Thai VI

บางครั้งในการที่เราเลือกหุ้นผิดบ่อยๆ ทั้งที่เราพยายามดูปัจจัยพื้นฐานให้ครอบคลุม แต่หุ้นบางตัวก็ไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง จนเริ่มท้อในการลงทุน

พี่ๆ เพื่อนๆ มีแนวทางทำอย่างไรครับให้สู้ต่อ และไม่ยอมแพ้ในการลงทุน และลงทุนให้ได้ผลสำเร็จครับ ?

พื้นฐานดี p/eต่ำ ราคาลงมา ผมซื้อเพิ่มครับ
ไม่มีตังให้อยู่เฉยๆครับ555 555

ที่ว่าดูพื้นฐาน ดูยังไง
ที่ว่าไม่เป็นตามที่คาดหวัง หวังว่าอะไร
ที่ว่าเลือกผิดบ่อยๆ บ่อยเพราะอะไร
ทำไมต้องบ่อย เข้มกว่าเดิมได้มั๊ย

ส่วนเรื่องท้อใจ
ผมว่า...

มันไกลหัวใจมากครับ

ยามที่หวั่นไหว หรือไม่แน่ใจ ให้คิดถึงหลักการ หลักปรัชญาการลงทุนที่เราศึกษาและใช้มันเป็นหลักยึด บางครั้งการลงทุนที่ดีหรือหุ้นที่ดีต้องใช้เวลา ความอดทน ความอึด ความสงบ เป็นสิ่งที่นักลงทุนที่ดีต้องฝึกฝน สู้ๆครับ

ผมจำไว้เป็นบทเรียนครับว่าเราพลาดอะไร เพราะอะไร ผมเองก็พลาดมาเยอะครับสำหรับปีที่ผ่านมารวมถึงช่วงต้นปีถึงแม้เงินต้นจะไม่ขาดทุนก็ตามแต่ก็แพ้ตลาดไปแล้ว แต่ผมคิดเสมอครับว่าการลงทุนตราบใดที่เงินต้นยังอยู่ เรามีโอกาสเริ่มใหม่ได้เสมอครับ

กว่าที่เราจะเห็นหลอดไฟทุกวันนี้ ก่อนหน้านี้ ปู่เอดิสันใช้เวลาในห้องทดลองเป็นพันๆ ครั้ง
เขาบอกว่า ไม่ได้พลาดหรือล้มเหลวเป็นนับพันๆ ครั้ง แต่คือการเรียนรู้ว่าพันกว่าครั้งนั้นไม่ได้ผลต่างหาก
และสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ จารึกในโลก
เอดิสันประดิษฐ์อะไรสารพัดอย่าง เป็นจำนวนมาก จากการลองผิดลองถูกแบบนั้น
จดลิขสิทธิ์ไว้ จนทุกวันนี้ ก็ยังไม่สามารถลบสถิติได้
บริษัทที่เขาก่อตั้ง ก็ยังอยู่ทุกวันนี้ และเป็นบริษัท ที่ติด top10 ของ FORTUNE คือ GE (General Electric)


ความล้มเหลว ไม่ได้อยู่ที่พ่ายแพ้หรือพลาดพลั้ง.... แต่คนล้มเหลว คือพลาดพลั้งแล้ว ขี้ขลาดเกินไปที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ต่างหาก
(ไม่ใช่คำพูดผม อยากอ้างอิงให้ credit จำไม่ได้ว่าใครพูด)


ขี่จักรยาน ใหม่ๆ ก็ล้มบ้าง ถลอกปอกเปิกบ้าง เดี๋ยวทรงตัวได้ ก็หายเจ็บหายท้อเอง
ท้อบ่อยๆ เดี๋ยวเรารู้จักความท้อ ก็จะเข้มแข็งเอง
จากเด็กขี้แย เราจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น


พอเรารู้จักมันดีแล้ว แทนที่จะเอาเวลาไปท้อแท้ เสียเวลา เผาเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
กลับมานั่งทบทวน ว่าเราพลาดไปจริงๆ รึเปล่า หรือว่ามันแค่สถานการณ์ชั่วคราว
ค่อยๆ ปรับแก้ หา solutions หาวิธีแก้

