Thai VI

ถามความเห็นเรื่อง convenient store หน่อยครับ

ผมสังเกตว่าธุรกิจร้านสะดวกซื้อไม่ว่าจะเป็น 7-11, lotus express, bigc mini, family mart, baijak mart, jiffy, ... น่าจะสามารถโตไปได้เรื่อยๆ และเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ หลายๆ แบรนด์เปิดโอกาสให้คนที่อยากทำธุรกิจสามารถซื้อแฟรนไชส์ได้ด้วย ซึ่งเอิ้อประโยชน์อย่างมาก ต่อการเติบโตแบบก้าวกระโดดของบริษัท

ร้านสะดวกน่าจะเติบโต ขยายสาขาได้ตามการขยายตัวของชุมชน ถ้าชุมชนไหนขยายตัวขึ้น มีจำนวนคนเดินผ่านไป ผ่านมา จนถึงระดับนึง ก็จะมีร้านสะดวกซื้อไปเปิด ซึ่งในด้านของประชาชน ก็รู้สึกดีที่มีร้านสะดวกซื้อมาเปิด เพราะได้ซื้อของในห้องแอร์ ได้ของสด ของใหม่ และที่สำคัญคือ 24 ชม

ร้านสะดวกซื้อเกือบทุกร้าน จะไม่ซื้อที่ดินเป็นของตนเอง แต่จะเซ้งหรือเช่าระยะยาวแทน เพราะ ค่าที่ดินแพง, เจ้าของไม่ยอมขาย และการเซ้งใช้เงินน้อยกว่า

ร้านสะดวกซื้อเท่าที่ผมสังเกตจะมีแบบ ขายสินค้าแบบราคาปกติ เช่น 7-11, family mart, jiffy
และแบบ ขายราคาถูก เช่น lotus express, mini bigc

net profit margin ของ cpall นั้นประมาณ 5% เอง ซึ่งของ 7-11 นั้น ผมคิดว่าน่าจะสูงกว่าเจ้าอื่นๆ เพราะ 7-11 ขายของกินซึ่งกำไรดีเป็นสัดส่วนสูงถึง 70-8-%
ร้านอื่นๆ ที่ขายแต่ของใช้นั้นถ้าขายแบบไม่ลดราคาผมคิดว่า margin น่าจะประมาณ 2-3% เท่านั้นเองครับ แต่อาศัยว่า เน้น volumn เยอะๆ พอ
ผมไม่แน่ใจว่า ร้านสะดวกซื้อที่ขายสินค้าลดราคานั้น bigc mini, lotus express แต่ละร้านเขามีกำไรหรือป่าวครับเพราะ margin แทบจะไม่มีเลย คาดว่าประมาณ 0-2% หรือขาดทุน แล้วยังมาทำสงครามราคา ลดราคากระหน่ำกันอีก
ค่าเช่าที่และค่าแรงงานพนักงาน ก็มีแนวโน้มสูงขึ้นในแต่ละปี ถ้าบริหารไม่ดี ก็อาจจะขาดทุนได้ครับ

ไม่ทราบว่าพี่ๆ เพื่อนๆ มีความเห็น หรือมีข้อมูลเรื่องนี้กันป่ะครับ

กิจการพวกนี้ถ้าบริหารไม่ผิดพลาดร้ายแรง ยากครับที่จะขาดทุน อย่างมากก็ขาดทุนทางบัญชีเนื่องจากค่าเสื่อมในตอนเริ่มขยายงาน

ถึงแม้ว่าอัตรากำไรจะอยู่แค่ 2-3% แต่ถ้ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานยังอญุ่ในระดับสูงก็ไม่น่าห่วงอะไร ส่วนมากที่เห็นมาลดๆกันนั้น เลือดเนื้อของ suppliers (ผู้ผลิต)

ทั้งนั้นละครับ Margin ของค้าปลีกยังเท่าเดิม มีตัวเลขชี้นำสองตัวที่เอาไว้วัดความสามารถในการบริหารงาน 1) อัตราการเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิม Same Store Sales Growth

กับ 2) อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงคลัง inventory Turnover หากตัวเลขสองอันนี้มีแมวโน้มดี แสดงว่าผู้บริหาร "เอาอยู่" ครับ

เรื่องของ Mini BIGC และ Lotus Express ไม่น่าห่วงครับ เพราะเป็นการขยายสิ่งเดิมที่มีอยู่ ให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพราะทีมจัดซื้อ ทีมหาทำเล DC ระบบโลจิสติก สามารถใช้ของเดิม

