วันแรกแห่งปีมังกร ขอเสนอหลัก กาลามสูตร ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญา
1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา
หวังว่าคงมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ขอขอบคุณ google สำหรับข้อมูล
สวัสดีปีใหม่ครับ
กาลามสูตรรับปีใหม่
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กาลามสูตรรับปีใหม่
โพสต์ที่ 2
ทั้ง 10 ข้อ ขึ้นต้นด้วยคำว่า มา
เช่น มา นยเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา
คำว่า "มา" เป็นคำบาลี เป็นการปฏิเสธมีความหมายเท่ากับNoหรือนะคืออย่า
การแปลในปัจจุบันนี้จึงมีอยู่ 3 แบบคือ
1. อย่าเชื่อ
2. อย่าเพิ่งเชื่อ
3. อย่าเพิ่งปลงใจเชื่อ
ข้อ 2และ3ความหมายเหมือนกัน แต่2น่าจะดีกว่าเพราะสั้นและได้ความหมายแล้ว
เมื่อก่อน ผมงงกับกาลามสูตรมาก เพราะ ทุกข้อขึ้นต้นด้วย "อย่าเชื่อ"
แล้วผมจะเชื่ออะไรละ เพราะความเชื่อของผม ก็มาจาก 10ข้อ
ใช้ ข้อ 4-10 เป็นหลัก ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป
พอใช้ประโยคว่า "อย่าเพิ่งเชื่อ" นำหน้าทั้ง 10ข้อ ผมก็เห็นด้วยกับกาลามสูตรทันที
เดิมผมก็ไม่ค่อยเชื่อกาลามสุตร (ตอนนำหน้าด้วย"อย่าเชื่อ")
แต่ติดตรงที่ทั้งหมดเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูด
ก็เลยอีหลักอีเหลื่อ สับสนมาตั้งนาน
ผมเดาว่า หลายๆคนน่าจะเป็นเหมือนผม
ตอนนี้ผมก็เลยเชื่อเรื่องต่างๆโดยใช้ ข้อ 4-10 ตั้งแต่ 2ข้อขึ้นไป
ด้วยความมั่นใจมากขึ้น เพราะความรู้หลายอย่าง ไม่สามารถ ทดลอง
และพิสูจน์ได้ด้วตนเอง
เช่น มา นยเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา
คำว่า "มา" เป็นคำบาลี เป็นการปฏิเสธมีความหมายเท่ากับNoหรือนะคืออย่า
การแปลในปัจจุบันนี้จึงมีอยู่ 3 แบบคือ
1. อย่าเชื่อ
2. อย่าเพิ่งเชื่อ
3. อย่าเพิ่งปลงใจเชื่อ
ข้อ 2และ3ความหมายเหมือนกัน แต่2น่าจะดีกว่าเพราะสั้นและได้ความหมายแล้ว
เมื่อก่อน ผมงงกับกาลามสูตรมาก เพราะ ทุกข้อขึ้นต้นด้วย "อย่าเชื่อ"
แล้วผมจะเชื่ออะไรละ เพราะความเชื่อของผม ก็มาจาก 10ข้อ
ใช้ ข้อ 4-10 เป็นหลัก ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป
พอใช้ประโยคว่า "อย่าเพิ่งเชื่อ" นำหน้าทั้ง 10ข้อ ผมก็เห็นด้วยกับกาลามสูตรทันที
เดิมผมก็ไม่ค่อยเชื่อกาลามสุตร (ตอนนำหน้าด้วย"อย่าเชื่อ")
แต่ติดตรงที่ทั้งหมดเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูด
ก็เลยอีหลักอีเหลื่อ สับสนมาตั้งนาน
ผมเดาว่า หลายๆคนน่าจะเป็นเหมือนผม
ตอนนี้ผมก็เลยเชื่อเรื่องต่างๆโดยใช้ ข้อ 4-10 ตั้งแต่ 2ข้อขึ้นไป
ด้วยความมั่นใจมากขึ้น เพราะความรู้หลายอย่าง ไม่สามารถ ทดลอง
และพิสูจน์ได้ด้วตนเอง
Blueplanet
- halogen
- Verified User
- โพสต์: 78
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กาลามสูตรรับปีใหม่
โพสต์ที่ 3
ใช่ครับเหมือนกันเลย ตอนเรียน มัธยม มีหลักกาลามสูตร ผมก็งง เอ้า แล้วจะให้เชื่ออะไรได้บ้างเนี่ยblueplanet เขียน:ทั้ง 10 ข้อ ขึ้นต้นด้วยคำว่า มา
