Thai VI

เมื่อ 5 ปีก่อนผมซื้อหุ้น CPALL ที่ราคา 5 บาท
ขายไปราคา 5.10 บาท เพราะอ่าน webboard ว่าจะกินเงินเจ้าสัวยาก ธรรมาภิบาล
Lotus ที่จีนจะดูดเงินไปหมด
ถึงตอนนี้บอกได้เลยว่าเซ็งมากครับ
ที่เห็น CPALL ราคานี้
ต่อไปคงต้องวิเคราะห์เองมากขึ้น

ผมก็เคยซื้อตอนสี่บาท แล้วขายตอนหกบาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้ซื้ออีกเลย
ผมว่าไม่น่าจะเป็นเพราะบอร์ดนะครับ น่าจะเป็นเพราะใจเรามากกว่า
ทั้งคุณ ทั้งผม หรือนักวิเคราะห์โบรกไหนๆในสมัยนั้น เคยทำนายไว้ว่าหุ้นจะมาถึงราคาในวันนี้
เช่นเดียวกัน ในวันนี้คุณก็ไม่รู้อีกว่าราคาจะเป็นเท่าไหร่ในอีกห้าปีข้างหน้า และอาจจะต้องมาระบายความในใจอย่างนี้อีก
หวังว่าสิ่งที่ผ่านไปคุณได้เรียนรู้ เพื่อที่เวลาที่เสียไปไม่ไร้ค่า

"รู้อะไรไม่สู้ รู้อย่างงี้"

ถ้าเกิดวันนี้ หุ้นเหลือแค่ 3 บาท คุณคงไม่มาตั้งกระทู้นี้ใช่ป่ะครับ

ผมว่าไม่มีใครคาดเดาอนาคตได้ 100 % หรอกครับ

ทุกคนก็ต้องมีพลาดกันหมดนั่นแหละ เก็บข้อผิดพลาดไว้เตือนใจจะดีกว่านะครับ

CPALL ผมมองดูก็เหมือน Wallmart
Great business
แต่มาดูใน 100 คนร้อยหุ้น
ธรรมภิบาลแย่
อย่าไปยุ่งกับหุ้นเจ้าสัว
ธุรกิจบาป
ไซฟ่อนไปโลตัส
ให้ขายทิ้งให้หมด
ผมตกใจขายทิ้งหมดครับ
แล้วเซียนคนนั้นก็เชียร์ซื้อ CPALL ในกระทู้ถัดไป หลังจากเก็บหุ้นครบ ตอนนั้นหุ้นขึ้นไป 15 บาทแล้วครับ
ก็เลยไม่ได้ซื้อคืน

ตอนนี้ ถ้ามีเพื่อนใน Thai VI สักคน อยากพูดทำนายขึ้นมา บอกว่าธุรกิจ CPF ยิ่งใหญ่ระดับโลก
จะไปถึง 350 บาทต่อหุ้น ในอีก 5 ปีข้างหน้า
คุณจะรีบไปซื้ CPF ทันทีรึเปล่า


ไม่ได้กวนนะ คิดดีๆ กำลังพูดเรื่องเดียวกัน

ถ้าอีก 5 ปีข้างหน้า เป็นแบบนี้จริง แล้วคุณไม่เชื่อเพื่อนท่านนั้น คุณต้องกลับมาตั้งกระทู้แบบนี้ใหม่อีก




มอง CPALL ที่ราคา 5 บาท ที่กลายมาเป็น เกือบ 60 เหมือนกำลังนั่งร้องให้เสียใจ ที่วันนั้นไม่ขอสาวสวยดีสุดยอดคนนั้นเป็นแฟน ทั้งที่เธอก็ให้ท่า เพราะดูแค่เปลือกแล้วตัดสินง่ายๆ
วันที่วันนั้นเธอเป็นเด็กที่เราดูเหมือนว่าเป็นเด็กกะโปโลงั้นๆ แต่วันนี้ทั้งดี ทั้งเก่ง ทั้งสวย กำลังจะแต่งงานกับไอ้หนุ่มโชคดีที่น่าอิจฉา

