บล.ไทยพาณิชย์ออกบทวิเคราะห์"หุ้นที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 27, 2011 7:43 am
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7576 ข่าวสดรายวัน
เปิดโผหุ้นเด็ด
คอลัมน์ เศรษฐกิจติดดิน
บล.ไทยพาณิชย์
บล.ไทยพาณิชย์ ออกบทวิเคราะห์ "หุ้นที่ได้ประโยชน์และ เสียประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลใหม่" โดยเชื่อว่านโยบายของรัฐบาลใหม่น่าจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ เพื่อชดเชยความเสี่ยงที่อุปสงค์จากภายนอกประเทศจะชะลอตัว และด้วยเหตุนี้จึงคงประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี"54 ของประเทศไทยไว้ที่ 4% แม้ว่าจีดีพีไตรมาส 2 ปี"54 จะเติบโตน้อยกว่าที่คาด
นโยบายรัฐบาลจะส่งผลกระทบสุทธิเป็นบวกต่อกำไรสุทธิปี"55 โดยนโยบายประกอบด้วย 1.ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงจาก 30% เหลือ 23% ในปี"55 และจาก 23% เหลือ 20% ในปี"56 และ 2.ขึ้นค่าแรงและเงินเดือน น่าจะช่วยหนุนกำไรสุทธิในปี"55 ของภาคธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เมื่ออิงกับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในการวิเคราะห์ บล. ไทยพาณิชย์พบว่า กำไรสุทธิปี"55 จะปรับเพิ่มขึ้น 3.9% จากประมาณการกำไรสุทธิกรณีฐานของเราที่ 6.53 แสนล้านบาท
นโยบายลดภาษีจะช่วยหนุนให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6.2% ขณะที่การขึ้นค่าแรงและเงินเดือนจะทำให้กำไรสุทธิลดลง 2.29% กลุ่มธนาคาร พลังงาน พาณิชย์ วัสดุก่อสร้าง สื่อ และนิคมอุตสาหกรรม จะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์โดยสุทธิจากนโยบายลดภาษี
ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อิเล็กทรอ นิกส์ ยานยนต์ ขนส่ง และไอซีที จะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบด้านลบโดยสุทธิ เนื่องจากกลุ่มธุรกิจเหล่านี้พึ่งพาแรงงานคนมากกว่ากลุ่มอื่นๆ และมีอัตราภาษีที่แท้จริงต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ อยู่แล้ว
หุ้นที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก นโยบายรัฐบาลใหม่ในมุมมองของเราคือหุ้นที่กำไรสุทธิในปี"55 จะปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณการปัจจุบันได้อีกมากกว่า 5% ซึ่งก็คือ หุ้นกลุ่มธนาคารทุกตัว (ยกเว้น TMB) หุ้นหลักทรัพย์ทุกตัว ได้แก่ STANLY, SCCC MAKRO BEC MCOT ESSO PTTAR TOP RATCH AOT BECL ADVANC DTAC และ BLA
ส่วนหุ้นที่เสียประโยชน์คือหุ้นที่กำไรสุทธิในปี"55 จะปรับตัวลดลงจากประมาณการปัจจุบันมากกว่า 10% ซึ่งได้แก่ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างทุกตัว AH CCET SIRI และ TRUE
ขณะที่นโยบายเฉพาะที่ดูดีต่อกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง ชิ้นส่วนยานยนต์ และลีสซิ่ง มีนโยบายเฉพาะกลุ่มหลายนโยบายที่น่าสนใจ และจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในระยะยาว เรามองว่านโยบายที่เน้นไปที่การใช้จ่ายอุปโภคบริโภคจะทำสำเร็จได้ง่ายกว่านโยบายอื่นๆ ซึ่งได้แก่ โครงการกู้ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี โครงการลดภาษี 100,000 บาทสำหรับผู้ซื้อรถคันแรก และโครงการการขยายรถไฟฟ้าอีก 10 สาย
http://www.khaosod.co.th/view_news.php? ... B5Tnc9PQ==