หน้า 1 จากทั้งหมด 2
ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 7:21 pm
โดย little wing
โค้ด: เลือกทั้งหมด
โลกในมุมมองของ Value Investor 3 กันยายน 54
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผมเริ่มเป็นวิทยากรที่พูดเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้น__แบบเน้นคุณค่า หรือ Value Investment มานานนับสิบปีแล้ว สิ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ จำนวนคนที่สนใจเข้าฟังนั้น เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และแทบจะเรียกว่า “อัดแน่น” ในช่วงหลัง ๆ และแม้แต่ในช่วงปี 2551 หลังจากภาวะวิกฤติซับไพร์มในอเมริกาที่ทำให้ตลาดหุ้นตกลงมาอย่างหนัก คนฟังก็ไม่ได้ลดลงมาซักเท่าไร ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่เคยเป็นว่า เมื่อหุ้นขึ้นคนก็แห่กันมาฟังล้นห้อง แต่ในยามที่หุ้นตก ห้องสัมมนาก็แทบจะร้าง ปรากฏการณ์นี้ทำให้ผมคิดว่า สังคมของการลงทุนของคนไทยน่าจะกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างลึกซึ้ง และการเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มเกิดขึ้นหลังภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 หรือจะพูดให้ถูกต้องขึ้นไปอีกก็คือประมาณปี 2543 ที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและราคาหุ้นตกต่ำถึงพื้น อะไรคือการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้?
ประการแรกก็คือ คุณสมบัติของนักลงทุนหรือคนที่เข้ามาฟังการสัมมนา ก่อนปี 2540 นั้น คนที่ฟังการสัมมนาคือ “คนเล่นหุ้น” นี่คือกลุ่มคนที่กล้าเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย มักจะเป็นคนที่ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม ซึ่งแน่นอน โดยสัญชาติญาณของความเป็นพ่อค้าย่อมที่จะกล้าเสี่ยงมากกว่าคนกลุ่มอื่น กลุ่มต่อมาก็คือ แม่บ้านที่มีฐานะปานกลางที่มีเวลาว่างหรือไม่มีอะไรทำและเข้ามาเสี่ยงโชคในตลาดหุ้น บางคนก็อาจจะชอบเล่นการพนันอย่างอื่นเช่นเล่นไพ่กับขาประจำอยู่แล้ว นี่ก็เป็นกลุ่มที่ลงทุนด้วยเงินที่ไม่มากเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่มักจะเป็นผู้ชายที่เล่นหุ้นอย่างเอาจริงเอาจังมากกว่า กลุ่มที่สามก็คือ กลุ่มพนักงานตามสำนักงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทำงานในแวดวงการเงิน เช่นพนักงานของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์หรือพนักงานธนาคาร ที่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นดีกว่าคนทั่วไปและมีข้อมูลที่มากกว่า พวกเขาเล่นหุ้นเพราะเห็นโอกาส “ทำกำไรง่าย ๆ” ที่เขาพบเห็นในบางช่วงเวลา และสุดท้ายก็คือ “เซียน” หรือกลุ่ม “ขาใหญ่” ที่มีเม็ดเงินมากและมักจะทำการซื้อขายนำเพื่อ “ทำราคาหุ้น” บางคนก็ “ปั่นหุ้น” เพื่อทำกำไรมหาศาลในเวลาอันสั้น