มองไปข้างหน้าดีกว่าครับ กลับมาวิเคราะห์ 'พื้นฐาน' และ 'คุณค่า' ของหุ้น ครับ ราคามันไม่ได้ขึ้นลง ได้เอง แต่มี 'ปัจจัย' ขับดันให้มันรุ่งริ่ง หรือรุ่งเรือง

หุ้นที่คุณกำลังดูถูกใน port ของคุณวันนี้ เอาไปเปรียบเทียบกับ CPALL อาจเป็นหุ้นสิบเด้งในปีหน้าก็ได้ อย่าดูถูกไป
แต่ก็อย่าฝันกลางวันแสกๆ แค่กลับไปดูทบทวน ตามหลักที่เรายึดกัน






ปิดท้าย
เอาใหม่ และทีนี้ไม่ใช่ใครสักคน คนโนเนมพูดแล้ว

ถ้า 'จารย์นิเวศน์คนที่ตีแตก CAPLL พูดขึ้นมาลอยๆ บอกว่า CPALL เจ้าตัวนี้แหละ อีก 5 ปี จะไปถึงราคา 500 ต่อหุ้น (ไม่ได้เปลี่ยน par)
พรุ่งนี้คุณจะรีบขายหุ้นอื่นๆ ทั้งหมดที่มีอยู่ทิ้ง ขายบ้าน ขายรถ
รวมเงินทั้งหมด ทุ่มไปซื้อหุ้น cpf เลยทันทีรึเปล่าครับ?

ผมคลับคล้ายคลับคลาว่า เห็นคุณ post ทำนองนี้บ่อยๆ

ผมชักระวังระแวงแล้วว่า คุณเป็นเซียนหลายพันล้าน

แต่มาตั้งกระทู้ลองเชิงคน Thai VI รึเปล่า

ง่า...ตอนท้าย แก้นิด

รวมเงินทั้งหมด ทุ่มไปซื้อหุ้น cpall เลยทันทีรึเปล่าครับ?


...ปล. มีคนพูดขำๆ

cpf + cpall = cpfall

มนุษย์ นี่แปลกครับ ถ้าปัจจุบันมันลง ก็จะพูดกับตัวเองว่า ดีแล้วที่ขายไป โชคดีจริงๆ แต่ถ้า มันขึ้น ก็จะมานั่งเสียใจ ว่าไม่น่าขายเมื่อตอนนั้นเลย

ขอถามกลับว่า มานั่งเสียใจกับอดีตอยู่ทำไมครับ มันย้อนไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แถมมันก็ตั้ง 5 ปีที่แล้ว มานั่งเริ่มใหม่ในปัจจุบันแล้วอย่าทำผิดพลาด เหมือนที่ผ่านมา จะดีกว่าไหม?

vibuffet2010 เขียน:CPALL ผมมองดูก็เหมือน Wallmart
Great business
แต่มาดูใน 100 คนร้อยหุ้น
ธรรมภิบาลแย่
อย่าไปยุ่งกับหุ้นเจ้าสัว
ธุรกิจบาป
ไซฟ่อนไปโลตัส
ให้ขายทิ้งให้หมด
ผมตกใจขายทิ้งหมดครับ
แล้วเซียนคนนั้นก็เชียร์ซื้อ CPALL ในกระทู้ถัดไป หลังจากเก็บหุ้นครบ ตอนนั้นหุ้นขึ้นไป 15 บาทแล้วครับ
ก็เลยไม่ได้ซื้อคืน

ถ้าตอนนั้น เชื่อเค้าไปตอนนี้ราคา 60 ก็ได้ 4 เท่าแล้ว เสียดายแทนด้วยครับ

คนตกใจง่ายคงไม่สามารถถือหุ้นยาวๆได้หรอกครับ ไม่ได้ขายที่ 5.1 ก็อาจเป็น 5.5, 6.3, 7.4
หลังจากข่าวเมืองจีน ราคา cpall อยู่แถว 10-12 บาทเกือบสองปี
(มีตอน subprime ลงไป 7 บาทอยู่แป๊บเดียว) ช่วงนั้น ถือไว้ผลตอบแทนก้ไม่ได้ดีอะไรนัก
และผมก็ไม่เห้นมีใครชอบอะไรกันซักเท่าไร มีแต่ท่านดร.ที่ชอบมากๆ คนจะไปชอบ snc, ums, uec กัน

