Thai VI

http://www.se-ed.com/eShop/Products/Det ... 6169076766

หนังสือใหม่จากค่ายstock2morrow สำหรับนักลงทุนหุ้นมือใหม่

เนื้อหาข้างในเป็นไงไม่รู้. แต่ปกหนังสือดูดีกว่า หนังสือเล่นหุ้นตามเซียน ของดร.

ตอนนี้ โปรโมทผ่านมันนี่แชลแนลแรงจริง หลังจากดังจากถือadvanc bbl

แพงอะ หนังสือ ดร. เล่มละ 100กว่าบาทเอง

เคยซื้อมาอ่านครับ

เอามันนะได้ครับ

แต่ประโยชน์ไม่มีครับ ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ผมว่าอ่านพวกของ ลินซ์ บัฟเฟต์ ฟิชเชอร์ดีกว่าครับ

เสียดายเงินครับของค่ายนี้ไม่เหมาะกับvi

วีไอของซุ้มนี้ ผมฟังพูดออกสื่อหลายครั้ง นั่งขำกลิ้งมาหลายรอบแระ ผมถามตัวเองว่าผม

อคติหรือเปล่า ก็ไม่น่าจะใช่ หนังสือของ hongvalue ผมยังซื้อมาอ่าน ของดร.นี่ระยะหลังๆ

เนื้อหาไม่เข้มข้นนะผมว่า ออกแนวเล่าสู่กันฟังมากกว่า

just for example, it's funny how not everyone has read or is reading buffett

im bringing up buffett for being the most successful investor measured by "net worth" as output

but they are reading this 55555555555

this world is funny 5555555555555

no hate to this guy but 555555

แหม่ อย่าไปหัวเราะเค้าสิครับ มันเป็นทางรวยของเค้า

ผมอ่านแต่ของ ดร.นิเวศน์ ดร.ภาพร และอาจารย์หลาย ๆ คนในเวบนี้
เรียนหลายกระบวนท่าเกินไป กลัวธาตุไฟแทรก

ผมว่า ถือว่าประสบความสำเร็จ เขารู้จักอาศัยจังหวะและหน้าตา เอามาช่วย
ถือว่าประสบความสำเร็จในการขายหน้าตา และท่าที
พร้อมกับการเขียนแบบทักทายวัยรุ่น เล่นคำ เล่นสีสรร
ตอบ fan club ใน web

เปรียบเสมือนไทยรัฐ ข่าวสด คมชัดลึก ดาราเดลี่ สยามดารา ขายข่าวไปยังกลุ่มลูกค้าของตัวเอง รู้ว่าตลาดของตัวเองสนใจตรงไหน ตลาดที่มีฐานลูกค้าใหญ่ รวมถึงตลาดผู้อ่าน ส่วนที่หนังสือของดร. ทั้งหลาย ลงไปไม่ถึง




vs





ถ้าของดร.นิเวศน์ ดร.ภาพร
เหมือนกรุงเทพธุรกิจ ประชาชาติ ฐานเศรษฐกิจ bangkok post มติชน เดอะเนชั่น

ยี้.... อ่านแล้วตาลาย หนักหัว ตัวหนังสือเต็มพรืดไปหมด กราฟอะไรก็ไม่มี คนแก่อ่าน วัยรุ่นเซ็ง

ดังนั้น เทียบระยะเวลาเดียวกัน ว่าด้วยเรื่องจำนวนคนอ่าน ก็จะน้อยกว่า ยอดขายรึจะสู้ได้
ขาดยอดขายส่วนที่ไม่มีสาวๆ หรือหนุ่มๆ มากริ๊ด



ถือว่าเขาประสบความสำเร็จมากกว่า คิดเป็น IRR เฉลี่ยสูงกว่าดร. นิเวศน์ ดร.ภาพร เพราะระยะเวลาอันสั้น แต่ได้ผลตอบแทนกลับมามาก รวดเร็ว

