หน้า 1 จากทั้งหมด 2

งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 7:39 pm
โดย Samathi
เมื่อหกปีก่อน ตอนผมเข้า web Thaivi ครั้งแรกเพื่อศึกษา เรื่องหุ้นนั้นผมเข้าใจว่าความยากของมือใหม่คือไม่รู้จะเริ่มอย่างไร หนังสือหัดเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่หลากหลายเล่ม เน้นสอนคนให้เป็นแมงเม่า หรือเน้นจิตวิทยาสร้างความฮึกเฮิมให้เข้ามาในตลาดทุนมากกว่า จะออกแนวพวกรวยได้ไม่เสี่ยง รวยได้ไม่ต้องลงแรง แต่น้อยเล่มที่จะอธิบายเกี่ยวกับพื้นฐานบัญชีหรือการเงินให้คนส่วนใหญ่เข้าใจครับ

ผมสังเกตเห็นว่าหลายคนใน web ครับ อยากรู้เรื่องบัญชีหรือการเงิน แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี ผมเคยผ่านช่วงนั้นมาก่อนเลยอยากจะแชร์ความรู้เบื้องต้นให้เพื่อนๆน่ะครับ

P.S. ผมไม่ใช่นักบัญชี ไม่ได้จบการเงิน หลายๆท่านในที่นี้เซียนกว่าผมเยอะถ้าจะเสริมความรู้อะไรให้เพื่อนๆเชิญแทรกได้เลยนะครับจุดประสงค์คือเพื่อให้เข้าใจหลักการทางบัญชีอย่างง่ายๆครับ
P.S. โจทย์ผมตั้งเองครับ อาจจะไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 7:41 pm
โดย Samathi
Assets, Liabilities, Equity คืออะไร?

พอพูดถึงต้องเห็นสมการ Asset (สินทรัพย์) = Liabilities (ส่วนของเจ้าหนึ้) + Equity (ส่วนของผู้ถือหุ้น) มือใหม่หลายๆคนคงถามว่ามันคืออะไร (วะ) เอาเป็นว่าลองจำสมการนี้แล้วลองฟังเรื่องนี้ละกันครับ

สมชายมีภรรยาอยู่ 2 คนคือเมียหลวงกับเมียน้อย สมชายวางแผนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว จึงขอยืมเงินจากเมียทั้งสองคนละ 5 แสน เพื่อเอาไปเซ้งร้านและเป็นเงินทุนหมุนเวียน
เมียหลวง ไม่ต้องการความเสี่ยงมากบอกสมชายว่า “มึงเอาเงินกูไปได้ แต่ต้องจ่ายผลตอบแทนคืนทุกงวด ปีละห้าหมื่น ห้ามขาด ขาดเมื่อไหร่มึงตาย! ถ้ามึงเหลือมากกว่านั้นเอาไปแบ่งให้เมียน้อยได้”
เมียน้อย ของสมชายเป็นคนดี บอกสมชายว่า “พี่เอาเงินหนูไป ถ้าร้านได้กำไรค่อยแบ่งหนูละกัน ถ้ายังไม่กำไรก็ไม่ต้องแบ่ง ไม่เป็นไรหนูรอได้”
คุ้นๆหรือเปล่า ครับ ไม่ใช่ชีวิตของใครนะครับ แต่เรื่องนี้เหมือนกับสมการที่ผมขอให้เพื่อนๆจำเอาไว้น่ะเอง

Assets ในเรื่องคือร้านก๋วยเตี๋ยวและเงินทุนหมุนเวียนของสมชายมูลค่าล้านนึงน่ะครับ
Liabilities ในเรื่องคือเงินของเมียหลวง ห้าแสน
Equity ในเรื่องคือเงินของเมียน้อย ห้าแสน
CEO ของบริษัท/กรรมการบริษัท คือสมชาย

จะเห็นว่า Liabilities นั้นในชีวิตจริงคือเงินกู้แบ๊งค์น่ะเอง หากเราชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยไม่ได้ แบ๊งค์สามารถฟ้องเราได้ เปรียบเหมือนเราไม่จ่ายเงินเมียหลวง เมียหลวงก็สามารถฆ่าสมชายได้นั่นเอง

ส่วน Equities นั้นคือเงินจากเมียน้อย เพราะผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผล ซึ่งถ้าปีไหนร้านก๋วยเตี๋ยวกำไรเยอะจะจ่ายเยอะ ปีไหนกำไรไม่ดี ก็ไม่ต้องจ่าย เมียน้อยอาจบ่นบ้าง แต่ก็ได้แค่บ่นครับ สมชายทนได้