อีกอย่าง การลงทุนจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นตลอดเวลาเมื่อเรามองย้อนหลัง
เพราะเราจะเห็นผลลัพธ์ของทั้งสิ่งที่เราทำและไม่ได้ทำ
ไม่ได้ซื้อ ซื้อช้าไป ซื้อเร็วไป ขายช้าไป ขายเร็วไป ไม่ได้ใช้มาร์จิ้น ดันไปใช้มาร์จิ้น
ไม่ได้ขายบ้านมาซื้อ ดันขายบ้านมาซื้อ ไม่เชื่อเค้า ดันไปเชื่อเค้า ไม่ได้เปลี่ยนตัว ดันไปเปลี่ยนตัว
ต่อให้เรามีผลตอบแทนดี ถ้าบริหารเรื่องพวกนี้ไม่ได้ ก็จะเป็นได้แค่คนรวยที่อมทุกข์ ทุกข์มากซะด้วย
แทนที่จะมานั่งคร่ำครวญกับอดีต ปรับปรุงปัจจุบัน เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นน่าจะดีกว่า
แต่ไม่ว่ายังไง ความผิดพลาดก็จะเยอะอยู่เหมือนเดิม การฝึกการวางใจให้ดี
จึงมีความสำคัญไม่แพ้การวิเคราะห์งบการเงินหรือตัวธุรกิจ ถ้าเป้าหมายของชีวิตจริงๆคือการอยากมีความสุข

ผมเข้าใจเจ้าของกระทู้
บ่นมาอีกเถอะครับ
ยินดีที่จะอ่านยินดีที่จะฟังด้วยความตั้งใจ
เพราะ คำบ่นของคุณบางอย่างอาจเป็นประสพการณ์ที่ดี
และมีประโยชน์ อย่างมากมายต่อผมก็ได้
บ่นไป ปรับปรุงตัวไปเรื่อยๆนะครับ
ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป จากเดิม
อย่าพอใจอะไรง่ายๆ อย่าหยุดการเปลี่ยนแปลง

ดูกระทู้เก่าๆเหมือนเป็นมือใหม่......ตกลงคุณvibuffet2010 นี่ มือใหม่ จริงรึป่าวครับ ทำไมไปซื้อcpall ตอน 5 ปีที่แล้วได้???ชักระแวงเหมือนกัน

กระทู้ล่อเป้า

เราต้องมองธุรกิจให้ออกคับ ว่าเป็นอย่างไร
ประเมินยอดขาย การเติบโตที่เหมาะสม
มูลค่าในอนาคต 3-10 ปี
ท่าน ดร.มอง 5-10 ปีขึ้นไป (สำหรับธุรกิจในเมืองไทย)
มาสเตอร์บัฟเฟตต์เอง มองเป็น 20 ปีขึ้นไป (ธุรกิจในเมกาใหญ่โตมากๆ)

CPALL เราเห็นอยู่ทุกวันหลายปีที่ผ่านมา เห็นมาตลอดจากไม่กี่ร้าน
ขยายไปตามถนน ตึก มหาลัย หมู่บ้าน ต่างจังหวัด เด็กๆเด๋วนี้เข้าแต่ 7-11
รุ่นคน 30 กว่าๆ บางทีเห็นร้านโชว์ห่วยมากมายไม่เข้า ต้องหา 7-11
เราไปตามต่างจังหวัดก็มองหาแต่ 7-11 เวลาซื้อขนมนมเนย เครื่องดื่ม
สุดเขตตะวันตก สังขละ ด่านเจดีย์สามองค์ ตะวันออก ตราด เกาะช้าง
เหนือ เชียงราย เชียงใหม่ ใต้ นราธิวาช ปัตตานี สตูล

