Thai VI

ตกรถจนได้ ขายทิ้งตอน 850 จุด เซียนเว็บบอร์ดบอกจะไป 600 จุด
ตอนนี้จะกลับไปที่เดิมแล้ว
น้ำท่วมหนักต้องรีบขายทิ้ง ประเทศไทยเน่าแล้ว
หุ้นที่ขายก็กำไรโตดีทุกตัว ราคาดีดกลับมาที่เดิม

แล้ว?????

งง

โดนหลอกแล้วครับ

อย่าให้นายตลาดมาชี้สั่งเราได้นะครับ

good luck!

อ่านข้อมูลแล้วไม่คิดเอง ทำตามอย่างเดียว คุณก็โทษใครไม่ได้นะครับ ต้องโทษตัวเอง
ตอนขายไม่มีใครจับมือคุณกดปุ่มขายนี่ครับ

อืม ... แล้วได้บทเรียนอะไรไหมละครับ

vibuffet2010 เขียน:ตกรถจนได้ ขายทิ้งตอน 850 จุด เซียนเว็บบอร์ดบอกจะไป 600 จุด
ตอนนี้จะกลับไปที่เดิมแล้ว
น้ำท่วมหนักต้องรีบขายทิ้ง ประเทศไทยเน่าแล้ว
หุ้นที่ขายก็กำไรโตดีทุกตัว ราคาดีดกลับมาที่เดิม

buffet นี่ไม่น่าใช่ warren น่าจะเป็นแบบ หัวละ 399++

ถือเป็นประสบการณ์ดีกว่าครับ

ผมว่าจริงๆแล้วคนในบอร์ดนี้ หลายๆคนก็คงโดนเหมือนท่าน

คือขายล้างพอร์ตรอ คำถามคือ ที่ล้างพอร์ตเพราะว่า

1. ในพอร์ตไม่มีเงินสด มีแต่หุ้นต้นทุนสูง
2. ในพอร์ตมีเงินสดน้อย แต่หุ้นที่มีต้นทุนต่ำ

ถ้าเป็นข้อหนึ่ง ก็ทำถูกแล้วที่ล้างพอร์ต เพราะจริงๆไม่มีใครรู้อนาคต
เกิดมันลงไปที่ 600-700 จริง ตัวที่เราถือ(ถึงจะพื้นฐานดี) ไม่แคล้วต้องดิ่งเหวด้วยแน่ๆ
พอถึงตอนนั้นเราก็จะขาดโอกาส แถมด้วยหมดตัว

ถ้าเป็นข้อสอง แสดงว่า ใจไม่นิ่ง อาจเกิดจากความโลภ
อยากได้มากกว่าที่มีอยู่เลยขายซะ

ไม่ว่าจะเป็นข้อไหน ผมว่าเป็นประสบการณ์ครับ
ข้อหนึ่งทำให้เห็นว่า เรามี mos น้อย พอเกิด panic sell เราก็เลยใจฝ่อ
ข้อสองก็แปลว่าไม่ว่าจะยังไง เราก็ต้องมีเงินสดในสัดส่วนที่เราวางแผนไว้
อยู่เสมอๆ บัฟเฟตเองยังมีกระสุนเตรียมไว้ตลอด เพราะหากเกิดโอกาสซื้อจริงๆ
จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อละครับ (ยกเว้นจะมีทรัพย์สินอื่นๆ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้)

ผมเคยอ่านเจอในนี้ ไม่รู้ว่าเป็นท่าน naris หรือท่าน chatchai ที่บอกว่าล้างพอร์ตรอประมาณ 1 หรือ 2 ปีเนี่ยแหละครับ ก่อนเกิดวิกฤต 40

ถ้าตอนนี้ท่านมีกระสุนเพียบ ผมว่าใจเย็นๆครับ ตอนนี้ ผมก็ไม่กล้าซื้อเหมือนกัน

ถ้าเรายังเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ เราก็จะมีกำไรขาดทุนเหมือนเค้า