นักลงทุนที่ผมเห็นในที่สัมมนาใน พ.ศ. นี้ ส่วนมากน่าจะเป็นคนทำงานกินเงินเดือนที่เป็นคนชั้นกลาง พวกเขากำลังอยู่ในวัยที่กำลังทำงานเก็บเงินเพื่ออนาคตและคิดว่าการลงทุนโดยเฉพาะในหุ้นนั้น เป็นหนทางที่ดีกว่าการฝากเงินหรือลงทุนอย่างอื่น พวกเขาไม่ใช่คน “ชอบความเสี่ยง” แบบผู้ประกอบการ แต่ก็พร้อมจะเสี่ยงด้วยเงินจำนวนหนึ่ง พวกเขาเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นเป็นสิ่งที่ “คุ้มค่ากับความเสี่ยง” และเขารับมันได้ การที่ได้เรียนรู้และจากประสบการณ์สั้น ๆ ที่ผ่านมาช่วยให้พวกเขามั่นใจและเข้ามาลงทุนในหุ้น ภาพของหุ้นที่เป็นตราสาร “เก็งกำไร” นั้นเปลี่ยนไป การลงทุนในหุ้นสำหรับคนจำนวนไม่น้อยนั้น เป็นการลงทุน “ทำธุรกิจ” พวกเขารู้และคิดว่าถ้าเราเป็น “VI” หรือเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่า พวกเขาน่าจะปลอดภัยและได้ผลตอบแทนที่ดีพอสมควร
กลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่อีกกลุ่มหนึ่งก็คือกลุ่มของเจ้าของกิจการที่มีฐานะร่ำรวยพอสมควร บางคนก็ร่ำรวยมากระดับเศรษฐีหรือมหาเศรษฐี ซึ่งก็รวมถึงลูกที่เรียนจบและเริ่มทำงานหรือทำงานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว คนกลุ่มนี้ ตั้งแต่ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 พวกเขา “รอด” มาได้ และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมากลับรุ่งเรืองและที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ มีเงินสดเหลือมากมาย พวกเขาต้องทนฝากเงินกินดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำมานาน ดังนั้น เมื่อเห็นราคาหุ้นในตลาดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ติดต่อกันมานานหลายปี เขาก็เริ่มเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น พวกเขาเริ่มเรียนรู้ว่าหุ้นก็คือธุรกิจเหมือนกับที่เขาทำอยู่ ซื้อหุ้นก็เหมือนซื้อธุรกิจ กำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้นของพวกเขาที่ผ่านมาไม่กี่ปีนั้น ดีและเร็วกว่าธุรกิจของตนเองมาก ดังนั้น ตลาดหุ้นสำหรับพวกเขาไม่ใช่ “แหล่งการพนัน” อีกต่อไป พวกเขาอาจจะเรียกและคิดว่าตนเองเป็น “VI” ไม่ได้ซื้อหุ้นมั่ว ๆ ไม่มีพื้นฐาน และนี่ก็คือกลุ่มนักลงทุนที่มีเม็ดเงินและศักยภาพมหาศาลที่สามารถขับเคลื่อนหุ้นโดยเฉพาะที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักได้
กลุ่มสุดท้ายก็แน่นอน ยังเป็นกลุ่มเดิม ๆ ที่เป็นแม่บ้าน และผู้ประกอบการรายย่อยจริง ๆ ที่ยังเน้นการเล่นหุ้นรายวันและมักจะอยู่ตามห้องค้า กลุ่มนี้ผมเห็นน้อยลงไปมากในห้องสัมมนา สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ พวกเขาหันมาเล่นหุ้น “VI” ตามการเล่นของคนกลุ่มอื่น ๆ ประเด็นที่สำคัญสำหรับกลุ่มนักลงทุนรุ่นดั้งเดิมก็คือกลุ่มนักลงทุนที่เรียกว่า “ขาใหญ่” นั้น ในยุคสมัยใหม่นี้ ขาใหญ่จำนวนมากได้ “ล้มหายตายจาก” ไป