Swift code
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2012 3:52 am
โอนเงินไม่ได้แล้วจะจ่ายค่าน้ำมันทางไหนดี
+ สินค้าต่อสินค้า เช่น แลกอาหาร อาวุธ เครื่องใช้
+ เปิบปัญชีรับจ่ายนอกประเทศ
+ ยอมเขา
+ เปิดเกมชน ปิดอ่าวไปเลย
+ ???
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
องค์กรระดับโลก ผู้ทำหน้าที่ดูแลระบบสื่อสารด้านการเงินระหว่างธนาคารที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงทั่วโลก แบนอิหร่าน ห้ามทำธุรกรรมทางการเงินกับต่างประเทศ
องค์กร Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication (SWIFT) องค์กรใหญ่เจ้าของ "SWIFT code" ที่ใช้สำหรับโอนเงินระหว่างธนาคารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ตัดสินใจแบนการทำธุรกรรมการเงินข้ามชาติของอิหร่านในครั้งนี้ ส่งผลให้อิหร่านถูกโดดเดี่ยว และอาจต้องถอยหลังกลับไปสู่การค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้ากับสินค้า
การเคลื่อนไหวของ SWIFT ในครั้งนี้ ส่งผลให้ธนาคารใหญ่ในอิหร่านถึง 30 แห่ง ที่ใช้ระบบของ SWIFT ในการโอนเงินไปต่างชาติได้รับผลกระทบ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันเสาร์ (17 มี.ค. 55) ถือเป็นมาตรการตอบโต้และกดดันที่รุนแรงสุด ต่อชาติอิสลามที่พัฒนาโปรแกรมอาวุธนิวเคลียร์
ผู้เชี่ยวชาญแสดงความคิดเห็นว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะส่งผลทันทีต่อความรู้สึกของรัฐบาลเตหะราน เนื่องจากเมื่ออิหร่านไม่สามารถโอนเงินข้ามชาติได้ แต่ยังคงค้าน้ำมันหรือซื้อสินค้ากับต่างชาติอยู่ ก็ต้องใช้ทองคำแทนเงิน และยังสามารถโอนเงินผ่านธนาคารอิหร่านขนาดเล็กที่ไม่ถูกแบน แต่ธนาคารเหล่านี้ก็ไม่สามารถรับมือได้กับมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอิหร่าน ซึ่งจะทำให้การค้าขายและการชำระซับซ้อนอย่างมาก
สมาชิกสภาของสหรัฐเห็นว่า การกระทำของ SWIFT จะส่งผลให้เกิดการซังก์ชั่นที่หนักหน่วงขึ้น โดยธนาคารของอิหร่านทุกแห่งอาจถูกแบนได้
ลาซาโร แคมโปส หนึ่งในผู้บริหาร SWIFT กล่าวว่า "การตัดขาดธนาคารออกจากระบบของ SWIFT เป็นการดำเนินการในกรณีพิเศษและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งจะส่งผลต่อการคว่ำบาตรด้านการเงินที่รุนแรงต่ออิหร่านตามมา"
การถูกคว่ำบาตรของอิหร่านก่อนหน้านี้ ทำให้อิหร่านเริ่มทำการค้าและทำธุรกรรมการเงินผ่านประเทศที่เป็นตัวกลางในการติดต่อกับตลาดโลก
แมตต์ เลวิตต์ ผู้เชี่ยวชาญชาวอิหร่าน จากสถาบันวอชิงตันเพื่อนโยบายเนียร์อีสต์ กล่าวว่า การกระทำของ SWIFT ส่งผลต่อเศรษฐกิจของอิหร่านอย่างสูง และอาจเป็นการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงการพัฒนานิวเคลียร์อิหร่าน
"การใช้เครื่องมือทางการเงินครั้งนี้ได้ผลอย่างมาก หากทำควบคู่กับการข่มขู่ทางทหาร" เลวิตต์กล่าว
+ สินค้าต่อสินค้า เช่น แลกอาหาร อาวุธ เครื่องใช้
+ เปิบปัญชีรับจ่ายนอกประเทศ
+ ยอมเขา
+ เปิดเกมชน ปิดอ่าวไปเลย
+ ???
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
องค์กรระดับโลก ผู้ทำหน้าที่ดูแลระบบสื่อสารด้านการเงินระหว่างธนาคารที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงทั่วโลก แบนอิหร่าน ห้ามทำธุรกรรมทางการเงินกับต่างประเทศ
องค์กร Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication (SWIFT) องค์กรใหญ่เจ้าของ "SWIFT code" ที่ใช้สำหรับโอนเงินระหว่างธนาคารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ตัดสินใจแบนการทำธุรกรรมการเงินข้ามชาติของอิหร่านในครั้งนี้ ส่งผลให้อิหร่านถูกโดดเดี่ยว และอาจต้องถอยหลังกลับไปสู่การค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้ากับสินค้า
การเคลื่อนไหวของ SWIFT ในครั้งนี้ ส่งผลให้ธนาคารใหญ่ในอิหร่านถึง 30 แห่ง ที่ใช้ระบบของ SWIFT ในการโอนเงินไปต่างชาติได้รับผลกระทบ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันเสาร์ (17 มี.ค. 55) ถือเป็นมาตรการตอบโต้และกดดันที่รุนแรงสุด ต่อชาติอิสลามที่พัฒนาโปรแกรมอาวุธนิวเคลียร์
ผู้เชี่ยวชาญแสดงความคิดเห็นว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะส่งผลทันทีต่อความรู้สึกของรัฐบาลเตหะราน เนื่องจากเมื่ออิหร่านไม่สามารถโอนเงินข้ามชาติได้ แต่ยังคงค้าน้ำมันหรือซื้อสินค้ากับต่างชาติอยู่ ก็ต้องใช้ทองคำแทนเงิน และยังสามารถโอนเงินผ่านธนาคารอิหร่านขนาดเล็กที่ไม่ถูกแบน แต่ธนาคารเหล่านี้ก็ไม่สามารถรับมือได้กับมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอิหร่าน ซึ่งจะทำให้การค้าขายและการชำระซับซ้อนอย่างมาก
สมาชิกสภาของสหรัฐเห็นว่า การกระทำของ SWIFT จะส่งผลให้เกิดการซังก์ชั่นที่หนักหน่วงขึ้น โดยธนาคารของอิหร่านทุกแห่งอาจถูกแบนได้
ลาซาโร แคมโปส หนึ่งในผู้บริหาร SWIFT กล่าวว่า "การตัดขาดธนาคารออกจากระบบของ SWIFT เป็นการดำเนินการในกรณีพิเศษและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งจะส่งผลต่อการคว่ำบาตรด้านการเงินที่รุนแรงต่ออิหร่านตามมา"
การถูกคว่ำบาตรของอิหร่านก่อนหน้านี้ ทำให้อิหร่านเริ่มทำการค้าและทำธุรกรรมการเงินผ่านประเทศที่เป็นตัวกลางในการติดต่อกับตลาดโลก
แมตต์ เลวิตต์ ผู้เชี่ยวชาญชาวอิหร่าน จากสถาบันวอชิงตันเพื่อนโยบายเนียร์อีสต์ กล่าวว่า การกระทำของ SWIFT ส่งผลต่อเศรษฐกิจของอิหร่านอย่างสูง และอาจเป็นการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงการพัฒนานิวเคลียร์อิหร่าน
"การใช้เครื่องมือทางการเงินครั้งนี้ได้ผลอย่างมาก หากทำควบคู่กับการข่มขู่ทางทหาร" เลวิตต์กล่าว