คนส่วนใหญ่ที่เล่นหุ้น ขาดทุนนะครับ

จงภูมิใจเถอะครับ ว่าในขณะที่คนอื่นกำลังเริงร่าว่าหุ้นขึ้น

เราดันไม่มีซักหุ้นอยู่ในพอร์ต

ตอนที่ดัชนี 850 จุด นักวิเคราะห์หลายคนก็มองแบบนั้น ก็ต้องบอกว่าไม่มีใครรู้จริงหรอกครับ ได้ฟังคุณวิศิษฎ์ ยังขำเลยว่า ท่านได้ไป ตปท เพื่อศึกษาว่าจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกไหม ไปถามอเมริกัน เขาเป็นห่วงปัญหาในยุโรป และ จีน ไปถามยุโรป เขาเป็นห่วงปัญหาในอเมริกา ไปถามจีน เขาห่วงปัญหาในอเมริกา และยุโรป ...อะไรประมาณนี้ สรุป คือ ไม่มีใครรู้จริงนะครับ

global economy เป็นอะไรที่ยากที่จะคาดเดายิ่งในภาวะที่เป็นสีเทา ที่ส่วนตัวผมเชื่อว่า เศรษฐกิจโลกจะโตจาก BRIC และ emerging market แต่เศรษฐกิจอเมริกา และยุโรป ผมว่าไม่ได้ซบลง แต่มันอิ่มมาตั้งนานแล้ว คือ การเติบโตน้อย ต่างก็ส่งผลกระทบกันและกัน เราจึงต้องแยกแยะระหว่างข้อมูล ความเห็น ความเชื่อ ความรู้ และอย่าลืมว่ามัน dynamic เปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน....แม้ความเห็นผมก็เป็นเพียงความเชื่อส่วนตัว ที่มาแลกเปลี่ยน ย่อมผิดได้เช่นกัน

เรื่องมันผ่านไปแล้ว ก็แล้วกันไป

ว่าแต่ตอนนี้คิดอะไรอยู่ในใจครับ
ถ้าเมื่อไหร่คิดว่า ต้องซื้อตามแล้ว เดี๋ยวตกรถ setจะวิ่งไปอีกไกล
รบกวนมาแจ้งอีกทีนะครับ

สู้ๆนะครับ
อะไรที่พลาดแล้วก็ถือเป็นประสบการณ์นะครับ

ในเหตุช่วงที่ผ่านมา (เฉพาะในเว็บนี้)

ผมเห็นมีทั้ง วิเคราะห์ วิจารณ์ และอื่นๆอีกมากมาย

แล้วต่างคนก็มีวิธีการที่แต่ละคนเห็นว่าดีแล้ว.... ก็แสดงความเห็นของตนเองในการตั้งรับหรือแก้ไขในเหตุความปั่นป่วนนี้

ผลที่แสดงออกมามีทั้ง
- ขาย ออก
- ซื้อ เพิ่ม
- ถือทนไม่ไหว แล้วขายออก
- ไม่ซื้อและไม่ขาย (กลยุทธเต่า.. วันนี้บางส่วนก็น่าจะรอดตัวไปแล้ว)
- ขายออกแล้ว กลับมาซื้อใหม่
- อื่นๆ......

แต่ละคนก็มีเหตุผลและความพร้อม(ทั้งตัวหุ้น ทั้งกำลังทรัพย์ ความรู้ ความอึด ความทนและอื่นๆอีกมากมาย)ที่ต่างกันมากๆ

...ที่เหลือคงเป็นหน้าที่ตัวเราเอง...ที่จะเลือกเองว่าจะทำเช่นไร..และรับผลของการเลือกนั้นเองทั้ง + และ -

...เพราะคงไม่มีใคร...รู้อนาคต

ส่วนตัวผมเอง ผ่านมาถึงเวลานี้ รู้เลย...ยังอ่อนด้อยนัก(มากมายหลายเรื่องจริงๆ) ที่จะใช้จัดการความโลภกับความกลัวของตัวเอง(เมื่ออยู่ในเหตุการณ์จริงๆครั้งนี้)

ว่าแล้วรอ..รอบ ต่อไป ลองใหม่ อีกครั้ง ท่าทางจะดี ครับ

ผมก็เป็นมือใหม่ขี้ตกใจ เหตุการณ์ทั้งวิกฤตกรีซ ยูโรโซน น้ำท่วมในไทย รุมล้อม มีแต่เสียงรอบข้างตีร้องบอกว่าให้ล้างพอร์ตๆ บางเสียงว่าถ้ารู้ว่ามันแย่ก็ขายออกมาก่อนสิ เดี๋ยวลงไปรับต่ำๆ แต่มีคำพูดที่มันผุดขึ้นในสมองผม เป็นคำที่เคยอ่านในหนังสือของลินซ์ "อย่ากลัวจนขนาดเทขายหุ้นล้างพอร์ตแล้วออกจากตลาดออกจากตลาด"

กำไรคือ "กำไร"
ขาดทุนคือ "กำไร"
ขายหมูคือ "กำไร"