หรือ นำมาดัดแปลงแปลงได้ครับ

การทำ Convenient Stores ให้ประสพความสำเร็จ จะไม่เหมือนกับ Super Store เลยซะทีเดียว ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับสิ่งดังต่อไปนี้ครับ

1) เด็กร้าน Convenient Store มีความสามารถหลากหลายกว่า เด็ก Superstore ครับ ถ้าท่านเข้า 7-11 ท่านจะเห็นเด็กร้านทำทุกอย่าง เช่นปิ้งไส้กรอก จ่ายบิล ทำแซนวิช
ดังนั้น จะหาเด็กดีได้ยาก นี่เป็นเหตุให้ 7-11 เปิดโรงเรียนเองเลยครับ

2) ระบบโลจิสติก ของ Convenient Store มีรายละเอียดมากกว่าครับ เนื่องจากยิบย่อย มีรายระเอียดเยอะมาก การบริหารของที่มีวันหมดอายุ (Aging Products) ยิ่งเป็นเรื่องยาก สายส่ง
เป็นเรื่องสำคัญ บริหารไม่ดี ของขาดบ่อยๆ หรือ ของไม่ใหม่สด จะทำให้ลูกค้าไม่เข้าร้าน

เรื่องบริหารจัดการที่ว่ามานี้ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวจะทำได้นะครับ ถ้ามีโอกาสผมแนะนำให้เจ้าของกระทู้ลองคุยกับ คนที่เป็นเจ้าของ Franchise 7-11 ดูครับว่าปัญหา operation นั้นมันมากขนาดไหน

มาเพิ่ม Critical Factor ของร้านสะดวกซื้อเพิ่มอีกประเด็นครับ คือเรื่อง "ของหาย" ซึ่งมีผลต่อกำไรมากครับ ของชิ้นนึงกำไร 3-4% หายไปชิ้นนึง ต้องขายอีก 25 ชิ้นจึงคืนทุน

ร้านสะดวกซื้อนี้โอกาสของหายเยอะมากครับ ถ้าท่านเข้า 7-11 บ่อย ท่านจะเห็นขาประจำ สองพวก หนึ่ง เด็กที่วิ่งเล่น และ สอง สุนัข อย่างหลังนี่คงไม่เท่าไหร่ มาพึ่งแอร์เฉย

แต่พวกแรกนี่วิ่งเข้า วิ่งออก มีโอกาสหยิบนู่นนี่ติดมือไปได้ แต่ที่มีผลรุนแรงจริงๆ นี่ก็คนในร้านนั่นแหละครับ การบริหารเด็กร้านจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นอีกเรื่องนึงที่ 7-11

มีระบบจัดการที่ดี ผู้เล่นรายใหม่ถ้าจะมาเอาดีทางนี้ ต้องมีระบบบริหารบุคคลที่แข็งแกร่งจริง จะมาบริหารแบบนั่งห้องแอร์ วันๆดูแต่ รายงาน และ อัตราส่วนไม่ได้หรอกครับ

ดูมี entry of barrier ดีจังครับ เจ้านำตลาด ถ้าผู้บริหารยังเป็นทีมเดิมคงมีใครมาล้มยาก

ผมว่า C-Store ไม่หมูนะครับ มันมีศาสตร์ของมันลึกซึ้งมาก
เริ่มตั้งแต่ C-Store นั้นจับกลุ่มต่างจาก โชว์ห่วย G-store Minimart Supermarket Discount Store ไปจนถึง Hypermarket พวกนี้ลูกค้าคนละกลุ่ม

ก่อนคิดจะเป็นเจ้าของ C-Store เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าเราคือใคร แล้วเพราะอะไร เราจึงไม่ต้องไปแข่งกับ ร้านประเภทอื่น

นอกจากการบริหารสต๊อก การทำ Planogram การบริหารบุคคล ที่เป็นผิวหน้าที่เราคิดว่ามีความสำคัญต่อกำไรของร้านแล้ว สิง่ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ Merchaindising สำหรับร้านที่ประสบความสำเร็จ เขาไม่ได้ทำแค่ซื้อมาขาย แต่เขาทำถึงขั้นหาสินค้ามาขาย หรือ สร้างสินค้ามาขาย อันนี้เป็นงานที่ยากและใหญ่

นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เซเว่นจึงครองตลาด ทำไม แฟมิลี่มาร์ท AM/PM หรือ 108Shop จึงไม่ติดฝุ่่น

lhin เขียน:ดูมี entry of barrier ดีจังครับ เจ้านำตลาด ถ้าผู้บริหารยังเป็นทีมเดิมคงมีใครมาล้มยาก

ขอแก้เป็น barrier of entry ให้นะครับ ถ้าใช้ตัวเดิมรั่วแน่เลย