แต่นั่นก็เป็นประเด็นนึงในการวิเคราะห์ เราอาจจะลำเอียงใช้ความเห็นของตัวเรา
โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง หลายๆท่านก็พลาดตรงนี้ เชื่อมั่นในตัวเองในขอบเขตที่เราไม่รู้
เพราะคิดว่าเรารู้ อันนี้อันตรายมาก หลายๆท่านรอด หลายๆท่านไม่รอด

คนเราที่ไม่รู้ว่า เราไม่รู้อะไร น่ากลัวที่สุด เพราะความผิดพลาดจะนำมาซึ่งความเสียหายอย่างหนัก
ไม่ว่าเรื่องไหนๆก็ตาม เพราะฉะนั้นเราควรมีการเรียนรู้ ใฝ่รู้ตลอดเวลา ตรวจสอบความคิดตัวเอง
ตรวจสอบเหตุผลอย่างที่มันเป็นจริง ไม่ใช่เหตุผลในการที่มันควรจะเป็น

การลงทุนเป็นเกมแห่งความอดทน การทำธุรกิจก็ต้องใช้ความอดทน
เราลงทุนในธุรกิจ เราก็ต้องใช้ความอดทน อดได้ ทนได้ รอได้

การเลือกหุ้นที่จะลงทุน ระยะเวลาในการถือหุ้นก็ขึ้นกับหุ้นแต่ละประเภท
ผลตอบแทนที่คาดหวังเองก็ต้องใช้การประเมินในหลายๆแง่

ทุกครั้งที่เราพลาด เสียดาย เราคงต้องกลับมาบอกตัวเองว่า

"เราต้องพยายามให้มากขึ้นๆ"

2 คำสั้นๆครับ

รู้งี้

vibuffet2010 เขียน:เมื่อ 5 ปีก่อนผมซื้อหุ้น CPALL ที่ราคา 5 บาท
ขายไปราคา 5.10 บาท เพราะอ่าน webboard ว่าจะกินเงินเจ้าสัวยาก ธรรมาภิบาล
Lotus ที่จีนจะดูดเงินไปหมดถึงตอนนี้บอกได้เลยว่าเซ็งมากครับ
ที่เห็น CPALL ราคานี้
ต่อไปคงต้องวิเคราะห์เองมากขึ้น

เชื่อมั้ยครับว่าปัจจุบันก็ยังมีหุ้นบางตัวถูกกล่าวถึงด้วยเนื้อหาเรื่องธรรมาภิบาลใกล้เคียงกันอยู่ครับ
เมื่อเร็วๆนี้เกิดPANIC ลงไป 3 วันแล้วพุ่งแรงเกินราคาก่อนลงซะอีก คนที่ตกใจขายก็กลับมาบ่นว่า "รู้งี้"

สุดท้าย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ

ผมว่าเป็นลักษณะกระทู้ "ล่อเป้า" อย่างที่มีคนว่ามา

แต่ผมว่าก็ดีในแง่ที่มีคน post ให้แง่คิดที่ดีดี หลากหลาย ถึงแม้จะออกดราม่า นิดๆก็ตาม

CPALL ตั้งแต่ผมติดตามเป็นต้นมา(ประมาณ10กว่าๆ) ไม่ค่อยจะได้ยินใครบอกว่าถูกให้ซื้อให้ซื้อได้เลย จะได้ยินแต่ว่าแพงตลอด ราคาไหนก็แพง ที่20,30 ก็แพงไปแพงไป ให้ย่อกว่านี้ เดี๋ยวก็ลงมารับกับพื้นฐานหุ้น ราคาเกินมูลค่าไปเยอะเลย ราคานี้

ถ้าผมจำไม่ผิดตอนที่ผมซื้อสาขาประมาณ 3000กว่าๆสาขา เทียบกับตอนนี้ 6500 สาขา ราคาก็ขึ้นไปตามผลประกอบการณ์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ตลาดก็ให้ราคาที่สูงเพราะ

