หน้า 1 จากทั้งหมด 2
มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 13, 2011 5:51 pm
โดย mwasan
ผมเป็นคนๆหนึ่งที่พึ่งเข้าตลาดมาอีกครังมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมมีแรงบันดาลใจมาจากเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนมาด้วยกัน ซึ่งตอนนี้เพื่อนผมคนนี้ ลาออกจากงานกลับไปอยู่บ้านนอกด้วยเงิน 8 หลัก โดยมีเงินเงินปันผลปีหนึ่งเกือบล้านบาท โดยมีเงินต้นแค่สองแสนเท่านั้น
มันเตือนผมก่อนที่ผมจะไปเปิดพอร์ทอีกครั้งว่า ตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้หอมหวานอย่างที่คิดนะ ช่วงเวลามันไม่เหมือนเดิมแล้ว และให้ข้อแนะนำ หลัก 3 ข้อ คือ
1. บริษัทจะเติบโตอย่างไร อันนี้สำคัญอันดับแรกที่ควรดู และต้องมองให้ออกว่ามันเป็นเพราะอะไรถึงเป็นอย่างนั้น แล้วประเมินราคาว่ามันสมควรจะเป็นเท่าไหร่
2. ธรรมาภิบาลของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อันนี้ เป็นก็สำคัญไม่แพ้กัน
3. ตั้งกรอบระยะเวลาการลงทุนให้เหมาะกับหุ้น ไม่ต้องไปขวานขวยไปเรียนเทคนิคหรืออะไรทั้งนั้น
ที่จริงแล้วผมเคยเข้าตลาดมาแล้วรอบหนึ่งครับ แต่ออกไปเพราะขาดทุน แต่ไม่มากครับ ครั้งนี้ผมกลับมาด้วยความหวังว่าผมจะเป็นเหมือนเพื่อนผมคนนั้นให้ได้ ผมหาหนังสือมาอ่านเกี่ยวกับการลงทุนหมดไปหลายพัน ทั้งเกี่ยวกับพื้นฐานและเทคนิค และอ่านเวบบอร์ดที่เกียวกับหุ้น
ผมตัดสินใจชื้อหุ้นโดยที่เป็นครั้งแรกที่ชื้อหุ้นแบบมีหลักมีการ
ตัวแรกคือ JAS ครับ ด้วยเหตุผลที่ว่ายังไงบอร์ดแบนด์ไม่มีทางที่จะถูกแทนที่ด้วย 3G ในเรื่องความมีเสถียรภาพของสัญญาณ เพราะยังไม่มีฮาร์ดแวร์และชอฟแวร์ใดที่ดีพอในตอนนี้ และอีก1-2 ปีข้างหน้า
โดยอิงจาก Cisco System ผมทำงาน OEM ของ Cisco System ครับ จึงพอแน่ใจได้ และเหตผลต่างๆนาๆ ในร้อยคนร้อยหุ้น
ผลคือ ตอนนี้ขาดทุนเกือบ 20% พึงรู้ซึ้งที่เพือนผม เตือนในข้อ 2 ครับ อันนี้ไม่โทษใครครับ เพราะไม่ได้นึกถึงการเติบโตของคู่แข่ง อาจจะเป็นเหตุผลที่เขาขายออกไป
ตัวที่สองคือ HEMRAJ ครับ อันนี้ ลงทุนไปดูนิคมด้วยตัวเอง และเหตผลต่างๆนาๆ ในร้อยคนร้อยหุ้น
ผลคือ ตอนนี้ขาดทุนเกือบ 5%
ตัวที่สามคือ AJ ครับ อันนี้ ผมดู กำไรและยอดขายจากไตรมาสที่ผ่านมาของปีนี้ เป็นหลัก และเหตผลต่างๆนาๆ ในร้อยคนร้อยหุ้น
ผลคือ ตอนนี้ขาดทุนเกือบ 10%
ผมกลับมามองตังเองอีกคร้งว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการลงทุนของผม พอร์ทรวมผมมันขาดทุ่นร่วม 10% แล้ว ทั้งๆที่วิเคราะห์แล้วหรือมันยังไม่ดีพอ หรือในร้อยคนร้อยหุ้นมันเชื่อถือไม่ได้ พี่ๆที่มีประสบการณ์ช่วยวิเคราะห์ได้ไหมครับ เพราะเมื่อก่อนผมเล่นเทคนิค แค่ 5% ผมก็คัทแล้ว
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 13, 2011 6:15 pm
