บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
-
- Verified User
- โพสต์: 329
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 1
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 มิถุนายน 2547 11:15 น.
บอร์ด MAJOR ลงมติให้ซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV ด้วยวิธีการทำเทนเดอร์ฯ หุ้นทั้งหมดจำนวน 260 ล้านหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 65,000,000 หน่วย ด้วยวิธีการออกหุ้นสามัญใหม่แทนการชำระราคาค่าหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV ที่บริษัทฯ จะซื้อจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV โดยอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นจะอยู่ที่ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 2.27426 หุ้นของ EGV และ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 11.44905 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV คาดสำเร็จใน 6 เดือน
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR แจ้งมติคณะกรรมการ ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2547 ว่า ได้อนุมัติให้ทำการควบรวมกิจการของบริษัทฯ เข้ากับ บริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ EGV โดยการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินการทางธุรกิจ
โดยบริษัทฯ จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของอีจีวี ซึ่งได้แก่หุ้น จำนวน 260,000,000 หุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 65,000,000 หน่วยโดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ อีจีวี ดังกล่าวจะกระทำโดยที่บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญใหม่แทนการชำระราคาค่าหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิของ อีจีวี ที่บริษัทฯ จะซื้อจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของอีจีวี โดยอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นจะอยู่ที่ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 2.27426 หุ้นของอีจีวี และ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 11.44905 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิของอีจีวี
ทั้งนี้ ในการทำคำเสนอซื้อของบริษัทฯ บริษัทฯ มิได้เสนอทางเลือกอื่นเป็นตัวเงิน (no cash alternative) และหากการแลกหุ้นดังกล่าวจะมีผลทำให้ผู้ถือหุ้น และ/หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายใดรายหนึ่งของอีจีวีได้รับหุ้นใหม่ของบริษัทฯ ในจำนวนที่ไม่ถึง 1 หุ้น ผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะได้รับการชดเชยเป็นเงินสด
สำหรับจำนวนที่ไม่ถึง 1 หุ้นนั้น โดยค่าชดเชยจะคิดคำนวณโดยอิงกับราคาปิดครั้งสุดท้ายของหุ้นของบริษัทฯ ที่ทำการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันสุดท้ายของกำหนดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
อนึ่งบริษัทฯ จะเข้าดำเนินการซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของอีจีวี โดยการทำคำเสนอซื้อก็ต่อเมื่อเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายหมายเลข 2 ได้สำเร็จลงแล้ว ซึ่งคาดว่าการดำเนินการต่างๆ จะสำเร็จลงในเวลาประมาณ 6 เดือน
ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ การดำเนินการเพิ่มทุนของบริษัทฯ เพื่อการควบรวมกิจการดังกล่าวอาจมีผลทำให้บริษัทฯ ต้องปรับอัตราใช้สิทธิ และ/หรือ ราคาใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ หากราคาสุทธิต่อหุ้นสามัญที่ออกใหม่นั้นคำนวณได้ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ (ซึ่งกำหนดไว้เท่ากับราคาตลาดเฉลี่ยของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 5 วันทำการที่มีการซื้อขายล่าสุดก่อนวันแรกของการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดในบริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน))
พร้อมกันนี้ การทำคำเสนอซื้อหุ้นโดยวิธีการแลกเปลี่ยนหุ้น คณะกรรมการจึงได้มีมติแต่งตั้งบริษัท เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ เพื่อร่วมจัดทำแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ และเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ต่อไปและแต่งตั้งบริษัท มินเตอร์ เอลิสัน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินการดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ได้อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 772,000,000 บาท เป็น 897,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 125,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยหุ้นจำนวน 120,000,000 หุ้น จัดสรรไว้ให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) แทนการชำระราคาเสนอซื้อภายใต้คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทฯ และหุ้นจำนวน 5,000,000 หุ้น ให้จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯเพิ่มเติม ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
รวมทั้ง อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนดังกล่าว เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 897,000,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2547 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2547 เวลา 10.30 น. ณ อาคารเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิกำหนดของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2547 ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2547 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จ
