Thai VI

รบกวนขอคำสั่งสอน ความคิดเห็น และคำแนะนำ จากอาจารย์และพี่น้องทุกท่านครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับ ^^

ศาสตร์จะสร้างคุณประโยชน์ให้กับผู้ปฏิบัติ หากคุณทำตามที่หนังสือเขียนไว้ทุกประการ คุณจะไม่ผิดหวังครับ

ziannoom เขียน:ศาสตร์จะสร้างคุณประโยชน์ให้กับผู้ปฏิบัติ หากคุณทำตามที่หนังสือเขียนไว้ทุกประการ คุณจะไม่ผิดหวังครับ

ขอบคุณครับพี่ ziannoom

Arpieaw เขียน:

ziannoom เขียน:ศาสตร์จะสร้างคุณประโยชน์ให้กับผู้ปฏิบัติ หากคุณทำตามที่หนังสือเขียนไว้ทุกประการ คุณจะไม่ผิดหวังครับ

ขอบคุณครับพี่ ziannoom

นัยยะคือ พี่ ziannoom เห็นว่า Buffetology ไม่เหมาะสมกับประเทศไทย?

คือที่ผมถามเพราะผมเป็นผู้เริ่มศึกษาครับ

ที่พี่ ziannoom ใช้ ผมว่าน่าจะเป็นแนวทางของ graham "ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา"
ที่ซึ่งผมมองว่าวิธีนี้มีปัญหาเรื่องการรับรู้มูลค่า ซึ่งหากคนรับรู้มูลค่าช้าอาจทำให้ผลตอบแทนทบต้นต่อปีลดลง
รวมถึงการเทรดที่บ่อยทำให้เสียค่าคอมมิชชันที่สูง

อย่างไรก้ตามผมสังเกตุว่ามีนักลงทุนแนววีไอจำนวนหลายคนในไทยยึดหลักการนี้ (ผมรู้จักไม่เยอะ) เพราะเหตุผลใดแท้จริงที่ผมอาจไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะว่า เค้ามองว่าตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูงกว่าอเมริกา และหุ้นไทยคุณภาพสู้หุ้นอมเริกาไม่ได้ (ขอคำแนะนำด้วยครับ)

แต่จากที่ศึกษามา บัฟเฟตพบว่าวิธีการดั้งเดิมของ graham มีปัญหาเรื่องการรับรู้มูลค่า แต่ graham ให้หลักการในเรื่องการลงทุนด้วยมุมมองของการทำธุรกิจ และราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการซื้อ

ต่อมาบัฟเฟตได้อ่านงานของ Fisher ซึ่งมีทฤษฎีว่า ไม่เคยมีช่วงเวลาใดเหมาะสมสำหรับการขายหุ้นคุณภาพยอดเยี่ยมเลย แล้วนำมาปรับกับของเดิมได้แนวทาง Growth+Value แก้ปัญหาเรื่องการรับรู้มูลค่า

ลอว์เรนซ์ เอ็น. บลูมเบิก แนะนำการลงทุนในธุรกิจผูกขาด

จอห์น เบอร์ วิลเลียมส์ ให้แนวคิดว่า มูลค่าของกิจการมีความสัมพันธ์กับผลการดำเนินกิจการในอนาคต

จอห์น เมย์นาร์ด คีย์เนส ให้แนวคิดเรื่องพอร์ตการลงทุนแบบรวมศูนย์

และอีกเยอะแยะ (Ref. Buffetology)

ผมมองว่า บัฟเฟตเป็นนักวิจัย คนนึง เค้าศึกษางานของหลายๆคน และหาวิธีแก้ปัญหา เหล่านั้น เค้าไม่ได้เชื่อ graham ทั้งหมด

ผมก็เชื่อว่าพี่ๆในไทยวีไอก็คงไม่ได้เชื่อ Graham ทั้งหมด (มันต้องมีอะไรที่ผมไม่รู้)

โดยสรุปแล้ว ผมเลยมาขอเหตุผลจากพี่ในไทยวีไอครับ

นี่คือหนังสือสุดยอดที่ต้องอ่าน อ่านแล้วคุณอาจไม่ชอบ ซึ่งขึ้นกับแต่ละคน แต่ผมชอบมากๆๆๆๆๆๆๆครับ