แต่ที่ยังอยู่และยังร่ำรวยเหมือนเดิมหรือรวยยิ่งขึ้นนั้น ส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนแปลงไป หลายคนกลายเป็น “VI เต็มตัว” หลายคนแม้ว่ายังชอบที่จะ “เล่นเร็วและไล่ราคา” แต่การทำอย่างนั้นก็มักจะทำกับหุ้นที่เป็น “VI” พวกเขายอมรับว่า VI นั้น เป็น “กระแส” ที่ไม่สามารถจะฝืนได้ การเล่นหุ้นหรือทำราคาหุ้นโดย “ไม่มีเหตุผล” ทางด้านพื้นฐานมาสนับสนุนนั้นจะสำเร็จได้ยาก
ถ้าจะพูดว่า “ถนนทุกสายมุ่งสู่ VI” ก็ไม่น่าจะเกินความเป็นจริง และนั่นทำให้หุ้น “VI” ค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ หุ้นเหล่านี้มักเป็นหุ้นตัวเล็กหรืออย่างมากก็ระดับกลางค่อนไปทางเล็ก แต่เนื่องจากเม็ดเงินที่เข้ามาเล่นหรือซื้อหุ้นเหล่านี้ไม่ได้เล็ก นักลงทุนบางคนหรือบางกลุ่มนั้นมีพอร์ตการลงทุนที่สามารถซื้อหุ้นได้ทั้งบริษัทอย่างง่าย ๆ ดังนั้น หุ้น “VI” จำนวนมากจึงปรับตัวขึ้น ตัวแรกปรับขึ้นไปจนราคาขึ้นไปสูง อาจจะ “เต็มมูลค่า” จึงถูกขายไป เม็ดเงินที่ได้กำไรจากการขายหุ้นของ VI ที่ “มาก่อน” ก็เข้าไปซื้อหุ้น “VI” ตัวใหม่ ทำให้ราคาหุ้นตัวใหม่ปรับขึ้นไป สิ่งนี้ชักจูงให้เม็ดเงินใหม่จากนักลงทุนรายใหม่เข้ามาซื้อ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปอีก ในไม่ช้า หุ้น “VI” ในตลาดก็เริ่มแพงขึ้นเรื่อย ๆ จนหมดสภาพเป็นหุ้น “VI” กระบวนการทั้งหมดนั้น แทบไม่ได้เกี่ยวข้องกับดัชนีตลาดเท่าไรนัก เพราะหุ้นตัวใหญ่ ๆ ที่ชี้นำดัชนีได้จริง ๆ นั้น ไม่ได้อยู่ในสายตาของเหล่านักลงทุนที่เป็น “VI” เลย ดังนั้น ผลตอบแทนที่ทำได้ของนักลงทุน VI บางคนจึงสูงกว่าดัชนีมาก และหลายครั้งก็ไม่ได้ปรับตัวตามตลาดมากนัก
ความสำเร็จของนักลงทุน VI ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้น ผมอยากเรียกมันว่าเป็น “ปรากฏการณ์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาสูงมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับ VI บางคนแล้ว พวกเขาอาจจะกำไรมากเสียจน “รวยไปเลย” VI บางคนอายุยังน้อยมากและเพิ่งเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไม่กี่ปีแต่กลับมีเงินหลายสิบล้าน บางคนมีหลายร้อยล้านจากการลงทุน บางคนที่เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนมากจากธุรกิจที่บ้านก็กลายเป็นเศรษฐีพันล้าน ได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่แม้จะไม่พูดถึงคนที่รวยเป็นเรื่องเป็นราว นักลงทุน “VI” รายย่อยที่เป็นคนกินเงินเดือนและต้องเก็บเงินจากเงินเดือนมาลงทุน หลาย ๆ คนก็กลายเป็นคนที่มีเงินหลายล้านบาทและรู้สึก “แตกต่าง” จากเพื่อนที่ไม่ได้ลงทุนในตลาดหุ้นอย่างเห็นได้ชัด ข้อสรุปของผมก็คือ นี่คือยุคทองของ VI และผมอยากเรียกมันว่า 10 ปีที่ผ่านมานั้นเป็น “ทศวรรษแห่ง VI”
