Thai VI

เล็กขนาดที่ว่า ถ้าซื้อด้วยกำลังทรัพย์ที่พอจะซื้อได้
เราจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 0.5% ของหุ้นทั้งหมด
น่าสนใจ เพราะ แม้จะเป็นกิจการง่ายๆ ก็ ทำกำไรได้สม่ำเสมอ
แม้ไม่มีกำแพงขวางกั้นผู้ผลิตรายใหม่ แต่ก็มีความเชี่ยวชาญมานานพอตัว

สภาพคล่องต่ำ แบบที่ต้อง เก็บกันนานหลายเดือน

สนใจ แล้วก็ลงทุนอยู่ครับ
ตัวที่ผมลงทุนอยู่ ล่าสุดมันทั้งเพิ่มทุนทั้งแจกปันผลเป็นหุ้น จากที่มันฝืดมากๆมันก็เลยคล่องขึ้นนิดหน่อยครับ
ผมว่าถ้าบริษัทที่เล็กๆ แล้วแล้วสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด Market Cap ของบริษัทควรจะโตขึ้นอย่างมีนัยยะ แล้วสภาพคล่องน่าจะปรับตัวดีขึ้นนะครับ

เคยครับ ผมว่าเหมาะสำหรับคนที่ไม่คิดซื้อขายจริงๆครับ

เพราะว่าจะซื้อได้ เก็บได้ทีละ 10000บาท ลุ้นตัวโก่งเลยครับ ว่าใครจะมาขายให้

เก็บไม่ถึง ค่าโบรกเกอร์ก็กินหัวอีก เก็บมาก ก็ไม่มีใครขาย เก็บหนัก เดียวหุ้นทะลุ celling กลายเป็นหุ้นปั่นไปอีก

ก็แล้วแต่นะครับ

สนใจครับ เพราะหุ้นใหญ่ๆก็เริ่มมาจากหุ้นตัวเล็กเหมือนกัน

เคยครับ และจะไม่ยุ่งกับมันอีกต่อไป ตอนอยากขายไม่มีคนมาซื้อ โดนลากขึ้นลากลงอย่างเมามัน

ก็ถืออยู่ไม่เห็นมีอะไร
ถ้าหากเรามองกิจการขาด รู้ว่ามันทำอะไร
เป็นการดีที่สุด ถ้าใครเห็นคุณค่าเดียวมันก็เป็นเพชรเม็ดงามเองล่ะ
รอเวลาที่ นักลงทุนคนอื่นเห็นก็เท่านั้น

kabu เขียน:สนใจ แล้วก็ลงทุนอยู่ครับ
ตัวที่ผมลงทุนอยู่ ล่าสุดมันทั้งเพิ่มทุนทั้งแจกปันผลเป็นหุ้น จากที่มันฝืดมากๆมันก็เลยคล่องขึ้นนิดหน่อยครับ
ผมว่าถ้าบริษัทที่เล็กๆ แล้วแล้วสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด Market Cap ของบริษัทควรจะโตขึ้นอย่างมีนัยยะ แล้วสภาพคล่องน่าจะปรับตัวดีขึ้นนะครับ

ช่ายบริษัทร้านขายเสื้อมั๊ยครับ

poomkawa เขียน:

kabu เขียน:สนใจ แล้วก็ลงทุนอยู่ครับ
ตัวที่ผมลงทุนอยู่ ล่าสุดมันทั้งเพิ่มทุนทั้งแจกปันผลเป็นหุ้น จากที่มันฝืดมากๆมันก็เลยคล่องขึ้นนิดหน่อยครับ
ผมว่าถ้าบริษัทที่เล็กๆ แล้วแล้วสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด Market Cap ของบริษัทควรจะโตขึ้นอย่างมีนัยยะ แล้วสภาพคล่องน่าจะปรับตัวดีขึ้นนะครับ

ช่ายบริษัทร้านขายเสื้อมั๊ยครับ

ไม่ใช่ครับ

น่าจะเป็นขายส่งไอทีนะครับ

kabu เขียน:

poomkawa เขียน:

kabu เขียน:สนใจ แล้วก็ลงทุนอยู่ครับ
ตัวที่ผมลงทุนอยู่ ล่าสุดมันทั้งเพิ่มทุนทั้งแจกปันผลเป็นหุ้น จากที่มันฝืดมากๆมันก็เลยคล่องขึ้นนิดหน่อยครับ
ผมว่าถ้าบริษัทที่เล็กๆ แล้วแล้วสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด Market Cap ของบริษัทควรจะโตขึ้นอย่างมีนัยยะ แล้วสภาพคล่องน่าจะปรับตัวดีขึ้นนะครับ

ช่ายบริษัทร้านขายเสื้อมั๊ยครับ

ไม่ใช่ครับ

ผมว่าใครตามอ่านบล็อคของพี่ kabu ก็คงทราบ

ผมเคยทั้งถือจนราคาขึ้นและปริมาณซื้อขายขึ้นตามครับ เหมือนร่อนทองแล้วเจอเพชร
แต่ก็มีเหมือนกันที่ถือไว้แล้วราคาลงปริมาณซื้อขายก็ลดลงไปอีก เหมือนร่อนทองแล้วเจอกรวด มารู้ตัวทีหลังจะขายก็ขายยากขายเย็น

ถ้าพอร์ทไม่ใหญ่มาก มั่นใจว่าร่อนมาแล้วดีจริงๆแล้วจะถือนานหลายปี สภาพคล่องก็ไม่ใช่ปัญหามากครับ แต่ต้องระวังนิดนึงเพราะบางทีพื้นฐานบริษัทเปลี่ยนแล้วเราต้องการขายทันที อาจทำให้ขายไม่ทัน (เช่นน้ำท่วมเป็นต้น)