ถ้าจีบหญิง มองว่าเสียเวลา เธออาจจะดีเกินไป หรือแย่เกินไปไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เราไม่รู้จักเธอดีพอ ก็ไม่ควรเสียเวลากับเธอ
แต่ถ้าคิดว่า เราพยายามกับเธอมามากแล้ว ที่จริง อีกนิดเดียว เราก็จะตกลงกันได้แล้ว เธอแค่มีปัญหานิดเดียวที่เราคิดว่าเข้าใจ พอหลุดพ้นเปลาะนี้ไปได้ ก็กำลังจะ happy ending แล้ว แบบนี้ควรรอต่อ



เน้นอีกนิด เรื่องความผิดพลาด
ถ้าผิดพลาดบ่อยๆ เพราะที่ผ่านมาเราสู้เพียงลำพัง ลองพยายามหาที่ปรึกษา
แล้วลองใหม่สิ


ผมไม่เคยเห็นใครพลาดเป็นพันๆ ครั้งจริงเลย
และผมไม่ได้พูดแค่ทฤษฎี เพราะในการลงทุนในตลาดหุ้น ผมเคยล้มเหลวมาก่อน กลับมาตั้งหลักใหม่ ได้สองหลักปลายๆ เพราะ active response คอยดูคอยแก้ตลอดว่าเราพลาดอะไรไป
แถมที่ผ่านมาทำธุรกิจ SME เจอเพื่อนกับเพื่อนที่หุ้นกันมันโกงกันเอง ทะเลาะกันลามมาถึงเรา งานการเสียหมด เสียเงินมากกว่าเพราะเงินลงทุนไปจม
แต่ว่ายอมถอยดีกว่าเสียเวลาและก่อนที่จะเสียมากไปกว่านั้น ไม่ต่างอะไรกับ cut loss ตอนลงทุนในตลาด เสียเงินแต่ได้ความรู้มาเยอะ
ไม่เห็นถึงตายเลย อย่างดีก็แค่รวยน้อยลง แฮ่ๆ แล้วกลับมามีเงินอีก เมื่อลองหาเงินวิธีใหม่ๆ

ถ้าท้อเพราะเราประเมินผิดก็ทำการบ้านให้หนักยิ่งขึ้นครับ
การคาดการณ์มันไม่ได้หมายความว่าเราจะผิดไม่ได้ คนที่มีความรู้มากกว่าเรายังพลาดได้เสียครับ

ผมถือคติ
คุณปู่สอนไว้ว่า "ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเราไปเสียหมด"

ปรกติถ้าเราเลือกดีแล้วด้วยเหตุผลของเรา เราก็เช็คตามเหตุผลครับ
พยายามทำให้ Right for the Right Reasons
และเรียนรู้ข้อผิดพลาดจะพัฒนาตัวเองได้ครับ
การทำ บันทึกการลงทุน ก็จะช่วยได้ว่า เราซื้อเพราะอะไร ขายเพราะอะไร

เรื่องท้อแท้ เพราะผิดพลาด มันเป็นเรื่องปกติครับ
ในหุ้น 5 ตัว จะดีเกินคาด 1 ตัว แย่กว่าที่คาด 1 ตัว ตามที่คิด 3 ตัว
มันแปลว่า มันไม่แน่นอนครับ แต่เราก็ไม่ควรละทิ้งเหตุผลของเราเหมือนกัน

เวลาเลือกให้พิจารณา downside เป็นสำคัญ กำไรตั้งแต่เข้าซื้อครับ
และฝึกฝนจิตใจให้หนักแน่น ทนรับกับความโลภความกลัว ที่จะทำให้เราละทิ้งเหตุผล
สุดท้าย ลงทุนในบริษัทที่เราเข้าใจ และง่ายสำหรับเราครับ จะผิดน้อยลงมาก
หารั้วเตี้ยๆ เพื่อกระโดดข้าม มันง่ายกว่าไปพยายามกระโดดข้ามกำแพงเมืองจีนนะครับ

ธุรกิจจะดีจะเจ้งมันก็มีเหตุของมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆ เพราะมันเป็นไตรลักษ์ทุกสิ่งมีเหตุก็เกิดหมดเหตุก็ดับบังคับไม่ได้

