Thai VI

ผมคิดว่า แนวทางเริ่มต้นในการหาหุ้นที่น่าสนใจหลักๆ มีอยู่ 2 แนวคือ
1. ดูจากตัวเลขก่อน ประมาณว่าเรียงดูงบการเงินในอดีตก่อน ดูอัตราส่วนนู่นนี่ การเติบโตของกำไร ฯลฯ
แล้วถ้าตัวเลขดี เห็นกำไรเพิ่ม เห็นอะไรต่างๆที่เป็นตัวเลขจากงบออกมาดีหรือกำลังจะดี ก็จึงเริ่มสนใจหุ้นตัวนั้น
ซึ่งโดยรวมน่าจะเป็นลักษณะมีตัวเลขสถิติอ้างอิง

หรือ

2. ดูจากสินค้าหรือบริการก่อน ประมาณว่าเห็นว่าสินค้า/บริการบริษัทนั้นดี มีความต้องการมาก หรือผูกขาด
หรือเห็นว่าแนวโน้มนั้นๆเกิดแน่และบริษัทนั้นมีสินค้า/บริการที่ดีที่จะเติบโตไปได้ ก็จะเริ่มสนใจหุ้นตัวนั้น
ซึ่งโดยรวมน่าจะเป็นลักษณะเชิงบรรยายน้ำท่วมทุ่ง

ส่วนตัวผม คิดว่าผมเน้นหนักแนวทางที่สองก่อน เพราะเชื่อว่าการคิดจินตนาการอย่างอิสระในการวิเคราะห์สินค้า/บริการ
จะทำให้ผมเห็นภาพชัดเจนว่าบริษัทนั้นน่าสนใจตรงไหนกันแน่ โดยที่ยังไม่ต้องกังวลกับตัวเลขมาก เพราะถ้าผม
กังวลกับตัวเลขก่อน พบว่าหลายๆครั้งจะถูกสับขาหลอกเสมอ ภาพก็จะเบลอๆ เพราะกังวลกับตัวเลขมากไปจนเกิดอคติ
อีกอย่างคือ ผมเชื่อว่าตัวเลขนั้น อยู่ที่ปลายนิ้วจะกดพิมพ์ตัวเลขยังไงก็ได้ ผมจึงให้น้ำหนักน้อยกว่า
แต่ถ้าหากวิเคราะห์เห็นภาพชัดเจนแล้วว่าสนใจบริษัทที่ตรงไหน จึงค่อยมาดูตัวเลขประกอบเพื่อยืนยันความมั่นใจ
แต่หลายๆครั้ง พบว่าถ้าวิเคราะห์อุตสาหกรรม/สินค้า/บริการชัดเจนมากๆแล้ว มันก็แทบจะแน่ใจเต็มร้อยไปแล้ว


ผมคิดว่าการที่เราจะเลือกบริษัทที่ดีได้ ก็คงต้องเอาทั้งสองอย่างประกอบกัน
และการเลือกแต่ละครั้งก็อาจจะเริ่มต้นมาด้วยวิธีต่างกันก็ได้ แต่คิดว่าเราแต่ละคนน่าจะมีแนวทางหลักของตัวเอง
ระหว่าง 2 แนวทางนี้ อยากทราบว่าพี่ๆ เพื่อนๆ แต่ละคนเน้นหนักแนวทางไหน หรือมีแนวทางอื่นมาแชร์กันครับ

ผมมือใหม่จัดเลยครับ
เลยเน้นดูตัวเลข เอาชัวร์ไว้ก่อน
คือตั้งเกณฑ์ดู roe pe pb yield d/e
ถ้าอัตราส่วนพวกนี้ดี ก็ค่อยไปดู 56-1 ร้อยคนร้อยหุ้นthaivi และก็ดูงบ (ยังอ่านงบไม่เก่ง)
ดูภาพรวม ภาพย่อยของบริษัท

ตอนนี้กำลังลองใช้ excel ช่วยสกรีนหุ้นครับ
ผมว่าวิธีแบบผมก็เอาชัวร์ได้ในระดับนึง แต่อาจจะไม่กำไรพุ่ง 50 หรือ 100%

จากธุรกิจที่เรามองว่าข้างหน้าใน 3-5ปีจะดีครับ

โดยที่ราคาของกิจการ ณตอนที่เราซื้อถือว่าถูก เมื่อเทียบกับอนาคต

ถูกเมื่อเทียบกับ การรอคอย

จากทั้ง 2 ข้อครับ แต่บางครั้งที่พบว่า ดูทั้ง2ข้อเหมือนไม่น่าสนใจเท่าไร ลองอ่าน56-1 ดูแล้วอาจพบเพชรในตมได้