อนึ่ง มีมติให้บริษัทฯ ขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีคำสั่งระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึงเวลา 12.30 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2547 เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาทำความเข้าใจข้อมูลในการควบรวมกิจการครั้งนี้อย่างละเอียด
บอร์ด MAJOR ลงมติให้ซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV ด้วยวิธีการทำเทนเดอร์ฯ หุ้นทั้งหมดจำนวน 260 ล้านหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 65,000,000 หน่วย ด้วยวิธีการออกหุ้นสามัญใหม่แทนการชำระราคาค่าหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV ที่บริษัทฯ จะซื้อจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV โดยอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นจะอยู่ที่ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 2.27426 หุ้นของ EGV และ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 11.44905 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิของ EGV คาดสำเร็จใน 6 เดือน
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR แจ้งมติคณะกรรมการ ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2547 ว่า ได้อนุมัติให้ทำการควบรวมกิจการของบริษัทฯ เข้ากับ บริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ EGV โดยการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินการทางธุรกิจ
โดยบริษัทฯ จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของอีจีวี ซึ่งได้แก่หุ้น จำนวน 260,000,000 หุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 65,000,000 หน่วยโดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ อีจีวี ดังกล่าวจะกระทำโดยที่บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญใหม่แทนการชำระราคาค่าหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิของ อีจีวี ที่บริษัทฯ จะซื้อจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของอีจีวี โดยอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นจะอยู่ที่ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 2.27426 หุ้นของอีจีวี และ 1 หุ้นใหม่ของบริษัทฯ ต่อ 11.44905 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิของอีจีวี
ทั้งนี้ ในการทำคำเสนอซื้อของบริษัทฯ บริษัทฯ มิได้เสนอทางเลือกอื่นเป็นตัวเงิน (no cash alternative) และหากการแลกหุ้นดังกล่าวจะมีผลทำให้ผู้ถือหุ้น และ/หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายใดรายหนึ่งของอีจีวีได้รับหุ้นใหม่ของบริษัทฯ ในจำนวนที่ไม่ถึง 1 หุ้น ผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะได้รับการชดเชยเป็นเงินสด
สำหรับจำนวนที่ไม่ถึง 1 หุ้นนั้น โดยค่าชดเชยจะคิดคำนวณโดยอิงกับราคาปิดครั้งสุดท้ายของหุ้นของบริษัทฯ ที่ทำการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันสุดท้ายของกำหนดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
อนึ่งบริษัทฯ จะเข้าดำเนินการซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของอีจีวี โดยการทำคำเสนอซื้อก็ต่อเมื่อเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายหมายเลข 2 ได้สำเร็จลงแล้ว ซึ่งคาดว่าการดำเนินการต่างๆ จะสำเร็จลงในเวลาประมาณ 6 เดือน
ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ การดำเนินการเพิ่มทุนของบริษัทฯ เพื่อการควบรวมกิจการดังกล่าวอาจมีผลทำให้บริษัทฯ ต้องปรับอัตราใช้สิทธิ และ/หรือ ราคาใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ หากราคาสุทธิต่อหุ้นสามัญที่ออกใหม่นั้นคำนวณได้ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ (ซึ่งกำหนดไว้เท่ากับราคาตลาดเฉลี่ยของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 5 วันทำการที่มีการซื้อขายล่าสุดก่อนวันแรกของการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดในบริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน))
พร้อมกันนี้ การทำคำเสนอซื้อหุ้นโดยวิธีการแลกเปลี่ยนหุ้น คณะกรรมการจึงได้มีมติแต่งตั้งบริษัท เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ เพื่อร่วมจัดทำแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ และเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ต่อไปและแต่งตั้งบริษัท มินเตอร์ เอลิสัน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินการดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ได้อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 772,000,000 บาท เป็น 897,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 125,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยหุ้นจำนวน 120,000,000 หุ้น จัดสรรไว้ให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัท อีจีวี เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) แทนการชำระราคาเสนอซื้อภายใต้คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทฯ และหุ้นจำนวน 5,000,000 หุ้น ให้จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯเพิ่มเติม ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