ทุกข์เพราะยึดสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และอนัตตามาเป็นของเราอยากให้เป็นไปตามที่ใจคิด มองธุรกิจตามความเป็นจริงแล้วจะไม่ทุกข์ครับ

นึกถึงที่คุณ Ii'8N พูดถึงโธมัส อัลวา เอดิสันแล้ว ผมนึกถึงคำพูดของอีกคนหนึ่ง

ผู้คนบอกว่า ไมเคิล จอร์แตน ชูตลงเป็นพันลูก แอตซิสเป็นพันครั้ง แต่ไมเคิล จอร์แดนบอกว่า "ผมชูตพลาดหนึ่งหมื่นลูก ถูกชิงบอลห้าพันครั้ง " ต่างหาก

กับคำพูดของอีกคน

ไอสไตน์บอกว่า มันไม่ใช่เรื่องแปลก ที่คุณจะผิดพลาด แต่จะประหลาดมาก หากคุณทำซ้ำๆแบบเดิมในวิธีที่ทำให้ผิดพลาดแล้วหวังว่า ผลลัพธ์มันจะเปลี่ยนไป......และที่มันประหลาดจริงๆคือ มนุษย์หลายๆคน ที่เป็นแบบนี้ อาจจะเรียกได้ว่า คนส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะทำแบบนี้ทั้งนั้น

สำหรับผม ข้อนี้สำคัญที่สุด ในการที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องใดก็ตาม

เอดิสันจะผลิตหลอดไฟได้มั้ยครับ ถ้าเค้าไม่เปลี่ยนไส้หลอด ไม่เปลี่ยนวิธีเป็นพันครั้ง

ถ้าคุณทำวิธีนึง แล้วไม่ได้ผล แล้วคุณทำซ้ำๆแล้วหวังว่าผลลัพธ์มันจะเปลี่ยนไป มันคงยากที่คุณจะประสบความสำเร็จได้

เงินทองเป็นของนอกกาย ที่จิตปรุงแต่งขึ้นว่ามีค่า

ข้าวปลาอาอารต่างหากที่เป็นของจริง

Go to youtube and look at people do stupid things to makemyself feel better that i am not the only dumb one in this world

เมื่อเราตระหนักว่า "ความเข้าใจอันไม่สมบูรณ์" เป็นเงื่อนไขของการเป็นมนุษย์
เราไม่จำเป็นต้องละอายเมื่อทำพลาด, แต่ควรอายเมื่อไม่ได้แก้ไขความบกพร่องนั้น
George Soros

ท้อแท้ไม่แปลก ท้อใจไม่แปลก แต่ให้ถอย....ออกมาตั้งหลัก แล้วถามตัวเองว่า ทำไม?
ถ้าหากยังถามตัวเองแล้วไม่เจอคำตอบ ก็ถามเพื่อนๆ(ในเว็บเนี่ยแหล่ะ)จะช่วยเราได้มาก

พยายามต่อไปครับ ผมเชื่อว่าไม่มีนักลงทุนคนไหนที่ลงทุนแค่ปีสองปีแล้วจะเก่งได้
นักลงทุนทุกคนล้วนเป็นเม่ามาก่อน เจ็บมาเยอะ~ทั้งนั้นแหล่ะครับ

ท้อเพื่อแก้ไข ปรับให้ดีขึ้น สู้ๆครับ

ไปที่ชอบ ที่ชอบครับ

ล้อเล่น

ให้ชอบในสิ่งที่ทำครับ เวลาท้อหรือการรอคอย จะได้ไม่เหนื่อยใจมาก

ถ้าชอบ แล้วทำผิด บ่อย ๆ ไม่ได้ผล ก็อาจมาจากการไม่มีความรู้

ก็ต้องมีความรู้ที่ถูกต้อง ในสิ่งที่ทำครับ


ผลตอบแทนการลงทุน แปรผันตรง กับความรู้ที่ถูกต้อง ที่เรามี

รู้มาก รู้กระจ่าง ทั้งวิธีการ การลงทุนและตัวหุ้น ได้มาก เสี่ยงน้อย

รู้น้อย รู้ไม่จริง ได้น้อย เสี่ยงมาก

chinny เขียน:บางครั้งในการที่เราเลือกหุ้นผิดบ่อยๆ ทั้งที่เราพยายามดูปัจจัยพื้นฐานให้ครอบคลุม แต่หุ้นบางตัวก็ไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง จนเริ่มท้อในการลงทุน

พี่ๆ เพื่อนๆ มีแนวทางทำอย่างไรครับให้สู้ต่อ และไม่ยอมแพ้ในการลงทุน และลงทุนให้ได้ผลสำเร็จครับ ?

