หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 27, 2012 6:03 pm
โดย fah_sora
ราคาทุน (Cost) มูลค่ายุติธรรม(Fair Value) และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ(Net Realizable Value)

ในทางบัญชี วิธีการตีราคาสินทรัพย์มีหลายวิธี แต่ละวิธีมีผลกระทบต่อตัวเลขในงบการเงินที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น การทำความเข้าใจกับความหมายของคำศัพท์ต่อไปนี้ จะช่วยให้นักลงทุนและผู้อ่านงบการเงินเข้าใจงบการเงินมากขึ้น คำศัพท์ 3 คำที่มีความสำคัญต่อการวัดมูลค่าของสินทรัพย์ คือ ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

ราคาทุน (Cost) คือ ราคาจ่ายซื้อของสินทรัพย์ ณ วันที่บริษัทได้สินทรัพย์นั้นมา บวกต้นทุนในการจัดหาสินทรัพย์ ตัวอย่างราคาทุนที่เกิดขึ้นในการจัดหาสินทรัพย์ที่เห็นโดยทั่วไป ได้แก่ ราคาซื้อรวมภาษีนําเข้า ภาษีซื้อที่เรียกคืนไม่ได้ หักส่วนลดการค้า และภาษีที่จะได้รับคืน ราคาทุนของสินทรัพย์เมื่อแสดงอยู่ในงบแสดงฐานะการเงินเป็นเวลานานมักมีมูลค่าต่ำกว่าราคาตลาด โดยเฉพาะในกรณีที่สินทรัพย์มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะราคาทุนนั้นเป็นราคาในอตีตนั่นเอง

มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) คือ ราคาของสินทรัพย์ในตลาดเปิดที่ผู้ซื้อและผู้ขายที่มีความรู้เต็มใจซื้อขายสินทรัพย์กัน ตัวอย่างของตลาดเปิดที่เด่นชัดที่สุดก็คือตลาดหุ้นจะเห็นได้ว่ามูลค่ายุติธรรมเป็นค่าสะท้อนความคาดหวังของผู้ซื้อและผู้ขายทรัพย์สินในตลาดซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดในการวัดมูลค่านี้ได้แนวคิดเกี่ยวกับมูลค่ายุติธรรมนี้มีความสำคัญมากในการอ่านงบการเงิน เนื่องจากสินทรัพย์หลายรายการในงบแสดงฐานะการเงินต้องตีราคาใหม่ ณ วันสิ้นงวดบัญชีโดยใช้มูลค่ายุติธรรม

มูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Net Realizable Value) คือ จำนวนเงินที่บริษัทคาดว่าจะได้รับจากการขายสินค้าหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการขายสินค้านั้น ในทางบัญชี มูลค่าสุทธิที่จะได้รับนี้นำมาใช้กับการตีราคาสินค้าคงเหลือ เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทแสดงสินค้าล้าสมัย ชำรุด หรือเสียหายด้วยจำนวนที่สูงเกินกว่าราคาที่คาดว่าจะขายได้หักต้นทุนในการขาย

จะเห็นได้ว่าการวัดมูลค่าสินทรัพย์สามารถทำได้หลายวิธีซึ่งโดยปกติแล้วมาตรฐานการบัญชีจะระบุวิธีวัดมูลค่าสำหรับสินทรัพย์แต่ละประเภทไว้อย่างชัดเจน ในบางกรณีมาตรฐานการบัญชีก็ได้เปิดโอกาสให้บริษัทสามารถเลือกใช้วิธีวัดมูลค่าของสินทรัพย์ได้ จนทำให้งบการเงินของบริษัทแสดงมูลค่าสินทรัพย์แตกต่างกันไปตามวิธีวัดมูลค่าที่แต่ละบริษัทเลือกใช้ ตัวอย่างเช่น งบการเงินที่แสดงสินทรัพย์ด้วยราคาทุนจะมีมูลค่าที่แตกต่างไปจากงบการเงินที่แสดงสินทรัพย์ด้วยมูลค่ายุติธรรม

ดังนั้น การทำความเข้าใจความหมายของคำศัพท์เหล่านี้จึงสามารถทำให้ผู้อ่านงบการเงินเข้าใจความเป็นมาของมูลค่าสินทรัพย์ในงบการเงินมากขึ้น การมีความรู้เกี่ยวกับราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่ได้รับ สำหรับนักลงทุนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

