หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 15, 2011 8:59 pm
โดย little wing

โค้ด: เลือกทั้งหมด

โลกในมุมมองของ Value Investor              15 ตุลาคม 54
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

	คนที่จะรวยได้นั้นจะต้องมีทุน  ยิ่งมีทุนมากโอกาสที่จะมั่งคั่งก็มาก  เพราะทุนคือทรัพยากรที่จะสร้างหรือทำเงินให้เรา  คนไม่มีทุนหรือมีทุนน้อยโอกาสที่จะรวยแทบเป็นศูนย์  ดูเหมือนว่าคนไม่มีทุนนั้น  โอกาสที่จะรวยมากที่สุดก็คือการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งซึ่งก็คือโอกาสหนึ่งในหลาย ๆ  ล้าน  และถึงจะรวยก็คงรวยไม่มากไม่ถึงร้อยล้านบาท   ผมพูดแบบนี้อาจจะทำให้หลายคนมีข้อโต้แย้งอย่างแรง   เพราะเศรษฐีหรือเจ้าสัวหลายคนในเมืองไทยนั้น   ว่ากันว่าไม่มีทุนเลย  หลาย ๆ  คนแทบจะมีแต่ “เสื่อผืนหมอนใบ”  ตอนเริ่มต้นสร้างตัว   ดังนั้นจะบอกได้อย่างไรว่าคนไม่มีทุนไม่มีวันรวย?  ว่าที่จริงนักลงทุนหลายคนในตลาดหุ้นที่มั่งคั่งร่ำรวยกันในวันนี้ก็เริ่มจากทุนจำนวนน้อยมาก   แต่ผมก็ยังยืนยันว่าทุนเป็นปัจจัยสำคัญแทบจะประการเดียวที่ทำให้คนมั่งคั่งหรือร่ำรวย  เพราะทุนในความหมายของผมครอบคลุมทุนหลายแบบ  อะไรที่ทำเงินได้ก็เป็นทุนทั้งสิ้น
	ทุนแบบแรกก็คือ ทุนทางเศรษฐกิจ หรือ  Economic Capital  นี่คือทุนที่เราคุ้นเคยกันที่สุด  มันก็คือเงินทอง  ที่ดินอาคาร  หุ้น  ทอง  เครื่องเพชร  และสิ่งของต่าง ๆ  ที่เราจับต้องได้  มีมูลค่าและ/หรือราคาในตลาด  คนที่มีทุนประเภทนี้มาก  เช่นคนที่ได้รับมรดกหรือได้รับเป็นของขวัญจากพ่อแม่ทั้งในรูปให้เปล่าหรือแม้แต่ให้ยืมก็จะมีโอกาสที่เขาจะสร้างเงินหรือความมั่งคั่งซึ่งก็จะกลับมาเป็นทุนที่เพิ่มขึ้นไปอีก  อย่างไรก็ตาม  คนที่ใช้ทุนไม่เป็น  เช่น  นำทุนไปลงทุนต่อแล้วขาดทุนจนหมดตัวก็มีอยู่เช่นกัน   ดังนั้น  การใช้ทุนให้เป็นหรือใช้อย่างฉลาดก็เป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะสร้างความมั่งคั่งไม่น้อยไปกว่าการมีทุนเหมือนกัน
	ทุนแบบที่สองคือ “ทุนมนุษย์”  หรือ  Human Capital  นี่ก็คือความรู้  ความสามารถและทักษะของเรา  ซึ่งผมคิดว่า IQ ก็น่าจะมีส่วนสำคัญในการกำหนดว่าเราจะมีทุนแบบนี้มากน้อยแค่ไหน   ทุนมนุษย์นั้น  เป็นทุนที่เราสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยตนเองไม่น้อย  นั่นก็คือ  ถ้าเราตั้งใจเรียนหมั่นศึกษาหาความรู้  เราก็สามารถเพิ่มพูนทุนนี้ได้   ทุนมนุษย์นั้น  ในอดีตอาจจะสร้างเงินไม่ได้มากมายนักเทียบกับทุนทางเศรษฐกิจ  และมักจะมีคำกล่าวเสมอว่า  “การรับจ้างกินเงินเดือนนั้นไม่มีวันรวย”  แต่ในโลกที่เจริญขึ้น  บริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น  และมีการแบ่งแยกระหว่างเจ้าของกิจการกับผู้บริหารมากขึ้น  การใช้ทุนมนุษย์หรือความสามารถก็สามารถทำเงินให้กับเราได้มหาศาลไม่แพ้คนที่มีทุนทางเศรษฐกิจเหมือนกัน