จะทำอะไรให้สำเร็จต้องรักในสิ่งที่ตนทำครับ
เมื่อใจเรารัก เราจะทำสิ่งนั้นๆอย่างมีความสุขและสนุกตอนทำมันครับ
ทีนี้เราก็จะทำไปได้เรื่อยๆโดยไม่รู้สึกท้อเลยครับ

อีกอย่างคือต้องทำใจให้ได้ว่าการลงทุนแนวนี้ เวลาคือปัจจัยหลักในความสำเร็จครับ
เราต้องอดทน ตามดูความก้าวหน้าในกิจการที่เราลงทุน
เบื่อๆก็หาอะไรสนุกสนุกทำร่วมกันไปด้วยก็ได้ครับ
คุณหมอประมุขเคยบอกผมว่า การลงทุนไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต
ผมว่าจริงตามที่คุณหมอว่าครับ

(เพิ่งเห็นพี่บีสมายโพสตัดหน้า ผมคิดคล้ายๆพี่เลยครับ สงสัยจะถือหุ้นตัวเดียวกัน ฮ่า... )

BeSmile เขียน:ให้ชอบในสิ่งที่ทำครับ เวลาท้อหรือการรอคอย จะได้ไม่เหนื่อยใจมาก

กลับกันรึเปล่า? น่าจะเป็น "ให้ทำในสิ่งที่ชอบ" มากกว่านะครับ

คุณ Saichon ครับ มีโอกาศจะถือหุ้น คล้าย ๆ กันครับ


เป็นแค่ความคิดเห็นนะครับ คุณดำ

ทำในสิ่งที่ชอบ จะเจาะจงไปหน่อยครับ ถ้าไม่ชอบแล้วอาจไม่ทำ

ชอบในสิ่งที่ทำ ตอนต้นบางคนอาจไม่ชอบ หลังจากมองหาข้อดีได้แล้ว ค่อยทำใจให้ชอบได้


เหมือนบางครั้ง มีคำถามว่า

เรายิ้มแล้วค่อยดีใจ หรือ ดีใจแล้วค่อยยิ้ม

เอาเวลาศึกษาในธุรกิจให้มากขึ้นครับ อย่างปีที่แล้วผมก็ใช้เวลาเยอะพอสมควรศึกษาเกี่ยวกับเดินเรือ ปิโตรเคมี SSD อ่านข่าวจากเว็บที่เกี่ยวข้อง อ่านมันทุกวันติดต่อกันหลายเดือน แล้วจะเข้าใจมากขึ้นเอง

เป็นกำลังใจให้คุณchinny แต่ไม่มีอะไรดีไปกว่าการอ่าน อ่าน อ่าน ฟัง ฟัง ฟัง คนเก่งๆและวิเคราะห์ให้ถูกจริตกับเรา

ท้อเหมือนกันครับ แต่ไม่ถอยครับ
ToT คิดว่าพรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว คิดว่าเป็นบทเรียนให้ก้าวผ่านไป
เหมือนได้รับเซรุ่มป้องแล้ว เจอครั้งหน้าจะทนทานขึ้นครับ
แต่คงต้องขยันให้มากขึ้น เพื่อลดข้อผิดพลาดในครั้งนี้ครับ
สู้ต่อไปทาเคชิ

เวลาท้อแท้ใจกับผลลัพธ์ของการลงทุนผมมักจะดูรายการนี้ครับ คือ คนค้นคน เช่น ตอน ลุงเบี้ยว http://www.youtube.com/watch?v=KsJLLCCa ... r_embedded#! ทำให้ผมมีกำลังใจในการลงทุนต่อไปครับจากนั้น ก็กลับมาพิจารณาและวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของตัวเองต่อไป

chinny เขียน:บางครั้งในการที่เราเลือกหุ้นผิดบ่อยๆ ทั้งที่เราพยายามดูปัจจัยพื้นฐานให้ครอบคลุม แต่หุ้นบางตัวก็ไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง จนเริ่มท้อในการลงทุน

พี่ๆ เพื่อนๆ มีแนวทางทำอย่างไรครับให้สู้ต่อ และไม่ยอมแพ้ในการลงทุน และลงทุนให้ได้ผลสำเร็จครับ ?