และที่ผมเรียก Equities ว่าเมียน้อยยังมีอีกสาเหตุหนึ่งครับ หากร้านก๋วยเตี๋ยวเลิกกิจการ อาจจะด้วยล้มละลายหรืออย่างไร เมียหลวงจะมีสิทธิ์เรียกสินทรัพย์ไปขายทอดตลาดก่อนนะครับ เหลือเท่าไหร่ถึงจ่ายให้เมียน้อย

ดังนั้น การที่เราซื้อหุ้นบริษัทใด เปรียบเสมือนเรายอมสมัครใจเป็นเมียน้อยบริษัท นั้น ต้องศึกษาให้ดีครับ ว่ารวยจริงหรือเปล่า เมียหลวงกำลังจะฟ้องหรือเปล่า ถ้าไม่ดีจริงอย่ายอมเป็นเมียน้อยใครง่ายๆครับ
เอาล่ะครับมาดูหน้าตางบดุลร้านก๋วยเตี๋ยวสมชายเมื่อปีที่ 0 กัน ลองทำกันดูครับว่าหน้าตาอย่างไร

Assets เงินสด 1 ล้าน
Liabiities
เงินจากเมียหลวง 5 แสน
Equity
เงินจากเมียน้อย 5 แสน

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 7:42 pm
โดย Samathi
Income Statement คืออะไร

Income Statement คืองบกำไร ขาดทุน ส่วนของเมียน้อย เท่านั้นนะครับ หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นกำไรของบริษัท เรามาดูตัวอย่างกันต่อนะครับ
สมชายหลังจากได้เงินแล้วนำเงินมาเซ้งร้านเป็นเวลา 10 ปี มูลค่า 8 แสนบาท อีก 2 แสนบาทเป็นเงินทุนหมุนเวียน
สิ้นปีที่ 1 สมชายมียอดขาย 2 หมื่นชามชามละ 10 บาท สมชายรู้ว่าค่าวัตถุดิบของก๋วยเตี๊ยวชามละ 1 บาท ถามว่า Income Statement ของสมชายหน้าตาอย่างไร

Sales ของสมชาย = 20,000 x 10 = 200,000 บาท
Variable cost (ต้นทุนก๋วยเตี๋ยว) = 20,000 x 1 = 20,000 บาท
Fixed cost (ค่าเสื่อมร้านที่เซ้ง) = 800,000/10 = 80,000 บาท
Gross Profit = 200,000 – 20,000 – 80,000 = 100,000 บาท
Interest Payment (เงินจ่ายเมียหลวง) = 50,000 บาท
Net Income = 50,000 บาท

