บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 10, 2004 11:37 am
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 มิถุนายน 2547 11:15 น.
บอร์ด MAJOR ลงมติให้ซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV ด้วยวิธีการทำเทนเดอร์ฯ หุ้นทั้งหมดจำนวน 260 ล้านหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 65,000,000 หน่วย ด้วยวิธีการออกหุ้นสามัญใหม่แทนการชำระราคาค่าหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV ที่บริษัทฯ จะซื้อจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV โดยอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นจะอยู่ที่ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 2.27426 หุ้นของ EGV และ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 11.44905 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV คาดสำเร็จใน 6 เดือน
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR แจ้งมติคณะกรรมการ ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2547 ว่า ได้อนุมัติให้ทำการควบรวมกิจการของบริษัทฯ เข้ากับ บริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ EGV โดยการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินการทางธุรกิจ
โดยบริษัทฯ จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของอีจีวี ซึ่งได้แก่หุ้น จำนวน 260,000,000 หุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 65,000,000 หน่วยโดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ อีจีวี ดังกล่าวจะกระทำโดยที่บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญใหม่แทนการชำระราคาค่าหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิของ อีจีวี ที่บริษัทฯ จะซื้อจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของอีจีวี โดยอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นจะอยู่ที่ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 2.27426 หุ้นของอีจีวี และ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 11.44905 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิของอีจีวี
ทั้งนี้ ในการทำคำเสนอซื้อของบริษัทฯ บริษัทฯ มิได้เสนอทางเลือกอื่นเป็นตัวเงิน (no cash alternative) และหากการแลกหุ้นดังกล่าวจะมีผลทำให้ผู้ถือหุ้น และ/หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายใดรายหนึ่งของอีจีวีได้รับหุ้นใหม่ของบริษัทฯ ในจำนวนที่ไม่ถึง 1 หุ้น ผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะได้รับการชดเชยเป็นเงินสด
สำหรับจำนวนที่ไม่ถึง 1 หุ้นนั้น โดยค่าชดเชยจะคิดคำนวณโดยอิงกับราคาปิดครั้งสุดท้ายของหุ้นของบริษัทฯ ที่ทำการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันสุดท้ายของกำหนดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
อนึ่งบริษัทฯ จะเข้าดำเนินการซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของอีจีวี โดยการทำคำเสนอซื้อก็ต่อเมื่อเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายหมายเลข 2 ได้สำเร็จลงแล้ว ซึ่งคาดว่าการดำเนินการต่างๆ จะสำเร็จลงในเวลาประมาณ 6 เดือน
ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ การดำเนินการเพิ่มทุนของบริษัทฯ เพื่อการควบรวมกิจการดังกล่าวอาจมีผลทำให้บริษัทฯ ต้องปรับอัตราใช้สิทธิ และ/หรือ ราคาใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ หากราคาสุทธิต่อหุ้นสามัญที่ออกใหม่นั้นคำนวณได้ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ (ซึ่งกำหนดไว้เท่ากับราคาตลาดเฉลี่ยของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 5 วันทำการที่มีการซื้อขายล่าสุดก่อนวันแรกของการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดในบริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน))
พร้อมกันนี้ การทำคำเสนอซื้อหุ้นโดยวิธีการแลกเปลี่ยนหุ้น คณะกรรมการจึงได้มีมติแต่งตั้งบริษัท เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ เพื่อร่วมจัดทำแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ และเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ต่อไปและแต่งตั้งบริษัท มินเตอร์ เอลิสัน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินการดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ได้อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 772,000,000 บาท เป็น 897,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 125,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยหุ้นจำนวน 120,000,000 หุ้น จัดสรรไว้ให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) แทนการชำระราคาเสนอซื้อภายใต้คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทฯ และหุ้นจำนวน 5,000,000 หุ้น ให้จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯเพิ่มเติม ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
รวมทั้ง อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนดังกล่าว เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 897,000,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2547 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2547 เวลา 10.30 น. ณ อาคารเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิกำหนดของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2547 ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2547 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จ
อนึ่ง มีมติให้บริษัทฯ ขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีคำสั่งระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึงเวลา 12.30 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2547 เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาทำความเข้าใจข้อมูลในการควบรวมกิจการครั้งนี้อย่างละเอียด
