วิกฤตที่เกิดจากต่างประเทศ อุตสาหกรรมไหนได้รับผลกระทบที่สุด
โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 27, 2011 1:14 am
เรียนถามพี่ๆ และเพื่อนๆทุกท่าน ที่เคยผ่านวิกฤตมาครับ ว่าจากประสบการณ์ในอดีต แต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นซับไพร์ม แฮมเบอร์เกอร์ และอื่นๆ เมื่อเกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบไปทั่วโลก ในแต่ละครั้งนั้น ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในอุตสาหกรรมไหนมากที่สุดครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า วิกฤตนั้นเป็นโอกาสสำคัญในชีวิตนักลงทุน เพราะวิกฤตแต่ละครั้ง ทำให้ราคาบิดเบือนจากมูลค่าแท้จริงได้มากที่สุด นายตลาดจะเสนอของหวานให้กับคนที่หนักแน่นพอ ถ้าเราลงทุนในช่วงเวลาปกติ เราอาจจะหาบริษัทที่ดีและมีราคาต่ำกว่ามูลค่าได้บ้าง แต่ก็คงน้อย และตัวที่ดีมากจริงๆ ราคาก็อาจจะสมเหตุสมผลไปแล้ว หากจะลงทุนตอนนั้น ระยะยาวบริษัทก็อาจจะเติบโตไปได้ ผลตอบแทนอาจจะดีในระดับหนึ่งได้ แต่เมื่อเกิดวิกฤต ไม่ว่าบริษัทไหนก็ต้องได้รับผลกระทบจากอารมณ์นายตลาด ไม่เว้นแม้แต่บริษัทที่ดีมากๆ โดนมากน้อยก็แล้วแต่
ประเด็นคือ ในฐานะนักลงทุน ทำยังไงเราจะสามารถลงทุนในบริษัทที่ดีมากจริงๆได้ ในราคาที่มันต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงได้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ ซึ่งมันจะต่ำกว่ามากๆได้นั้น เท่าที่ผมมีปัญญาน้อยนิดในช่วงปีกว่าๆ ที่เข้าตลาดมานี้ คิดว่า
1. เมื่อมันมีปัญหาชั่วคราวจากธุรกิจหรือตัวบริษัทหรือจากปัจจัยภายนอกชั่วคราวที่มากระทบ เช่น จากราคาวัตถุดิบ จากนโยบายชั่วคราวที่ผิดพลาด การขาดทุนจากสาเหตุชั่วคราว หรือแม้แต่วัฏจักรของมัน
2. เมื่อเป็นบริษัทเล็กที่มีการเติบโตสูง แต่คนมองข้าม สำหรับบริษัทใหญ่ที่ทั้งแข็งแกร่งและเติบโตนั้น ส่วนใหญ่ราคาจะสมเหตุผลไปแล้ว หรือไม่ก็ราคาเกินเหตุผลไปแล้ว ในช่วงตลาดบูมมากๆ
3. เมื่อเกิดวิกฤตทั่วทั้งตลาด ซึ่งอันนี้ผมคิดว่าจะแรงที่สุด
อย่างบัฟเฟตต์เคยบอกว่า สิ่งดีที่สุดที่เขาทำได้ คือซื้อบริษัทยิ่งใหญ่ ที่เกิดปัญหาชั่วคราว เขาจะซื้อมันเมื่อกำลังได้รับการแก้ไข มันก็ชัดเจนว่า เขามองหาวิกฤตชั่วคราว ที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทที่ดี ที่ทำให้ราคามันต่ำกว่ามูลค่ามากๆ
จริงอยู่ว่าเราลงทุนไม่ต้องสนใจตลาดมาก ดูที่มูลค่าสูงกว่าราคาก็เพียงพอ ผมคิดว่านั่นก็ถูกต้อง แต่ถ้าเรารู้จักถือเงินสดไว้เพียงพอถูกช่วงเวลา อันเนื่องมาจากเราไม่ซื้อง่ายเกินไป เรารอโอกาสใหญ่จริงๆ พอเกิดวิกฤตก็เป็นเวลาช็อปปิ้งของเรา หรือเราอาจขายบางตัวที่โอกาสน้อยเพื่อถือเงินสด ไว้ซื้อตัวที่ดีและมีโอกาสตกแรงกว่าตอนที่เกิดวิกฤต น่าจะเป็นโอกาสที่สำคัญในชีวิตนักลงทุน เป็นโอกาสตีแตก
