Thai VI

ลองแชร์กันดูครับ

ไม่ควรอย่างแรงครับ ทองคำไม่ใช่กิจการนะครับ มันเป็น commodity

ที่เค้าให้กล้านั้นหมายถึงถ้าเราเข้าใจในกิจการดีแล้ว และมั่นใจว่าอนาคตดี ถ้าเวลาราคาตกเพราะคนอื่นกลัว ให้เรากล้า เราก็จะได้ของดีราคาเหมาะสม

แต่ commodity นี่จะเข้าใจมันยังไงดีครับ

ผมว่าใช้ได้ครับ แต่ว่าอาจจะต้องรอนานหน่อยระหว่างที่ราคาไม่ไปไหน และระหว่างที่เรารอ ทองคำไม่ได้แบ่งตัวเป็นทองคำเล็กๆ ออกมา (ไม่มีปันผลให้เราชื่นใจเหมือนหุ้น)

และจากประวัติศาสตร์ทองคำ จะเห็นว่าหลังจากราคาตกลงอย่างรุนแรงในอดีต ต้องใช้เวลานานมาก กว่าราคาจะกลับมาอีกครั้งครับ

ผมว่าไม่น่าจะใช้ได้นะครับ
เพราะทองคำ เป็น commodity ชนิดนึง ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่แล้วว่าการที่ของพวกนี้จะแพงขึ้นได้ มันขึ้นอยู่กับ Demand กับ

Supply ในตลาด ถ้าทุกคนกลัววัตถุสีทองๆชนิดนี้ แล้วไม่อยากได้มันเป็นเจ้าของกันอีกต่อไป มันจะมีค่าอยู่เหรอครับ?

ไม่เหมือนกับหุ้นกิจการที่ดีครับ คนกลัว เพราะไม่รู้ คิดว่า มันไม่มีค่า แต่จริงๆ ถ้าเรารู้ว่า มันสามารถสร้างความมั่งคั่งในอนาคต ได้มากกว่าเงินที่ลงทุนซื้อไป ก็ควรจะซื้อเก็บไว้ในช่วงที่คนอื่นกลัวแบบผิดๆครับ

คหสต.นะครับ

หลักการที่ว่าใช้ได้กับราคาทองได้ครับ ถ้าคุณสามารถประเมินราคาที่เหมาะสมของทองได้ครับ
เพราะปัญหา คือ มักยากมากและไม่สามารถประเมินราคาที่เหมาะสมได้ ครับ

ใช้ได้นะ แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นกลัวกันนี่นา

คนที่กล้าเมื่อคนอื่นกลัว เขาไม่ได้กล้าแบบสิ้นคิด แต่เขาจะมองข้าม shot
เพราะทุกสิ่งมากระทบและส่งผลในปัจจุบันก็เป็นแค่สิ่งชั่วคราว

"แล้วมันก็ผ่านไป"

ถ้ามองข้าม shot แล้วเห็น "ความหวัง" ก็กล้าสวนครับ

ตอนนี้ยังไม่เห็นมีใครกลัวเลย ทั้งทอง ทั้งหุ้น 555

ตอนนี้ถ้ามีคนถามว่าลงทุนอะไรดี เห็นส่วนมากมีแต่ตอบว่า ลงทุนในทอง กับ หุ้นซิ

ให้กล้าเมื่อคนอื่นกลัว เป็นคำพูดถึงหลักการลงทุนในหุ้นของ CI บางคนที่บอกเหล่าให้คนอื่นๆฟัง ฟังดูง่ายๆ เป็นหลักการที่ดูเหมือนทำตามง่ายๆ แต่คำพูดประโยคนี้แฝงเหตุผลอะไร

ลองคิดดูดีๆ ตอนนี้คนอื่นกลัว ก็น่าจะหมายถึงว่า คนอื่นคงจะขายหุ้นออกมาหมดแล้ว ถ้าไม่ขายก็คงจะไม่คิดที่จะซื้อหุ้น ราคาหุ้นในกระดานก็มีแนวโน้มที่จะต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน ดังนั้นถ้าเราซื้อหุ้นของบริษัทอะไรก็ตาม ย่อมมีโอกาสที่จะได้กำไร