เช่น มา นยเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา
คำว่า "มา" เป็นคำบาลี เป็นการปฏิเสธมีความหมายเท่ากับNoหรือนะคืออย่า
การแปลในปัจจุบันนี้จึงมีอยู่ 3 แบบคือ
1. อย่าเชื่อ
2. อย่าเพิ่งเชื่อ
3. อย่าเพิ่งปลงใจเชื่อ
ข้อ 2และ3ความหมายเหมือนกัน แต่2น่าจะดีกว่าเพราะสั้นและได้ความหมายแล้ว
เมื่อก่อน ผมงงกับกาลามสูตรมาก เพราะ ทุกข้อขึ้นต้นด้วย "อย่าเชื่อ"
แล้วผมจะเชื่ออะไรละ เพราะความเชื่อของผม ก็มาจาก 10ข้อ
ใช้ ข้อ 4-10 เป็นหลัก ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป
พอใช้ประโยคว่า "อย่าเพิ่งเชื่อ" นำหน้าทั้ง 10ข้อ ผมก็เห็นด้วยกับกาลามสูตรทันที
เดิมผมก็ไม่ค่อยเชื่อกาลามสุตร (ตอนนำหน้าด้วย"อย่าเชื่อ")
แต่ติดตรงที่ทั้งหมดเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูด
ก็เลยอีหลักอีเหลื่อ สับสนมาตั้งนาน
ผมเดาว่า หลายๆคนน่าจะเป็นเหมือนผม
ตอนนี้ผมก็เลยเชื่อเรื่องต่างๆโดยใช้ ข้อ 4-10 ตั้งแต่ 2ข้อขึ้นไป
ด้วยความมั่นใจมากขึ้น เพราะความรู้หลายอย่าง ไม่สามารถ ทดลอง
และพิสูจน์ได้ด้วตนเอง
อย่าเชื่อ จนผมตีความกลายเป็นคนขวางโลกเลย คือ ไม่ต้องเชื่อใคร ให้ทำเองอย่างเดียวใช่หรือเปล่า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กาลามสูตรรับปีใหม่
โพสต์ที่ 4
เคยมีคำกล่าว จำไม่ได้ว่าใครกล่าวไว้ ประมาณว่าhalogen เขียน:ใช่ครับเหมือนกันเลย ตอนเรียน มัธยม มีหลักกาลามสูตร ผมก็งง เอ้า แล้วจะให้เชื่ออะไรได้บ้างเนี่ยblueplanet เขียน:ทั้ง 10 ข้อ ขึ้นต้นด้วยคำว่า มา
เช่น มา นยเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา
คำว่า "มา" เป็นคำบาลี เป็นการปฏิเสธมีความหมายเท่ากับNoหรือนะคืออย่า
การแปลในปัจจุบันนี้จึงมีอยู่ 3 แบบคือ
1. อย่าเชื่อ
2. อย่าเพิ่งเชื่อ
3. อย่าเพิ่งปลงใจเชื่อ
ข้อ 2และ3ความหมายเหมือนกัน แต่2น่าจะดีกว่าเพราะสั้นและได้ความหมายแล้ว
เมื่อก่อน ผมงงกับกาลามสูตรมาก เพราะ ทุกข้อขึ้นต้นด้วย "อย่าเชื่อ"
แล้วผมจะเชื่ออะไรละ เพราะความเชื่อของผม ก็มาจาก 10ข้อ
ใช้ ข้อ 4-10 เป็นหลัก ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป
พอใช้ประโยคว่า "อย่าเพิ่งเชื่อ" นำหน้าทั้ง 10ข้อ ผมก็เห็นด้วยกับกาลามสูตรทันที
เดิมผมก็ไม่ค่อยเชื่อกาลามสุตร (ตอนนำหน้าด้วย"อย่าเชื่อ")
แต่ติดตรงที่ทั้งหมดเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูด
ก็เลยอีหลักอีเหลื่อ สับสนมาตั้งนาน
ผมเดาว่า หลายๆคนน่าจะเป็นเหมือนผม
ตอนนี้ผมก็เลยเชื่อเรื่องต่างๆโดยใช้ ข้อ 4-10 ตั้งแต่ 2ข้อขึ้นไป
ด้วยความมั่นใจมากขึ้น เพราะความรู้หลายอย่าง ไม่สามารถ ทดลอง
และพิสูจน์ได้ด้วตนเอง
อย่าเชื่อ จนผมตีความกลายเป็นคนขวางโลกเลย คือ ไม่ต้องเชื่อใคร ให้ทำเองอย่างเดียวใช่หรือเปล่า
การเป็นคนที่ได้ยินได้ฟังอะไรก็เชื่อไปหมดซะทุกอย่าง อันตรายยิ่งนัก
แต่การเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรใครเลย อันตรายยิ่งกว่า
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง