Thai VI

ออกรายการพร้อมกันทั้งคู่ครับ มันส์มากมาย

อาจารย์พวกเราให้แง่คิดที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วครับ

No...Commentสําหรับคุณภาววิทย์ครับ

เชิญชมกันเองครับ

http://www.dcs-digital.com/moneychannel ... p?listid=5

ไม่รู้ว่ากล้าไปออกรายการได้ยังไง

จริงๆผมว่า Technical มีประโยชน์ในแง่ของการเป็น อาวุธเสริม ไว้ดู อารมย์ตลาด ความเป็น มวลชล Mass เพราะ
อย่างน้อย Volume การซื้อขายมันของ จริง ก็พอบอก ระดับแรงเก็งกําไรที่จะเข้ามาใน หุ้นที่เรา ลงทุนได้นะครับ

แต่ถ้าจะใช้ Technical เพรียวๆ แบบ ที่ แขกรับชิญท่าน 1 บาทผมยังไม่เคยเจอ นักลงทุน คนไหนที่รวยจาก Technical Analysis โดยไม่ดูพื้นฐานผลการดําเนินงาน ประกอบเลยครับ และ ยังไม่เคยมี Research ทาง Finance ใดๆว่า
ราคาหุ้น อดีต สามารถ พยากรณ์ อนาคต ได้ เพราะราคาเกิดจาก แรงซื้อหรือขาย ของนักลงทุน ณ ช่วงๆ 1 เท่านั้น
ซึ่งมีหลายกลุ่มหลากหลาย ที่ซื้อขายมีผลต่อราคาในช่วงสั้นๆ ยกเว้นเจ้าของเอาเอง แน่สิ Freefloat อยู่ในมือใครหละ

ถ้าใครเจอ Research ว่า Technical Analysis เพรียวๆ
สามารถ Outperform ตลาด ได้ กรุณา ส่งให้ผมด้วยนะครับ

เรื่องนึงที่อยากจะคอมเม้นท์เกี่ยวกับคลิปนี้

ถาม ในโลกปัจจุบัน สินค้าอุปโภคบริโภค มีราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ข้าวแกง 10 บาท กลายเป็น 20, 30, 40 บาท ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำมัน แบตเตอรี่รถยนต์ ต่างๆ

แต่สินค้าประเภทเทคโนโลยี อย่างโทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ก หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเทคโนโลยี เช่นค่า airtime อินเตอร์เน็ต, ค่าโทรมือถือ, ค่า data plan บน 3g ทั้งหมดเลยจะพีคที่จุดเริ่มต้น (หลังการลงทุนทั้งนั้น) หลังจากนั้นราคาจะเริ่มลดลงเรื่อยๆ ดังนั้น เรื่องนึงแน่ๆที่บอกว่า 3G จะมาจุดประกาย สร้างรายได้ใหญ่ๆให้บริษัทเครือข่าย ผมว่าเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ

3G จะเป็นประโยชน์จริงๆกับบริษัทเครือข่าย "ก็ต่อเมื่อ" มีการร่างสัมปทานกันใหม่ ที่ทำให้เครือข่ายได้ประโยชน์ครับ คือจ่ายผลประโยชน์ให้กับรัฐน้อยลง แต่กลายเป็นว่าในขณะเดียวกัน ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ก็จะเกิดการลดราคาแข่งกันของเครือข่ายอยู่ดี จนทำให้ margin ลดลงไป จนรายได้ที่ได้เพิ่มมา ไม่ได้ประโยชน์อะไรเท่าไรอยู่ดี

เชื่อหรือไม่สำหรับเครือข่ายมือถือ สิ่งที่ขายแล้วได้กำไรเยอะที่สุด ณ วันนี้ คือเสียเนื้อที่ในเครือข่ายน้อยมาก แต่ได้รายได้สูงสุด ก็ยังเป็น SMS ครับ

Rocker เขียน:No...Commentสําหรับคุณภาววิทย์ครับ

mini fly weight เจอ heavy weight

ความตกผลึกทางความคิดวัดกันตรง "สิ่งที่ไม่พูด" ....... ชัดเจน ฮ่า ๆ ๆ ๆ

simplelife เขียน: ไม่รู้ว่ากล้าไปออกรายการได้ยังไง

ผมว่าเค้าก็ไม่รู้ครับ 555555555555555555+

ดูแต่พิธีกร

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ดูแต่พิธีกร

ตามนั้นครับ 555

marcus147 เขียน:

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ดูแต่พิธีกร

ตามนั้นครับ 555

หลังๆ รายการข่าวหลาย ๆ ช่อง มีพิธีกรที่สวยงาม น่าดึงดูด ทำให้ผมได้ความรู้มากขึ้นไปด้วย

(นึกว่าผมคนเดียวที่มอง แฮะๆ )

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ดูแต่พิธีกร

ผมว่าพี่เค้าค่อนข้างมีอายุไม่น้อยแล้วนะครับ

.....ข้างบนระวังเมียมาอ่านนะครับ (ล้อเล่นนะครับ)

มองคน มองส่วนดีก็ได้นะ ส่วนไม่ดีเว้นไว้กันบ้างก็ดี

ด้วยความหวังดีนะครับ

หน้าตาของอาจารย์ดูแปลกๆนะคับ ตอนคุณพาวิดพูด

ดูแล้วก็งงๆ ตกลงพอร์ตการลงทุนของคุณภาวิทย์ เป็นลงทุนระยะยาว 90% และใช้เทคนิคเพียงแค่ 10% เองหรือครับ

เห็นพูดแต่เรื่องเทคนิคบ่อยมาก ในหลายๆแห่ง และหลายๆเล่ม

ดูแต่พิธีกร ^_^
ฟังแล้วก็แปลกๆ แขกท่านหนึ่งพูดแต่เรื่องเทคนิก 555

chatchai เขียน:ดูแล้วก็งงๆ ตกลงพอร์ตการลงทุนของคุณภาวิทย์ เป็นลงทุนระยะยาว 90% และใช้เทคนิคเพียงแค่ 10% เองหรือครับ

เห็นพูดแต่เรื่องเทคนิคบ่อยมาก ในหลายๆแห่ง และหลายๆเล่ม

อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวผมเองครับ

ช่วงก่อนหน้านี้...ผมก็เห็นด้วยกับการใช้ทั้งสองวิธีคือ ดูปัจจัยพื้นฐาน เสริมด้วย เทคนิเคิล เพื่อดูจังหวะ

แต่หลังจากทดลองใช้ไปสักพักนึง ผมก็หันกลับมาใช้วิธีการ ดูปัจจัยพื้นฐาน เพียงอย่างเดียว

เลิกใช้วิธีการด้านเทคนิคเพื่อจับจังหวะอีกต่อไป

และทำให้ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมนักลงทุนหลาย ๆ ท่าน ที่ไม่เน้น เทคนิเคิล ถึงได้ไม่นำเอาวิธีการดังกล่าวมาผสมผสานกัน

ทั้งนี้เป็นเพราะว่า เมื่อนำเอาสองวิธีการมาผนวกกันนั้น ทำให้เกิดความสับสนครับ

และยิ่งถ้าใช้แนวเทคนิเคิล ก็ต้องยิ่งติดตามราคา ( ถ้าไม่ติดตาม จะไม่สามาถจับจังหวะได้ ) ทำให้เกิดความว้าวุ่นมากขึ้น และทำให้ความรู้ของทั้งสองวิชาเกิดขัดแย้งกัน เพราะถ้าใช้ เทคนิเคิล เวลาหุ้นลงต้องขาย เวลาหุ้นขึ้นให้ซื้อ แม้นต่อแรกเริ่ม คิดว่าตัวเองจะสามารถควบคุมอารมณ์ได้ แต่ผลจากการที่ต้องติดตามดูราคาหุ้น ทำให้ความมั่นคงทางจิตใจสั่นคลอนได้ทีเดียวครับ

ผมก็เลยกลับมาใช้วิธีการดูปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียวเหมือนเดิมครับ

เรียกว่า กลับไปเป็น อนาคิน ดังเดิม ก่อนจะก้าวสู่ ด้านมืดของพลัง กลายเป็น ลอร์ดเวเดอร์ ไป

เห็นพิธีกรถามคุณภาววิทย์ว่าผลตอบแทนแบบไหนดีกว่ากันในเมื่อใช้ทั้งVI กับ technical
เขาตอบว่าน่าจะพอๆกัน ผมว่าเขาตอบไม่จริงคงต้องการโปรโมตการใช้เทคนิคอลมากกว่ามั้ง
ลงทุนtechnicalแค่10% ทำกกำไรได้มากเท่างินลงทุนด้วยVIอีก90%เลยหรือครับเนี่ย
แต่เท่าที่ผมเคยรู้ คุณภาววิทย์มีหุ้นหลายตัวที่ซื้อถือยาวมาตั้งแต่ซับพลามซ์
ตัวเด่นๆที่เขาพูดถึงบ่อยก็มี bbl, ptt, advanc มังครับ

navapon เขียน:เห็นพิธีกรถามคุณภาววิทย์ว่าผลตอบแทนแบบไหนดีกว่ากันในเมื่อใช้ทั้งVI กับ technical
เขาตอบว่าน่าจะพอๆกัน ผมว่าเขาตอบไม่จริงคงต้องการโปรโมตการใช้เทคนิคอลมากกว่ามั้ง
ลงทุนtechnicalแค่10% ทำกกำไรได้มากเท่างินลงทุนด้วยVIอีก90%เลยหรือครับเนี่ย
แต่เท่าที่ผมเคยรู้ คุณภาววิทย์มีหุ้นหลายตัวที่ซื้อถือยาวมาตั้งแต่ซับพลามซ์
ตัวเด่นๆที่เขาพูดถึงบ่อยก็มี bbl, ptt, advanc มังครับ