แต่ยุคแห่งความรุ่งเรืองนั้น วันหนึ่งก็จะต้องผ่านไป ชีวิตที่ได้เงินมามากและง่ายนั้นไม่สามารถดำรงอยู่ได้ตลอดไป เพราะคนใหม่ ๆ ก็จะเข้ามาทำบ้าง และในกระบวนการนั้นก็ทำให้วิธีการหาเงินแบบนั้นไร้ผล ผมไม่รู้ว่า “ทศวรรษแห่งความรุ่งเรืองของ VI” จบสิ้นแล้วหรือยัง เหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ชี้ให้เห็นว่า บางทีการเป็น “VI” แบบไม่ค่อยได้ศึกษาหรือลงแรงอย่างจริงจังนั้นแทนที่จะกำไรอาจจะขาดทุนอย่างหนักได้ แต่ไม่ว่ายุคสมัยจะเป็นอย่างไร VI ก็ยังเป็นแนวคิดและวิธีการที่ดีเสมอตราบที่เราใช้มันอย่างถูกต้อง
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 7:34 pm
โดย MYBIZ
ขอบคุณครับคุณ little wing และท่านดร.นิเวศน์
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 7:35 pm
โดย Luty97
โดนใจแล้วเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้มากๆครับ
![ขอคารวะ :bow:](./images/smilies/icon_bow.gif)
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 7:56 pm
โดย chukieat30
ขอบคุณอาจารย์ครับ
อาจารย์เขียนได้ถูกต้องและแม่นยำมากครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 7:59 pm
โดย Jeng
สงสัย อาจารย์ อ่านเว็บทุกวันแน่ๆ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 8:24 pm
โดย Elunium
โดนจริงๆ เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้เลย
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 8:30 pm
โดย chukieat30
Jeng เขียน:สงสัย อาจารย์ อ่านเว็บทุกวันแน่ๆ
ผมถูกใจตั้งแต่ คุณไวนักลงทุนหนุ่มแล้วครับ
โดนใจเต็มๆๆครับพี่เจ๋ง
![Mr. Green :mrgreen:](./images/smilies/icon_mrgreen.gif)
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 8:57 pm
โดย oatty
อาจารย์อ่านเวบเราอยู่ครับ แต่ระยะหลังท่านบอกว่า ตามอ่านร้อยหุ้นไม่ไหว เนื่องจากมีการใส่เครื่องปรุงเยอะไป เนื้อหาเหลือน้อย ตามอ่านไม่ทัน
ระยะหลังของผมนี่ประมาณสองปีแล้วมั้ง
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 9:31 pm
โดย istyle
จะมีวันที่ตลาดมีประสิทธิภาพเกินไป จน vi ตกงานรึเปล่าครับ
เหมือนที่บัฟเฟตบอกว่าถ้าวันนั้นมาถึงคงต้องไปขอทานแน่ๆ
ทุกวันนี้หาหุ้นถูกและดียากจริงๆ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 9:33 pm
โดย miracle
ที่สังเกตนิดหน่อยว่า
VI ตอนนี้มีคำทดแทนคือ ไวไว ไม่ใช่แบบว่าเห็นคุณค่าจริงๆจัง
มีแบบเก็งกำไรเฉพาะเวลาเข้ามาด้วย
และที่สำคัญคือ พอรู้ว่าไอดอลทำอะไรแล้ว
ขบวนแห่ก็เริ่มทำงานทันที
โดยที่บอกว่า ไอดอลคิดทบทวนหมดแล้วว่ากิจการนี้ดี
ยอดเยี่ยมในระยะยาว แต่ไม่รู้ว่า ไอดอลนั้น ซื้อตั้งแต่เมื่อไร
นั้นคือเกิดการลอกการบ้านแบบไม่ได้ประมวลผล และ คิดไตร่ตรองก่อน
กว่าจะได้ผลนั้น ยากลำบากแค่ไหน
แต่อย่างไงก็ตาม การพิสูจน์ผลงานของคนนั้น พิสูจน์กันที่ผลลัีพธ์ไม่ใช่การประมวลผล
แต่ขาดซึ่งการประมวลแล้วไซร้ ก็ไม่สามารถเดินบนลำแข้งของตัวเองได้
ปล.