หากมีข้อสงสัยใดๆ โปรดโพสต์ถามได้เลยนะคะ

Re: ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 27, 2012 9:56 pm
โดย nut776
รบกวนอธิบาย ราคาทุนตัดจ่าย ต่อด้วยได้ไหมคับ

Re: ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2012 8:08 pm
โดย nearly
มีคำถามสามข้อครับ
1.บริษัทจะสามารถเปลี่ยนวิธีการตีราคาได้หรือไม่ (จำเป็นหรือไม่ที่สิทรัพย์อันเดิมต้องใช้วิธีวัดแบบเดิมไปตลอด)
2.เราจะทราบได้อย่างไรว่ามีการเปลี่ยนวิธีตีราคาสินทรัพย์
3.มูลค่าของสินทรัพย์ที่เปลี่ยนไปเนื่องจากการเปลี่ยนวิธีตีราคาจะบันทึกลงในรายการอะไร

Re: ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2012 6:56 pm
โดย fah_sora
รบกวนอธิบาย ราคาทุนตัดจ่าย ต่อด้วยได้ไหมคับ
ราคาทุนตัดจำหน่าย (Amortized cost) คือ ราคาทุนของตราสารหนี้ ที่คำนวณโดยการทยอยตัดส่วนเกินหรือส่วนลดมูลค่าหนี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง จนกระทั่งในวันครบกำหนดไถ่ถอนตราสารหนี้ ราคาที่ลงทุนตัดจำหน่ายนั้นจะเท่ากับมูลค่าที่ระบุในตราสารหนี้ ค่ะ :)

Re: ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2012 7:24 pm
โดย fah_sora
nearly เขียน:มีคำถามสามข้อครับ
1.บริษัทจะสามารถเปลี่ยนวิธีการตีราคาได้หรือไม่ (จำเป็นหรือไม่ที่สิทรัพย์อันเดิมต้องใช้วิธีวัดแบบเดิมไปตลอด)
2.เราจะทราบได้อย่างไรว่ามีการเปลี่ยนวิธีตีราคาสินทรัพย์
3.มูลค่าของสินทรัพย์ที่เปลี่ยนไปเนื่องจากการเปลี่ยนวิธีตีราคาจะบันทึกลงในรายการอะไร
ข้อ 1
บริษัทจะสามารถเปลี่ยนวิธีการวัดมูลค่าสินทรัพย์ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าเป็นสินทรัพย์ประเภทใด และมาตราฐานการบัญชีได้กำหนดวิธีวัดมูลค่าสินทรัพย์ประเภทนั้นไว้อย่างไรบ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วมาตราฐานก็ให้ทางเลือกสำหรับบริษัทไว้ บริษัทจึงสามารถเปลี่ยนได้ ตัวอย่างเช่น investment property มาตรฐานทางบัญชีกำหนดให้ บริษัทสามารถเลือกได้ระหว่างวิธีวัดมูลค่าระหว่างราคาทุนกับราคาตลาด ดังนั้น บริษัทก็สามารถเปลี่ยนวิธีวัดมูลค่าได้ตามเหมาะสม

ข้อ 2.
ตามมาตราฐานการบัญชี หากบริษัทใดมีการเปลี่ยนวิธีการทางการบัญชี ก็ให้แสดงการเปลี่ยนแปลงพร้อมเหตุผลไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ดังนั้น หากต้องการทราบว่าบริษัทได้เปลี่ยนวิธีวัดมูลค่าสินทรัพย์หรือไม่นั้น เราสามารถได้จากหมายเหตุประกอบงบการเงิน หัวข้อนโยบายการบัญชี

ข้อ 3.
ในกรณีที่บริษัทต้องการเปลี่ยนแปลงวิธีตีราคา ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโดยสมัครใจ ตามมาตรฐานการบัญชี เรื่ิองการเปลียนแปลงนโยบายทางบัญชีนั้น กิจการต้องปรับย้อนหลังงบการเงิน (Retrospective restatement) ซึ่งเป็นการปรับรายการทุกอย่างให้เหมือนกับใช้วีิธีใหม่มาตลอด ดังนั้น ผลสะสมของมูลค่าสินทรัพย์ที่เปลี่ยนไปเนี่องจากการเปลี่ยนวิธีตีราคานั้น ให้ทำการปรับกำไรสะสมต้นงวดของทุกปีงบการเงินย้อนหลัง ไม่บันทึกในงบกำไรขาดทุนและต้องเปิดเผยการเปลียนแปลงพร้อมเหตุผลในหมายเหตุประกอบงบการเงินด้วยค่ะ

