Thai VI

จากที่ได้ยินว่าพอร์ตโตชนะตลาด พอร์ตโตขึ้น20% เราวัดพอร์ตการลงทุนของเราจากราคาหุ้นหรือครับ

สำหรับผม วัดผลการลงทุนทุกๆวันสิ้นปีครับ
ไม่ค่อยสนใจมากนักว่าจะชนะตลาดหรือไม่
แต่สนใจว่าการเติบโตของพอร์ตเป็นไปตามแผน และแนวทางที่วางไว้หรือเปล่า


แบบที่ผมทำอยู่ ยกตัวอย่างเช่น

ผมเริ่มลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาท
ณ วันสิ้นปี 2010 พอร์ตของผมมีมูลค่า 120,000 บาท
(นับรวม เงินสดในพอร์ต + มูลค่าหุ้นในพอร์ต + เงินปันผลซึ่งใส่กลับเข้าไปในพอร์ต)
นั่นเท่ากับว่าปี 2010 ผมได้ผลตอบแทนรวม 20%

เมื่อเริ่มปี 2011 ผมจะตั้งต้นเงินลงทุนใหม่ ด้วยมูลค่า 120,000 ที่ยกยอดมาจากปีที่แล้ว
ระหว่างปีผมใส่เงินส่วนตัวเพิ่มเข้าไปอีก 80,000 บาท
(ใส่ตอนไหนก็ตามผมนับเป็นต้นปีหมดเพื่อความง่ายในการคำนวณ)

ในปี 2011 เท่ากับว่าผมเริ่มต้นด้วยเงินทุน 200,000 บาท (120,000 บาท + 80,000 บาท)
ณ วันสิ้นปี 2011 พอร์ตผมมีมูลค่า 220,000 บาท (นับรวมทุกอย่างแล้ว)
เท่ากับว่าปีนี้ผมได้ผลตอบแทนรวม เท่ากับ 10%

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการวัดผลการลงทุนแบบง่ายๆ style ที่ผมใช้อยู่ครับ

ผมว่าต้องเอา อัตราดอกเบี้ยเงินฝากขณะนั้น แล้วก็อัตราเงินเฟ้อ มาคิดด้วยนะครับ

เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปีนั้น 3% เงินเฟ้อ 5%

ถ้าผมลงทุน 100,000 บาท สิ้นปี พอร์ทเป็น 110,000 บาท ก็เท่ากับว่ากำไร 10%

แต่กำไรที่แท้จริงจากการลงทุน จะอยู่ที่ .:. 10 - 3 - 5 = 2 % ครับ

การคิดแบบนี้เหมือนเป็นการวัดว่า เรามีความสามารถในการลงทุนครับ

ถ้าผมเข้าใจผิดอย่างไร รบกวนชี้แนะด้วยนะครับ

charonp เขียน:ผมว่าต้องเอา อัตราดอกเบี้ยเงินฝากขณะนั้น แล้วก็อัตราเงินเฟ้อ มาคิดด้วยนะครับ

เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปีนั้น 3% เงินเฟ้อ 5% ...............

วิธีของคุณ charonp สำหรับผมใช้วัดความมั่งคั่งส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นหนะครับ
แต่ผมใช้แค่อัตราเงินเฟ้อนะครับ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากไม่ได้นำมาคิดด้วย

เช่น ผมตอบแทนการลงทุนเท่ากับ 15% ต่อปี ปีนั้นมีอัตราเงินเฟ้อประมาณ 4%
ผมจะคิดเอาเองว่า ปีนั้นผมมีความมั่งคั่งจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 15-4 = 11% ครับ


ของท่านใดคิดแบบไหน ลองมาแชร์กันดูนะครับ

โดยวัดจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นหรือเปล่าครับ

the_matrix เขียน:โดยวัดจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นหรือเปล่าครับ

ใช่ครับถ้าเป็นมูลค่าของหุ้นสามัญก็เอาราคาตลาด ณ ตอน นั้นครับ

แอบเอาวิธีการประเมินหามูลค่าพอร์ตใน blog ของตัวเองครับ

http://prasertsakk.blogspot.com/2011/09/how-to.html

ลองดูน่าครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ถามได้ครับ

ตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียน:สำหรับผม วัดผลการลงทุนทุกๆวันสิ้นปีครับ
ไม่ค่อยสนใจมากนักว่าจะชนะตลาดหรือไม่
แต่สนใจว่าการเติบโตของพอร์ตเป็นไปตามแผน และแนวทางที่วางไว้หรือเปล่า