เคยอ่านปี 2546 และเลือกดูทั้งตลาด เจอว่า bigc เข้าข่ายตามหนังสือ

แต่ไม่ได้ถือยาว ก็เลยเป็นบทเรียน

ว่า มีความรู้ เลือกหุ้นถูก แต่ไม่ได้ถือยาว

Jeng เขียน:เคยอ่านปี 2546 และเลือกดูทั้งตลาด เจอว่า bigc เข้าข่ายตามหนังสือ

แต่ไม่ได้ถือยาว ก็เลยเป็นบทเรียน

ว่า มีความรู้ เลือกหุ้นถูก แต่ไม่ได้ถือยาว

ขอบคุณครับพี่ ผมลืมไปข้อเสียอีกอย่างของ graham คือถ้ามันยังโตได้อีก คุณจะสูญเสียกำไรไปอย่างที่ บัฟเฟตเคยเจอ

พี่ Jeng ทราบข้อเสีย (ปัญหา) ของ Buffetology มั๊ยครับ

ปัญหากับการใช้ในไทยคือ หาบริษัทชั้นยอดที่เติบโตได้ต่อเนื่อง ได้ไม่เยอะนัก ... และความหายากก็จะส่งผลให้มันมีราคาไม่ค่อยจะเคยถูกเลย ...

เป็นหนังสือที่เยี่ยม เล่มนึงของผมครับ

มักจะมีคำถามแบบนี้บ่อยๆหลังตลาดลงอย่างหนักแต่ทุกอย่างก็ไม่ได้มีสูตรสำเร็จ

เป็นหนังสือที่ดีมากๆอีกเล่มหนึ่งที่นักลงทุนควรอ่าน ค่อยๆอ่านครับมีอะไรซ้อนอยู่ให้นำเอาไปคิดวิเคราะห์เยอะครับ
ผมเองยังอ่านซ้ำอยู่หลายรอบ แต่ละรอบก็ได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มอยู่เรื่อยๆ สู้ๆครับ

-----------------------------------------------------------------------
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางเกี่ยวกับการสร้างความมั่งคั่งและการลงทุน วิธีการสอนลูกให้มั่งคั่ง
เชิญได้ที่...
http://www.wealththailand.blogspot.com/

หนังสือเล่มนี้ ใครเขียนครับ
Buffett เขียนเองหรือเปล่า
หรือ ใครก็ไม่รู้ที่ คิดว่า Buffet น่าจะคิดอย่างงี้

terati20 เขียน:หนังสือเล่มนี้ ใครเขียนครับ
Buffett เขียนเองหรือเปล่า
หรือ ใครก็ไม่รู้ที่ คิดว่า Buffet น่าจะคิดอย่างงี้

อดีตสะใภ้ของ วอเรน บัฟเฟตต์ เขียนร่วมกับคนอื่นครับ

หลักการในหนังสือ ถือว่าดีทีเดียวครับ

แต่คนที่นำไปใช้ต้องรู้จัก ปรับใช้ ครับ

เพราะการลงทุน ไม่ใช่ สูตรสำเร็จ

ก็เหมือนกับที่ วอเรน บัฟเฟตต์ นำหลักการของ เบนจามิน เกรมแฮม มาปรับใช้ โดยมีพื้นฐานเดียวกัน

การนำเอาหลักการมาใช้ โดยไม่รู้จักปรับกลยุทธ ก็เหมือนกับที่คนจีน เรียกคนที่ไม่รู้จักพลิกแพลงว่า ซี่ปังโต้ว ( ท้องสี่เหลี่ยม ) หรือ ถักซี่จือ ( อ่านแล้วไม่รู้จักพลิกแพลง ) ครับ

เหมือนคนที่เรียนในห้องเรียนเดียวกัน คุณครูคนเดียวกันสอน แต่ทำไม คนหนึ่งเรียนเก่ง อีกคนหนึ่งเรียนไม่เก่ง

คนเรียนเก่ง เพราะรู้จักทบทวน ขยันทำการบ้าน และรู้จักนำสูตรต่าง ๆ ที่อาจารย์สอนไปใช้ เวลาเจอข้อสอบที่พลิกแพลง ก็สามารถปรับใช้ได้

ส่วนคนที่เรียนไม่เก่ง แม้จะขยัน แต่ปรับใช้ไม่เป็น เจอโจทย์หรือสถานการณ์ที่แตกต่างจากที่สอน ก็ไม่รู้จักคิดว่าจะปรับใช้อย่างไรครับ

