เวลาเข้าซื้อหุ้นที่เหมาะสมดูจากอะไร (ในช่วงตลาดขาลงแบบนี้)
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 12:18 pm
ไม่ทราบว่าจะมี sign อะไรพอบอกเราได้บ้างว่า ถึงเวลาซื้อหรือควรรอต่อ...ขอความเห็นจากผู้รู้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เว็บบอร์ดเพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
https://thaiviv3.mdsoft.co.th/./
มันต่างกัน... คืออะไรครับขอได้โปรดชี้แนะด้วยครับ ผมคว่ำถ้วยน้ำชาและเปิดฝาถ้วยพร้อมรับน้ำชาแก้วใหม่แล้วครับส.สลึง เขียน:ซื้อเมื่อมั่นใจว่าจะไม่ขาดทุน
ปล.
สำหรับผมแล้ว มันต่างกับ...
ส่วนเรื่องจาก ซื้อเพิ่ม, cut loss ผมไม่กล้าแนะนำ แต่ผมจำที่ใครคนหนึ่งเคยพูดทำนองว่า ลืมต้นทุนที่ซื้อมา คิดเสียว่าพอร์ตตอนนี้เป็นเท่าไหร่ หุ้นในตลาดตัวไหนน่าซื้อที่สุด ขายไปซื้อตัวนั้น ถ้าเป็นตัวเดิมก็ไม่ต้องทำไร
ผมเชื่อว่า มี 2 แรงที่ผลักดันราคาหุ้น
1. กำไร >> เราเรียกรวมว่า พื้นฐาน
2. ปัจจัยด้านจิตวิทยา – อารมณ์ของตลาด
ประเด็นแรก เป็นสิ่งที่นักลงทุนแนว vi ต้องวิเคราะห์อยู่แล้ว แต่ถ้าเข้าใจประเด็นที่สองด้วย ก็จะเพิ่มผลตอบแทนได้อีกครับ ผมตอบไม่ได้ชัดเจนว่า เราจะดูอารมณ์จิตวิทยาของตลาดได้อย่างไร(ยังไม่รู้จริง) แต่ประมาณว่า ถ้าเราเข้าใจอารมณ์ตลาด เรามักจะได้ซื้อหุ้นที่ดี ที่ราคาไม่แพง
เหมือนที่ Graham เปรียบเปรยเป็นนิทาน Mr. Market ครับ นอกจากนั้น เราอาจพิจารณาจิตวิทยาของนักลงทุนในตลาดว่า เค้านิยมหุ้นพิมพ์แบบไหน ในอุตสาหกรรมใดที่กำลังจะฮอต หุ้นตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ราคาต่ำหรือราคาสูง เหล่านี้เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้ครับ เราลงทุนแนว vi แต่พิจารณาไว้บ้างก็ไม่เสียอะไร
ผมปรับพอร์ตบ่อยๆครับ เหตุผลมักเป็นอย่างนี้
1. เจอหุ้นตัวที่ดีกว่า แต่ไม่มีเงินก็ต้องขายตัวที่ด้อยที่สุดไป
2. ตัวที่ถือพื้นฐานเปลี่ยน อันนี้แน่นอนก็ต้องขายออก
3. หุ้นขึ้นจนราคาสมเหตุสมผล ผมก็อาจจะขายไปเพิ่มตัวที่ยังต่ำกว่ามูลค่า
4. หุ้นลงผมก็ปรับพอร์ต ขายตัวที่ลงน้อยไปซื้อตัวที่มีอัพไซด์มาก
ผมก็ปรับไปเรื่อยครับ ตามข้อมูลที่ได้รับมา ไม่มีเกณฑ์ตายตัวว่าบ่อยแค่ไหน หรือกี่เปอร์เซนต์ของพอร์ต ตั้งแต่ซื้อหุ้นมายังถือไม่เกิน 3 ปีเลยครับ เฉลี่ยเกือบๆปีประมาณนั้น แต่เห็นด้วยครับว่า ตลาดผันผวน เราสามารถใช้การปรับพอร์ตหาประโยชน์จากความผันผวนนั้นได้
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เราลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ และหุ้น ถ้าตลาดซบเซาหนักๆเราก็ควรย้ายเงินจากกองทุนมาลงหุ้นให้มากขึ้น หรือเปลี่ยนไปถือหุ้นตัวทีมีอัพไซด์สูงกว่า หากตลาดเป็นขาขึ้น หาหุ้นลงทุนได้ยาก อาจจะต้องเปลี่ยนไปถือตัวที่ defensive มีปันผลเยอะหน่อยๆ ประมาณนี้ครับ
Ben Graham, my friend and teacher, long ago described the
mental attitude toward market fluctuations that I believe to be
most conducive to investment success. He said that you should
imagine market quotations as coming from a remarkably
accommodating fellow named Mr. Market who is your partner in a
private business. Without fail, Mr. Market appears daily and
names a price at which he will either buy your interest or sell
you his.
Even though the business that the two of you own may have
economic characteristics that are stable, Mr. Market's quotations
will be anything but. For, sad to say, the poor fellow has
incurable emotional problems. At times he feels euphoric and can
see only the favorable factors affecting the business. When in
that mood, he names a very high buy-sell price because he fears
that you will snap up his interest and rob him of imminent gains.
At other times he is depressed and can see nothing but trouble
ahead for both the business and the world. On these occasions he
will name a very low price, since he is terrified that you will
unload your interest on him.
Mr. Market has another endearing characteristic: He doesn't
mind being ignored. If his quotation is uninteresting to you
today, he will be back with a new one tomorrow. Transactions are
strictly at your option. Under these conditions, the more manic-
depressive his behavior, the better for you.
But, like Cinderella at the ball, you must heed one warning
or everything will turn into pumpkins and mice: Mr. Market is
there to serve you, not to guide you. It is his pocketbook, not
his wisdom, that you will find useful. If he shows up some day
in a particularly foolish mood, you are free to either ignore him
or to take advantage of him, but it will be disastrous if you
fall under his influence. Indeed, if you aren't certain that you
understand and can value your business far better than Mr.
Market, you don't belong in the game. As they say in poker, "If
you've been in the game 30 minutes and you don't know who the
patsy is, you're the patsy."