ออดทนหน่อย ครับ คงติดดอยแล้วก็ปล่อยหมู ไม่แปลกหลอกครับ ถ้าเล่นแล้วไม่มีความสุข หยุดพัก สัก2-3วัน อย่าไปดูจอนะ ทบทวนเวลาเราซื้อเพาะอะไร ขายเพาะอะไร ในตลาดข่าวลวงมากกว่าจริง เราเล่นตามข่าวมากไปหรือไม่ บทวิเคราะห์นักวิเคราะห์ถูกต้องมีเปอร์เซนไม่สูงนะครับ พร้อมเเล้วกลับมาสู้ใหม่ครับ ที่สำคัญเราต้องรักษาทุนเอาไว้ให้ครับ ทุนไม่หมดย่อมมีโอกาสครับ เข้าถึงต้องมีการcut loss บ้างครับ เอาใจช่วยครับ

เคยขาดทุนเป็นล้านไหม???
เคยอยากล้างพอร์ตบ้างไหม???
เคยได้ยินคำว่า "การฝากหุ้นไว้กับแม่" บ้างไหม???

...กับกระทู้ที่ดูเหมือนจะ "ขำๆ" ของผม
แต่แท้จริงแล้ว ผมแฝงอะไรไว้มากมายในนั้น
ลองอ่านดูนะครับ
เรื่อง "### หุ้นพอร์ตนี้สีเขียว ###"
ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 47738.html

อารมณ์ , จิตวิทยาการลงทุน และหัวใจ...มันสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งครับผม
(^_^)

ได้อ่านคำแนะนำของ พี่ๆ เพื่อนๆ หลายๆ คน ในกระทู้นี้
ทำให้ผมมีกำลังใจในการลงทุนต่อไปครับ ขอบคุณมากนะครับ

Buffetพูดไว่ว่า "ถ้าทนเห็นหุ้นตัวเองขาดทุน50%ไม่ได่อย่ามาลงทุนในหุ้น"
ผมก็เชื่อแบบนั้นและโดนแบบนั้นจริงๆ
ที่จริงผมโดนหนักกว่านั้น
ตอนปี40พอร์ทผม3ล้านเหลืออยู่สามแสน
ขาดทุนแค่90%เท่านั้นเอง

ท้อแท้หมดหวังไม่มีกําลังใจ
เลือกหุ้นผิดขาดทุนมากมาย
ขายหมูยักษ์ ติดดอยเอเวอเรสท์
เหล่านี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนที่จริงจังทุกคนต้องเจอและผ่านไปให้ได้

ท้อแท้แล้วฮึดสู้
หาความรู้ปรับปรุงวิธีการลงทุน
ในที่สุดจะสําเร็จ

ท้อแท้แล้ว
ไม่ปรับปรุงตัวเองแก้ข้อผิดพลาด
มัวแต่โทษโน่นนี่
ก็จะต้องท้อแท้ซํ้าทราก
จนหมดตัวสาบสูญไปจากตลาดหุ้น

ผมสอนลูกเสมอว่า
ถ่านกับเพชรเป็นคาร์บอนเหมือนกัน
ต่างกันที่ความร้อนเป็นหมื่นองศา
กับระยะเวลาเป็นล้านปี
"คนเราถ้าท้อก็เป็นถ่าน ถ้าผ่านก็เป็นเพชร"
ขอเป็นกําลังใจให้ผ่านพ้นไปได้ครับ

เลิกเปรียบเทียบกับคนอื่น แล้วก็อย่าท้อ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

อย่าผิดซ้ำซากเรื่องเดิมๆครับ (ซึ่งผมก็พยายามทำอยู่เหมือนกัน)

เวลาท้อแท้ใจกับผลลัพธ์ของการลงทุน ควรทำอย่างไรดีครับ ?
1 ทบทวนครับ ผิดตรงไหน ผิดยังไง ผิดเพราะปัจจัยภายนอก หรือภายในบ.
ผิดหวังราคา หรือผิดหวังผลประกอบการ ก็ต้องแยกแยะเอามาเป็นบทเรียน
หุ้นขึ้นไม่ได้แปลว่าคิดถูก หุ้นลงก็ไม่ได้แปลว่าคิดผิด

2 "เลือกหุ้นผิดบ่อยๆ" บางที อาจจะเพราะเลือกบ่อยเกินไป
ปี54ผม ผมเลือกหุ้นในจำนวนไม่กี่ตัวที่สนใจ และซื้อขายไม่กี่ครั้ง ไม่กี่ตัว
ซึ่งมันก็ไม่ได้ขึ้นเลย 8 เดือน กว่าจะเขียว
มีบางครั้งท้อแท้ืัที่ไม่ได้ร่วมสนุกขาขึ้น อย่างคนอื่น

พอกลับมานั่งคิดทบทวน ก็ไม่อยากขาย มีแต่อยากซื้อ
เป็นหุ้นที่ซื้อด้วยความตั้งใจว่าจะไม่ขาย
จบสิ้นปี พอร์ทผมรอดจากวิิกฤติ และผลตอบแทนสูงกว่า set มาก

ผมได้บทเรียนว่า ผมคิดถูกว่ากำลังจะโต
แต่ผมไม่คิดว่าจะต้องรอถึง 8 เดือน
แล้วตอนสิ้นปี(ตอนนี้ด้วย)ผมก็ไม่คิดว่าราคามันจะสูงขนาดนี้
การเดาตลาดมันช่างยากเสมอ

ถ้าเราเลือกหุ้นไม่ผิด

สิ่งเดียวคือ. อดทน อึดกับมัน แล้วผลลัพท์มันจะสุดยอด

แต่คุณต้องไม่ผิดนะ.

เป็นกำลังใจให้ครับ. ทุกคนก้อเคยผ่านความรู้สึกอย่างนี้มาด้วยกันทั้งนั้น

หากวันนี้เรายังเป็นคนส่วนน้อยที่ยังไม่มีกำไร ท่ามกลางคนมีกำไร นอกจากทำใจแล้ว

สิ่งที่สำคัญกว่าคือ อย่าเสียศรัทธาในความสามารถของตัวเอง

ตลาดเขียวหรือแดงไม่ได้ทำให้คนเล่นฉลาดขึ้นหรือโง่ลงในไม่กี่เดือนหรอก

สาเหตุที่คนๆนึงตกต่ำลง ไม่ว่าเวลานั้นจะเป็นเวลาใด คือเค้าเสียศรัทธาต่อตัวเอง สวิตช์ความคิดที่เคยใช้การได้ดี ถูกปิดลงอัตโนมัติ... เค้าจะลุกขึ้นมาอย่างไรครับ

เขียนให้ตัวเอง และเพื่อนๆที่เป็นคนส่วนน้อยของตลาดอันเรืองรองในเวลานี้

แนะนำว่าเรียนรู้ไปเรื่อยๆครับ อย่าหยุดเรียนรู้ ถ้ามีเวลาก็พยายามเขียนหลักการณ์ในการลงทุนออกมา การเขียนทำให้เรามองเห็นภาพต่างๆได้ดีกว่าแค่คิดเฉยๆ หรือแม้แต่บริษัททีีเราสนใจอยากจะลงทุน เราอ่าน 56-1 แล้วรู้ว่าเค้าทำอะไร แต่ถ้าเราเขียนสรุปออกมาเป็นคำพูดของตัวเอง เราอาจจะเข้าใจมันมากขึ้น หรือมีคำถามต่างๆเกี่ยวกับบริษัทผุดขึ้นมาในหัวมากขึ้น

เมื่อถึงจุดๆนึงเราจะพบแถวทางการลงทุนทีี่เหมาะกับตัวเอง วันนั้นกำไรมันจะมาเองครับ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ ยังมีเวลาศึกษาทั้งชีวิต