ตามรอยเซียนเชียร์ในเว็บบอร์ด VI ลอกการบ้านเซียน

vibuffet2010 เขียน:ตามรอยเซียนเชียร์ในเว็บบอร์ด VI ลอกการบ้านเซียน

อิ อิ

ของผมข้อสองก่อน แล้วค่อยข้อหนึ่ง

ของผมเอาหมดทุกอย่างข้างต้น อะไรผ่าน ลองเข้าไปดู
ข่าวแจก ข่าวจริง แม้แต่ข่าวลือด้วย
ไม่ได้พูดเล่นนะ เพราะเจ้าของกระทู้ถามว่า "เริ่มต้น" จากอะไร


อะไรสะดุดหูสะดุดตาดูหมด ดูผ่านๆ ก่อน
ยังไม่คิดจะซื้ออะไรเพิ่มจริงจังหรือยังไม่คิดขายเปลี่ยนตัว ว่างๆ ก็ดูเรื่อยๆ
ทั้งจากในไปนอก ชอบอย่างที่เจ้าของ web siamchat ทำไว้ http://siamchart.com/stock/ รวมถึงผลประกอบแต่ละไตรมาส ช่วงประกาศงบ ผมจะใส่ข่าวตลท. ไว้หน้าแรกตอนเปิดเครื่องให้มัน start up shortcut เลย http://www.set.or.th/set/todaynews.do?p ... TH&market=
หรือจากนอกไปใน ที่เห็นตามข่าวรายวัน ที่เราอ่านอย่างน้อยตอนเช้าครั้ง ตอนเย็นครั้ง กรุงเทพธุรกิจ ฐาน online ประชาชาติ-มติชน ผู้จัดการ ไทยรัฐ ฯลฯ ทั้งหน้าธุรกิจและไม่ธุรกิจ ส่วนใหญ่อ่านฟรีมากกว่ากระดาษ เพราะอยู่ไกล


แต่กว่าจะซื้อ ใช้ google นี่แหละหาทุกข่าว แล้ว save ไว้ แยกหุ้นแต่ละตัว ไว้ directory หนึ่งโดยเฉพาะ
ทั้งจาก ThaiVI, pantip, ทุกข่าวจากที่ว่าข้างบน ข่าวจากหนังสือพิมพ์ต่างๆ หรือย้อนหลัง ryt9 กับบอร์ดต่างๆ ทัังที่เขาแจก ทั้งที่ซุบซิบ หนังสือ x หุ้นทั้งสอง, วีดีโอแนะนำบริษัทและ opportunity day

แต่ที่ขาดไม่ได้ SET/settrade, SEC (ข้อมูลไฟลิ่งกับงบย้อนหลัง), web บริษัทเอง, ร้อยคนร้อยหุ้น

จากนั้น เข้าไปดูแต่ละอย่างก่อน ค่อยๆ แกะข้อมูลมากรอง อันไหนข้อมูลควรทิ้ง ignore ไม่สนใจข้อมูลไหน อันไหนต้องลงมือคำนวณตามความรู้ที่เราพอมี อันไหนที่คนคำนวณไว้แล้ว* เอามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ อันไหนมองโลกในแง่ดีไปก็ต้องระวัง แต่ช่วยเพิ่มความรู้ใหม่ๆ ในการคิดและร่นระยะเวลาเรา เพราะบางทีเรานึกไม่ถึง ตกหล่นไป หรือหาข้อมูลดิบนั้นไม่ได้ก็มี
ใช้เครื่องทุ่นแรงให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ถ้าบางอันหาข้อมูลเองได้ไม่ครบ จะลอกก็ลอกเรียนแบบมีศิลปะ ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาซื้อส่งๆ ตามชาวบ้าน

อันไหนที่มีคนคำนวณไว้แล้ว*
EPS (พี่ครรชิต)
ทางการ เช่น http://www.settrade.com/C04_06_stock_fi ... lectPage=6
http://www.set.or.th/set/companyhighlig ... country=TH
http://www.set.or.th/set/factsheet.do?s ... country=TH
SAA เช่น http://www.settrade.com/AnalystConsensu ... ectPage=10

ดูmarket growth opportunity ก่อน

จริงๆมันไม่น่ามีสูตร
ขึ้นอยู่กับฐานความรู้
เหมือนปับยิ่งรู้มากก็อาจจะหามากขึ้น
ไม่ก็แมงเม่ามากขึ้น มั้งคับ