เค้าเปิด Course สอน Technical Analysis และ Trading หลาย Course ครับ เค้ามี Conflict of Interest ครับ
ความเห็นผมว่า เลยต้องพูดแบบนั้นไม่งั้นกระทบกิจการเค้า ครับ

ขนาดหนังสือ ยังเขื่อนแตก เลยครับ จัดไป !!! VI และ Technique

อยากเห็นคุณ ภาววิทย์ วิเคราะห์ หุ้นเป็น ตัวๆจัง ไหน บอกพื้นฐาน 90%

อย่างไรก็ตาม Course ของ พี่ ภาววิทย์ มี แต่สาวๆนะครับ สงสัยเร้าใจมั้ง VI มันน่าเบื่อ สาวๆอาจไม่ชอบ

ลองดูนักลงทุนอย่าง คุณ rockriverarms ที่ใช้ technical อย่างเดียว
บางหรือยัง
ผมอ่านมา 6 ปีแล้ว ผมไม่เคยได้ลงมือซื้อตาม แต่เห็นผลลัพธ์แล้วสรุปได้ว่า เก่งจริงๆ ครับ นอกจากนี้คุณ rockriverarms ยังเป็นสุภาพบุรุษที่ให้โดยไม่มีนัยแอบแฝงด้วยครับ

ตอนแรกเฉยๆ พอพูดพิธีกร ถึงกับขีดความอยาก พุ่งกระฉูด
อ่านต่อลงมา เจอบอก ระวังเมียมาเจอ กาแฟ แทบกระฉอก

ส่วนเร ื่อง ผสม tech and funda
ผมว่ามันเป็นพรสวรรค์ โดยเฉพาะเซียนรุ่นใหม่
asset turnover เค้าจะสูงไง
tech อาจจะช่วยเค้าทำรอบได้มากกว่าจะดู funda อย่างเดียว

ความเห็นผม
ในเมื่อหลักพื้นฐานของVI คือการซื้อหรือขายหุ้นโดยอิงอยู่บนพื้นฐานของกิจการ
แต่technicalเป็นการซื้อหรือขายหุ้นโดยอิงอยู่บน...กราฟ??
แล้วVI+technical มันจะผสมกันได้อย่างไร

มันก็แค่การเก็งกำไร ที่พูดให้มันดูดีรึป่าว?

สั้นๆ เหมือน Ferrari vs Toyota vios

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ดูแต่พิธีกร

ยอบรับว่าหน้าตาดีครับ แต่คำถามบางทีฟังแล้วปวดตับ เหมือนพิธีกรความรู้ไม่เยอะเท่าไหร่

Rockeriverarm นั่นยอมรับว่าเก่งมากครับ นับถือ แต่พี่เค้าก็ดูพื้นฐานบ้างนะครับแต่ไมโพสเพราะ ในเมื่อเค้าทํา web technic ขึ้นมา อาจจะกลัวมันขัดกันนะครับ

Technic สามารถ บอก trend ราคา ได้นะ แต่ผมใ้ช้ดู เป็นอาวุธ
เสริมนะครับ

ลอกคราบซะล่อนจ้อนครับ สำหรับคนหนุ่มคนนั้น ฮา

บอกลงทุน vi 90% เทคนิค 10%

แต่พูดแนวเทคนิค 90% พูดแนว vi 10%

ผมว่าเค้ากำลังดังในช่วงกระแส บอกกับพอดีหน้าตาดี สาวๆก็เลยสนใจ ที่สำคัญเค้าทำนู่นนี่จนดังได้เพราะนามสกุล

ต้อง click เข้าไปดูวันที่ 13/3/55 นะค่ะ

ดูแล้วครับ...คุณภาววิทย์พูดขึ้นมาว่าแนวทางที่เค้าทำตอนนี้ยังต้องได้รับการพิสูจน์...ผมว่าตัวเค้าเองทราบดีว่าเค้ายังต้องเดินทางอีกไกล...

สิ่งที่เค้าพูดอาจไม่ค่อยมีประโยชน์กับคนในนี้ (รวมถึงผมด้วย) ในด้านการลงทุนแบบ VI...ผมอ่านหนังสือของเค้าก็พบว่ามันไม่ตรงกับแนว VI เลย (ไม่เคยอ่านซ้ำ)

แต่อย่างไรก็ตาม...ผมเห็นด้วยกับความเห็นที่ว่าไม่มีประโยชน์กับการมองแต่ข้อเสียของเค้าครับ...ผมเชื่อว่าเค้ามีข้อดี...อย่างน้อยเค้าคงเก่งกว่าผมในตอนที่ผมอายุเท่าเค้า...

ผมเห็นด้วยกับการวิเคราะห์เรื่องแนวทางการลงทุน...แต่อย่าวิจารณ์ถึงหน้าตาหรือนามสกุลเลยครับ...มันไม่ใช่สาระ

อยากทราบว่าคุณ rockriverarms ที่เน้นtechnicalเนี่ยไม่ทราบว่าพอจะทราบมั้ยครับว่าพี่เค้าทำผลตอบแทนระยะยาวได้กี่เปอร์เซนต์ทบต้นต่อปี