จะเห็นว่า Net Income นั้นเป็นบรรทัดหลังจ่ายเงินให้เมียหลวงแล้ว เงินทั้งก้อนจึงตกเป็นของเมียน้อยครับ ทีนี้ขึ้นอยู่กับสมชายล่ะครับ ว่าจะจ่ายปันผลหรือจะเก็บไว้ก่อนครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 7:43 pm
โดย Samathi
แล้ว Cash ของบริษัทล่ะ
สิ่งนี้สำคัญมากนะครับ ทำได้สองวิธีครับ เราลองมาดูกัน
วิธี 1 ทำตรงๆ
Cash ตั้งต้น (ปีที่ 0) 1 ล้าน
จ่ายค่าเซ้ง -0.8 ล้าน
จ่ายค่าวัตถุดิบก๋วยเตี๋ยว = 1x20,000 = -0.02 ล้าน
รายได้ขายก๋วยเต๋ยว = 20,000 x 10 = +0.2 ล้าน
จ่ายเงินเมียหลวง = -0.05 ล้าน
Cash สิ้นปี = 0.33 ล้าน
จะเห็นว่า Cash ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเหลือ จะเหลือประมาณ 3.3 แสน ซึ่งตัวเลขนี้สำคัญมากครับ วิธีการหา Cash คงเหลือมีอีกวิธีได้เริ่มทำจาก Net Income
วิธีที่ 2 ทำจาก Net Income
Net income +0.05 ล้าน (1)
+ ค่าเสื่อม +0.08 ล้าน (2)
ในงบการเงินเรามักเห็นเรามัก (1) + (2) เราเรียกว่า Cash flow from operation
‘- Cash flow from investment -0.8 ล้าน (ค่าเซ้งร้าน)
+ Cash flow from financial +1 ล้าน (เงินระดมทุนจากเมียน้อยและเมียหลวง)
Cash สิ้นปี 0.33 ล้าน
จะเห็นว่าคำตอบจะเท่ากันครับ แต่เราๆน่าจะคุ้นวิธีล่างมากกว่า เพราะพบเห็นได้บ่อยกว่าในงบการเงินครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 7:44 pm
โดย Samathi
ROA, ROE คืออะไร
ROA คือ Return on Assets หรือผลตอบเทนของร้านก๋วยเตี๋ยวเทียบกับสินทรัพย์
ROE คือ Return on Equity หรือผลตอบแทนของเมียน้อยเทียบกับเงินที่เมียน้อยลงทุน
ดังนั้นจากตัวอย่างข้างต้น
ROA = (50,000 + 50,000)/1 ล้าน = 10%
ROE = (50,000)/5 แสน = 10%
จะเห็นได้ว่า Return on Assets ต้องรวมผลตอบแทนของทั้งเมียหลวงและเมียน้อยครับ เพราะคนให้เงินสมชายไปซื้อ Assets คือทั้งเมียหลวงและเมียน้อย หลายๆคนจะงงๆตรงนี้แต่ถ้าอ่านมาตั้งแต่ต้น ผมหวังว่าจะเข้าใจมากขึ้นนะครับ
เวลาคนมาพูดกับผมแล้วจะงงกันมากๆเลย คือเวลาคุยกันคำว่า Return คือ return ของอะไร return ของทั้งบริษัท หรือ Return เฉพาะของส่วนผู้ถือหุ้นครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 7:45 pm
โดย Samathi
งบดุลของสมชายหลังจบปีที่ 1 เป็นอย่างไร? Assume ว่าสมชายไม่จ่ายปันผล
ทำกันได้หรือเปล่าครับ
Assets =
ร้านก๋วยเตี๋ยว 0.72 ล้านบาท
เงินสด 0.33 ล้านบาท
รวม 1.05 ล้านบาท
Liabilities =
เงินจากเมียหลวง 5 แสน
Equity =
เงินจากเมียน้อย 5 แสน
กำไรสะสม 0.05 แสน
รวม 5.05 แสน
สังเกตอะไรมั๊ยครับ ส่วนของเมียน้อยเพิ่มขึ้น นี่เป็นสาเหตุครับว่าถ้า Net Income ของร้านก๋วยเตี๋ยวเท่าเดิม แล้วบริษัทไม่จ่ายปันผล ROE จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ เพราะ ส่วนของเมียน้อยจะค่อยๆทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ตราบเท่าที่บริษัทมีกำไร) ทุกปีครับ

ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้นะครับ หวังว่าคงพอจะช่วยเพื่อนๆได้บ้าง

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 8:32 pm
โดย Undead
สุดยอดครับ เปรียบเทียบเข้าใจง่าย อ่านสนุก ขอบคุณมากครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 19, 2011 8:58 am
โดย rabbitz
ขอบคุณมากครับ

กำลังต้องการเลยครับ

:D :D

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 19, 2011 11:57 am
โดย AiBook
อธิบายเข้าใจง่ายดีครับ ขอบคุณครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 20, 2011 12:04 pm
โดย Montri M.
เข้าใจง่ายดี ขอบคุณครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2011 9:03 am
โดย aroonsawat
ROE จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ เพราะ ส่วนของเมียน้อยจะค่อยๆทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แล้ว ROE ต่ำกับสูง อะไรจะดีกว่ากัน?

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2011 9:14 am
โดย rabbitz
aroonsawat เขียน:ROE จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ เพราะ ส่วนของเมียน้อยจะค่อยๆทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แล้ว ROE ต่ำกับสูง อะไรจะดีกว่ากัน?
ค่ายิ่งสูงยิ่งดีครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 21, 2011 9:48 pm
โดย a4430410700
ขอบคุณมากๆครับ อธิบายเห็นภาพเลยครับ

:) :) :)

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2011 9:28 am
โดย ThoShiRo
:D ยอดเยี่ยมครับ อยากมีเมียน้อยแบบนี้มั่งจังเลย

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 28, 2011 3:07 am
โดย vipnum
ขอบคุณครับสาระอีกแล้ว ^^

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 28, 2011 2:39 pm
โดย Elunium
อ้าวงั้นเราก็เป็นเมียน้อยของใครหลายคนเลยสิ (ถือหุ้นหลายบริษัท)