ยิ่งฐานความรู้กว้างมาก ก็อาจจะหาได้มากและง่ายขึ้น

ไม่ก็แมงเม่ามากขึ้น มั้งคับ
ปล เรียบเรียงใหม่

สำหรับผมไม่มีเกณฑ์ตายตัว
สะดุดอะไร ค่อยหยิบขึิ้นมาดูครับ

จินตนาการครับ

หรือดูแนวโน้มในอนาคต

เหมือนที่บางท่านเคยว่าไว้ ยามเมื่อลมหัดหวน แม้ไก่งวงก็บินได้

หลากหลายทางแต่ละตัวไม่ค่อยเหมือนกัน บางทีก็ดูจาก dividend yield, P/E, PBV บางทีก็ดูจาก top gainer, top loser บางทีก็ดูจากบรรยากาศเว็บบอร์ดต่างๆ แล้วค่อยไปศึกษาลงรายละเอียด

ผมไล่อ่าน 56-1 ไปเรื่อย สะดุดตัวไหนก็มาแกะหา MOS Upside/Downside, Catalyst

มองหาหุ้นที่ชอบ ^^

มองหาธุรกิจที่คนประเมินมูลค่าต่ำไป และมองด้วยอคติในแง่ร้ายจนเกินไป

ไปลงเรียน MBA ภาคพิเศษที่คนเรียนมาจากหลายหลายอาชีพและมาเรียนกันเยอะ (ผมลง MBA logistics ที่ม.รามคนเยอะและหลายหลายอาชีพดี) ตอนปฐมนิเทศก็มานั่งฟังว่าใีครทำงานบริษัทไหนบ้าง? อยู่ในตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่า? หรือเป็นคู่แข่งของบริษัทเรา? หรือเป็นอยู่ใน supply chain ของบริษัทที่เราลงทุน? แล้วเข้าไปเจาะอ่าน sector นั้นสังสัยอะไรก็ทำเนียนถามเอา จะได้ข้อมูลที่ update และลึกกว่าครับ หรือถ้าต้องการข้อมูลเชิงลึกกว่านั้นก็จีบเป็นแฟนได้ครับ

สำหรับผมเริ่มต้นที่ห้องสินธร พันทิพย์ครับ

จริงๆก็เก็บหุ้นพื้นฐานดีๆไว้ใน list อยู่แล้ว
แต่จะสังเกตอารมณ์ของตลาดจากห้องสินธรครับ

ส่วนใหญ่จะได้มาจากการบ่นเช่น
ทำไมราคาไม่ไปไหนทั้งที่พื้นฐานดี?
หรือทำไมตัวนี้ถึงร่วงจัง?

เราก็มีหน้าที่ประเมินตามพื้นฐานจริงๆครับว่า
มันเกิดจากสาเหตุอะไร

ค้นหาจากชีวิตประจำวันของเราครับ
พบเจออะไรบ้างที่เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลง
หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจอีกที

ข้อสองก่ิอนเลยครับ เห็นอันไหนแล้วชอบ ก็ดูว่าใครผลิต แล้วค่อยดูงบการเงินประมาณนี้
อีกแบบก็ดูจากข่าว ว่าอันไหนน่าสนใจ ประมาณนี้ครับ

เสียงกระซิบจากคนใกล้ตัวที่ไม่ได้ลงทุนอ่ะครับ
(ว่าอะไรกำลังขายดีหรือคนใช้กันเยอะ ข่าวเล็กๆๆน้อย)

ผมดูจาก Trend ก่อนหน่ะครับว่า โลกและประเทศไทยเราจะมีการเปลี่ยนแปลงไปยังงัย แล้วต่อไปชีวิตคนเราจะเปลี่ยนแปลงตามไปยังงัย
เช่น ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่วัยสูงอายุ เช่น อีกประมาณ 5 ปีข้างหน้าโลกจะมีปัญหาการขาดแคลนอาหาร เช่นเราจะมีการใช้ 3G กันแล้วนะ (แหมมาช้าเหลือเกิน) เช่นเราจะมีรถไฟฟ้าอีกกี่สาย (อันนี้ก็ช้าเหมือนกัน) แล้วมาประมวลว่าอุตสาหกรรมไหนจะได้ประโยชน์ครับ แล้วดูว่าบริษัทไหนในอุตสาหกรรมที่จะสามารถเปลี่ยนการเติบโตนั้นเป็นกำไรได้มากที่สุดก็เลือกบริษัทนั้นครับ และรอจังหวะเข้าซื้อในราคาที่เหมาะสมแล้วถือมันไว้จนสิ่งที่เราคาดการณ์มันแสดงออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นกำไรอย่างที่คาดการณ์ไว้