... 'ถ้าผมเป็นสำนักพิมพ์' แล้วประเมินผลงาน

เค้าก็ย้ำอยู่หลายทีว่าจุดมุ่งหมายคือดึงให้คนรุ่นใหม่มาสนใจการลงทุน สิ่งที่ทำก็ตรงนี่ครับ ใช้สื่อทั้งทีวี เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ นสพ. ตรงนี้ ดร.ก็ทำไม่ได้ (เพราะใช้มือถือ โทร.เข้ากับโทร.ออก อิอิ)

อย่าไปคาดหวังผิดกันสิครับ ไปหลงหยิบดินสอมากิน นึกว่าป๊อกกี้แล้วบอกไปอร่อย โธ่... ฉลากก็บอกอยู่แล้วว่าเอาไว้เขียน ห้ามกิน!!

ใครอ่านแล้วไม่ถูกใจก็กด -1 แล้วกันนะ ผมคิดของผมอย่างงี้แหละ

ประเด็นคือ เค้าขายดินสอ แต่บอกลูกค้าที่มาซื้อว่ามันคือป๊อกกี้

พอบอกว่าเป็นดินสอ ห้ามกิน โดนกดลบความเห็นหรือเปล่าครับ
ผมคุ้นๆ

โห แต่ละท่าน
วิเคราะห์กันได้สมเป็น VI ตัวจริงๆ

sakkaphan เขียน:ประเด็นคือ เค้าขายดินสอ แต่บอกลูกค้าที่มาซื้อว่ามันคือป๊อกกี้

ตรงประเด็นที่สุดเลย สั้นๆได้ใจความ555+

[quote="sakkaphan"]ประเด็นคือ เค้าขายดินสอ แต่บอกลูกค้าที่มาซื้อว่ามันคือป๊อกกี้[/quote]

คราวนี้ ปกหนังสือ เอาเข้าประเด็นที่สุดเลย เพราะ มือเก่า หรือ นักลงทุนที่เข้าตลาดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
รู้ว่าอะไร คือ ดินสอ อะไร คือ ป๊อกกี้ แต่มือใหม่ เค้ายังไม่รู้ครับ ถ้าจะหลอกเด็กต้องเด็กอนุบาลเนี่ยหลอกง่ายสุด?????
ผมชอบ Marketing Strategy ของค่ายนี้จังเลย ใครอยากศึกษาการตลาดต้องมาดูวิธีการเค้าครับ

ออกหนังสือถี่จังครับผู้แต่งคนนี้

ไม่รู้เอาเวลาไหนทั้งเทรด ทั้งดูกราฟ ทั้งทำงานประจำ ทั้งเขียนหนังสือ

ขนาด ดร.นิเวศน์ อ.เทพ ยังถี่ไม่เท่าเลยครับ

ผมคิดว่าจะออกเป็น แกะรอย 4 5 6 7 ซะอีก (จะได้ติดตามอ่านทุกๆเดือนเหมือนหนังสือการ์ตูนเลยครับ ^^)

ช่วงเริ่มต้นศึกษา ผมก็เคยซื้อมาอ่านเล่มแรกที่เค้าเขียน วิธีการอะไรก็ทั่วไปเขียนเหมือนกับการลงทุนมันง่ายใครลงทุนก็ได้ อ่านจบทั้งเล่ม จำได้ขึ้นใจคือ คิๆ คุๆ อิๆ หลังจากนั้นได้อ่านตีแตก เข้าใจหลักการลงทุนมากมาย มันต่างกันฟ้ากับเหว ตอนนี้หนังสือลอยหยักสมอง อยู่ในลังเรียบร้อย

ผมเคยบอกแล้วว่า ของแบบนี้ลางเนื้อชอบลางยา
อุจจาระที่ใครๆก็ไม่เห้นค่าก็สามารถเป็น best seller
ได้เพราะเหล่าฝูงแมลงวันช่วยค้ำจุน