บอร์ด MAJOR ลงมติให้ซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV ด้วยวิธีการทำเทนเดอร์ฯ หุ้นทั้งหมดจำนวน 260 ล้านหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 65,000,000 หน่วย ด้วยวิธีการออกหุ้นสามัญใหม่แทนการชำระราคาค่าหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV ที่บริษัทฯ จะซื้อจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV โดยอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นจะอยู่ที่ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 2.27426 หุ้นของ EGV และ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 11.44905 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV คาดสำเร็จใน 6 เดือน
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR แจ้งมติคณะกรรมการ ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2547 ว่า ได้อนุมัติให้ทำการควบรวมกิจการของบริษัทฯ เข้ากับ บริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ EGV โดยการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินการทางธุรกิจ
โดยบริษัทฯ จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของอีจีวี ซึ่งได้แก่หุ้น จำนวน 260,000,000 หุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 65,000,000 หน่วยโดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ อีจีวี ดังกล่าวจะกระทำโดยที่บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญใหม่แทนการชำระราคาค่าหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิของ อีจีวี ที่บริษัทฯ จะซื้อจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของอีจีวี โดยอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นจะอยู่ที่ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 2.27426 หุ้นของอีจีวี และ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 11.44905 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิของอีจีวี
ทั้งนี้ ในการทำคำเสนอซื้อของบริษัทฯ บริษัทฯ มิได้เสนอทางเลือกอื่นเป็นตัวเงิน (no cash alternative) และหากการแลกหุ้นดังกล่าวจะมีผลทำให้ผู้ถือหุ้น และ/หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายใดรายหนึ่งของอีจีวีได้รับหุ้นใหม่ของบริษัทฯ ในจำนวนที่ไม่ถึง 1 หุ้น ผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะได้รับการชดเชยเป็นเงินสด
สำหรับจำนวนที่ไม่ถึง 1 หุ้นนั้น โดยค่าชดเชยจะคิดคำนวณโดยอิงกับราคาปิดครั้งสุดท้ายของหุ้นของบริษัทฯ ที่ทำการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันสุดท้ายของกำหนดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
อนึ่งบริษัทฯ จะเข้าดำเนินการซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของอีจีวี โดยการทำคำเสนอซื้อก็ต่อเมื่อเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายหมายเลข 2 ได้สำเร็จลงแล้ว ซึ่งคาดว่าการดำเนินการต่างๆ จะสำเร็จลงในเวลาประมาณ 6 เดือน
ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ การดำเนินการเพิ่มทุนของบริษัทฯ เพื่อการควบรวมกิจการดังกล่าวอาจมีผลทำให้บริษัทฯ ต้องปรับอัตราใช้สิทธิ และ/หรือ ราคาใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ หากราคาสุทธิต่อหุ้นสามัญที่ออกใหม่นั้นคำนวณได้ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ (ซึ่งกำหนดไว้เท่ากับราคาตลาดเฉลี่ยของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 5 วันทำการที่มีการซื้อขายล่าสุดก่อนวันแรกของการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดในบริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน))
พร้อมกันนี้ การทำคำเสนอซื้อหุ้นโดยวิธีการแลกเปลี่ยนหุ้น คณะกรรมการจึงได้มีมติแต่งตั้งบริษัท เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ เพื่อร่วมจัดทำแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ และเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ต่อไปและแต่งตั้งบริษัท มินเตอร์ เอลิสัน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินการดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ได้อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 772,000,000 บาท เป็น 897,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 125,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยหุ้นจำนวน 120,000,000 หุ้น จัดสรรไว้ให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) แทนการชำระราคาเสนอซื้อภายใต้คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทฯ และหุ้นจำนวน 5,000,000 หุ้น ให้จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯเพิ่มเติม ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
รวมทั้ง อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนดังกล่าว เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 897,000,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2547 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2547 เวลา 10.30 น. ณ อาคารเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิกำหนดของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2547 ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2547 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จ
อนึ่ง มีมติให้บริษัทฯ ขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีคำสั่งระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึงเวลา 12.30 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2547 เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาทำความเข้าใจข้อมูลในการควบรวมกิจการครั้งนี้อย่างละเอียด