โดย ส.สลึง
ผมมีภาพการลงทุนของผมอยู่ภาพนึง
เป็นภาพเล็ก
ภาพเล็กมันบอกถึงภาวะ หรืออนาคตของกิจการ
ส่วนอีกภาพนึง เป็นภาพใหญ่
เป็นภาพภาวะตลาด
ที่จะบอกอนาคตหรือเปล่า ผมไม่ทราบได้
เพราะผมดูไม่เป็น
แต่มักจะเอามา recheck จากภาพแรก
เช่น หุ้นส่วนใหญ่ราคาลดลงหรือไม่
หรือหุ้นที่เราสนใจราคาลงอยู่ตัวเดียว
ในทำนองกลับกันหุ้นส่วนใหญ่ขึ้นกันหรือไม่
หรือหุ้นที่เราสนใจขึ้นอยู่ตัวเดียว
ทีนี้กลับมาดูภาพของตัวเอง
ว่าที่เรากำลังให้ความสำคัญเป็นภาพเล็ก
หรือว่าภาพใหญ่
กำไรของบริษัท หรือว่ากำไรจากราคาหุ้น
เป็นต้น
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 13, 2011 6:58 pm
โดย harikung
โทดนะครับ ที่บอกว่าขาดทุนJASแล้วนึกถึงที่เพื่อนคุณเตือนข้อสองเกี่ยวกับธรรมาภิบาลของผถห.ใหญ่ ไม่ทราบว่าเค้าผิดด้วยเหรอครับที่ขายหุ้นออกมา แล้วที่บอกไม่โทษใครนี่จริงเหรอครับ ทำไมผมอ่านแล้วก้อยังไปลงที่เซียนที่เค้านายอยู่ดี ผมว่าลองทบทวนตัวเองก่อนมั้ยครับว่าพลาดพไร เชน โลภไปซื้อตามเซียน หรือเพราะเชื่อบทวิเคราะห์โบรก หรือ...
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 13, 2011 7:59 pm
โดย นพพร
harikung เขียน:โทดนะครับ ที่บอกว่าขาดทุนJASแล้วนึกถึงที่เพื่อนคุณเตือนข้อสองเกี่ยวกับธรรมาภิบาลของผถห.ใหญ่ ไม่ทราบว่าเค้าผิดด้วยเหรอครับที่ขายหุ้นออกมา แล้วที่บอกไม่โทษใครนี่จริงเหรอครับ ทำไมผมอ่านแล้วก้อยังไปลงที่เซียนที่เค้านายอยู่ดี ผมว่าลองทบทวนตัวเองก่อนมั้ยครับว่าพลาดพไร เชน โลภไปซื้อตามเซียน หรือเพราะเชื่อบทวิเคราะห์โบรก หรือ...
จขกท. เขาอธิบายเหตุผลที่เขาซื้อไปแล้วครับ ในกระทู้ข้างบน เพียงแต่เขาอาจจะไม่ได้ประเมินว่าราคาอยู่ที่เท่าไหร่จึงเข้าซื้อในช่วงที่ราคาสูง อันนี้ไม่แน่ใจ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ จขกท.นะครับ อย่าไปคิดเป็นอย่างเขาครับ เราเป็นเต่าเราก็ต้องเดินอย่างเต่า จะให้บินก็คงไม่ได้ เป็นอย่างที่เราเป็นดีที่สุด การลงทุนคือลงทุนเพื่อชีวิตเราอย่าไปเปรียบเทียบว่าอยากเป็นอยากได้อย่างเขา เอาเขาไว้เป็นแรงบันดาลใจพอครับ แต่เวลาที่ลงทุนให้แข่งกับวินัยของตนเอง
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 13, 2011 8:44 pm
โดย viหัดคลาน
ข้อผิดพลาดในกรณีของคุณ มีสองข้อครับ
1. ข้อมูล การหาข้อมูลในร้อยหุ้น ไม่ได้หมายความว่าไม่ดี แต่ในนั้นคือความเห็นของแต่ละคนย่อมมี จริงและไม่จริง อคติและไม่อคติ การหาข้อมูลเพียงในร้อยหุ้น ย่อมไม่เพียงพอ ควรหามากกว่านี้ การอ่านรายงานประจำปี ,56-1, visit company รวมถึงข้อมูลจากหนังสืิอพิมพ์ ข่าวทั่วไป ล้วนแล้วแต่ทำให้การตัดสินใจเราถูกต้องมากขึ้นครับ
2. ราคาหุ้น หุ้นที่คุณซื้อไม่ใช่ไม่ดีครับ แต่ราคาที่คุณซื้อแพงเกินไปหรือไม่ คุณต้องดูด้วยครับ รถคัมรี่ไฮบริด ถ้ามีคนมาขายคุณสามล้านบาทคุณคงไม่ซื้อเพราะคุณรู้ว่าราคาจริงไม่เิกนสองล้านบาท นั้นหมายถึงว่าราคาที่เขามาขายแพงเกินมูลค่ามัน คุณถึงไม่ซื้อ ดังนั้นก่อนการซื้อหุ้นทุกครั้ง คุณต้องมีราคาที่เหมาะสมในใจเสมอครับ บัฟเฟตต์กล่าวว่า หุ้นที่คุณภาพสุดยอด แต่ราคาแพงเกินจริง เขาก็ไม่ซื้อเช่นกันครับ
ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 13, 2011 8:45 pm
โดย tawich
สงสัยซื้อ-ขายผิดเวลามังครับ บางทีบริษัทอาจจะดีจริงแต่เราใจร้อน ที่ยากสุดคือราคาที่เหมาะสมอ่านมาหลายรอบแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ตอนนี้อาศัยความรู้สึกเอา บางทีก็พลาดคิดว่าราคาแพงไปไม่ยอมซื้อแต่ปรากฎว่าขึ้นเอาๆ บางตัวคิดว่าหน้าจะขึ้นอีก แต่ดันไม่ขึ้นแถมยังมีลดลงอีก เป็นกำลังใจให้ครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 13, 2011 8:56 pm
โดย o-bo-ja-ma
แบบนี้นะครับ โดยปกติข้อมูลใน 100 คน ร้อยหุ้น ไม่ใช่ข้อมูลที่ผิด แต่บางส่วนต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง จากที่ผมอ่านมา คุณเข้าไปในหุ้นร้อนแรงทั้งนั้นเลย เพราะฉะนั้นการเข้าไปในหุ้นนั้นๆ เราต้องเข้าใจไม่เพียงแต่กิจการเท่านั้นครับ แต่ยังต้องเข้าใจทั้ง (แหมจริงๆพูดในนี้เขาจะแบนผมมั้ยนี่) ธรรมชาติ แรงโลภและแรงกลัว ผมยืมจากเฮียคลายเครียดนะครับ เพราะบางครั้งในตลาดหลักทรัพย์นั้นเราอาจได้ยินบ่อยๆ ว่า ถือตราบเม่าที่ หุ้นนั้นจะปลดปล่อย คุณค่าออกมา ซึ่งบางครั้งหุ้นที่ร้อนแรงพวกนั้นอาจ เน้นว่าอาจจะ ปลดปล่อยคุณค่าออกมา บวกกับอารมณ์ในตลาดสัมทับเข้าไปด้วย เวลาคุณอ่านจึงเคลิ้มไปกับข้อมูลที่ได้อ่านได้ฟังมา ฉะนั้นถ้าถามผมว่าคุณซื้ออะไรผิดไปหรือ ผมก็บอกว่าคุณซื้อไม่ผิดตัวหรอก แต่เวลาผมไม่แน่ใจ เหมือนกับที่เขาบอกว่าหุ้นที่ราคาเท่านั้นเท่านี้รับข่าว หรือรับผลประกอบการในอนาคตไปเกือบหมดหรือจนหมดแล้ว ทำให้ราคาที่เราซื้อ mosน้อยกว่าคนอื่น หรือน้อยจนกว่าที่จะคุ้มกับความเสี่ยงที่เราจะเข้าไปรับหุ้นเป็นคนต่อไป แล้วตอนนี้คุณคิดว่าราคาที่คุณขาดทุนใครจะรับไม้ต่อจากคุณ เพราะคนที่รับต่อเขาต้องคิดว่าได้กำไร คือหุ้นขึ้นใช่ไหมครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 13, 2011 10:19 pm
โดย ส.สลึง
mwasan เขียน:...
ผมตัดสินใจชื้อหุ้นโดยที่เป็นครั้งแรกที่ชื้อหุ้นแบบมีหลักมีการ
...
ผมกลับมามองตังเองอีกคร้งว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการลงทุนของผม พอร์ทรวมผมมันขาดทุ่นร่วม 10% แล้ว ทั้งๆที่วิเคราะห์แล้วหรือมันยังไม่ดีพอ หรือในร้อยคนร้อยหุ้นมันเชื่อถือไม่ได้ พี่ๆที่มีประสบการณ์ช่วยวิเคราะห์ได้ไหมครับ เพราะเมื่อก่อนผมเล่นเทคนิค แค่ 5% ผมก็คัทแล้ว
การเข้าใจธุรกิจ ไม่ได้หมายความว่า...
ซื้อหุ้นแล้วราคาหุ้นต้องขึ้น
ในมุมกลับ ซื้อหุ้นแล้วราคาลง
ผมก็เจอบ่อยๆ
ตกลงเราซื้อหุ้นเพราะอะไร ?
แล้วหลักการที่ว่า
ซื้อหุ้นอย่างมีหลักการ
หลักการที่ว่า คือหลักอะไร ?
ถ้าเป็น VI
แล้ว Margin of Safety ล่ะ
ดูบ้างหรือเปล่า ?
ซึ่ง...
ผมไม่ได้หมายความว่าคุณผิด
ความคิดของพี่อาจจะถูกก็ได้
ส่วนหุ้นที่พี่ว่ามา ผมไม่มีสักตัว
สำหรับผมแล้ว
การลงทุนคือการวิ่งมาราธอนครับ
ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร
ซื้อวันนี้ เดือนหน้ารู้ผล
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 14, 2011 12:49 am
โดย Jeng
มาให้กำลังใจครับ
และก็เป็นบทเรียน ราคาไม่แพงหรอก
คุณยังไม่กำไรอย่างที่ อยากได้
ต้องฝึกต่อไปครับ
ข้อสังเกตุ ถ้าในร้อยคนร้อยหุ้น บอกว่า ดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ แสดงว่ามีคนมาถือหุ้นตัวนั้นเยอะแล้ว
และราคาก็น่าจะขึ้นมาเยอะแล้วเช่นกัน
ซื้อแล้วอบอุ่นเพื่อนเยอะ แต่หุ้นก็ขึ้นได้ลงได้
ถ้าคุณศึกษาแล้ว ไม่ค่อยมีคนมาเขียนอะไร แสดงว่า คนยังไม่ได้ถือ
คุณยังใหม่ อาจจะยังไม่กล้าซื้อ
แต่คนที่เก่งๆกันแล้ว เขาจะสร้างหลักการของตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ทำให้เมื่อเจอหุ้นที่ดี
ราคาถูก เขาก็กล้าซื้อครับ
ต่อมามีคนมาเห็นว่า เออ หุ้นตัวนี้ดีนะ ก็เข้าซื้ออีก ทำให้ราคาขึ้น คุณก็กำไรนะ
สรุป หุ้นที่คุณซื้อนั้น มีคนอื่นได้กำไรครับ แต่คุณขาดทุน ณ เวลานี้
ก็ต้องรีบทำการบ้านต่อ ในแต่ละตัว ว่าคุณซื้อเพราะอะไร และซื้อราคานั้นๆ เพราะอะไร
ถ้าหุ้นที่คุณซื้อแล้วคิดว่าดีจริง โตจริง ปีหน้า ภาษีลดอีก
ราคาลงเยอะๆ คุณก็ซื้อเพิ่มก็ได้ครับ
เหมือนเราเล่น ไพ่ ป๊อกเด้ง
แทง 100 เสีย ตาต่อไปแทง 200 เสียอีก ตาต่อไปแทง 400
ได้ตาเดียวเลิก
ก็กำไร
หากหุ้นที่เราซื้อแล้ว มันลง ถ้าดีจริงนะ ซื้อแล้วมันลง ก็ซื้อเพิ่มครับ ถ้าไม่มีเงิน ก็ถือครับ
อย่ากลับไปขาดทุน
คำว่า cut loss ก็ใช้ได้ ถ้าหุ้นตัวนั้นๆ เราซื้อมาแพงมาก คือว่า ตอนซื้อไม่ได้ดูอะไรเลย แค่คนบอกว่าดี ก็ซื้อแล้ว ราคายังมีทางลงอีกเยอะ ก็อาจจะ cut loss ได้นะครับ
แต่ถ้าเราแม่นเรื่องราคา และเลือกหุ้นที่คิดว่ากิจการดีมากๆแล้ว ซื้อแล้วราคาก็ขึ้นได้ลงได้
ถ้าราคาลง เน้นย้ำว่า เราซื้อเพิ่มได้ครับ
ในที่สุด ราคาหุ้นก็จะกลับมาที่พื้นฐานครับ
แต่คุณจะรอไหวหรือเปล่าแค่นั้นเอง สมัยก่อน ตอน subprime bigc ก็ลงเยอะ ใครถือมาตอนนี้ก็กำไรกันเยอะครับ
แต่จะไม่ถือกันซิ พอทนไม่ไหว cut loss ก็ loss จริงๆหละทีนี้ พอปีหน้า ภาษีลด ตลาดหุ้นวิ่งขึ้น เรากลับต้องไปซื้อแพงอีก
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 14, 2011 8:43 am
โดย torpongpak