อย่างที่บอกว่า ตลาดหุ้นบ้านเรา กับ ตลาดหุ้นสหรัฐ ฯ แตกต่างกัน เป็นของแน่นอนอยู่แล้วครับ แค่ขนาดของตลาดก็แตกต่างกันแล้ว รวมไปถึงบริษัทที่จดทะเบียนก็มีจำนวนไม่เท่ากันด้วย

ทีนี้การบ้านของนักลงทุนในบ้านเราก็คือ จะหาวิธีอะไรในหนังสือที่อ่านไป มาปรับใช้กับการลงทุนในบ้านต่างหากครับ

การลงทุน จึงต้องมีการศึกษาค้นคว้าตลอด และอย่าไปยึดหลักตายตัว จนไม่รู้จักพลิกแพลง ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ครับ

terati20 เขียน:หนังสือเล่มนี้ ใครเขียนครับ
Buffett เขียนเองหรือเปล่า
หรือ ใครก็ไม่รู้ที่ คิดว่า Buffet น่าจะคิดอย่างงี้

ผมมองว่ามันอยู่ที่เนื้อหามากกว่าครับ

เล่มนี้แก้ปัญหาของ Fisher and Peter Lynch ในเรื่องของ ราคากำหนดผลตอบแทนที่คุณจะได้รับครับ

แต่ละท่านบอกถึงการปรับใช้ การประยุกต์ใช้

เหตุผลที่ให้คือ ตลาดบ้านเราเล็กกว่า

คำถามคือมันเป็นเหตุผลให้คุณเลือกทฤษฎีดั้งเดิมของ graham แทนที่จะใช้วิธี buffettology
ซึ่งได้แก้ไขปํญหาวิธีการดั้งเดิมไปแล้ว

เพราะ graham เหมาะสมกับตลาดบ้านเราที่เล็กกว่ามากกว่า

อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณสำหรับทุกๆคำแนะนำและคำสั้งสอนคับ

Marry เป็นอดีตลูกสะใภ้ของ buffett และเนื้อหาก็มาจากการสังเกตการณ์จริงๆ
ไม่ได้เขียนโดย Buffett
แต่ Buffett ไม่เคยปฏิเสธว่าจริงหรือไม่จริงในข้อความและหลักการพวกนั้น และ Buffett ยังยอมให้ Marry ใช้นามสกุลนี้อยู่ แม้จะเป็น "อดีตสะใภ้" ก็ตาม ถ้าพูดแบบไทยๆ ก็คือ เอานามสกุลดังมาหากินนี่เอง

นอกจากนั้นยังเป็นที่รู้กันว่า Buffett ตรงมาก แม้ว่าไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ว่ายอมรับ แต่ถ้าจะปฏิเสธเนื้อหาในหนังสือ ก็คงทำไปแล้ว จึงอนุมานได้ว่า บางส่วนอาจจริง แต่บางส่วนอาจแค่ผลเป็นการสังเกตการณ์


ความตรงของ buffett
นอกจากประกาศชัดๆ ว่าบริจาคเงินที่ตัวเองหามาได้มหาศาลตลอดชีวิต ให้การกุศลเกือบทั้งหมด คือมูลนิธิบิลล์-เมลินดา ทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ไปดูที่ web ทางการ ของ BERKSHIRE HATHAWAY INC. http://www.berkshirehathaway.com/donate/webdonat.html ทิ้งไว้ให้ลูก แค่พอกิน จนมีใครๆ วาดการ์ตูนล้อนเลียนลูกชาย เป็นการ์ตูนว่าเป็นขอทาน
buffett ต่อต้านการรวยโดยสืบเชื้อสาย (dynastic wealth) โดยงอมืองอเท้า ไม่ทำอะไรเลย ตั้งชื่อว่า พวกลูกคนรวยเป็นกลุ่ม the lucky sperm club

buffett ปฏิเสธหลานก็มี ข่าวนี้เมื่อต้นปีก่อนเดือน 4 นี่เอง
http://aparalleluniverse.wordpress.com/ ... ddaughter/




