หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 05, 2012 3:54 pm
โดย vizion
N-PARKขายหุ้น-สิทธิเรียกร้อง'เคมปิน สยาม'610 ล.ให้บ.ทุนลดาวัลย์
บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการขายหุ้นสามัญบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด (เคมปิน) และขายสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับจากเคมปิน ให้แก่บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด เป็นมูลค่ารวม 610,000,000 บาท
พร้อมทั้ง มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 60,430,920,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 120,861,840,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 60,430,920,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมเป็น 60,430,920,000 บาทหุ้นสามัญจำนวน 60,430,920,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีชื่อปรากฏอยู่ในวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นโดยวิธีปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 23 มีนาคม 2555 ตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.02 บาท และกำหนดวันจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 21 – 25 พฤษภาคม 2555 เวลา 9.00 น. – 15.30 น.
บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ชำระหนี้เงินกู้ยืม และใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และโครงการอื่นๆ ของบริษัทต่อไปในอนาคต รวมทั้ง สำรองเผื่อหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากคดีความต่างๆ
Re: N-PARK
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 05, 2012 3:57 pm
โดย pakapong_u
เป็นหนี้แต่ชาติปางไหน ทำไมต้องไปเพิ่มทุนให้อีก เพราะเพิ่มทุนไม่รู้จักจบจักสิ้น ทุนจดทะเบียนเป็น 1 แสนล้านบาทเข้าไปแล้ว
Re: N-PARK
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 05, 2012 10:51 pm
โดย pat4310
vizion เขียน: สำรองเผื่อหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากคดีความต่างๆ
เอาเงินผู้ถือหุ้นไปรับกรรมในอดีต
รบกวนเอาไว้ใน 100 คน 100 หุ้นด้วยครับ ถึงม้นจะเน่ายังไงก็ยังมีมูลค่าอยู่
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 06, 2012 9:41 am
โดย picatos
สุดยอด เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.2 แสนล้านบาท แต่ Market Cap หลักพันล้าน
หุ้นที่ราคาต่ำติดดิน แบบนี้ dilution effect น้อยมาก แปลกดี
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 06, 2012 12:37 pm
โดย pat4310
*ตอนนี้มี หนี้สินหมุนเวียนอยู่ 1,600 ล้าน ตัวหลักๆที่ต้องเคลียร์คือ
***หนี้สินภายใต้สัญญาปรับโครงสร้างหนี้ 646 ล้านบาท
***ประมาณการหนี้สิน 724 ล้านบาท
*มีขาดทุนสะสม 8,300 ล้านบาท
ลองจิตนาการแบบเอาใจเจ้าของมาใส่ใจเราครับ
*ขายโรงแรมได้เงินมา 610 ล้าน
*เพิ่มทุน 60,000 ล้านหุ้น หุ้นละ 0.02 ถ้าขายได้หมดได้เงินมา 1,200 ล้าน
รวมได้เงินมา 1,810 ล้านบาท
เงินที่ได้ก็เอาไปใช้หนี้
ที่เหลือพัฒนาโครงการใหม่
ลดทุนจดทะเบียนล้างขาดทุนสะสม
เปลี่ยนชื่อบริษัท
เทรดกันสนุกสนาน

Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 06, 2012 2:15 pm
โดย dome@perth
ขำๆครับ
หุ้น ทั้ง จอด-เกียร์ว่าง
N-PARK

Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 06, 2012 3:01 pm
โดย Feudalz
ผู้ถือหุ้นหรือตู้ atm ครับ กดตังใช้เรื่อยเลย

Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 06, 2012 9:07 pm
โดย ดำ
ยิ่งกว่ารีดเลือดจากปู เหลือแค่ 2 ตังค์มันยังจะเอา
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 06, 2012 9:17 pm
โดย superboy
พี่เขาจะเก็บค่าต๋ง. เห็นเล่นกันมานาน. ได้ทีเป็นร้อยเปป็นเซ็นต์.