ส.สลึง เขียน:ผมมีภาพการลงทุนของผมอยู่ภาพนึง
เป็นภาพเล็ก
ภาพเล็กมันบอกถึงภาวะ หรืออนาคตของกิจการ
ส่วนอีกภาพนึง เป็นภาพใหญ่
เป็นภาพภาวะตลาด
ที่จะบอกอนาคตหรือเปล่า ผมไม่ทราบได้
เพราะผมดูไม่เป็น
แต่มักจะเอามา recheck จากภาพแรก
เช่น หุ้นส่วนใหญ่ราคาลดลงหรือไม่
หรือหุ้นที่เราสนใจราคาลงอยู่ตัวเดียว
ในทำนองกลับกันหุ้นส่วนใหญ่ขึ้นกันหรือไม่
หรือหุ้นที่เราสนใจขึ้นอยู่ตัวเดียว
ทีนี้กลับมาดูภาพของตัวเอง
ว่าที่เรากำลังให้ความสำคัญเป็นภาพเล็ก
หรือว่าภาพใหญ่
กำไรของบริษัท หรือว่ากำไรจากราคาหุ้น
เป็นต้น
ขอCopyเก็บไว้เเละนำไปpostให้กำลังใจในห้องSportนะครับพี่ ส.สลึง
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2011 4:22 pm
โดย WCDMA
ผมเชื่อว่าหลายๆพรอต์คงมีมูลค่าลดลง ถ้าเทียบเดือนสิงหากับเดือนนี้
แต่กิจการที่เราที่เราซื้อลงทุนนั้น อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยก็ได้ครับ
ราคาที่เราซื้ออาจจะมี MOS น้อย หรือถ้าตอนซื้อวิเคราะห์แล้วว่าก็มีเยอะแล้ว
เราอาจจะไม่ได้โชคดีซื้อตอนที่ราคามันต่ำที่สุดก็ได้
เข้าใจกิจการอย่างแท้จริงจะทำให้หมดกังวลเกี่ยวกับราคา (แต่แน่นอนก็มีหวั่นไหวให้เศร้าใจกันบ้างเป็นปกติ ... รู้งี้..)
เทคโนโลยีวิเคราะห์แล้วมาทดแทนกันไม่ได้ แต่ก็อาจจะแย่งส่วนแบ่งการตลาดได้
ซึ่งอาจจะทำให้บริษัทไม่เติบโตดีอย่างที่คาดไว้ครับ
เอาใจช่วยครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2011 6:24 pm
โดย ดำ
ปัญหาคือ ตอนซื้อมองแต่ upside ไม่ได้มอง downside
ไม่รู้เดาถูกป่าว
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2011 7:56 pm
โดย thaloengsak
ถึงผมจะยังไม่เก่ง
แต่จะขอเป็นกำลังใจให้
วงการนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ
ทุกสิ่งทุกอย่าง อยากได้ต้องรู้จักขวนขวายหาความรู้เอา
อย่ามัวมองหาสูตรลับสู่ความสำเร็จ
อย่าท้อแท้ท้อถอย ทุกๆความผิดพลาดเป็นยาวิเศษ มันจะสอนเรา ถ้าเราตั้งใจฟัง
ค้นหาแนวทางการลงทุนที่ใช่ในแบบของเรา แบบที่เหมาะสมกับตัวเราไม่ใช่ใครอื่น
ว่างๆนึกอะไรออกจะมาเล่าให้ฟัง
มีอะไรก็คุยกันได้ ผมยินดี ยกเว้นเรื่อง...ขอหวย กับ ยืมเงิน
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 2:43 am
โดย chitadisai
อย่าพึ่งท้อครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 9:56 am
โดย Paul Octopus
น้องจะเชื่อรึเปล่าไม่รู้นะ
การลงทุนในหุ้นยากกว่าลงมือทำธุรกิจของตัวเองจริงๆซะอีก
ถ้าเชื่อตามนี้ จะทำให้เราปรับเปลี่ยนแนวคิดในการลงทุนในหุ้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เช่นหุ้นที่น้องถือทั้งหมดอาจจะไม่ใช่เลย (ยกตัวอย่างนะครับ)