รวมทั้ง อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนดังกล่าว เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 897,000,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2547 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2547 เวลา 10.30 น. ณ อาคารเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิกำหนดของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2547 ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2547 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จ
อนึ่ง มีมติให้บริษัทฯ ขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีคำสั่งระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึงเวลา 12.30 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2547 เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาทำความเข้าใจข้อมูลในการควบรวมกิจการครั้งนี้อย่างละเอียด
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 5
งี้ก็น่าสนใจสิ เพาะเริ่มผูกขาดไปเรี่อยๆแล้ว อย่างน้อยสองบริษัทนี่ เจ้าของจริงๆก็พี่น้องกันนี่ จำได้ว่านามสกุลเดียวกันนะ
คงรอดูผลประกอบการหลังควบรวมแล้วสักสองสามไตรมาสแล้วมาเจอกันใหม่
คงรอดูผลประกอบการหลังควบรวมแล้วสักสองสามไตรมาสแล้วมาเจอกันใหม่
Expecto Patronum!!!!!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 6
ใช่ครับ เจ้าของเป็นพี่น้องเดียวกัน
ที่น่าสนใจคือข่าวที่คุณวิชัยแถลงเมื่อหลายวันก่อนครับ
ที่น่าสนใจคือข่าวที่คุณวิชัยแถลงเมื่อหลายวันก่อนครับ

ข่าวนี้ ไม่รู้ eFinance มั่วหรือคุณวิชัยอุบไต๋eFinanceThai เขียน: กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. 2547
นายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.อีจีวี เอนเตอร์
เทนเมนต์ หรือ EGV เปิดเผยกับ efinancethai.com ถึงกระแสข่าวว่าอีจีวีมีแผนจะ
ควบรวมกับ บมจ.เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์(MAJOR) ว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยและคงจะ
เปิดตัวพันธมิตรใหม่หลังจากข้อมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยพันธมิตร
ใหม่ที่เข้ามาจะช่วยเสริมธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ทางบริษัทกำลังจะเปิดภายในปีนี้
อีก 1 โครงการลักษณะโครงการคล้ายกับเมโทรโปรลิส ราชดำริ
เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ถามผมว่ามีความเป็นไปที่จะ
รวมกับเมเจอร์รึเปล่าผมก็ตอบปฏิเสธไป แต่เค้าถามกลับมาอีกว่าเปอร์เซ็นต์เดียวก็
ไม่มีความเป็นไปได้เลยเหรอ ผมก็ว่า
อาจเป็นไปได้ในอนาคตข้างหน้าอีก 5-10 ปีอาจจะมานั่งคุยกันเรื่องนี้ก็ได้
แต่ตอนนี้คือไม่มีทางเป็นไปได้เลย และพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาต้องเสริมธุรกิจเอน
เตอร์เทนเมนต์ของบริษัททุกด้านไม่ใช่เสริมเฉพาะธุรกิจโรงภาพยนตร์ ตอนนี้ผมไม่
สามารถให้รายละเอียดอะไรได้มากต้องรอหลังประชุมผู้ถือหุ้นจึงจะแถลงข่าวเปิดตัว
พันธมิตรและโครงการใหม่ที่ลงทุนร่วมกันนายวิชัยกล่าวในที่สุด--จบ--
-
- Verified User
- โพสต์: 329
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 7
นามสกุลเดียวกัน เป็นเครือญาติกันค่ะ
เป็นลูกของพี่ชาย กับลูกของน้องชายค่ะ จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรอยู่สายใดบ้าง แต่มีสองสายใหญ่ ที่ทำธุรกิจโรงหนัง และ 1 สาย ทำอสังหาริมทรัพย์ค่ะ
แค่ธุรกิจหลักนะคะ
เป็นลูกของพี่ชาย กับลูกของน้องชายค่ะ จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรอยู่สายใดบ้าง แต่มีสองสายใหญ่ ที่ทำธุรกิจโรงหนัง และ 1 สาย ทำอสังหาริมทรัพย์ค่ะ
แค่ธุรกิจหลักนะคะ

- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1495
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 10
เมื่อวาน ลิ่งแรกของผมครับ ตั้งแต่เข้าตลาดมา major-w1
งงและงง ตั้งแต่เมื่อวาน ว่ามีข่าวอะไร ทำไมขึ้นแรงจัง
เมื่อเช้า เลย ขึ้น H เลย มีการควบรวมกันนี้เอง
มีคนเล่น inside แน่นอนครับ ไม่รู้ฝ่ายไหนครับ แย่มากขอสนับสนุนครับ
งงและงง ตั้งแต่เมื่อวาน ว่ามีข่าวอะไร ทำไมขึ้นแรงจัง
เมื่อเช้า เลย ขึ้น H เลย มีการควบรวมกันนี้เอง
มีคนเล่น inside แน่นอนครับ ไม่รู้ฝ่ายไหนครับ แย่มากขอสนับสนุนครับ

“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 11
แล้วหากค่าตั๋วขึ้น แล้วคนดูจะน้อยลงไหมเนี่ย(ตาม supply demand)
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 12
ดูโทรทัศน์ เค้าบอกว่ารวมกันแล้วจะมีมาร์เก็ตแชร์ 80%
เค้าจะทำให้แบ่งระดับโรงหนัง ตามระดับรายได้คน และแบ่งหนังฉาย ทำให้ได้ดูหนังนานขึ้น ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง จะทำให้ราคาลดลงบ้าง
ผมว่าไม่ลดหรอก ดีซะอีก แล้วเห็นว่าจะขยายไปลงทุนในต่างประเทศด้วยนะ
เป็นธุรกิจที่น่าสนเหมือนกัน แม้ว่าวีซีดีจะเป็นทางเลือกที่ทดแทนกันได้ก็ตาม ก็ต้องมองดูไปอีกสักสองสามไตรมาส
เค้าจะทำให้แบ่งระดับโรงหนัง ตามระดับรายได้คน และแบ่งหนังฉาย ทำให้ได้ดูหนังนานขึ้น ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง จะทำให้ราคาลดลงบ้าง
ผมว่าไม่ลดหรอก ดีซะอีก แล้วเห็นว่าจะขยายไปลงทุนในต่างประเทศด้วยนะ
เป็นธุรกิจที่น่าสนเหมือนกัน แม้ว่าวีซีดีจะเป็นทางเลือกที่ทดแทนกันได้ก็ตาม ก็ต้องมองดูไปอีกสักสองสามไตรมาส
Expecto Patronum!!!!!!