สู้ๆครับ มีกูรูเศรฐศาสตร์ท่านนึงพูดประมาณว่า
"รถเมล์มาทุก15นาที"
ผมก็ขายหมูบ่อยเเต่มามองโลกในเเง่บวกเหมือนเรา"เเบ่งปัน"กันรวย คิดเเล้วสบายใจครับ

We all make mistakes man.....just let it go....let it be......learn from it and grow stronger.

vibuffet2010 เขียน:ตกรถจนได้ ขายทิ้งตอน 850 จุด เซียนเว็บบอร์ดบอกจะไป 600 จุด
ตอนนี้จะกลับไปที่เดิมแล้ว
น้ำท่วมหนักต้องรีบขายทิ้ง ประเทศไทยเน่าแล้ว
หุ้นที่ขายก็กำไรโตดีทุกตัว ราคาดีดกลับมาที่เดิม

เหมือนตอนนั่งรถเมล์ แล้วเผลอหลับ เกิดอาการสลึมสลือ
ลงผิดป้าย ก็แค่นั่งรอรถอีกคัน ก็ไปถึงจุดหมายได้เหมือนกันครับ

คุณรู้หรือเปล่าว่าคนเราจะประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้อะไรสำคัญที่สุด
สำหรับผม สมอง....มีส่วน จิตใจ....มีส่วน แต่ที่สำคัญที่สุดเลยคือ "ทัศนคติ"

ระหว่างทัศนคติแบบ....

"เซียนบอกจะไป600 ไม่เห็นไปเลย พวกนั้นมันเลว มันทำให้เราตกรถ ถ้าเราไม่เชื่อพวกนั้น ป่านนี้รวยไปแล้ว ไม่น่าเลย รู้งี้ บลาๆๆ"

กับอีกแบบ....

"เราผิดเอง เราไปเชื่อพวกนั้น เราอาจจะยังไม่มีความรู้ ประสบการณ์ แต่นี่เป็นหนึ่งบทเรียน เราได้เรียนรู้แล้ว ต่อไปเราจะไม่ผิดพลาดซ้ำเดิมอีก เราจะหาความรู้ให้เยอะขึ้นๆ"

ทัศนคติแบบไหน คุณเป็นคนเลือกเองนะครับ

เจ็บไปเยอะ ๆ แล้วจะดีเอง

ในที่สุด ก็กลายเป็น VI ไปเอง เพราะ เป็นไปตามกฎ อย่าขาดทุน

โพสท์แบบนี้เพื่ออะไรครับ ถ้าคุณคิดแบบนี้ไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองก็ออกเลิกเข้ามาในเวปนี้ดีกว่ามั้ยครับ ผมเองก็เป็นคนนึงครับที่พลาดพยายามเดาตลาด เงินหายไปก็ไม่น้อย แต่ก็เคยโทษชาวบ้าน ได้แต่จำไว้เป็นบทเรียน แต่อย่างน้อยผมก็ภูมิใจที่รับผิดชอบการตัดสินและการกระทำของตัวเองครับ ถ้าแรงไปขออภัยครับ แต่อ่านหัวข้อกระทู้แล้วมันของขึ้นน่ะครับ

อืม สมกับที่เขาว่า คนตายไม่ควรพูด เอ๊ย คนตายไม่ได้พูดจริงๆ
(จะพูดก็ระวังแหละครับ อย่ากล่าวโทษผู้อื่น ต้องโทษตัวเองก่อนใคร)

พยายามเข้าครับ ถ้าไม่ได้เจ็บตัวมาก โอกาสยังมีเสมอครับ เป็นกำลังใจให้

"เซียนบอกจะไป600" สรุปได้หรือยังครับว่าเซียนที่ว่า เซียนจริงหรือเซียนปลอม ทีหลังต้องพยายามวิเคราะห์เองแล้วเชื่อตัวเองดีที่สุดครับ

หาหุ้นใหม่สิครับ ผมก็เพิ่งซื้อไปไม่กี่วันมานี้
การลงทุนดีๆ และโอกาสใหม่ๆ มีมาเสมอ แม้แต่ ณ ขณะนี้
อยู่ที่ขยันมองหา และพัฒนาตัวเองให้ขุ้ยเก่งขึ้น
ตัดสินใจด้วยตนเอง ผิดพลาดจะได้ไม่ต้องไปโทษใคร
มุ่งมั่นเข้าไว้ เดี๋ยวก็เก่งครับ และจะพบว่าสุดคุ้ม

เซียน เกรแฮม , บัฟเฟต , ลินซ์ บอกว่าอย่าพยายามคาดเดาตลาดน่ะครับ

เงินเราเองเราตัดสินใจเราเองไม่ต้องไปโทษคนอื่นหรอกครับ การที่เราเชื่อแปลว่าเราคิดว่าคนจะรู้อนาคตได้ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีใครรู้หรอกครับอนาคต มารู้เอาตอนที่ผ่านมาแล้วทุกที่ แล้วก็พูดรู้งี้ๆ อีก

