็นต้น

เห็นไหม MOS เกิดขึ้นมาก่อน ต้องคิดก่อน
ไม่ได้เกินขึ้นทีหลัง การไปถึงก่อนเวลา
เป็นผลจากการเผื่อ การเผื่อ ทำให้ผลลัพท์เราปลอดภัย
ไม่ไปสายเกินเวลา

ปล.
ไม่อยากอธิบายมาก เรื่องนี้หนังสือเขียนกันเยอะแล้ว
แล้วกระทู้เก่าๆ ก็คุยไปกันเยอะแล้วด้วย

ชัดเจนมากครับ...

เป็นคำถามง่ายๆแต่ลึกซึ้งมากครับ ส่วนตัวผมไม่ใส่นะครับว่าจะเรียกเป็นmos เป็นกำไร หรืออะไร สิ่งที่ผมจะสนใจคือไอ่20%นั่นมันมาได้อย่างไร มาจากที่เราคิดถูกว่าผลประกอบการจะเติบโตเท่านั้นเท่านี้เลยทำให้ราคาหุ้นขยับตาม หรือแค่อารมณ์ชั่ววูบของตลาด หรือเหตุผลอื่นๆ ซึ่งผมคิดว่าเราควรรู้ที่เหตุ มากกว่าจะไปคิดว่าเป็นmosหรือไม่