	ทุนแบบที่สามคือ  “ทุนทางสังคม”  หรือ Social Capital  นี่คือการใช้  Connection หรือความสัมพันธ์ในการทำเงิน  คนที่มีทุนแบบนี้มาก  นั่นคือคนที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับคนอื่น ๆ  หรือเป็นคนที่มีภาพพจน์ที่ดีในสายตาของคนอื่น  โดยเฉพาะกับคนที่สามารถเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองได้  ก็จะสามารถใช้ความสัมพันธ์นั้นทำเงินหรือทำให้ตนเองมั่งคั่งได้มากกว่าคนที่มีทุนแบบนี้น้อยกว่า   แน่นอนว่าคนบางคนนั้นมีทุนแบบนี้มาก  แต่ถ้าเขาไม่รู้จักใช้มันให้เป็นประโยชน์ในทางการเงิน  เขาก็จะไม่ร่ำรวยหรือมั่งคั่งเพิ่ม   และนี่ก็เหมือนกับทุนอย่างอื่นเหมือนกันที่คนบางคนอาจจะมี   แต่ทิ้งไว้เฉย ๆ  หรือบริหารทุนนั้นแบบผิดพลาด  ประโยชน์ก็ไม่เกิดขึ้น
	ทุนตัวสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงและหลายคนอาจจะไม่แยกออกมาเป็นทุนอีกแบบหนึ่งก็คือสิ่งที่ผมอยากเรียกว่า  “ทุนเสน่หา”  หรือ  Erotic Capital  หรือถ้าจะพูดแบบเท่ ๆ  ก็คือทุนจำพวก  “สวย  มีเสน่ห์  และ เซ็กซี่”  นี่เป็นทุนที่มีบทบาทหรือสร้างเงินและความมั่งคั่งได้มากขึ้นเรื่อย ๆ  ในสังคมยุคข่าวสารข้อมูล  ทุนเสน่หาในอดีตมักจะถูก “กีดกัน”  ไม่ให้สามารถสร้างความมั่งคั่งหรือร่ำรวยได้  อาจจะด้วยเหตุผลทางสังคมและการปกครอง  ในอดีตสมัยที่ผมยังเป็นเด็กนั้น  แม้แต่นักร้องหรือดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ก็ยังต้อง “ปากกัดตีนถีบ”   คนที่เรียนจบปริญญาตรีไม่มีใครยอมเป็นดาราเพราะอาชีพดารานั้นถูกมองว่าเป็นคน  “เต้นกินรำกิน”   ลูกหลาน “ไฮโซ” ในสังคมจะไม่ยอมให้ลูกเป็นดาราหรือไปแต่งงานกับดาราเป็นอันขาด  แต่เดี๋ยวนี้ตรงกันข้าม  ทุกคนอยากเป็นดาราหรือแฟนดารา  ดาราระดับซุปตาร์นั้นทำเงินมหาศาลและหลายคนร่ำรวยกว่าคนที่เป็นลูกหลานไฮโซ
	แน่นอน  ทุนเสน่หานั้น  ไม่ได้จำกัดเฉพาะแต่คนที่อยู่ในแวดวงบันเทิง  คนที่เกิดมาสวยหรือหล่อ   ร่างกายสูงและรักษาน้ำหนักไม่ให้อ้วน   เป็นคนที่ยิ้มมีเสน่ห์น่าประทับใจ  บางคนนั้นดู  “เซ็กซี่”  สำหรับเพศตรงข้าม  คนแบบนี้ต้องถือว่ามีทุนเสน่หาสูง  และถ้าพวกเขารู้จักใช้มันให้เป็นประโยชน์  เช่น  ไปทำงานในแวดวงที่ให้คุณค่ากับ Erotic Capital มาก  เช่นงานที่เกี่ยวข้องกับคนอย่างงานบันเทิงหรืองานบริการ  พวกเขาก็จะสามารถทำเงินได้มาก  