ข้อดีของการลงทุนในหุ้นเหนือการทำธุรกิจเองคือว่า เมื่อเรามี Knowledge มากขึ้นความเหนื่อยของเราจะน้อยลง ตรงข้ามกับทำธุรกิจของตัวเอง ยิ่งรู้มากอาจจะยิ่งเหนื่อยมากเพราะบริษัทของเราเติบโตไปมาก พนักงานเติบโตขึ้น ปัญหามากขึ้น
สังเกตุนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ (พี่ว่าเอา ปู่ บัฟเฟตนี่แหละ) จะมีความสุขมากในการดำเนินชีวิต เช่น ปู่บัฟเฟตจะเครียดน้อยกว่า Steve Job นะ
เมื่อไหร่ก็ตามที่ลงทุนในหุ้นแล้วมีความสุขมากขึ้นตามลำดับ การขึ้นและลงของราคาตลาดหลักทรัพย์มีผลต่อความรู้สึกเราน้อยลงๆ นั้นแสดงว่าเราน่าจะมาถูกทาง
ไม่รู้ว่าอ่านแล้วจะเข้าใจรึเปล่านะ แต่ตั้งใจเขียน
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 1:04 pm
โดย noooon010
ชอบข้อความที่คุณ ส.สลึง post จังครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านนะครับผม
มีสติ มีความสุข และสนุกไปกับการลงทุนนะครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 9:37 pm
โดย ^^
มือใหม่ ผมแนะนำว่าให้ซื้อหุ้นที่มีกำไรในแต่ละปีสม่ำเสมอ ไม่โตเว่อร์ หรือผันผวนจนเกินไป พอเริ่มดูจนชินตา ค่อยไปลองคาดการณ์ หุ้นที่จะโตและกำไรไม่นิ่งอีกที
เพราะอย่างน้อยคุณได้เงินปันผล ที่เหลือถ้ามันวิ่งต่อหรือโตเกินคาดการณ์มันก็คือโบนัสของคุณ
ไม่เช่นนั้นคุณจะไปเจอกับดักอนาคตที่คาดหวังกับความจริงที่เกิดขึ้นในหุ้นนั้น
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 19, 2011 7:07 pm
โดย whirl wind
ข้อคิดดีๆ เยอะเลย ขอนำไปใช้ครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 12:24 am
โดย birthboro
ผมกลับมามองตังเองอีกคร้งว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการลงทุนของผม พอร์ทรวมผมมันขาดทุ่นร่วม 10% แล้ว ทั้งๆที่วิเคราะห์แล้วหรือมันยังไม่ดีพอ หรือในร้อยคนร้อยหุ้นมันเชื่อถือไม่ได้ พี่ๆที่มีประสบการณ์ช่วยวิเคราะห์ได้ไหมครับ เพราะเมื่อก่อนผมเล่นเทคนิค แค่ 5% ผมก็คัทแล้ว
ลองนึกดูเล่นๆนะครับ........ ถ้ามันขึ้นไปสัก 10%
คุณจะว่าคุณคิดถูกไหมครับ....
อีกอย่าง.....คุณเชื่ออะไรในร้อยคนร้อยหุ้นหรือครับ ลองดูนะครับ ว่าอะไรเป็นความเห็นอะไรเป็นความจริง..... ความเห็นเป็นภาพมายาเชื่อไม่เชื่ออยู่ที่คนอ่านครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 2:34 pm
โดย Puckr!
ไม่เป็นไรครับพอร์ทรวมผม -18% ครับ ยังมีคนมึนเป็นเพื่อน
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 2:52 pm
โดย thaloengsak
Puckr! เขียน:ไม่เป็นไรครับพอร์ทรวมผม -18% ครับ ยังมีคนมึนเป็นเพื่อน
เป็นกำลังใจให้ครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 21, 2011 2:55 pm
โดย Puckr!