ทฤษฏีที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือ ตลาดมีประสิทธิภาพและสามารถรับรู้ข่าวสารได้ดียอดเยี่ยม
แต่ความเป็นจริง มีข่าวสารมา ก็ไม่สามารถรับรู้ได้ทุกคน ทำเกิดการตัดสินใจบนข้อมูลที่มีอยู่
บ้างครั้งอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดอันใหญ่หลวงได้
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 9:50 pm
โดย ziannoom
จากบทความท่าน ดร ผมมีข้อสังเกตอย่าง VI ไม่ใช่พวกถือทน หากราคาเกินมูลค่าก็จะมีการขายออกมาบ้าง ดังนั้นนักลงทุนหน้าใหม่ก็อย่าคิดว่าเค้าเหล่านั้นจะถือหุ้นต่อไปในภายภาคหน้าหลายๆปีล่ะ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 9:52 pm
โดย Alastor
แต่ยุคแห่งความรุ่งเรืองนั้น วันหนึ่งก็จะต้องผ่านไป ชีวิตที่ได้เงินมามากและง่ายนั้นไม่สามารถดำรงอยู่ได้ตลอดไป เพราะคนใหม่ ๆ ก็จะเข้ามาทำบ้าง และในกระบวนการนั้นก็ทำให้วิธีการหาเงินแบบนั้นไร้ผล ผมไม่รู้ว่า “ทศวรรษแห่งความรุ่งเรืองของ VI” จบสิ้นแล้วหรือยัง เหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ชี้ให้เห็นว่า บางทีการเป็น “VI” แบบไม่ค่อยได้ศึกษาหรือลงแรงอย่างจริงจังนั้นแทนที่จะกำไรอาจจะขาดทุนอย่างหนักได้ แต่ไม่ว่ายุคสมัยจะเป็นอย่างไร VI ก็ยังเป็นแนวคิดและวิธีการที่ดีเสมอตราบที่เราใช้มันอย่างถูกต้อง
เป็นการปิดท้ายที่ยอดเยี่ยมมากครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 9:54 pm
โดย proxies
ขอบคุณครับ อินเทรนจริงๆครับ
![Very Happy :D](./images/smilies/icon_biggrin.gif)
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 9:55 pm
โดย harikung
อ.นี่อัพเดตตลอดเลยนะครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 10:42 pm
โดย jo7393
ขอบคุณค้าบบบ
![Smile :)](./images/smilies/icon_smile.gif)
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 11:06 pm
โดย harikung
อ.ท่านคงกินมาม่ามาเยอะจนต้องเขียนเรื่องนี้มั้งครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 11:16 pm
โดย noooon010
ขอบคุณครับ
ชอบประโยคช่วงท้ายเหมือนคุณ Alastor เลยครับ
![Very Happy :D](./images/smilies/icon_biggrin.gif)
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 03, 2011 11:32 pm
โดย dome@perth
-ขอบคุณครับอาจารย์
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 12:18 am
โดย won71
ผมก็ว่าอาจารย์อ่านเวบนี้อยู่แน่เลย และเป็นการเตือนที่ลึกซึ้งดีมากๆ เลยครับ
ผมว่าบทเรียนหลายๆ ครั้ง โดยเฉพาะที่เพิ่งผ่านไปจะช่วยเตือนให้เราศึกษาหาปลาเองมากกว่าจะเล่นวีไอตามกระแส โดยไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจัง ผมเองตอนนี้ก็ต้องเตือนตนเองให้ศึกษาเพิ่มขึ้นอีกมากกก
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 2:47 am
โดย viroj97
ขอบคุณครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 9:18 am
โดย carbondale
ขอบคุณสำหรับบทความคุณค่าครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 9:48 am
โดย 0N0111
บทความของอาจารย์ มองแบบกว้างเสมอครับผมสังเกตุว่า บทความจะมองเป็น 5-10 ปี ไม่มองพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า
เดือนหน้า และนี้ก็คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลในความสำเร็จของท่าน