ผมคิดว่า CPALL คือ "Premium Stock"
ตลาดจึงให้ค่า Premium เพิ่มเข้ามา เหมือนที่อ.นิเวศน์ เคยเขียนถึงของแบรนด์เนมขึ้นห้างราคาก็ย่อมสูงกว่าของที่ตลาดนัด

ถ้ามีเงินพอที่จะซื้อ7-11ทุกสาขาในประเทศไทยได้ ณ ตอนนี้
ผมว่าก็ยากมากที่จะทำธุรกิจแข่ง จะฝ่าด่านการตลาด กลยุทธ ของ 7-11 ไปได้

และถ้าจะมองอนาคตต่อจากนี้ บริษัทมีแผนว่าจะขยายสาขา ให้ครบ10,000 สาขา ในระยะ 5ปีจากนี้(ถ้าใครมีข้อมูลแม่นยำช่วยชี้แนะด้วยครับ) และมีข่าวเรื่องการไปทำตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะที่จีน ถ้าทำสำเร็จก็น่าจะมีอนาคตที่ดี เพราะอย่างที่ทราบกันว่าคนจีนเยอะมาก และพฤติกรรมการบริโภค ไม่น่าจะต่างจากคนไทย ไปมากนัก และทางCP เองก็มีสัมพันธ์อันดีกับจีน เป็นต้นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ครับ

vibuffet2010 เขียน:เมื่อ 5 ปีก่อนผมซื้อหุ้น CPALL ที่ราคา 5 บาท
ขายไปราคา 5.10 บาท เพราะอ่าน webboard ว่าจะกินเงินเจ้าสัวยาก ธรรมาภิบาล
Lotus ที่จีนจะดูดเงินไปหมด
ถึงตอนนี้บอกได้เลยว่าเซ็งมากครับ
ที่เห็น CPALL ราคานี้
ต่อไปคงต้องวิเคราะห์เองมากขึ้น

ผมขอพูดตรงๆนะครับ ผ่านมาตั้ง 5 ปีแล้ว

ในระยะเวลา 5 ปีหุ้น 10 เด้งมีมากมายมากกว่าแค่ cpall

ดังนั้น

1. ยังยึดติดอะไรครับ
2. พึ่งนึกออกหรอครับว่าต้องวิเคราะห์เองมากขึ้น

งงกับจุดประสงค์กระทู้

มาบ่นหรือต้องการอะไรครับ

สำหรับ CPALL เมื่อนานมาแล้ว (จำไม่ได้ว่านานเท่าไร คิดว่าตั้งแต่ยังใช้ชื่อ CP7-11) ผมเคยคิดที่จะซื้อ แต่ติดอยู่เรื่องเดียว คือ การลงทุนทำ Lotus ที่จีนและขาดทุนตลอด ทำให้กำไรที่ทำได้สูญหายไปมากจากการขาดทุนดังกล่าว ผมคิดว่าถ้าถ้า CP7-11 ตัดปัญหาการขาดทุนดังกล่าวไปได้ ธุรกิจจะมีกำไรมากกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่าตัว จึงกำหนดเงื่อนไขในใจไว้ว่า ถ้าเมื่อไร CPALL เลิกทำ Lotus ที่จีน ผมจะเข้าซื้อหุ้น CPALL เพื่อลงทุนทันที

หลังจากนั้น นานพอสมควร CPALL ก็เลิกทำ Lotus ที่จีนจริงๆ แต่ผมกลับไม่ได้เข้าไปซื้อหุ้น CPALL เลยแม้แต่หุ้นเดียว เหตุผลเพราะในขณะนั้น ผมไม่มีเงินสดเหลืออยู่ และหุ้นที่ผมมีในพอร์ตเป็นหุ้นที่ราคาตลาดยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง ผมจึงอดทนถือรอ จนกระทั่งปัจจุบัน หุ้นบางตัวในพอร์ตผมราคาก็ไม่ได้ไปไหนไกล แต่บางตัวก็ทำกำไรให้ผมอย่างน่าพอใจ