ถ้าจะเอาสิ่งที่เป็นข้อความชัดๆ ที่สุด ที่เขียนเองโดยปูบัฟเฟตต์ ที่เป็นระยะทุกปี ก็รายงานประจำปีนี่เอง
Warren Buffett's Letters to Berkshire Shareholders Updated February 26, 2011
http://www.berkshirehathaway.com/letters/letters.html
ซึ่งก็มีคนรวบรวมไปทำหนังสือ ถ้าเก่ากว่านั้นก็ก่อนที่จะมี berkshire ก็คือ buffett partnership
และหนังสือ The Intelligent Investor ของท่านอาจารย์ Graham ที่เป็นตำนาน เมื่อพิมพ์ตอนหลัง จะมีข้อเขียน comment Warren E. Buffett แต่ละบท รวมถึงบทนำ preface ด้วย

ก่อนที่จะมีแปลไทย ดร.ไสว บุญมา แห่งกรุงเทพธุรกิจ เคยสรุปจากการอ่านมา จะไปเขา blog ก็ได้ มีอยู่ 4 ตอน ผมรวมไฟล์ไว้ข้างล่างนี้
แต่ตอนนี้หนังสือข้างต้นทั้งหมด แปลไทยก็มีขายแล้วนะครับ ไปดู se-ed ได้


แต่ถ้าจะเอาทางอ้อม...ปู่บอกว่า แกใช้หลักของอาจารย์เกรแฮม+ฟิชเชอร์ หนังสือที่อ.นิเวศน์กับดร.กุศยาแปล เกี่ยวกับฟิชเชอร์แปลก็มี อย่างน้อย 2-3 เล่ม ลองไปอ่านดู http://www.fp.co.th/

viหัดคลาน เขียน:นี่คือหนังสือสุดยอดที่ต้องอ่าน อ่านแล้วคุณอาจไม่ชอบ ซึ่งขึ้นกับแต่ละคน แต่ผมชอบมากๆๆๆๆๆๆๆครับ

ผมเองก็ชอบหนังสือเล่มนี้ มีเนื้อหาดีๆที่เอาไปปรับใช้ได้กับ SET

ขอขอบคุณ คุณฉัตรชัย ที่แนะนำครับ

แต่ผมชอบ The New Buffettology มากกว่าครับ เสียดายเล่มแปลที่คุณพรชัยแปลไว้หมดไปแล้ว และยังไม่มีโครงการพิมพ์ใหม่อีก

chatchai เขียน:แต่ผมชอบ The New Buffettology มากกว่าครับ เสียดายเล่มแปลที่คุณพรชัยแปลไว้หมดไปแล้ว และยังไม่มีโครงการพิมพ์ใหม่อีก

ผมยังไม่เคยได้อ่านครับ ผมจะลองพยายามหาอ่านดูนะครับพี่

chatchai เขียน:แต่ผมชอบ The New Buffettology มากกว่าครับ เสียดายเล่มแปลที่คุณพรชัยแปลไว้หมดไปแล้ว และยังไม่มีโครงการพิมพ์ใหม่อีก

ใช่เลย the new buffetology แจ๋วกว่า

อ่านภาษาอังกฤษ ก็อ่านง่ายนะ

ผมเชื่อว่าใช้กับการลงทุนในประเทศไทยได้จริงครับ

ตัวผมเองไม่มีพื้นด้านการเงินเลย ก็อาศัยหลักการลงทุนจาก buffettology ทั้ง2เล่ม(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง new buuffettology ตามที่พี่ฉัตรชัยแนะนำ-เล่มนี้ผมอ่าน6เที่ยว) ทำให้อยู่รอดในตลาดมา6ปีกว่า พร้อมกับผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ(ผมถือหุ้น100%ตลอดเวลา)

ความสำคัญคงอยู่ที่ว่า เราศึกษาหลักการจนเข้าใจอย่างถ่องแท้หรือเปล่า รวมทั้งการนำปรับใช้อย่างเหมาะสมครับ

เหมาะสมกับแนวทางของเราไหมก็พอครับ

Jeng เขียน:

chatchai เขียน:แต่ผมชอบ The New Buffettology มากกว่าครับ เสียดายเล่มแปลที่คุณพรชัยแปลไว้หมดไปแล้ว และยังไม่มีโครงการพิมพ์ใหม่อีก