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 10:08 am
โดย tigerroad197
ขอบคุณมากครับ
สรรพสิ่งมีขึ้นแล้วก็มีลง และหากยังไม่ดับสูญ ก็มีโอกาสขึ้นมาใหม่
ไม่ว่าจะลงทุนแนวไหน ขอให้มีสติ รู้ระลึกตัวเอง ว่าได้ศึกษามาพอหรือยัง ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของวังวนแห่งความโลบครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 10:15 am
โดย Paul VI
แต่ไม่ว่ายุคสมัยจะเป็นอย่างไร VI ก็ยังเป็นแนวคิดและวิธีการที่ดีเสมอตราบที่เราใช้มันอย่างถูกต้อง
ขอบคุณ ดร.นิเวศน์ สำหรับการช่วยเตือนสติ
ขอบคุณ คุณ Little wing ที่เป็นธุระในการเอาบทความดีๆ มาให้เพื่อนๆ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 11:04 am
โดย luangrit
แนวทางไม่ได้ผิดเลยครับ
คนต่างหากที่ทำให้มันวุ่นวายกันอย่างนี้
ขอบคุณ ดร. มากครับ....ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีเมตตาจริงๆ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 11:17 am
โดย torpongpak
ขอบคุณครับ
ผมก็ยังมองว่าVIรุ่นพี่ก็ตามดูMovementของ VI รุ่นน้องอยู่เสมอ ข้อเขียนอ.เลยทันเหตุการณ์ตลอด
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 11:57 am
โดย chukieat30
Paul VI เขียน:แต่ไม่ว่ายุคสมัยจะเป็นอย่างไร VI ก็ยังเป็นแนวคิดและวิธีการที่ดีเสมอตราบที่เราใช้มันอย่างถูกต้อง
ขอบคุณ ดร.นิเวศน์ สำหรับการช่วยเตือนสติ
ขอบคุณ คุณ Little wing ที่เป็นธุระในการเอาบทความดีๆ มาให้เพื่อนๆ
+1 ถูกใจครับพี่พอล
เน้นคำได้ถูกต้องอย่างที่สุด
บางคนอ่านผ่านๆ ก้จะไม่คิดอะไร แต่นัยของคำแฝงความลึกซึ้งครับ
ท่านอาจารย์ นี่มองได้ถูกต้องและแหลมคมเสมอครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 12:21 pm
โดย it
อ่านแล้วเตือนสติได้ดีมากครับ vi ไม่ใช่ ci ไม่ใช่นักเก็งกำไร แต่ใครเข้ามาใหม่ก็จะบอกว่าผมเป็น vi โดยที่ตัวเองยังไม่รู้ว่าจะยึดแนวทางนี้ได้อีกนานเท่าไหร่ หรือใช่แนวทางของเราหรือเปล่า เนื่องจากคนภายนอกมองการลงทุนเหมือนกับการพนัน นักลงทุนใหม่ๆก็ต้องออกตัวแรง ว่าผมเป็น vi ลงทุนในหุ้นคุณค่า แต่พอจิตใจยังไม่แข็งแรง ลงทุนไปไม่รู้ว่าจะได้กำไรเมื่อไหร่ พอราคาขึ้นก็ขายเนื่องจากได้กำไรแน่นอน โดยไม่รู้พื้นฐานและราคาที่ควรจะเป็นจริงในอนาคต เนื่องจากอนาคตไม่รู้ว่าจะได้กำไรจริงหรือเปล่า
ผมก็มือใหม่นะครับ จิตใจก็คิดตามที่เขียน แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามฝึกควบคุมอารมณ์ พยายามมองพื้นฐาน มองคุณค่า ตอนนี้ยังมองไม่ออก ก็ต้องทนถือเงินสดไว้ ถึงราคาหุ้นและตลาดขึ้นลงก็ต้องทน เห็นคนที่เค้าอายุน้อยกว่าประสบความสำเร็จก็อยากจะเริ่มเร็วๆก็ตาม เพราะเข้าไปแล้วไม่รู้ว่าราคาที่เราได้ของมันเป็นราคาที่เหมาะหรือเปล่า ก็เหมือนกับเอาเงินไปเสี่ยง
ขอบคุณที่ได้มาเป็นส่วนร่วมใน thaivi ครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 12:47 pm
โดย aTTo
ขอบคุณ ดร.นิเวศน์ สำหรับบทความที่ยอดเยี่ยม และมุมมองที่เฉียบคมเช่นเคยครับ
Re: ทศวรรษแห่ง VI/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 04, 2011 3:25 pm
โดย medtang
เป็นอีกบทความ ที่ อ. ถึ่งแล้วซึ่ง"ธรรมชาติของการลงทุน" พอรต์ความนับถือของ อ. กำลังโตไม่แพ้พอรต์ลงทุน ขอบคุณ อ. มากครับ