และแม้แต่งานอย่างอื่นทั่ว ๆ  ไป  ความ  “เสน่หา”  ก็สามารถช่วยเพิ่มความสำเร็จหรือเพิ่มเงินให้พวกเขาได้  การศึกษาในต่างประเทศพบว่าคนที่หน้าตาดีประเภทหล่อหรือสวยนั้นทำให้คนได้เงินเดือนโดยเฉลี่ยสูงกว่าคนที่หน้าตาขี้เหล่ถึงประมาณ 15-20%  ในอาชีพทั่ว ๆ  ไป   ที่ยิ่งหนักกว่านั้นก็คือ  คนที่สูงจะทำเงินมากกว่าคนเตี้ยประมาณ 20-25%  ในทางตรงกันข้าม  คนอ้วนจะได้เงินเดือนต่ำกว่าคนน้ำหนักปกติในระดับ 10-15%  และที่น่าแปลกใจก็คือ  ผลกระทบถ้าเป็นผู้ชายส่วนใหญ่จะสูงกว่าผู้หญิง
	ทุนเสน่หานั้น  ในอดีตดูเหมือนว่ามักจะขึ้นอยู่กับ  “ดวง” เสียมาก   นั่นคือเกิดมาสวยหล่อและสูง  แต่ในปัจจุบันนี้เราสามารถเพิ่มทุนตัวนี้ได้พอสมควรเช่นโดยการทำศัลยกรรม  การลดน้ำหนัก  การเข้ายิม  การทำสีผิวให้ขาว  และการแต่งหน้าและแต่งตัวให้ดูดี  การลงทุนเพิ่มทุนเสน่หาให้กับตัวเองนั้นนับวันจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  เพราะนี่อาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก    คนจำนวนมากอาจจะไม่ตระหนักว่าการมีหน้าตาดี  มีหุ่นสูงใหญ่  มีการแต่งตัวที่ดีนั้น  จะไปเกี่ยวอะไรกับการทำงานอาชีพเช่น  ผู้บริหารที่ต้องใช้ประวัติการศึกษา  ทักษะ  และความสามารถในการวิเคราะห์พิจารณาตัดสินใจอย่างไร  แต่ข้อเท็จจริงก็คือ  คนที่มีทุนเสน่หาสูงนั้น  มักได้รับการโปรโมตดีกว่าคนที่มีคุณสมบัติอย่างอื่นเท่า  ๆ  กัน  พวกเขามักได้เงินที่สูงกว่า  ถูกเลือกให้เข้าทำงานมากกว่าคนที่หน้าตาและหุ่นไม่ให้  ทั้ง  ๆ  ที่งานเหล่านั้นไม่ได้เกี่ยวกับรูปร่างและหน้าตาแต่อย่างใด
	ทุนทั้งสี่แบบนั้นมีการเพิ่มและลดได้ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวที่จะทำ  เช่น  คนที่มีทุนที่เป็นเงินก็มักจะไปเพิ่มทุนมนุษย์  ทุนสังคม  และทุนเสน่หา  ซึ่งก็อาจจะกลับไปทำให้เขาเก่ง  มีสายสัมพันธ์และดูดี ซึ่งก็จะทำให้เขาสามารถทำเงินเพิ่มขึ้นได้มากกว่าเงินที่ลงไป  ตัวทุนเองก็เปลี่ยนแปลงไปได้ทั้ง ๆ  ที่ไม่ได้ใช้  เช่น  ตัวทุนเสน่หาเองนั้น  เมื่อเวลาผ่านไป  ทุนนั้นก็จะลดลงตามธรรมชาติ  ดังนั้น  คนที่มีทุนตัวนี้แต่ไม่ได้ใช้ในเวลาที่เหมาะสมก็อาจจะเสียโอกาสไป  ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของทุนซึ่งทุกคนมีแต่หลายคนอาจจะรู้ไม่ครบว่าตนเองมี  เจ้าสัวที่รวยได้แม้ว่าจะเริ่มจากเสื่อผืนหมอนใบ  หรือ นักลงทุนที่รวยโดยเริ่มจากเงินทุนเพียงเล็กน้อยนั้น  แท้ที่จริงแล้วพวกเขาคงมีทุนมนุษย์ที่มากล้นแต่คนมองไม่เห็น  แต่ถ้าเราเข้าใจเรื่องของทุนจริง ๆ  แล้ว  เราจะไม่สงสัยเลยว่าความมั่งคั่งส่วนใหญ่นั้นมาจากทุนทั้งสิ้น  
	     