แบบที่ผมทำอยู่ ยกตัวอย่างเช่น

ผมเริ่มลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาท
ณ วันสิ้นปี 2010 พอร์ตของผมมีมูลค่า 120,000 บาท
(นับรวม เงินสดในพอร์ต + มูลค่าหุ้นในพอร์ต + เงินปันผลซึ่งใส่กลับเข้าไปในพอร์ต)
นั่นเท่ากับว่าปี 2010 ผมได้ผลตอบแทนรวม 20%

เมื่อเริ่มปี 2011 ผมจะตั้งต้นเงินลงทุนใหม่ ด้วยมูลค่า 120,000 ที่ยกยอดมาจากปีที่แล้ว
ระหว่างปีผมใส่เงินส่วนตัวเพิ่มเข้าไปอีก 80,000 บาท
(ใส่ตอนไหนก็ตามผมนับเป็นต้นปีหมดเพื่อความง่ายในการคำนวณ)

ในปี 2011 เท่ากับว่าผมเริ่มต้นด้วยเงินทุน 200,000 บาท (120,000 บาท + 80,000 บาท)
ณ วันสิ้นปี 2011 พอร์ตผมมีมูลค่า 220,000 บาท (นับรวมทุกอย่างแล้ว)
เท่ากับว่าปีนี้ผมได้ผลตอบแทนรวม เท่ากับ 10%

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการวัดผลการลงทุนแบบง่ายๆ style ที่ผมใช้อยู่ครับ

แล้วปันผล ส่วนที่ไม่ได้ใส่กลับลงไปอ่ะครับ
จะคิดยังไง

@nakin เขียน: แล้วปันผล ส่วนที่ไม่ได้ใส่กลับลงไปอ่ะครับ
จะคิดยังไง

ผมคิดรวมกับ port เหมือนๆกับกรณีใส่เงินปันผลลงไปหน่ะครับ
เพียงแต่ว่าเงินมาอยู่นอก port เท่านั้นเอง

วิธีวัดจากที่เคยเรียนมานะครับ แบ่งได้เป็น
Money-Weighted กับ Time-Weighted ครับ

เริ่มตัวอย่างของ Money-Weighted ง่ายๆคือ
(นำมูลค่า port ณ สิ้นปี – มูลค่า port ณ ต้นปี + เงินปันผล)/มูลค่า port ณ ต้นปี
ตัวอย่างเช่น ลงทุน100 เล่นหุ้นจนสิ้นปีport โตเป็น120 แล้วระหว่างนั้นได้ปันผลออกมา10บาท
คำนวนได้เป็น (120-100+10)/100=0.3 หรือ 3%
วิธีข้างต้นนี้จะอ่อนไหวมาก เมื่อมีการเพิ่มเงินลงทุนระหว่างปี

อย่างที่สองคือ Time-Weight ครับ
วิธีนี้จะคำนวนหาผลตอบแทนเป็นช่วงเวลานั้นๆก่อน แล้วค่อยมาหาค่าเฉลี่ยอีกที
ตัวอย่างเช่น
วันที่ 1 มกราคม เริ่มลงทุน100 บาท
วันที่ 1 พฤษาคม ได้ปันผล 2 บาท และport กำไรมาเป็น 110 บาท
เราจะคิดได้เป็น (110-100+2)/100 = 0.12 หรือ 12%
แล้วในถ้าหาในวันนี้ เราลงทุนเพิ่มอีก 20 บาท
Port เราจะมีมูลค่าเป็น (110+20+2)=132บาท (บวกสองเพราะนำเงินปันผลกลับมาลงทุนด้วย)
วันที่ 31 ธันวาคม สิ้นปี ได้รับปันผลเพิ่มอีก 3 บาท และport เติบโตมาเป็น 140บาท
เราจะคิดได้เป็น (140-132+3)/132=0.083 หรือ 8.3%
ท้ายที่สุด จึงนำผลตอบแทนทั้งสองช่วงมาหาค่าเฉลี่ย [(1+0.12)*(1+0.083)]-1=0.2129 หรือ 21.3%

ตรงนี้คือเท่าที่ผมเข้าใจคร่าวๆนั่นละครับ ถูกผิดยังไงแนะนำเพิ่มเติมได้นะครับ