thaloengsak เขียน:Puckr! เขียน:ไม่เป็นไรครับพอร์ทรวมผม -18% ครับ ยังมีคนมึนเป็นเพื่อน
เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณครับ
เคยเห็นไอดีนี้แว๊บๆ ในกระทู้ตะแกรงร่อน คุณวิบูลย์
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 2:02 pm
โดย city_hunter
เป็นข้อคิดที่ดีอย่างนึงคับ จะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของเรา
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 11:03 am
โดย leksystem
^^ เขียน:มือใหม่ ผมแนะนำว่าให้ซื้อหุ้นที่มีกำไรในแต่ละปีสม่ำเสมอ ไม่โตเว่อร์ หรือผันผวนจนเกินไป พอเริ่มดูจนชินตา ค่อยไปลองคาดการณ์ หุ้นที่จะโตและกำไรไม่นิ่งอีกที
เพราะอย่างน้อยคุณได้เงินปันผล ที่เหลือถ้ามันวิ่งต่อหรือโตเกินคาดการณ์มันก็คือโบนัสของคุณ
ไม่เช่นนั้นคุณจะไปเจอกับดักอนาคตที่คาดหวังกับความจริงที่เกิดขึ้นในหุ้นนั้น
เมื่อวานผมก็เกือบขายหุ้นตัวที่เพิ่งซื้อเมื่อเดือนสิงหาคม
ตอนซื้อ ซื้อเพราะผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 2 ดีขึ้นมาก กะถือยาว
แต่เกือบจะขายเพราะราคาตกลงมา 10% แล้ว ไอ้ที่เค้าเรียกว่า Cut Loss หนะ
โชคดีที่ขายไม่ทัน ติดประชุมพอดี
กลับมานั่งอ่านกระทู้นี้ ปิ๊ง!!! หุ้นตัวนี้ก็มีปันผลนี้หน่า ประมาณ 5%
ถ้าขาย เราก็จะขาดทุน 10% ทันที ถือไปรอปันผลปีหน้าน่าจะดีกว่า
เริ่มเข้าใจแล้วว่า ต้องดูหุ้นเป็นตัวๆไป
ถ้าหุ้นตัวนั้น เราซื้อเพราะพื้นฐานของบริษัท ก็ควรจะขายถ้าพื้นฐานบริษัทไม่ดีอย่างที่คิดหรือไปเจอตัวอื่นที่ดีกว่า
แต่ถ้าเราซื้อเพราะเก็งกำไร กรณีที่ราคาหุ้นสูงกว่าราคาที่เหมาะสมตามพื้นฐานบริษัท ควรจะมีจุด cut loss เผื่อซื้อแล้วราคาตกลง
ดูจากรายชื่อหุ้นของจขกท. คงจะหวังกำไรสูงในระยะเวลาสั้นๆ เพราะมีทั้ง หุ้น turn around และหุ้นวัฏจักร
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 4:03 pm
โดย balloon308
มือใหม่มาเก็บเกี่ยวความรู้ครับ
พี่หลายท่านโพสแนะนำน้องๆดีมากครับ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ด้วยครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 4:19 pm
โดย torpongpak
อ่านเเล้วชอบครับ รู้เลยว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ถ้าเล่นหุ้นเเล้วได้เงินง่ายคงไม่มีใครอยากเปิดกิจการใหม่ คงมีคนลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นอย่างเดียวมากมาย
เเต่มีผมมีคำถามตรงที่quoteครับอ่านเเล้วไม่เข้าใจครับพี่Paul
Octopus
Paul Octopus เขียน:การลงทุนในหุ้นยากกว่าลงมือทำธุรกิจของตัวเองจริงๆซะอีก
ถ้าเชื่อตามนี้ จะทำให้เราปรับเปลี่ยนแนวคิดในการลงทุนในหุ้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เช่นหุ้นที่น้องถือทั้งหมดอาจจะไม่ใช่เลย (ยกตัวอย่างนะครับ)
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 30, 2011 12:33 am
โดย romee
พลาดตอนนี้ ยังพอเริ่มต้นใหม่ได้ทันเนอะ สู้ๆครับ
เป็นบทเรียนไว้ แล้วอย่าทำผิดซ้ำ หาความรู้เพิ่มต่อ
สักวันต้องถึงเป้าหมายสิเนอะ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 30, 2011 2:01 pm
โดย koon007
ผมว่าMOSสำคัญหุ้นส่วนใหญ่ ตอนนี้ค่าพีอีสูงไป
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 30, 2011 5:18 pm
โดย ส.สลึง
ผมคิดว่า...
