กฎ 80/20
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 23, 2012 7:58 am
ว่าด้วยกฏ 80/20 (Pareto Principle)
Posted on February 19, 2012 by fsquare Print Friendly
by Mr. Know How
จากหลัก Pareto ทำให้เราทราบว่าเรื่องที่มีผลต่อชีวิตเราถึง 80% นั้นใช้เวลาและความพยายามเพียง 20%
กฏ 80/20 หรือกฏพาเรโต (Vilfredo Pareto) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลี สังเกตุว่าคนรวยจำนวน 20% เป็นเจ้าของที่ดินถึง 80% ในขณะที่คน 80% ที่เหลือต้องแบ่งสรรที่ดินใช้งานในส่วน 20% ที่เหลือ
ต่อมามีผู้ประยุกต์ใช้กับธุรกิจ พบว่า:
80% ของยอดขายมาจากลูกค้าจำนวน 20%
80% ของกำไรมาจากการใช้เวลาในการทำงานเพียง 20%
80% ของยอดขายมาจากพนักงานขายจำนวน 20%
หรือในชีวิตประจำวันเราจะพบว่า :
80% ของเวลาที่เราติดต่อพูดคุยด้วย เราใช้กับเพื่อนจำนวน 20%
80% ที่เราใส่เสื้อผ้าออกข้างนอกเป็นเสื้อจำนวน 20%
จริงไม่จริงสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ
จากหลัก Pareto ทำให้เราทราบว่าเรื่องที่มีผลต่อชีวิตเราถึง 80% นั้นใช้เวลาและความพยายามเพียง 20% ดังนั้นหากเราเน้น 20% นี้ให้ดีก็จะมีส่วนช่วย 80% ของเรื่องนั้น ๆ อย่างมาก ขณะที่ส่วน 80% ที่มีผลเพียง 20% นั้นเราสามารถผ่อน ๆ ลงได้ เนื่องจากไม่ใช่อะไรที่ critical จริง นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนดูเล่น ๆ ไม่ซีเรียสแต่ดูเก่ง ประสบความสำเร็จเหลือเชื่อ แต่บางคนดูเคร่งเครียด พยายามมากแต่กลับไปได้ไม่ถึงไหน
คุณล่ะ อะไรคือ 20% ของคุณ?
ถ้านำหลักการนี้มาใช้กับการลงทุน สิ่งที่เราทำกันอยู่อะไรคือส่วนที่เป็น 20 อะไรเป็น 80
Posted on February 19, 2012 by fsquare Print Friendly
by Mr. Know How
จากหลัก Pareto ทำให้เราทราบว่าเรื่องที่มีผลต่อชีวิตเราถึง 80% นั้นใช้เวลาและความพยายามเพียง 20%
กฏ 80/20 หรือกฏพาเรโต (Vilfredo Pareto) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลี สังเกตุว่าคนรวยจำนวน 20% เป็นเจ้าของที่ดินถึง 80% ในขณะที่คน 80% ที่เหลือต้องแบ่งสรรที่ดินใช้งานในส่วน 20% ที่เหลือ
ต่อมามีผู้ประยุกต์ใช้กับธุรกิจ พบว่า:
80% ของยอดขายมาจากลูกค้าจำนวน 20%
80% ของกำไรมาจากการใช้เวลาในการทำงานเพียง 20%
80% ของยอดขายมาจากพนักงานขายจำนวน 20%
หรือในชีวิตประจำวันเราจะพบว่า :
80% ของเวลาที่เราติดต่อพูดคุยด้วย เราใช้กับเพื่อนจำนวน 20%
80% ที่เราใส่เสื้อผ้าออกข้างนอกเป็นเสื้อจำนวน 20%
จริงไม่จริงสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ
จากหลัก Pareto ทำให้เราทราบว่าเรื่องที่มีผลต่อชีวิตเราถึง 80% นั้นใช้เวลาและความพยายามเพียง 20% ดังนั้นหากเราเน้น 20% นี้ให้ดีก็จะมีส่วนช่วย 80% ของเรื่องนั้น ๆ อย่างมาก ขณะที่ส่วน 80% ที่มีผลเพียง 20% นั้นเราสามารถผ่อน ๆ ลงได้ เนื่องจากไม่ใช่อะไรที่ critical จริง นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนดูเล่น ๆ ไม่ซีเรียสแต่ดูเก่ง ประสบความสำเร็จเหลือเชื่อ แต่บางคนดูเคร่งเครียด พยายามมากแต่กลับไปได้ไม่ถึงไหน
คุณล่ะ อะไรคือ 20% ของคุณ?
ถ้านำหลักการนี้มาใช้กับการลงทุน สิ่งที่เราทำกันอยู่อะไรคือส่วนที่เป็น 20 อะไรเป็น 80