ผมไม่เสียใจที่ไม่ได้ซื้อ CPALL ในตอนนั้น (แต่แอบเสียดายเล็กน้อย ) เพราะอย่างน้อยผมก็รู้ว่า สิ่งที่ผมคิดไตร่ตรองนั้นมันถูกต้อง เพียงแค่เราไม่ได้ลงมือทำ จึงไม่ได้รับผลตอบแทนเป็นรูปธรรม เท่านั้นเอง

vibuffet2010 เขียน:เมื่อ 5 ปีก่อนผมซื้อหุ้น CPALL ที่ราคา 5 บาท
ขายไปราคา 5.10 บาท เพราะอ่าน webboard ว่าจะกินเงินเจ้าสัวยาก ธรรมาภิบาล
Lotus ที่จีนจะดูดเงินไปหมด
ถึงตอนนี้บอกได้เลยว่าเซ็งมากครับ
ที่เห็น CPALL ราคานี้
ต่อไปคงต้องวิเคราะห์เองมากขึ้น

ถ้าพี่บอกว่า ขายไปเพราะกินเงินเจ้าสัวยาก ก็ใช่ครับ
เพราะปันผลน้อยจริงถ้าเทียบกับราคา

ถ้าพี่บอกว่า ขายไปเพราะโลตัสจีนจะดูดเงิน
มันก็ดูดเงินจริงนี่ครับ ตอนหลังบริษัทก็ต้องขายโลตัสทิ้ง(แบบตัดขาดทุนด้วย ถ้าจำไม่ผิด)

แล้ว เซียนคนนั้นพูดอะไรผิดเหรอครับ

เซียนคนนั้นเชีร์ขายในหน้าแรกๆของ ร้อยคนร้อยหุ้น พอหน้าที่ 10 แกเชียร์ซื้อ
สงสัยแกเก็บของครบแล้ว
แค่ post เตือนให้ระวังการเชียร์ซื้อขายใน webboard ที่วัตถุประสงค์แอบแฝง

แล้วตอนที่ราคามันอยู่ในช่วง 6-50 บาท
มีเวลาตั้งหลายปี ทำไมถึงไม่ซื้อละครับ
หากซื้อตอน 50 บาท ถือจนถึงเวลานี้ยังได้กำไำรตั้ง 10 บาท

พูดถึงอดีตง่ายดี พูดถึงอนาคตดีกว่า
ราคา 5 บาท เมื่อห้าปี กับ 56 บาท ตอนนี้ ก้อเหมือนกันแหละ ...กล้าซื้อมั้ย อนาคต จะเป็นอย่างไร ....คิดไม่ออก .....

ข้อมูลที่ได้จากการฟัง และอ่านจากคนอื่น มันเหมือนการเกี่ยวรวงข้าวครับ

คือเราต้องเอามานวด เอามาฝัด เอามาสีอีกที

สีเสร้จก็ต้องแยก ข้าวสวย ข้าวแตก ข้าวบิ่น เพราะแต่ละอย่าง ราคาต่างกัน

ถึงจะบริโภคกันได้

แต่เรามักเข้าใจผิด ว่ามันเป็นปลากระป๋องครับ เปิดสวกแล้วจวกได้เลย


ข้อมูลจากคนอื่น

ต้องรวบรวมให้รอบด้าน ชั่งน้ำหนักของทุก ๆ ข้อมูล
แล้วประมวลรวมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นกลยุทธ์ต่อการตอบสนองหุ้นตัวนั้นในสถานการณ์ต่าง ๆ

ถ้า คุณย้อนเวลาไ้ด้ คุณก้ทำได้ครับ

ผมก้เคยนะ ถ้าผมขาย ptl aj แถว 40 ผมก้คงได้มากกว่านี้อีก 4เท่า

แต่ถามว่า ชีวิตจริง มีใครรู้ไหมว่า มันจะไฮเท่าไหร่

ถ้าล่วงรู้อนาคตแบบโดเรม่อนได้ ซื้อหวยรางวัลที่1พิเศษ 10คู่ รวยง่ายกว่า


เมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้ว อย่ากลับไปมองมัน อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เวลาไม่ย้อนกลับมา