ลองย้อนกลับไปคิดดูครับ
มีแต่ได้ ไม่มีเสีย

ไม่ได้ตกรถหรอกครับ
หุ้นดีราคาสมเหตุสมผลยังมีอยู่เยอะครับ

หาไปเรื่อยๆ สู้ๆครับ

^^ดูแล้วจขกท.น่าจะเป็นมือใหม่!!! ผมว่านะแบบนี้ดีแล้วนะครับ ผมว่านะสำหรับมือใหม่พอร์ทเล็กสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ผลตอบแทนแต่เป็นระบบการลงทุนที่ดีต่างหาก ถ้าหากว่าจขกทระบบการลงทุนยังไม่นิ่งแต่โชคดีตามเซียนหรืออะไรจนพอร์ทโตมากๆ แล้วไปพลาดตอนเงินคุณเยอะมากๆถึงจุดนั้นจิตใจจะวิตกกว่านี้เยอะมากมาย ผมว่าใช้เวลานี้แหละขวนขวายหาระบบการลงทุนที่ดีและเหมาะกับเราให้ได้ครับเอาใจช่วยจขกท.ครับ^^
อีกเรื่อง ผมว่านะครับPDCAสำคัญมากนะครับ แม้นวันนี้เราคิดผิด แต่ถ้าเราวางแผนและทำอย่างที่วางแผน ตรวจสอบและกลับไปปรับปรุงแผนการลงทุนใหม่ ผมว่าทำได้ก็รวยทุกคนนะครับ^^ สิ่งที่จขกท.พลาดนะครับผมว่าจขกท.PLANว่าตามเซียน ดังนั้นถ้าPLANว่าจะตามเซียนก็ต้องDOตามเซียนให้ถึงที่สุดครับต้องถามเซียนเรื่อยๆว่าตอนนี้คิดแบบไหนทุกๆเดือนเป็นอย่างต่ำ เพราะตลาดหุ้นเรามีชีวิต มันไม่อยู๋นิ่งกับที่ครับ ดังนั้นถ้าDOแค่ตอนแรกแล้วทิ้งยาวไม่สนใจก็แสดงว่าช่วงหลังคุณไม่ได้ทำตามPLANที่วางไว้แล้วมันจะประสบความสำเร็จได้ไงครับ? แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ คุณสามารถตามเซียนได้ตลอดหรือปล่าว? ถ้าทำได้PLANนี้คุณOKแต่ถ้าทำไม่ได้PLANนี้คุณไม่โอเคนะ...
และอีกสิ่งหนึ่งคือจขกท.ควรจะเข้าใจธรรมชาติของเซียน ขาลงเขาเตือนเพราะหวังดีอย่างมากก็ไม่ได้กำไรบ่นๆแต่ถ้ารอดช่วงวิกฤติได้ก็ช่วยคนเยอะ แต่ขาขึ้นถ้าดันไปเชียร์ว่าขึ้นแล้วมันดันลงคนตามขาดทุนยับแบบนี้อย่างมากอาจจะไม่ใช่แค่บ่นนะครับ อาจจะโดนขู่อะไรบางอย่างได้ ดังนั้นปกติผมว่าคนไม่ค่อยพูดเชียร์กันขาขึ้นหรอกนะครับหนังไม่ได้รองเอากระดูกไปแขวนคอปล่าวๆ^^
ดังนั้นสรุปผมว่าจขกท.ต้องมีแผนการลงทุนที่ชัดเจน เจอข่าวดีข่าวร้ายมากจะทำอย่างไร? จะถือ100%ตลอดหรือซื้อขายตามข่าว? ถ้าซื้อขายตามข่าวแล้วราคาสวนทางคุณจะทำอย่างไร? หรือถ้าคุณเลือกถือ100%แล้วตลาดลงไป-10% -20% -40% -60% ณ.แต่ละจุดคุณจะทนได้ไหม?คุณจะทำอะไรบ้าง? ถ้าทุกอย่างชัดเจนแม้นว่าคุณจะเจออะไรในอนาคตคุณก็จะสามารถรับได้หมดครับ เพราะทุกอย่างอยู๋ในPLANของคุณหมดแล้ว ยังไงก็ขอให้เพื่อนร่วมเส้นทางนี้รวยทุกคนครับ^^

