Thai VI

เคยอ่านเจอว่า บัฟเฟตชอบหุ้นตกมากกว่าหุ้นขึ้น เพราะแกไม่คิดจะขายอยู่แล้ว

ใจเย็นๆกันนะ

ไม่จริงครับ
แต่แค่หุ้นตกถือเป็นโอกาสในการเก็บหุ้นเพิ่ม
พอเก็บครบแล้วก็อวยให้หุ้นขึ้นกันทั้งนั้นครับ ขอขึ้นแบบแรงๆยิ่งชอบ
ถ้าหุ้นไม่ขึ้นอีกเลย คงไม่มีใครชอบครับ

ชาววอชอบมิสเตอร์มาเก็ตครับ
วันนี้มิสเตอร์มาเก็ตอารมย์ไม่ดีครับ555

แต่ผมชอบนะ

เพราะหุ้นดียังไงมันก็ขึ้น หรือไม่ก็ได้ปันผล 10% up กันทั้งนั้น ถ้ามันถูกจริงๆหน่ะนะ
ไม่ต้องไปเชียรมันหรอกครับ จะกี่ปีเดี๋ยวมันก็ขึ้น ถ้าหุ้นมันดี


ผมละช้อบชอบ หุ้นตกเนี่ย ถึงเวลาปรับพอร์ทผมอีกครั้ง ละ

ผมชอบครับ แต่ยังเป็น VI ไม่เต็มขั้น มีใจสั่นบ้าง พรุ่งนี้ได้ปรับพอร์ตอีกเหมือนกันครับ

ผมไม่ใช่ VI
ผมไม่ชอบหุ้นตก
แต่ผมชอบหุ้นถูก

เข้าไปอ่านกระทู้หุ้นที่ตกหลายๆตัว กดลบกันกระจายเลย
ดูแล้วชาววีไอส่วนใหญ่น่าจะหงุดหงิดใจ และไม่ชอบหุ้นตกนะครับ

ชอบครับ เพราะผมมีแต่เงินสดตอนนี้

ตกชั่วคราวบางคนคงชอบ

แต่ถ้าตกชั่วโคตรคนไม่เหลือใครชอบ

คนอื่นไม่รู้ครับแต่ผมชอบ ผมเลือกหุ้น vi แต่ซื้อขายด้วยเทคนิค ดังนั้นตอนนี้ผมไม่มีหุ้นในพอร์ตเลยซักตัวมีแต่เงินสด รอซื้ออยู่ครับ

ดำ เขียน:ตกชั่วคราวบางคนคงชอบ

แต่ถ้าตกชั่วโคตรคนไม่เหลือใครชอบ

555+

ขนาดสมัยโบราณมี World War มันยังไม่ตกชั่วโคตรเลยคร้าบ

หุ้นตกจาก panic คือโอกาสในการซื้อของ VI ครับ คนจะมองแต่ข่าวร้าย ไม่มองโอกาสที่มีอยู่ นี่ล่ะคือที่ VI ชอบตอนหุ้นตก แต่ที่ไม่น่าจะชอบก็คือคือหุ้นตกจากพื้นฐานเปลี่ยน อันนี้เป็นฝันร้าย ที่ใคร ๆ แม้แต่ VI ก็ไม่อยากเจอ ตอนนี้เป็นแบบไหนหนอ... ต่างคนต่างมองครับ....