***ขอบคุณสำหรับสาระดีๆค่ะ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 04, 2011 8:01 pm
โดย tamito
อยากให้ช่วยขยายความครับ ทำไมถ้าบริษัทไม่จ่ายปันผล จะทำให้ ROE ลดลงในปีถัดๆไป

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 05, 2011 6:57 pm
โดย Samathi
อยากให้ช่วยขยายความครับ ทำไมถ้าบริษัทไม่จ่ายปันผล จะทำให้ ROE ลดลงในปีถัดๆไป


ถ้า assume Return เท่าเดิม แต่บริษัทเก็บกำไรไว้ไม่ยอมปันผล ROE จะลดลงเรื่อยๆครับ Key อยู่ที่ว่าถ้าบริษัทเก็บกำไรสะสมไว้ไม่จ่ายปันผลมีความสามารถพอที่จะทำให้ Return เพิ่มทันหรือเปล่า

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 06, 2011 11:06 am
โดย tamito
ขอบคุณครับ คุณ Samathi ขอถามเพิ่มครับ

ในกรณีที่บริษัทไม่ลงทุนเพิ่ม บริษัทจะได้ Net Income 50,000 คงที่ และจากการที่บริษัทไม่จ่ายปันผล จะทำให้ส่วนของ Equity เพิ่มขึ้นไปเรื่อย สุดท้ายแล้วค่า ROE ก็จะลดลงเรื่อยเพราะตัวส่วนมากกว่าตัวหารถูกไหมครับ

ในส่วน Equity ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเก็บได้ (฿50,000 ทุกปี) แล้วไม่ได้ไปลงทุนเพิ่มเติม ตัวเลขดังกล่าวจะไปเพิ่มในส่วนของเงินสด ในงบดุลถูกไหมครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 06, 2011 11:44 am
โดย นพพร
สนุกดีครับ เอาอีกครับ เอาอีก

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 06, 2011 2:44 pm
โดย navapon
เท่าที่เคยอ่านผ่านๆมา สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (เช่น โรงงาน อุปกรณ์ เครื่องจักร) สร้างรายได้ได้ดีกว่า สินทรัพย์หมุนเวียน (เช่น เงินสด) คนถึงมักแปรรูปเอาเงินสดไปลงทุนทำกิจการต่างๆเพราะมันได้ผลตอบแทนดีกว่าเงินสดฝากธนาคารไงครับ

ทีนี้ถ้าเงินสดท่วมบริษัทมากๆ ถ้าไม่สามารถเอาไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงได้ทั้งหมดทั้งก้อน ก็ควรเอาส่วนที่เหลือใช้ จ่ายปันผลออกมาครับ ไม่งั้นมันจะเป็นตัวถ่วง ทำให้ROE ลดลงได้ น่าจะเป็นอย่างนี้มั้งครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 10, 2011 8:29 am
โดย นพพร
ปีที่ 2 และ 3 เป็นแบบนี้ถูกต้องหรือเปล่าครับ :juju:

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 14, 2011 4:18 pm
โดย oxygenatom
อ๋อ อ่านเข้าใจง่ายดีคับ

ถ้าไม่จ่ายเงินปันผลจะทำให้กำไรสะสมก็จะไปเพิ่ม equity ขึ้นเป็น 5.5 แสน แต่ถ้า net income เท่าเดิมคือ 0.5 แสน
พอเข้าสูตร ROE=net income/equity= 0.5/5.5 = 9.09%
แต่ถ้าเป็นปีที่ 0 ROE=net income/equity= 0.5/5.0 = 10.0%


แต่สงสัยอย่างหนึ่ง ตรงตารางของคุณ นพพร ว่าส่วนที่เป็นของเมียหลวง(liabilities)อ่ะคับ มันจะต้องลดลงด้วยรึเปล่าถ้าเรามีการจ่ายให้ทุกๆ ปี ปีละ 50,000 บาท หรือมันจะเอาไปลดตอนไหน คือไม่ทราบจริงๆ คับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2011 6:39 pm
โดย นพพร
ผมเองก็งงเหมือนกัน ที่อยากรู้เพิ่มก็ตรง Cash flow ทั้งสามตัว ตัวไหนที่ควรเพิ่มเรื่อยๆ หรือลดเรื่อยๆ เพื่อบอกประสิทธิภาพของการทำงานของบริษัทนั้นๆ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 18, 2011 8:52 pm
โดย sharerora
นพพร เขียน:ผมเองก็งงเหมือนกัน ที่อยากรู้เพิ่มก็ตรง Cash flow ทั้งสามตัว ตัวไหนที่ควรเพิ่มเรื่อยๆ หรือลดเรื่อยๆ เพื่อบอกประสิทธิภาพของการทำงานของบริษัทนั้นๆ
เพื่อบอกประสิทธิภาพบริษัท
Cash flow operation : ควรจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีส่วนเพิ่มกระแสเงินสดอิสระ ของบริษัท
Cash flow financial : ควรลดลง ลดการจัดหาเงินจากภายนอก
Cash flow invesment : ผมคิดว่าควรลดลง แต่ถ้า เพิ่มขึ้น Cash flow operation ก็ควรเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงต่อการลงทุนนั้นครับ