:) :) :)

Re: ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 30, 2012 12:16 am
โดย nearly
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ :D

Re: ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 31, 2012 1:58 pm
โดย miracle
มาตราฐานบัญชีตัวที่ใช้ในปัจจุบัน
การตีมูลค่ายุติธรรมหาเป็นสินทรัพย์ที่ดินและอาคาร
หากมีการตีราคาใหม่แล้ว บริษัทจำเป็นต้องตีราคาใหม่ทุกปีหรือเปล่า
เพราะ บ้างบริษัทฯไม่เคยตีราคาเลย บันทึกในส่วนของบัญชีเป็นราคาทุนอยู่เลยก็มี
ส่วนบ้างบริษัทก็ตีราคายุติธรรมทุกปีเลย หรือ 3 ปีตีราคาที่ก็มี

แล้วค่าที่ตีมูลค่าที่เกินราคาทุนแล้วไปบันทึกไว้ที่รายการไหน
และในทางกลับกันถ้าหากตีราคาแล้ว ปรากฏว่าราคาใหม่ต่ำกว่าราคาเก่า มันปรากฏที่รายการใดของงบการเงิน

ขอบคุณครับ
:)

Re: ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 11:00 pm
โดย fah_sora
miracle เขียน:มาตราฐานบัญชีตัวที่ใช้ในปัจจุบัน
การตีมูลค่ายุติธรรมหาเป็นสินทรัพย์ที่ดินและอาคาร
หากมีการตีราคาใหม่แล้ว บริษัทจำเป็นต้องตีราคาใหม่ทุกปีหรือเปล่า
เพราะ บ้างบริษัทฯไม่เคยตีราคาเลย บันทึกในส่วนของบัญชีเป็นราคาทุนอยู่เลยก็มี
ส่วนบ้างบริษัทก็ตีราคายุติธรรมทุกปีเลย หรือ 3 ปีตีราคาที่ก็มี

แล้วค่าที่ตีมูลค่าที่เกินราคาทุนแล้วไปบันทึกไว้ที่รายการไหน
และในทางกลับกันถ้าหากตีราคาแล้ว ปรากฏว่าราคาใหม่ต่ำกว่าราคาเก่า มันปรากฏที่รายการใดของงบการเงิน

ขอบคุณครับ
:)
Q1 ถ้าไม่มีข้อบ่งชี้ว่าสินทรัพย์อาจด้อยค่า บริษัทจะตีมูลค่าอย่างเป็นระบบตามนโยบายการตีราคาสินทรัพย์ เช่น 3 ปี 5 ปี ตีราคาใหม่ 1 ครั้ง แต่เมื่อไรที่มีสันญาณว่าสินทรัพย์อาจเกิดการด้อยค่า บริษัทต้องตีราคาใหม่ทันทีค่ะ

Q2 ถ้าสินทรัพย์มีมูลค่าสูงกว่าราคาทุนเดิม บริษัทต้องบันทึกมูลค่่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น ขณะที่บันทึกกำไรจากการตีราคาสินทรัพย์ใหม่เป็น "กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น other comprehensive income" ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จค่ะ

Q3 ถ้าเมื่อตีราคาใหม่ มูลค่าลดลงแต่ไม่เกิดราคาทุน ให้ลดมูลค่าสินทรัพย์ในงบดุล พร้อมกับกลับบัญชี กำไรจากการตีราคาใหม่ ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ แต่เมื่อไรที่มูลค่าลดต่ำกว่าทุนเดิม ต้องบันทึกขาดทุนเป็นค่าใช้จ่ายทันทีในงบกำไรขาดทุนเพื่อนำมาคำนวณกำไรขาดทุนสุทธิสำหรับงวด แต่ถ้าต่อมามูลค่่าสินทรัพย์เกิดปรับเพิ่ม ให้บันทึกกำไรเป็นรายได้เท่ากับที่เคยบันทึกขาดทุนในงบกำไรขาดทุน ถ้ามูลค่่าสูงเกินราคาทุนเดิมเมื่อไร ให้บันทึกกำไรจากการตีราคาใหม่ ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ ดังที่อธิบายไปแล้วค่ะ :D :D :D

Re: ราคาทุน มูลค่ายุติธรรม และมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 11:39 pm
โดย miracle
ขอบคุณครับ
:)