บางคนก็เตือนว่า มีดกำลังตก อย่าเพิ่งเอามือไปรับ

ซึ่งก็เป็นประดยคที่ถูกอีกเช่นกัน เมื่อราคาตกลงมายังไม่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน ถ้าเราซื้อก็มีโอกาสขาดทุนสูง

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรจะซื้อเมื่อไร ถ้าเราไม่มีมูลค่าพื้นฐานของกิจการในใจ

ผมว่าทองเป็นสิ่งพิเศษที่ไม่เหมือนสิ่งใดในโลก
มันไม่สามารถวัดมูลค่าได้ และมันมีอยู่กำกัด
คนทั้งโลกใช้เป็นสิ่งที่มีอำนาจสูงสุดในการแลกเปลี่ยน

ถ้าโลกเราไม่เปลี่ยนระบบ ยังคงใช้ระบบเดิมอยู่
ทองสำคัญที่สุดครับ สำคัญกว่าประเทศประเทศหนึ่ง หรือกระทั่งทวีปทวีปหนึ่ง
เพราะประเทศสามารถสามารถหายไปได้ เงินยูโรสามารถหายไปได้
แต่ทองก็ยังคงมีมูลค่าที่สุด เพราะเป็นสิ่งเดียวที่คนทั้งโลกใช้อ้างอิง
บางคนที่ว่าที่ดินสำคัญสุด ลองเอาที่ดินเราไปแลกกับทวีปอื่นเขาคงไม่สนใจ
แต่ถ้าเป็นทองคำ OKเลย

ดังนั้นผมมว่าทองไม่มีวันเกิดฟองสบู่ เหมือนอสังหา หรือcommoอื่นๆ เพราะมันไม่สามารถวัดมูลค่าได้
มูลค่าทองคำอยู๋ที่ความรู้สึก ว่าแพงหรือถูก!!! ซึ่งถ้ามองจากอดีต จะพบว่าราคาทองคำสวิงหลายรอบมาก
แต่ทองคำจะต้องมาทำNewHighทุกปี!!! เพราะว่าพอทองขึ้นมาแรงๆด้วยระยะเวลาสั้นๆคนจะรู็สึกว่าทองแพง
จึงเทขายกันออกมา...แต่พอเวลาผ่านไปคนจะค่อยๆซึมซับมูลค่าของทองและลืมความแพงนั้นไป แล้วย้อนกลับไป
มองราคาสูงสุดเดิมแล้วรู้สึกว่าราคานี้ถูกคนก็เริ่มเก็บทองคำเรื่อยๆ จนวันหนึ่งก็ไปทำNewHigh เป็นวงจรณ์แบบนี้
มานานมากๆๆๆครับ ต้องแต่สมัยยุคอินเดียร์แดง

ดังนั้นผมว่าใช้ได้แน่นอนครับ ยกเว้นเกิดภัยบัติพร้อมกันทั้งโลกจนทำให้ระบบเปลี่ยนไป หรือหาตัวกลางสิ่งแลกเปลี่ยน
ของโลกตัวอื่นมาใช้แทนทองคำครับ^^

ทองคำมีค่าขึ้นอยู่กับความเชื่อถือครับ ลำพังตัวมันเอง
มีประโยชน์น้อยมาก ประโยชน์น้อยกว่าเหล็กเสียอีก
ครั้งหนึ่งอเมริกาจะพิมพ์ธนบัตรจะต้องมีทองสำรองไว้
เป็นประกัน แต่ตอนหลังอเมริการู้ว่าดอลล่าห์ของตนก็มี
คนเชื่อถือ แล้วทำไมต้องเอาทองคำเป็นตัวค้ำประกัน
อเมริกาจึงพิมพ์ดอลล่าห์โดยไม่จำกัดจำนวนในปัจจุบัน
ผมว่าในอนาคตทองคำจะมีความสำคัญน้อยลงเรื่อยๆ
แต่คงไม่เห็นในช่วงอายุของเรา

เพราะเมกาเป็นมาเฟียโลกดอลถึงมีค่า. แต่ถ้ามาเฟียเจอคู่ปรับแบบอิหร่านหรือใครที่มีอาวุธมหาปะลัยล้างโลก ค่าดอลก็จะอ่อนยวบอย่างรวดเร็ว ใครมีดอลล่าก็ซวยครับ

ดังนั้นเมกาจึงยอมไม่ได้ที่ใครจะมาสะสมอาวุธนิวเครียแข่ง เพราะนั่นหมายถึงหายนะของเมกา

picklife เขียน:ดังนั้นผมมว่าทองไม่มีวันเกิดฟองสบู่ เหมือนอสังหา หรือcommoอื่นๆ เพราะมันไม่สามารถวัดมูลค่าได้
มูลค่าทองคำอยู๋ที่ความรู้สึก ว่าแพงหรือถูก!!! ซึ่งถ้ามองจากอดีต จะพบว่าราคาทองคำสวิงหลายรอบมาก
แต่ทองคำจะต้องมาทำNewHighทุกปี!!! เพราะว่าพอทองขึ้นมาแรงๆด้วยระยะเวลาสั้นๆคนจะรู็สึกว่าทองแพง
จึงเทขายกันออกมา...แต่พอเวลาผ่านไปคนจะค่อยๆซึมซับมูลค่าของทองและลืมความแพงนั้นไป แล้วย้อนกลับไป
มองราคาสูงสุดเดิมแล้วรู้สึกว่าราคานี้ถูกคนก็เริ่มเก็บทองคำเรื่อยๆ จนวันหนึ่งก็ไปทำNewHigh เป็นวงจรณ์แบบนี้
มานานมากๆๆๆครับ ต้องแต่สมัยยุคอินเดียร์แดง

ในอดีตราคาทองคำเคยพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ฟุบลงมานานหลายปี ลองหาราคาทองคำในอดีตประมาณ 30 ปีก่อนดูครับ

อันนี้เป็นกราฟทองย้อนหลังครับ ซึ่งช่วงปี 1978-1979 เคยเปิดฟองสบู่ทองคำ ราคาทองคำพุ่งเกือบ 4 เท่าตัว แล้วหลังจากนั้นราคาก็ร่วงลงเกือบครึ่ง คนซื้อไว้กว่าจะหลุดดอยก็รอ 26 ปีครับ

อุทยา เขียน:อันนี้เป็นกราฟทองย้อนหลังครับ ซึ่งช่วงปี 1978-1979 เคยเปิดฟองสบู่ทองคำ ราคาทองคำพุ่งเกือบ 4 เท่าตัว แล้วหลังจากนั้นราคาก็ร่วงลงเกือบครึ่ง คนซื้อไว้กว่าจะหลุดดอยก็รอ 26 ปีครับ

ขอบคุณครับพี่Chatchaiครับ ไม่เคยมองย้อนถึง30ปี Oo ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างหรอครับ???

ผมเจอบทความบน web นะครับ จากที่

http://www.investorsfriend.com/asset_performance.htm

เป็นการเปรียบเทียบผลตอบแทนจาก Asset Class ต่างๆ ระหว่าง หุ้น, ทอง, ตราสารหนี้ระยะสั้น, ตราสารหนี้ระยะยาว (ที่ US) ในช่วงเวลาต่างๆ

อีกกราฟนึงนะครับ เป็นราคาทอง แบบที่คิดผลของ inflation เข้าไปด้วย

http://inflationdata.com/inflation/imag ... _chart.htm

จากกราฟ หากใครซื้อทองไปเมื่อจุดสูงสุดที่ปี 1980 ตอนนี้ยังขาดทุนอยู่เลยครับ ถ้าคิดเงินเฟ้อด้วย