ใช่เลย the new buffetology แจ๋วกว่า

อ่านภาษาอังกฤษ ก็อ่านง่ายนะ

แฮะๆๆ ผมโหลดมาแล้วครับ ค่อยซื้อโอกาสหน้าครับ

ขอบคุณมากครับพี่ๆทุกคน

ขอบคุณสำหรับหนังสือครับ

Ii'8N เขียน:Marry เป็นอดีตลูกสะใภ้ของ buffett และเนื้อหาก็มาจากการสังเกตการณ์จริงๆ
ไม่ได้เขียนโดย Buffett
แต่ Buffett ไม่เคยปฏิเสธว่าจริงหรือไม่จริงในข้อความและหลักการพวกนั้น และ Buffett ยังยอมให้ Marry ใช้นามสกุลนี้อยู่ แม้จะเป็น "อดีตสะใภ้" ก็ตาม ถ้าพูดแบบไทยๆ ก็คือ เอานามสกุลดังมาหากินนี่เอง

นอกจากนั้นยังเป็นที่รู้กันว่า Buffett ตรงมาก แม้ว่าไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ว่ายอมรับ แต่ถ้าจะปฏิเสธเนื้อหาในหนังสือ ก็คงทำไปแล้ว จึงอนุมานได้ว่า บางส่วนอาจจริง แต่บางส่วนอาจแค่ผลเป็นการสังเกตการณ์


ความตรงของ buffett
นอกจากประกาศชัดๆ ว่าบริจาคเงินที่ตัวเองหามาได้มหาศาลตลอดชีวิต ให้การกุศลเกือบทั้งหมด คือมูลนิธิบิลล์-เมลินดา ทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ไปดูที่ web ทางการ ของ BERKSHIRE HATHAWAY INC. http://www.berkshirehathaway.com/donate/webdonat.html ทิ้งไว้ให้ลูก แค่พอกิน จนมีใครๆ วาดการ์ตูนล้อนเลียนลูกชาย เป็นการ์ตูนว่าเป็นขอทาน
buffett ต่อต้านการรวยโดยสืบเชื้อสาย (dynastic wealth) โดยงอมืองอเท้า ไม่ทำอะไรเลย ตั้งชื่อว่า พวกลูกคนรวยเป็นกลุ่ม the lucky sperm club

buffett ปฏิเสธหลานก็มี ข่าวนี้เมื่อต้นปีก่อนเดือน 4 นี่เอง
http://aparalleluniverse.wordpress.com/ ... ddaughter/




ถ้าจะเอาสิ่งที่เป็นข้อความชัดๆ ที่สุด ที่เขียนเองโดยปูบัฟเฟตต์ ที่เป็นระยะทุกปี ก็รายงานประจำปีนี่เอง
Warren Buffett's Letters to Berkshire Shareholders Updated February 26, 2011
http://www.berkshirehathaway.com/letters/letters.html
ซึ่งก็มีคนรวบรวมไปทำหนังสือ

The Essays Of Warren Buffett - Lessons For Corporate America.rar

ถ้าเก่ากว่านั้นก็ก่อนที่จะมี berkshire ก็คือ buffett partnership

1959-1969_Buffett_to_Partners.zip

และหนังสือ The Intelligent Investor ของท่านอาจารย์ Graham ที่เป็นตำนาน เมื่อพิมพ์ตอนหลัง จะมีข้อเขียน comment Warren E. Buffett แต่ละบท รวมถึงบทนำ preface ด้วย

The Intelligent Investor - Benjamin Graham.rar

ก่อนที่จะมีแปลไทย ดร.ไสว บุญมา แห่งกรุงเทพธุรกิจ เคยสรุปจากการอ่านมา จะไปเขา blog ก็ได้ มีอยู่ 4 ตอน ผมรวมไฟล์ไว้ข้างล่างนี้

SawaiBoonma.com » The Essays of Warren Buffett ลำนำผู้ทำเงิน.zip

แต่ตอนนี้หนังสือข้างต้นทั้งหมด แปลไทยก็มีขายแล้วนะครับ ไปดู se-ed ได้


แต่ถ้าจะเอาทางอ้อม...ปู่บอกว่า แกใช้หลักของอาจารย์เกรแฮม+ฟิชเชอร์ หนังสือที่อ.นิเวศน์กับดร.กุศยาแปล เกี่ยวกับฟิชเชอร์แปลก็มี อย่างน้อย 2-3 เล่ม ลองไปอ่านดู http://www.fp.co.th/

ต้องขอขอบคุณพี่ Ii'8N เป้นพิเศษด้วยครับ