ผมยังไม่เคยผ่านวิกฤตมา จึงอยากได้ฟังประสบการณ์จากพี่ๆเพื่อนๆว่า แต่ละครั้งที่เคยเกิด อุตสาหกรรมไหนกระทบรุนแรง ราคาตกมากกว่า เหมือนอย่างปู่บัฟเฟตต์เคยขายหุ้นอื่น เพื่อมาซื้อหุ้น walls fargo ซึ่งธนาคารน่าจะได้รับผลกระทบชั่วคราวที่รุนแรงกว่า ขอคำชี้แนะด้วยครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า วิกฤตนั้นเป็นโอกาสสำคัญในชีวิตนักลงทุน เพราะวิกฤตแต่ละครั้ง ทำให้ราคาบิดเบือนจากมูลค่าแท้จริงได้มากที่สุด นายตลาดจะเสนอของหวานให้กับคนที่หนักแน่นพอ ถ้าเราลงทุนในช่วงเวลาปกติ เราอาจจะหาบริษัทที่ดีและมีราคาต่ำกว่ามูลค่าได้บ้าง แต่ก็คงน้อย และตัวที่ดีมากจริงๆ ราคาก็อาจจะสมเหตุสมผลไปแล้ว หากจะลงทุนตอนนั้น ระยะยาวบริษัทก็อาจจะเติบโตไปได้ ผลตอบแทนอาจจะดีในระดับหนึ่งได้ แต่เมื่อเกิดวิกฤต ไม่ว่าบริษัทไหนก็ต้องได้รับผลกระทบจากอารมณ์นายตลาด ไม่เว้นแม้แต่บริษัทที่ดีมากๆ โดนมากน้อยก็แล้วแต่
ประเด็นคือ ในฐานะนักลงทุน ทำยังไงเราจะสามารถลงทุนในบริษัทที่ดีมากจริงๆได้ ในราคาที่มันต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงได้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ ซึ่งมันจะต่ำกว่ามากๆได้นั้น เท่าที่ผมมีปัญญาน้อยนิดในช่วงปีกว่าๆ ที่เข้าตลาดมานี้ คิดว่า
1. เมื่อมันมีปัญหาชั่วคราวจากธุรกิจหรือตัวบริษัทหรือจากปัจจัยภายนอกชั่วคราวที่มากระทบ เช่น จากราคาวัตถุดิบ จากนโยบายชั่วคราวที่ผิดพลาด การขาดทุนจากสาเหตุชั่วคราว หรือแม้แต่วัฏจักรของมัน
2. เมื่อเป็นบริษัทเล็กที่มีการเติบโตสูง แต่คนมองข้าม สำหรับบริษัทใหญ่ที่ทั้งแข็งแกร่งและเติบโตนั้น ส่วนใหญ่ราคาจะสมเหตุผลไปแล้ว หรือไม่ก็ราคาเกินเหตุผลไปแล้ว ในช่วงตลาดบูมมากๆ
3. เมื่อเกิดวิกฤตทั่วทั้งตลาด ซึ่งอันนี้ผมคิดว่าจะแรงที่สุด
อย่างบัฟเฟตต์เคยบอกว่า สิ่งดีที่สุดที่เขาทำได้ คือซื้อบริษัทยิ่งใหญ่ ที่เกิดปัญหาชั่วคราว เขาจะซื้อมันเมื่อกำลังได้รับการแก้ไข มันก็ชัดเจนว่า เขามองหาวิกฤตชั่วคราว ที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทที่ดี ที่ทำให้ราคามันต่ำกว่ามูลค่ามากๆ
จริงอยู่ว่าเราลงทุนไม่ต้องสนใจตลาดมาก ดูที่มูลค่าสูงกว่าราคาก็เพียงพอ ผมคิดว่านั่นก็ถูกต้อง แต่ถ้าเรารู้จักถือเงินสดไว้เพียงพอถูกช่วงเวลา อันเนื่องมาจากเราไม่ซื้อง่ายเกินไป เรารอโอกาสใหญ่จริงๆ พอเกิดวิกฤตก็เป็นเวลาช็อปปิ้งของเรา หรือเราอาจขายบางตัวที่โอกาสน้อยเพื่อถือเงินสด ไว้ซื้อตัวที่ดีและมีโอกาสตกแรงกว่าตอนที่เกิดวิกฤต น่าจะเป็นโอกาสที่สำคัญในชีวิตนักลงทุน เป็นโอกาสตีแตก
ผมยังไม่เคยผ่านวิกฤตมา จึงอยากได้ฟังประสบการณ์จากพี่ๆเพื่อนๆว่า แต่ละครั้งที่เคยเกิด อุตสาหกรรมไหนกระทบรุนแรง ราคาตกมากกว่า เหมือนอย่างปู่บัฟเฟตต์เคยขายหุ้นอื่น เพื่อมาซื้อหุ้น walls fargo ซึ่งธนาคารน่าจะได้รับผลกระทบชั่วคราวที่รุนแรงกว่า ขอคำชี้แนะด้วยครับ