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 07, 2012 11:34 am
โดย ดำ
picatos เขียน:สุดยอด เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.2 แสนล้านบาท แต่ Market Cap หลักพันล้าน
หุ้นที่ราคาต่ำติดดิน แบบนี้ dilution effect น้อยมาก แปลกดี
อุบายของคนทำ หุ้นมันแค่ 1 ตังค์ 2 ตังค์ อยู่แล้ว จะไดลูทไปไหนได้อีกครับ (ตลาดให้ซื้อขายกัน 0.005 บาทได้มั้ย) คงหวังว่าได้เงินมาก็ดี ยังไงก็ไม่มีอะไรเสียอยู่แล้ว
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 07, 2012 1:09 pm
โดย pat4310
ที่มา n-park "รายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์"
link
8. ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทจากผลของรายการ :
บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินทรัพย์ในครั้งนี้ประมาณ 495.71 ล้านบาท ไปใช้สิทธิในการซื้อคืนที่ดิน อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 291 โฉนด เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 โฉนด รวม 292 โฉนด มีจำนวนพื้นที่รวม 267 ไร่ 3 งาน 94.90 ตารางวา กับธนาคารกรุงไทย (ประกอบไปด้วยภาระหนี้คงเหลือสุทธิจากการโอนทรัพย์ชำระหนี้จำนวน 400.88 ล้านบาท ค่าถือครองทรัพย์สินค้างชำระจำนวน 54.83 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินประมาณ 40.00 ล้านบาท) ซึ่งบริษัทได้นำที่ดินดังกล่าวไปตีโอนทรัพย์ชำระหนี้กับธนาคารเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2552 ในอัตราตีโอนร้อยละ 71.03 ของราคาประเมิน เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่บริษัททำกับธนาคาร โดยผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทในการใช้สิทธิซื้อคืนที่ดินดังกล่าว มีดังนี้
8.1 บริษัทสามารถนำที่ดินจำนวน 292 โฉนด ที่ได้รับจากการใช้สิทธิซื้อคืนดังกล่าว ไปพัฒนาโครงการเพื่อก่อให้เกิดผลตอบแทนแก่บริษัทในอนาคต อีกทั้งที่ดินดังกล่าวมีราคาประเมินที่สูงกว่าราคาซื้อคืนที่ดินที่บริษัทจ่ายชำระให้แก่ธนาคาร โดยตามรายงานการประเมินของบริษัท เพ็ชรสยาม แอพไพรซัล จำกัด ได้ทำการประเมินราคาที่ดินในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 และวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 มีราคาประเมินรวม 1,013.634 ล้านบาท ในขณะที่จำนวนเงินที่บริษัทชำระในการซื้อคืนที่ดินดังกล่าวจากธนาคารมีจำนวนเท่ากับ 495.71 ล้านบาท
8.2 บริษัทจะได้รับการยกเว้นเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ที่บริษัทค้างชำระกับธนาคาร จำนวน 245.25 ล้านบาททั้งจำนวน
8.3บริษัทจะได้รับคืนหลักทรัพย์ที่ติดภาระจำนำกับธนาคารตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่เหลือภายหลังจากการ
ขายหุ้นเพื่อชำระให้แก่ธนาคารตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งบริษัทสามารถนำหลักทรัพย์ ดังกล่าวไปแสวงหาผลตอบแทนให้กับบริษัทได้
นอกจากนี้บริษัทยังสามารถนำเงินส่วนที่เหลือจากการใช้สิทธิซื้อคืนที่ดิน จำนวนประมาณ 114.29 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท และ/หรือใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการอื่นๆ ของบริษัทต่อไปในอนาคต
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2012 1:10 pm
โดย siamkrub
กรมธนารักษ์ส่ายหน้า เอ็นพาร์คเบี้ยวค่าเช่าที่ เล็งล้มร้อยชักสาม
ธนารักษ์เผยส่งอัยการสูงสุดตรวจทานข้อกฎหมาย ก่อนบอกเลิกสัญญาโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อย
ชักสามของ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค หลังโครงการไม่คืบ เบี้ยวค่าเช่า ขณะที่บริษัทเร่งเพิ่มทุนขาดสภาพ
คล่องหนัก
อะไรของมันกันนี่บริษัทนี้

Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2012 1:31 pm
โดย MO101
เพิ่มทุนไมได้บริษัทปิดแน่ๆ
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 06, 2012 3:22 pm
โดย pat4310
สรุปความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ที่มา
http://www.settrade.com/simsImg/news/2012/12016077.pdf หน้าสุดท้าย
ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่าการที่บริษัทได้จำหน่ายสินทรัพย์ซึ่งประกอบไปด้วย เงินลงทุนในหุ้นสามัญบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด จำนวน 7,490,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 35.00 ของทุนที่ชำระแล้วของเคมปิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น (Subordinated Loan) พร้อมดอกเบี้ยค้างรับ ที่ราคารวมทั้งสิ้น 610.00 ล้านบาท มีความเหมาะสม ทั้งในเรื่องเหตุผลและประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ โดยเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายทรัพย์สินในครั้งนี้จำนวน 507.11 ล้านบาทจะนำไป ซื้อคืนที่ดินจาก KTB ซึ่งตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้การซื้อคืนที่ดินจะถือได้ว่าบริษัทได้ชำระหนี้ให้กับ KTB ทั้งจำนวนเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทยังจะได้รับยกเว้นการชำระดอกเบี้ยคงค้างเป็นจำนวนประมาณ 245.25 ล้านบาท (ภาระดอกเบี้ยคงค้าง ณ วันที่ 31ธันวาคม 2554 ) อันจะเป็นการช่วยลดภาระการจ่ายชำระดอกเบี้ยและหนี้เงินต้น และช่วยปลดภาระการจำนำหลักทรัพย์เพื่อนำหลักทรัพย์ไปแสวงหาผลกำไรให้กับบริษัทได้ อีกทั้งการซื้อคืนที่ดินจาก KTB ทำให้บริษัทสามารถนำที่ดินไปพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในอนาคต นอกจากนี้บริษัทยังสามารถนำเงินสดที่เหลือจากการซื้อคืนที่ดิน ประมาณ 102.89 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนและเงินหมุนเวียนสำหรับรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตสำหรับความเหมาะสมของราคาขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญเคมปิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยค้างรับ ที่ราคารวมทั้งสิ้น 610.00 ล้านบาท รวมถึงความเหมาะสมของเงื่อนไขการชำระเงินและเงื่อนไขการทำรายการมีความเหมาะสม เนื่องจากราคาขายดังกล่าวสูงกว่าราคาเหมาะสมที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เป็นจำนวน 194.52 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 46.82 ของมูลค่าที่เหมาะสม
จากผลการศึกษาและด้วยเหตุผลต่างๆดังกล่าวข้างต้น บริษัท เอสซีเอ็มบี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่าการเสนอซื้อหุ้นสามัญเคมปินจำนวน 7.49 ล้านหุ้นและสิทธิเรียกร้องในภาระหนี้ต่างๆ และดอกเบี้ยค้างจ่ายของบริษัท ที่มีต่อเคมปิน ตามที่ผู้ซื้อได้เสนอมาในครั้งนี้ มีความสมเหตุสมผลและมีมูลค่าเหมาะสมและเป็นธรรมต่อบริษัท จึงเห็นว่า ผู้ถือหุ้นของบริษัท ควรอนุมัติ การจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญเคมปิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยค้างรับ ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลงคะแนนเสียงอนุมัติในการเข้าทำรายการในครั้งนี้ อยู่ในดุลพินิจของผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยผู้ถือหุ้นควรศึกษาข้อมูลในเอกสารต่างๆ ที่แนบมากับหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555 ในครั้งนี้ด้วย เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณาตัดสินใจลงมติได้อย่างเหมาะสม
บริษัท เอสซีเอ็มบี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ขอรับรองว่าได้พิจารณา และให้ความเห็นข้างต้นด้วยความรอบคอบตามหลักมาตรฐานวิชาชีพ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท เอสซีเอ็มบี จำกัด
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 17, 2012 8:54 pm
โดย pat4310
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3)
บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด(มหาชน)
(หน่วย : พันบาท)
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2555 2554
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (154,804) (217,089)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (0.0026) (0.0036)
ต่อหุ้น (บาท)
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2555 2554
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (56,111) (160,356)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (0.0009) (0.0027)
ต่อหุ้น (บาท)
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
มีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 25, 2012 11:16 am
โดย pat4310
(เพิ่มเติม) N-PARK เล็งซื้อที่ดินคืนจาก KTB ทุ่ม 2 พันลบ.พัฒนาอสังหาฯใหม่,ประนอมหนี้เพิ่ม
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2555 14:41:17 น.