หนังสือลงทุนทุกเล่มมันก็มีแนวทางคล้ายๆกันหมดแหละครับ
เราควรอ่านข่าวและติดตามข่าวมากกว่ามันให้ประโยชน์กว่ากันเยอะ

ผมไม่ได้มีอคติกับเค้านะครับ เค้าเป็นคนรุ่นใหม่หัวคิดดี อีก30ปีเค้าอาจจะมาแทน ดร.หลายๆคนก็ได้ครับ

ปล.แต่ออกหนังสือถี่ม๊ากมาย ขายหนังสืออย่างเดียวก็รวยละครับ

[quote="koh"]พอบอกว่าเป็นดินสอ ห้ามกิน โดนกดลบความเห็นหรือเปล่าครับ :rofl:
ผมคุ้นๆ :D[/quote]

เดี๋ยวซื้อหุ้น FB จะมากดไลค์ครับ

อ่านแกะ3 อย่างเดียว
รู้สึกว่า เขียนภาพกว้างๆ หรือ macro ง่ายๆจะดีกว่า
ลงdetail แล้วจะโดนจับได้
ว่า .............

นามสกุลจริงเขา คือ กลิ่นประทุม

ไม่ใช่ กล่นประทุม เดี๋ยวเพี้ยนหนักกว่านี้อีกจะยุ่งครับ

ผมขอเตือน เจ้าของกระทู้ (เห็นชอบนำหนังสีือแนวนี้มาโพสต์ประจำ)
ว่า อย่านำหนังสือแนวนี้ (โดยเฉพาะค่ายนี้) มาโพสต์อีกต่อไปเลย
เว็ปนี้ คือ แนวทาง วีไอ ของแท้
ไม่ต้องการพวกพันธุ์ทาง
ขนาดกราฟ ยังไม่มีสิทธิ์มาโพสต์เลย
แล้วคุณ (บังอาจ) จะมาโพสต์แนะนำหนังสือ แนวอ้างอิงกราฟในเว็บนี้อยู่อีกหรือ
...
ด้วยความหวังดี

หนังสือยังไม่ได้ออกแผง ก็มีความเห็นแง่ลบเต็มเลย
เปิดใจหน่อยชาววีไอ ไม่อยากให้เสื่อมกว่านี้
รอให้ได้อ่านแล้วคอมเม้นต์มันจะเนียนกว่า หากจะจ้องล่อเป้า

เปิดใจ มาสองเล่มแล้วคับ
จนได้ข้อสรุปอย่างที่บอกคือ
1 ลงdetail แล้วมั่ว
2 ไม่มีพื้นฐานแท้จริง คำแนะนำหลายอย่างก็พูดเหมือนที่เคยได้ฟังตามนักวิเคราะห์พูด

คนที่ควรจะเปิดใจ คือ คนที่ไม่รับฟัง คำเตือน ของคนที่ผ่านอะไรมามากกว่า บ้าง
ยิ่งมือใหม่ถ้ายิ่งถูกปลูกฝังอะไรมั่วๆ ผิดๆ น่าจะไม่ดีนะ

มีจัดสัมมนาด้วยครับ แค่นี้ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว

ยังไม่ได้อ่านเหมือนกัน แต่เรื่องเปิดใจ ดูจากประวัติในอดีตเอาสิครับ แต่ละเล่มใช้การตลาดนำ เนื้อหาผักบุ้งโหรงเหรง บอกว่าให้ "ซื้อต่ำกว่าพื้นฐาน (หุหุ)" แต่พื้นฐานคืออะไร คิดมายังไง ไม่ได้บอก อย่างเล่มนี้เปิดดูคร่าวๆที่ร้านหนังสือ ก็บอกให้ซื้อต่ำกว่า BV นี่โน่นนั่น