ผมชอบมากครับ เพราะปกติผมจะชอบซื้อหุ้นที่คนยังไม่ค่อยสนใจ เวลาเกิดวิฤตที หุ้นพื้นฐานดีที่คนไม่สนจะมีมาให้เลือกมากมาย ก็อาจจะได้เวลาปรับพอร์ตไปซื้อหุ้นที่รอมานานแต่มีโอกาสไม่ได้ซื้อครับ แล้วก็อาจจะนำเงินสดส่วนหนึ่งจากการทำงานมาซื้อเพิ่มอีก บางตัวผมหาข้อมูลแต่รอมาเป็นปีเลยกว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้สักครั้ง จนทำให้ราคาหุ้นเข้าเกณฑ์ของผม

คนมีเงินและมีหุ้นในดวงใจก็ชอบให้หุ้นตกครับ
แต่คนมีหุ้นและไม่มีเงินก็ไม่ชอบให้หุ้นตกครับ
สังเกตจากตัวเองนะครับ วิกฤตจะเป็นอากาศทุกครั้งที่ผมไม่มีเงินซื้อหุ้นในดวงใจ

จริงๆแล้วผมชอบนะครับ ถ้าไม่มีวิกฤตปี2008 ไม่มีผมวันนี้.

นึกว่าจะมีวิกฤตทุกๆ 10 ปีซะอีก. 2-3ปีมาอีกแล้ว ดีไม่ต้องรอนาน

สำหรับผม "จริง" มากที่สุด

ผมชอบช่วงนี้จริงๆครับ ได้ศึกษาอารมณ์ของตลาด
แล้วนำมาเปรียบเทียบกับพื้นฐานของหุ้นจริงๆ

นับตั้งแต่เข้ามาศึกษาเรื่องหุ้นตอนนี้พบคำตอบอย่างนึงว่า
ราคาหุ้นนั้นไม่เคยสัมพันธ์กับมูลค่าจริงๆของบริษัทเลย

คือจะขึ้นจะลงไปตามภาวะของตลาดอยู่เสมอ
แต่สุดท้ายมันก็จะเป็นตามพื้นฐานกิจการ

คนที่เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วจะพบว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นเป็นเรื่องพื้นๆ ซึ่งนั้นก็เป็นเรื่องจริงครับ
นักลงทุนต้องแยกให้ออกระหว่างราคาในตลาดกับพื้นฐานกิจการ

เท่าที่เคยพูดคุยกับนักลงทุนแนวเกร็งกำไรจะพบว่าเค้ามักจะนำสองสิ่งมารวมเป็นสิ่งเดียวกัน
จนทำให้มองอะไรไม่ค่อยออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาแบบนี้
แล้วก็จะทำให้อารมณ์ของนักลงทุนเป็นไปแบบเดียวกันกับตลาด
เหตุผลที่ซื้อหุ้นกับเหตุผลที่ขายนั้นเป็นคนละเรื่องกันเลย เอาทุกอย่างมาปะปนกันไปหมด
เครียด นอนไม่หลับ กังวล จะทำอย่างไรดีกับพรุ่งนี้

ข้อสรุปของผมก็คือ
หากเราเข้าใจแก่นแท้ของการลงทุน ไม่ว่าภาวะตลาดเป็นแบบไหน
เราก็สามารถใช้ประโยชน์จากภาวะนั้นๆ และการลงทุนจะทำได้ด้วยจิตใจที่เป็นปกติ

ผมชอบนะ ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะชอบมันจริงๆ

จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมนั่งเรียนอยู่ อาจารย์สอนได้ง่วงมากกกกกก

ผมเลยยืม ipad เพื่อนมาเล่น เปิดดูตลาดหุ้น โอ้โหหห มันตกแรงสะใจดีจริงๆ

เท่านั้นแหละครับ ตื่นเลย เลิกง่วง ความคิดวิ่งไปวิ่งมา จะซื้อตัวไหนดีๆ

ฟุ้งแบบหยุดไม่อยู่จริงๆ พอผมได้สติ ผมถึงนึกออกว่า

เวลาผู้หญิงเห็นไอ้พวกป้ายลดราคา มันเป็นแบบนี้นี่เอง

ชอบแบบตกชั่วคราวครับ
ตกแบบถาวรแล้วยาวนานไม่ชอบอ่า

ที่ชอบจริงๆก็คือขึ้นแบบยาวนานและถาวรครับ Happy ending ที่สุด