picklife เขียน:^^ดูแล้วจขกท.น่าจะเป็นมือใหม่!!! ผมว่านะแบบนี้ดีแล้วนะครับ ผมว่านะสำหรับมือใหม่พอร์ทเล็กสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ผลตอบแทนแต่เป็นระบบการลงทุนที่ดีต่างหาก ถ้าหากว่าจขกทระบบการลงทุนยังไม่นิ่งแต่โชคดีตามเซียนหรืออะไรจนพอร์ทโตมากๆ แล้วไปพลาดตอนเงินคุณเยอะมากๆถึงจุดนั้นจิตใจจะวิตกกว่านี้เยอะมากมาย ผมว่าใช้เวลานี้แหละขวนขวายหาระบบการลงทุนที่ดีและเหมาะกับเราให้ได้ครับเอาใจช่วยจขกท.ครับ^^
อีกเรื่อง ผมว่านะครับPDCAสำคัญมากนะครับ แม้นวันนี้เราคิดผิด แต่ถ้าเราวางแผนและทำอย่างที่วางแผน ตรวจสอบและกลับไปปรับปรุงแผนการลงทุนใหม่ ผมว่าทำได้ก็รวยทุกคนนะครับ^^ สิ่งที่จขกท.พลาดนะครับผมว่าจขกท.PLANว่าตามเซียน ดังนั้นถ้าPLANว่าจะตามเซียนก็ต้องDOตามเซียนให้ถึงที่สุดครับต้องถามเซียนเรื่อยๆว่าตอนนี้คิดแบบไหนทุกๆเดือนเป็นอย่างต่ำ เพราะตลาดหุ้นเรามีชีวิต มันไม่อยู๋นิ่งกับที่ครับ ดังนั้นถ้าDOแค่ตอนแรกแล้วทิ้งยาวไม่สนใจก็แสดงว่าช่วงหลังคุณไม่ได้ทำตามPLANที่วางไว้แล้วมันจะประสบความสำเร็จได้ไงครับ? แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ คุณสามารถตามเซียนได้ตลอดหรือปล่าว? ถ้าทำได้PLANนี้คุณOKแต่ถ้าทำไม่ได้PLANนี้คุณไม่โอเคนะ...
และอีกสิ่งหนึ่งคือจขกท.ควรจะเข้าใจธรรมชาติของเซียน ขาลงเขาเตือนเพราะหวังดีอย่างมากก็ไม่ได้กำไรบ่นๆแต่ถ้ารอดช่วงวิกฤติได้ก็ช่วยคนเยอะ แต่ขาขึ้นถ้าดันไปเชียร์ว่าขึ้นแล้วมันดันลงคนตามขาดทุนยับแบบนี้อย่างมากอาจจะไม่ใช่แค่บ่นนะครับ อาจจะโดนขู่อะไรบางอย่างได้ ดังนั้นปกติผมว่าคนไม่ค่อยพูดเชียร์กันขาขึ้นหรอกนะครับหนังไม่ได้รองเอากระดูกไปแขวนคอปล่าวๆ^^
ดังนั้นสรุปผมว่าจขกท.ต้องมีแผนการลงทุนที่ชัดเจน เจอข่าวดีข่าวร้ายมากจะทำอย่างไร? จะถือ100%ตลอดหรือซื้อขายตามข่าว? ถ้าซื้อขายตามข่าวแล้วราคาสวนทางคุณจะทำอย่างไร? หรือถ้าคุณเลือกถือ100%แล้วตลาดลงไป-10% -20% -40% -60% ณ.แต่ละจุดคุณจะทนได้ไหม?คุณจะทำอะไรบ้าง? ถ้าทุกอย่างชัดเจนแม้นว่าคุณจะเจออะไรในอนาคตคุณก็จะสามารถรับได้หมดครับ เพราะทุกอย่างอยู๋ในPLANของคุณหมดแล้ว ยังไงก็ขอให้เพื่อนร่วมเส้นทางนี้รวยทุกคนครับ^^

คงไม่ใช่มือใหม่แล้วครับ คงเป็นพวกจิตตก ที่ชอบป่วนหรือไม่ก้อาจจะเป็นพวก

ที่รับสอนลงทุนหุ้นพวกที่ยกตัวเองนำหน้า ว่า เซียน แต่แท้จริง กำมะลอ มากครับ

จากภาษาที่เขียน ดูก้รู้ ว่า ถ้าเป็นเด็กก้เกรียน ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ก้ เกรียนกว่า

ที่โพสต์อาจเพราะหวังดี ไม่อยากให้คนอื่นมาเจอแบบเดียวกับที่ตัวเองเคยคิดก็ได้นะครับ