ทำวันนี้ให้ดี หาความรู้ให้มาก ทำอนาคตให้ดี รวยหรือจน มันขึ้นกับคำว่า พอใจแค่ไหน

ถ้ามี10ล้าน แต่สมถะพอเพียงพอใจแค่นี้ไม่เดือดร้อน ก้ดีกว่า มี100ร้อยล้านแต่อยาก

รวยเป็นหมื่นล้าน

ถามว่าคนมี 10 ล้านจะเดือดร้อนทางการเงินไหม ผมก้ตอบว่า ไม่หรอกถ้าคุณไม่คิดมาก

ไม่ไปมองคนที่เค้ามีมากกว่า ทุกข์และกิเลศก้จะไม่เกิด

ชีวิตที่ดีในเมืองไทย ผมว่าควรมีเงินสดสัก 10ล้าน+ ก้ไม่เดือดร้อนแล้ว

แล้วแต่ว่าถ้าใครหลงในกิเลสเยอะ เที่ยวเฮียชูทุกวัน ใช้เงินมากมายปรนเปรอตัวเอง

ช่วงแรกเป็นสุข จากการใช้เงิน ช่วงหลังเป็นทุกข์ ความสุขด้านวัตถุมันมีข้อจำกัดด้านเวลา

คือเวลาที่มีมันแรกๆ ก้จะสุข นานเข้า ก้จะทุกข์

ซื้อเฟอรารี่มาขับ แรกๆๆก้โก้หรูดี นานวันเฟอรารี่ราคาหลักสิบล้านก้ตกเหลือหลักล้าน

ผ่านไป 20ปี ก้เหลือไม่กี่บาท

ยิ่งนานไปพอเสียเข้า ก้ต้องซ่อม ก้ต้องขาย

สำหรับผมสุข ที่แท้จริง คือ

1.การให้ปัญญา เมื่อเค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เค้าก้จะเอาความรู้ที่เราให้ บอกต่อคนที่ทุกข์

ต่อไป

2.การให้เวลากับครอบครัว โดยเฉพาะ พ่อและแม่

3.การให้เวลากับตัวเอง ให้มีเวลาได้ผ่อนคลาย ฟรีสไตล์แต่ไม่ผิดกฎหมาย

คุณค่าของความสุขไม่ได้วัดแค่ ตัวเงินนะครับ

vibuffet2010 เขียน:เซียนคนนั้นเชีร์ขายในหน้าแรกๆของ ร้อยคนร้อยหุ้น พอหน้าที่ 10 แกเชียร์ซื้อ
สงสัยแกเก็บของครบแล้ว
แค่ post เตือนให้ระวังการเชียร์ซื้อขายใน webboard ที่วัตถุประสงค์แอบแฝง

ถ้าเราคิดว่าข้อมูลใน ร้อยคนร้อยหุ้น เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เปรียบเหมือนบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่างๆ ที่แต่ละรายประเมินราคาหุ้นต่างกันมาก สุดท้าย การตัดสินใจซื้อขายขึ้นอยู่กับเหตุผลของตัวเราเองครับ เซียนที่ให้ความเห็นดี เป็นกลาง ก็มีเยอะนะครับ

ของผมนานกว่านั้นอีกนะ ตั้งแต่ยังเป็น CP7-11 และยังไม่แตกพาร์ ผมซื้อ 36 บาท
ก็มีคนบอกว่าหุ้นเจ้าสัวกินเงินยากเหมือนกัน แต่ทำไมผมไม่ขายก็ไม่รู้สิ แค่คิดว่ามันคือ 7-11 เท่านั้นเอง

แล้วก็รู้ตัวอีกทีถือมาตั้งนานแล้ว จนราคา 40 บาทถึงขาย ผมขายเพราะคิดว่าช่วงเวลาโตสุดๆน่าจะใกล้จบแล้ว
อยากลองถือตัวอื่นบ้าง
555 ใครจะไปรู้ว่ามันจะถึง 60 บาทเร็วขนาดนี้

หวยออกแล้ว จะพูดอะไรก็ได้ครับผม