พลาดตอนไหนก็เริ่มต้นใหม่ได้ครับ
ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องดีหรือ ไม่ดี
เรื่องดีไม่ดี เราคิดกันไปเองครับ
เราอยู่กับปัจจุบัน พลาดแล้วก็พลาดไป
ความผิดพลาดมันเดินมาเตือน
ให้เราระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่ใช่แค่เรื่องหุ้นครับ
Re: มันไม่ง่ายจริงๆครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 06, 2011 5:17 pm
โดย raiden
mwasan เขียน:ผมเป็นคนๆหนึ่งที่พึ่งเข้าตลาดมาอีกครังมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมมีแรงบันดาลใจมาจากเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนมาด้วยกัน ซึ่งตอนนี้เพื่อนผมคนนี้ ลาออกจากงานกลับไปอยู่บ้านนอกด้วยเงิน 8 หลัก โดยมีเงินเงินปันผลปีหนึ่งเกือบล้านบาท โดยมีเงินต้นแค่สองแสนเท่านั้น
มันเตือนผมก่อนที่ผมจะไปเปิดพอร์ทอีกครั้งว่า ตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้หอมหวานอย่างที่คิดนะ ช่วงเวลามันไม่เหมือนเดิมแล้ว และให้ข้อแนะนำ หลัก 3 ข้อ คือ
1. บริษัทจะเติบโตอย่างไร อันนี้สำคัญอันดับแรกที่ควรดู และต้องมองให้ออกว่ามันเป็นเพราะอะไรถึงเป็นอย่างนั้น แล้วประเมินราคาว่ามันสมควรจะเป็นเท่าไหร่
2. ธรรมาภิบาลของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อันนี้ เป็นก็สำคัญไม่แพ้กัน
3. ตั้งกรอบระยะเวลาการลงทุนให้เหมาะกับหุ้น ไม่ต้องไปขวานขวยไปเรียนเทคนิคหรืออะไรทั้งนั้น
ที่จริงแล้วผมเคยเข้าตลาดมาแล้วรอบหนึ่งครับ แต่ออกไปเพราะขาดทุน แต่ไม่มากครับ ครั้งนี้ผมกลับมาด้วยความหวังว่าผมจะเป็นเหมือนเพื่อนผมคนนั้นให้ได้ ผมหาหนังสือมาอ่านเกี่ยวกับการลงทุนหมดไปหลายพัน ทั้งเกี่ยวกับพื้นฐานและเทคนิค และอ่านเวบบอร์ดที่เกียวกับหุ้น
ผมตัดสินใจชื้อหุ้นโดยที่เป็นครั้งแรกที่ชื้อหุ้นแบบมีหลักมีการ
ตัวแรกคือ JAS ครับ ด้วยเหตุผลที่ว่ายังไงบอร์ดแบนด์ไม่มีทางที่จะถูกแทนที่ด้วย 3G ในเรื่องความมีเสถียรภาพของสัญญาณ เพราะยังไม่มีฮาร์ดแวร์และชอฟแวร์ใดที่ดีพอในตอนนี้ และอีก1-2 ปีข้างหน้า
โดยอิงจาก Cisco System ผมทำงาน OEM ของ Cisco System ครับ จึงพอแน่ใจได้ และเหตผลต่างๆนาๆ ในร้อยคนร้อยหุ้น
ผลคือ ตอนนี้ขาดทุนเกือบ 20% พึงรู้ซึ้งที่เพือนผม เตือนในข้อ 2 ครับ อันนี้ไม่โทษใครครับ เพราะไม่ได้นึกถึงการเติบโตของคู่แข่ง อาจจะเป็นเหตุผลที่เขาขายออกไป
ตัวที่สองคือ HEMRAJ ครับ อันนี้ ลงทุนไปดูนิคมด้วยตัวเอง และเหตผลต่างๆนาๆ ในร้อยคนร้อยหุ้น
ผลคือ ตอนนี้ขาดทุนเกือบ 5%
ตัวที่สามคือ AJ ครับ อันนี้ ผมดู กำไรและยอดขายจากไตรมาสที่ผ่านมาของปีนี้ เป็นหลัก และเหตผลต่างๆนาๆ ในร้อยคนร้อยหุ้น
ผลคือ ตอนนี้ขาดทุนเกือบ 10%
ผมกลับมามองตังเองอีกคร้งว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการลงทุนของผม พอร์ทรวมผมมันขาดทุ่นร่วม 10% แล้ว ทั้งๆที่วิเคราะห์แล้วหรือมันยังไม่ดีพอ หรือในร้อยคนร้อยหุ้นมันเชื่อถือไม่ได้ พี่ๆที่มีประสบการณ์ช่วยวิเคราะห์ได้ไหมครับ เพราะเมื่อก่อนผมเล่นเทคนิค แค่ 5% ผมก็คัทแล้ว
สนใจตรงนี้ครับ
ขอรบกวนถามหน่อยครับว่า
เพื่อนพี่คนนี้เขาลงทุนมากี่ปี ใส่เงินเข้าไปปีละเท่าไหร่
หรือ โดยเฉลี่ยเขาได้กำไรทบต้นกี่ % ครับ