เอาตอนนี้ JTS ผมว่าก็ต่ำกว่า BV มาตลอด แปลว่าซื้อแล้วจะกำไร? SSI เดิมมี BV ประมาณ 1 ตอนนี้เหลือ 0.5 มั้ง แปลว่าซื้อได้ยัง ? GSTEEL อีก หรือแม้แต่บริษัทที่ไม่ลูกผีลูกคน อย่าง AH, TR หรือ TCB ถ้าซื้อดูแต่ BV ก็ไม่รู้ว่าจะกำไรจริงหรือเปล่า

อีกปัญหาคือ ลองดูประวัติการโพสของบางคนดีๆ เอาง่ายๆดูคุณ geegee สมัครไว้นานจริง แต่ไม่เคยโพสอะไรเกิน 2 ประโยคเลย โพสไปทั้งหมด 15 โพส ในจำนวนนั้น 6 โพส เป็น emoticon ไม่มีข้อความ ที่มีคอมเม้นท์ก็กระทู้นี้ กับ "หนังสือ หุ้น 5 เด้ง Penny Stocks" มีข้อความว่า

"คิดว่านี่คือหนังสือหุ้นที่ดีเล่มหนึ่งของประเทศนะ
ลองเข้าไปดูที่แฟนเพจเค้า http://www.facebook.com/PennystocksThai"

ผ่านไปอีก 10 นาที ก็มาโพสอีกว่า

"อ่านแล้ว เล่มนี้ดีจริง"

ข้อความยาวๆมาปรากฎอีกทีในกระทู้ของหนังสือสำนักพิมพ์นี้อีก แล้วจะทำให้คนอื่นๆคิดยังไงครับ ผมสงสัยมาก

อยากให้ลองมองบวก ใจกว้างๆกันบ้างว่า แม้เนื้อหาสาระจะเกรด C ในสายตาหลายคน แต่ก็มีส่วนช่วยให้คนรุ่นใหม่มากมายเริ่มสนใจการลงทุน เป็นการส่งเสริมพัฒนาตลาดทุนไปในตัว เท่าที่ผมเคยได้สัมผัสก็รู้สึกว่าแนวคิดรวมๆก็ไม่ต่างจากที่เคยได้ยินได้ฟังจากสัมมนาหรือสื่ออื่นๆที่เสนอในลักษณะทั่วๆไป ต่างกันก็ตรงสำนวน ภาษา ช่องทาง เข้าถึงตรงใจคนรุ่นใหม่มากกว่า

ด้านคุณภาพไม่ต้องเป็นห่วงเกินไป คนที่อ่านหรือฟังแล้วพอเอาไปใช้จริงไม่ค่อยได้ผล เดี๋ยวเค้าก็ค้นหาหนทางศึกษาเชิงลึกจากแหล่งอื่นๆต่อได้เอง เรื่องหาข้อมูลสมัยนี้ผมว่าหมูมากนะสำหรับคนรุ่นใหม่ การสร้างแรงจูงใจสิน่าจะยากกว่า ซึ่งถ้ามองกันตรงจุดนี้แบบคิดบวก ก๊วนนี้ก็ถือว่าทำสำเร็จเกรด A เลยนะ ว่ามั้ยครับ

[quote="sakkaphan"]ประเด็นคือ เค้าขายดินสอ แต่บอกลูกค้าที่มาซื้อว่ามันคือป๊อกกี้[/quote]

มองด้านบวก อย่างน้อยก็ช่วยสร้างกระแสความสนใจขยายตลาดป๊อกกี้สำเร็จช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทีนี้คนที่หลงซื้อดินสอไปทั้งๆที่จริงๆอยากลองป๊อกกี้ เค้าก็จะเริ่มมองหาว่าป๊อกกี้จริงๆนั้นเป็นไง ดีกว่าป๊อกกี้ดินสอตรงไหน ส่วนคนขายป๊อกกี้ดินสอก็จะค่อยๆหายจากตลาดไปเองหลังจากหน้าที่ของเค้าจบสิ้นลงแล้ว