ผมเป็นมือใหม่หัดตอบ ถูกไม่ถูกติชมได้้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 19, 2011 4:45 am
โดย aikeak
ขอบคุณครับ เข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่เลย ^^

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 19, 2011 9:44 am
โดย uthai.l
oxygenatom เขียน:อ๋อ อ่านเข้าใจง่ายดีคับ

ถ้าไม่จ่ายเงินปันผลจะทำให้กำไรสะสมก็จะไปเพิ่ม equity ขึ้นเป็น 5.5 แสน แต่ถ้า net income เท่าเดิมคือ 0.5 แสน
พอเข้าสูตร ROE=net income/equity= 0.5/5.5 = 9.09%
แต่ถ้าเป็นปีที่ 0 ROE=net income/equity= 0.5/5.0 = 10.0%


แต่สงสัยอย่างหนึ่ง ตรงตารางของคุณ นพพร ว่าส่วนที่เป็นของเมียหลวง(liabilities)อ่ะคับ มันจะต้องลดลงด้วยรึเปล่าถ้าเรามีการจ่ายให้ทุกๆ ปี ปีละ 50,000 บาท หรือมันจะเอาไปลดตอนไหน คือไม่ทราบจริงๆ คับ
ไม่แน่ใจว่าถูกไหมนะครับ ว่าส่วนที่เป็นของเมียหลวง(liabilities)สมชายต้องจ่ายให้ทุกปีอยู่แล้วครับ(ไม่งั้นตาย) จึงไม่เอาส่วนนั้น 50,000 มารวมด้วย ตัวเลขจึงเท่าเดิมที่ 500,000 ทุกปีไม่สะสมเหมือนเมียน้อย
ผิดหรือถูกอย่างไรวานผู้รู้แก้ไขด้วยครับ ผมเข้าใจว่าอย่างนั้นจริงๆ

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 19, 2011 6:10 pm
โดย Hwamei
อ่านง่ายดีครับ ผมมีขอสงสัยเพิ่มเติม ถ้าอย่างนี้บริษัทสามารถลง ค่าเสื่อมเยอะๆ ได้รึเปล่า เพราะทำให้กำไรลดลง เสียภาษีก็ลดลง หรือมันมีอะไรมาควบคุมกำหนดว่าลงค่าเสื่อมได้แค่ไหนอย่างไร

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 28, 2011 7:07 pm
โดย Samathi
ตกใจมากที่เห็นกระทู้นี้ไปไกลถึงห้องสินธร ไว้วันหลังจะเขียนมาอีกนะครับ :)

Re: งบการเงิน ฉบับเมียหลวง เมียน้อย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 28, 2011 7:14 pm
โดย Samathi
อ่านง่ายดีครับ ผมมีขอสงสัยเพิ่มเติม ถ้าอย่างนี้บริษัทสามารถลง ค่าเสื่อมเยอะๆ ได้รึเปล่า เพราะทำให้กำไรลดลง เสียภาษีก็ลดลง หรือมันมีอะไรมาควบคุมกำหนดว่าลงค่าเสื่อมได้แค่ไหนอย่างไร

สรรพากรจะให้ Guildline มาคร่าวๆครับ เช่น อาคารตัด 20 ปี เครื่องจักร 5 ปี ถ้าอยากตัดแบบแปลกๆต้องขึ้นกับว่า Defend ได้หรือเปล่า

ยกตัวอย่างเคสที่ผมเรียนมานะครับ เงิน R&D ของ Microsoft Office บริษัท Microsoft ลงเป็น Expense ทั้งหมดในปีเดียวเลย ทีนี้สรรพากรของอเมริการไม่ยอมครับบอกให้ Microsoft ทยอยตัด การทยอยตัดทำให้ PE ratio ของ Microsoft ดูดีขึ้น แต่ในแง่ Cooporate Finance ตัวบริษัทแย่ลงครับเพราะเสีย Tax มากขึึ้น