ที่ประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)วันนี้ไฟเขียวแผนเพิ่มทุน 60,430.92 ล้านหุ้น พร้อมทั้งการขายหุ้น บริษัท เคมปิน สยาม มูลค่าราว 610 ล้านบาท ผู้บริหารเผยเตรียมนำเงินไปซื้อที่ดินย่านบางกระเจ้าและพระโขนงคืนจากธนาคารกรุงไทย(KTB)ที่เป็นเจ้าหนี้รายสำคัญ คาดว่าต้องใช้เงินราว 500 ล้านบาท ขณะเดียวกันเตรียมแผนลงทุนกว่า 2 พันล้านบาทพัฒนาโครรงการอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินดังกล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังจะมีการเจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ 1-2 รายภายในปีนี้ คาดว่าจะสามารถบันทึกกลับจากที่เคยตั้งสำรองฯไว้ราว 300-400 ล้านบาท
นายนคร ลักษณกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ N-PARK กล่าวว่า บริษัทะขายสินทรัพย์เพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะ KTB ซึ่งล่าสุดที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการขายหุ้นสามัญของบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด สิทธิเรียกร้องในหนี้เงินให้กู้ยืม และดอกเบี้ยค้างรับทั้งจำนวนให้กับบริษัท ทุนลดาวัลย์ ในราคารวม 610 ล้านบาท
บริษัทมีแผนจะนำเงินจากจำหน่าสินทรัพย์ดังกล่าวส่วนหนึ่งประมาณ 507.11 ล้านบาท ซื้อคืนที่ดินบางกระเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จำนวน 291 โฉนด ประมาณ 200 ไร่ และที่ดินในเขตพระโขนง กรุงเทพฯ อีก 1 โฉนด โดยที่ดินดังกล่าวในขณะนี้มีราคาประเมินสูงกว่าราคาซื้อคืนไปแล้ว
พร้อมกันนั้น บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาทในการพัฒนาที่ดินดังกล่าว เบื้องต้นอาจมีการแบ่งขายที่ดิน แล้วทำสัญญาก่อสร้างบ้านในภายหลัง เพื่อจะได้รับรู้รายได้เข้ามาได้เร็ว ประเมินราคาขายที่ดินเปล่าตารางวา(ตร.ว.)ละ 5 หมื่นบาท แต่หากเป็นที่ดินพร้อมบ้านจะคิดราคาตารางเมตร(ตร.ม.)ละ 5.5 หมื่นบาท
"ที่เราขายหุ้นเคมปินสยามออกไป เนื่องจากเปิดให้บริการมาสองปีกินทุนเราไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท และยังไม่มีแนวโน้มกำไร ประกอบกับเราไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่ จึงไม่มีอำนาจในการบริหาร ส่วนเงินที่เราได้มาก็จะนำไปใช้คืนหนี้ KTB ทำให้เราได้ที่ดินที่บางกระเจ้าประมาณ 200 ไร่กลับคืนมา ตอนนี้ value เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า แม้จะเป็นพื้นที่สีเขียว แต่ก็เป็นที่ดินที่ได้รับการจัดสรรก่อนจะมีกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อม ตอนนี้เราก็ได้ใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว 7 หมื่น ตร.ม.คิดว่าโครงการนี้จะทำให้เรากลับมาสง่าผ่าเผยอีกครั้ง"นายนคร กล่าว
สำหรับการพัฒนาโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ทบนพื้นที่โรงภาษีร้อยชักสามนั้น นายนคร กล่าวว่า ขณะนี้ยังติดปัญหาเดิมที่กรมธนารักษ์ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ เนื่องจากหน่วยงานราชการที่ใช้อ่าคารยังไม่ยอมย้ายออก
แม้ว่าขณะนี้บริษัทและกิจการร่วมค้าที่เป็นผู้ถือสิทธิในที่ดินดังกล่าว ยังมีความตั้งใจที่จะดำเนินโครงการต่อไป เนื่องจากทางอัยการก็มีความเห็นว่าทางกิจการร่วมค้าฯ ไม่ได้กระทำผิดสัญญากับกรมธนารักษ์ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีการตัดสินจากศาลออกมาแล้ว อาจจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่
นายนคร ยังเปิดเผยอีกว่า ในปีนี้บริษัทมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหนี้สิน เพื่อให้ธุรกิจมีสถานะที่น่าเชื่อถือ และมีสภาพคล่องที่เอื้อต่อการพัฒนาโครงการในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะสามารถประนีประนอมยอมความกับเจ้าหนี้ได้อีก 2 ราย ซึ่งในส่วนของหลักการได้ตกลงกันแล้ว อยู่ในขั้นตอนของการต่อรองราคา ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จจะทำให้บริษัทสามารถบันทึกกลับกำไรได้ราว 300-400 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สินที่เป็นคดีความทางกฎหมายเหลือไม่ถึง 1 พันล้านบาทแล้ว เป็นหนี้ที่มีกับธนาคารสินเอเชียกว่า 400 ล้านบาท ธนาคารนครธน 100 ล้านบาท และ หลักทรัพย์ธนนคร 100 ล้านบาท และมีหนี้สินที่ไม่ได้เป็นคดีความกับ KTB อีกประมาณ 500 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย อาชวินท์ สุกสี/ศศิธร/นิศารัตน์ โทร.02-2535000 ต่อ 322 อีเมล์:
[email protected]--
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 25, 2012 5:36 pm
โดย firewalker
ผมว่าปัญหาหลักๆของบริษัทนี้ คือธรรมมาภิบาล กับ เรื่องคดีความต่างๆนี่แหละ อ่านในหมายเหตุงบ เห็นคดีมียาวเป็นหางว่าวเลย เข้าใจกันเงินว่าคงสำรองหนี้ไปไว้ตรงนั้นเยอะมากไม่จบซักที
บริษัทเคยมีทรัพย์สินดีๆก็โดนยักยอกออกไปหมด จริงๆน่าจะมีใครรวมตัวกันไปบี้พวกนี้ออกไปบ้างนะครับ เผื่อจะเหมือนกรณี NIPPON หรือ THL บ้าง
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 10, 2012 4:56 pm
โดย pat4310
N-PARK แจงยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาร้อยชักสามจากธนารักษ์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 19 มิถุนายน 2555 13:16:46 น.
บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)ชี้แจงข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ระบุว่า"คลังยื่นโนติสถึงเอ็นพาร์คยกเลิกสัญญาร้อยชักสาม"นั้น ขอชี้แจงว่า บริษัทยังมิได้รับหนังสือบอกกล่าวหรือหนังสือเชิญชี้แจงจากกรมธนารักษ์แต่ประการใด และรายงานข่าวดังกล่าวกรรมการและผู้บริหารของบริษัทมิได้เป็นผู้ให้ข่าวจึงไม่ทราบผู้ใดเป็นคนให้ข่าว
แต่อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าโครงการดังกล่าวนั้น ตามที่บริษัทได้ชี้แจงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อยชักสามเพื่อก่อสร้างโรงแรมอามันรีสอร์ทรมแม่น้ำเจ้าพระยา(กำหนดโครงการระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปีนับจากปักผังพื้นที่โดยกรมธนารักษ์)ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างเนื่องจากปัญหาเรื่องการโยกย้ายหน่วยราชการ(หน่วยงานดับเพลิงบางรัก สังกัดกรุงเทพมหานคร) ซึ่งไม่ปรากฎใน TOR และสัญญาร่วมลงทุนออกจากพื้นที่โครงการ โดยต่อมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554
ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานการลงทุนก่อสร้างและบริหารโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม ซึ่งประกอบด้วย กรมธนารักษ์ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และบริษัทในฐานะตัวแทนกิจการร่วมค้า ได้มีมติว่า 1.เนื่องจากปัญหาการโยกย้ายหน่วยงานดับเพลิงบางรัก สังกัดกรุงเทพมหานคร ออกจากพื้นที่โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อยชักสามเป็นปัญหาข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการด้วยกันเอง ที่ประชุมจึงมีมติให้กรมธนารักษ์ส่งเรื่องข้อพิพาทดังกล่าวไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจรณาตัดสินต่อไป
2. ในเรื่องที่กิจการร่วมค้าได้ร้องขอความเป็นธรรมเพื่อขอให้กระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์พิจารณาหยุดนับระยะเวลา " อายุการบริหารโครงการ" และ "ระยะเวลาเช่า" ตามสัญญาร่วมลงทุนฉบับลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 โดยขอให้หยุดนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2548 ไปจนกว่าจะถึงวันที่กรมธนารักษ์ส่งมอบพื้นที่โครงการให้แก่บริษัทไปยังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ขอให้กิจการร่วมค้าทำหนังสือตามข้อร้องขอของกิจการร่วมค้าและแสดงเหตุผลประกอบโดยละเอียดให้กรมธนารักษ์เพื่อส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดหรือคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อทำความเห็นในทางกฎหมายและรวบรวมเสนอยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
ปัจจุบันกรมธนารักษ์ได้แจ้งให้บริษัททราบว่ากรมธนารักษ์ได้แจ้งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาใน 2 ประเด็นตามมติที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานการลงทุนฯ แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและคณะรัฐมนตรี
--อินโฟเควสท์ โดย ศศิธร ซิมาภรณ์ โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์:
[email protected]--