[/size]

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 15, 2011 9:03 pm
โดย o-bo-ja-ma
ขอบคุณมากครับ

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 15, 2011 9:24 pm
โดย navapon
ถ้าเกิดชาติหน้ามีจริง แล้วขอพรได้ ผมจะลำดับความสำคัญจากมากไปน้อยดังต่อไปนี้ครับ
1.ฉลาด 2.หน้าตาและบุคคิคดี 3.รวย 4.มีconnectionมากๆ
ผมว่าคนจะดูสมาร์ทที่สุด ต้องดูจากสติปัญญาครับ

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 15, 2011 9:47 pm
โดย chukieat30
ขอบคุณท่านอาจารย์และบทความดีๆๆครับ รวมถึงผู้นำบทความมาลง

ผมชอบประโยคนี้ ของท่านอาจารย์มาก


ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของทุนซึ่งทุกคนมีแต่หลายคนอาจจะรู้ไม่ ครบว่าตนเองมี เจ้าสัวที่รวยได้แม้ว่าจะเริ่มจากเสื่อผืนหมอนใบ หรือ นักลงทุนที่รวยโดยเริ่มจากเงินทุนเพียงเล็กน้อยนั้น แท้ที่จริงแล้วพวกเขาคงมีทุนมนุษย์ที่มากล้นแต่คนมองไม่เห็น แต่ถ้าเราเข้าใจเรื่องของทุนจริง ๆ แล้ว เราจะไม่สงสัยเลยว่าความมั่งคั่งส่วนใหญ่นั้นมาจากทุนทั้งสิ้น


ในโลกของการแข่งขันทุกคนรู้ข่าวเท่ากัน รู้ข้อมูลแบบเดียวกัน แต่ จะมีสักกี่คน

ที่จะมองข้ามช๊อต และเดินก่อน หมากกระดาน เดินก่อนย่อมเป็นผู้นำ เดินทีหลัง

ก้ต้องตามเขาไปไม่มีทางรวย

ผู้พันแซนเดอร์ คิดสูตรไก่ทอดได้ก่อนคนอื่น ถ้าท่านคิดได้หลังคนอื่น ท่านคงไม่ได้ขาย

สูตรไก่ทอดเคเอฟซีแน่ๆๆ

คุณคิดได้คนแรก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ถ้ามันจำเป็นและมีคนต้องการมัน คุณรวย

ทุกธุรกิจ ควรแหวกแนว มีอินโนเวชั่น ของตัวเอง ของที่ง่ายและดูเหมือนจะดีที่สุด

คือ คิดแบบง่ายๆๆครับ

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 15, 2011 9:53 pm
โดย CheNz
ขอบคุณครับคุณ Little Wing และท่านอาจารย์ :)

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 15, 2011 10:02 pm
โดย ming1714
ขอบคุณครับ :)

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 15, 2011 10:05 pm
โดย Hisoka
navapon เขียน:ถ้าเกิดชาติหน้ามีจริง แล้วขอพรได้ ผมจะลำดับความสำคัญจากมากไปน้อยดังต่อไปนี้ครับ
1.ฉลาด 2.หน้าตาและบุคคิคดี 3.รวย 4.มีconnectionมากๆ
ผมว่าคนจะดูสมาร์ทที่สุด ต้องดูจากสติปัญญาครับ
ใช่ครับ จักรพรรดิจีนในสมัยที่มาโคโปโลติดต่อกับจีน ยังตระหนักเลยว่า ปัญญาคืออาวุธที่ร้ายกาจที่สุด

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 15, 2011 10:41 pm
โดย sai
ขอบคุณมากมากครับ อ่านไปอ่านมา รู้สึกตัวเองจะขาดแคลนหลายทุน โดยเฉพาะทุนเสน่หาครับ :D

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 12:37 am
โดย halogen
ขอบคุณมากครับผม :mrgreen:

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 12:49 am
โดย Possible
ขอบคุณครับ

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 1:05 am
โดย romee
sai เขียน:ขอบคุณมากมากครับ อ่านไปอ่านมา รู้สึกตัวเองจะขาดแคลนหลายทุน โดยเฉพาะทุนเสน่หาครับ :D
ไม่เป็นไรครับพี่มี่ ถ้ามีทุน Economic เยอะพอ เดี๋ยวพวกทุนเสน่หาจะวิ่งมาหาเองครับ....
เอ๊ะลืมไป พี่มี่อยู่ในข่าย มีคนควบคุมการเพิ่มทุนอยู่แล้วนิ :B