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 13
ใช่เลยๆ รื่อง VCD เนี่ยเห็นด้วยเลยตอนนี้หนังเร่องไหนไม่ดึงดูดจริงๆ หรือว่าไม่มีคนชวนไปดูจริงๆก็ไม่ค่อยอยากไปแล้วเพราะมันแพง ดู VCD ดีกว่ารอนานนิดนึงเอง(เช่าเอา) แต่ว่าคุณ HARRY ไปดู HARRY PORTER ยังครับ ถ้าท่านใดดูแล้วช่วยแนะนำหน่อยครับว่าน่าดูหรือเปล่า จะได้ไปดูกับเพื่อนๆ
-
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 15
ยังดู vcd อีกเหรอเค้าดู dvd กันแล้วนะ ซื้อทีวีจอ wide และ ชุดโฮม รวมแล้ว
แสนกว่าบาทเองไม่แพ้โรงหนัง
แสนกว่าบาทเองไม่แพ้โรงหนัง
-
- ผู้ติดตาม: 0
บอร์ด MAJOR ไฟเขียวซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EGV
โพสต์ที่ 17
หลังจากที่ บ.อีจีวีได้เข้ามาระดมทุนในตลาดมาประมาณ 1 ปีก็ยังมีหนี้เพิ่มขึ้นจนอยู่ราว 1200 ล้านบาทในปัจจุบัน (d/e ราว 2 กว่าๆ)
ภายหลังจากที่เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับกลุ่ม SHIN ไม่สำเร็จจึงมาตกลงควบรวมกิจการกับเมเจอร์ทั้งที่ผู้บริหารให้ข่าวปฏิเสธออกมาตลอด
พี่ๆคิดว่าบริษัทนี้น่าร่วมลงทุนด้วยรึเปล่าครับ
ข้อมูล Company HighLight จากเวบ SET ครับ
2004 2003
31/03/2004 30/06/2003
Assets 1,954.82 1,477.54
Liabilities 1,380.61 950.88
Equity 564.00 524.04
Paid-up Capital 260.00 260.00
Revenue 873.83 1,011.70
Net Profit 52.96 29.24
EPS(Baht) 0.20 0.15
ROA(%)* - 5.88
ROE(%)* - 5.58
Net Profit Margin(%) 6.06 2.89
As of 10/06/2004 31/12/2003
P/E 25.87 73.39
P/BV 3.18 5.69
Dvd. Yield(%) 0.72 0.43
Last Price(Baht) 6.90 11.60
Market Cap. 1,794.00 3,016.00
ภายหลังจากที่เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับกลุ่ม SHIN ไม่สำเร็จจึงมาตกลงควบรวมกิจการกับเมเจอร์ทั้งที่ผู้บริหารให้ข่าวปฏิเสธออกมาตลอด
พี่ๆคิดว่าบริษัทนี้น่าร่วมลงทุนด้วยรึเปล่าครับ

ข้อมูล Company HighLight จากเวบ SET ครับ
2004 2003
31/03/2004 30/06/2003
Assets 1,954.82 1,477.54
Liabilities 1,380.61 950.88
Equity 564.00 524.04
Paid-up Capital 260.00 260.00
Revenue 873.83 1,011.70
Net Profit 52.96 29.24
EPS(Baht) 0.20 0.15
ROA(%)* - 5.88
ROE(%)* - 5.58
Net Profit Margin(%) 6.06 2.89
As of 10/06/2004 31/12/2003
P/E 25.87 73.39
P/BV 3.18 5.69
Dvd. Yield(%) 0.72 0.43
Last Price(Baht) 6.90 11.60
Market Cap. 1,794.00 3,016.00