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 3:27 am
โดย Mactavish
ขอบคุณ จขกท มากครับ :D

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 2:16 pm
โดย BHT
ดร. เขียนไว้ชัดเจนดีมากเลยครับ

ทุนทุกอย่างมีแล้วไม่รู้จักใช้รู้จักหาให้ไม่ลดลง ให้เพิ่มขึ้นได้ ทุนก็หมดไป รวยแค่ไหนก็จนได้

แต่ถ้ารู้จักใช้รู้จักหา ให้มันเพิ่มขึ้นให้มันไม่ลดลง วันหน้าต้องสุขสบายแน่นอนช้าเร็วก็แล้วแต่คน

ผมเห็นข่าวมาไม่น้อยแล้วเล่าถึงคนที่มีทุนเหล่านี้ บางคนมีหลายแบบ บางคนมีแบบเดียว แต่ว่าใช้ชีวิตเละเทะไปวันๆไม่รู้จักใช้รู้จักหาก็หมดไป แถมมาร้องขอความช่วยเหลือใครจะอยากช่วย ข่าวคนมีน้อยหรือไม่มีกัดฟันอดทนหาจนมีมากก็มีให้เห็นเช่นกัน และแน่นอนว่าคนที่มีทุนเยอะก็ทำให้มันเยอะขึ้นไปอีกก็มีเช่นกัน

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 2:18 pm
โดย thalucoz
ขอบคุณ จขกท. มากเช่นกันครับ :D

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 9:01 pm
โดย WorriedInvestor
ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้มากครับผม

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 10:04 pm
โดย Rocker
สินสอด ของ หมั้น นี่ถือ ว่า ทุนเสนห์หา ไหมครับ เพราะ เป็นการให้โดยเสนห์หา

หรือ

เสี่ยให้ เงินทอง รถ คอนโด เมียน้อย ถือว่าเป็น ทุนเสนห์หาไหมครับ

เพราะเมียน้อยได้ทรัพย์หลายล้านโดยมีเรือนร่างเป็นทุนทรัพย์ ลงทุนแต่งตัวสวยๆ เสริมสวย ก็ลงทุนอยู่ดี

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 17, 2011 11:40 am
โดย caffeol
ขอบคุณครับ

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 17, 2011 2:23 pm
โดย springs
ของผมขาดไปหลายทุนเลยน่ะเนี้ย ไม่ได้แระต้องสร้างเพิ่ม เน้นที่ทุนสเน่หาก่อนล่ะกันเนอะ ฮ่าๆ

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 18, 2011 12:14 pm
โดย panda_power
แล้วโลกอนาคต ทุนอะไรๆใหม่ๆ จะเข้ามาเน้อ.... ยังคิดไม่ออกครับ :roll:
แต่ว่า ดร. ชอบเขียนคำว่า "ว่าที่จริง" และ "อันที่จริง" บ่อยๆ ทั้งในหนังสือและบทความ.

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 18, 2011 4:45 pm
โดย honey_lady
ทุนที่มีสูงอยู่ตอนนี้คือ.... "ต้นทุน" #ติดดอยอยู่งิ

ขอบคุณสำหรับบทความค่ะ :D

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 6:35 am
โดย monsoon
ขอบคุณนะครับ

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 7:40 am
โดย pdGrff
ขอบคุณ ดร. มากค่ะ
ทุนเสน่หา สุดท้ายแล้วก็คงไม่ยั่งยืนเท่าความฉลาดหรอกมั้งคะ
สวยตอนนี้ เดี๋ยวก็แก่
รวยตอนนี้ ก็จนได้ไม่ยาก

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 24, 2011 7:10 pm
โดย Doctor K
เป็นมุมมองที่นึกไม่ถึงเลยครับ ทุนเสน่หา ขอบคุณดร.และเจ้าของโพสต์สำหรับบทความดี ๆ ครับ

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 25, 2011 11:15 pm
โดย lengmanutd
ขอบคุณครับ :)

Re: ทุนเสน่หา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 25, 2011 11:42 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ขอบคุณคับ นำภาพที่น่าจะเหมาะกับชื่อบทความมาฝากคับ :bow:

รูปภาพ

:D