Thai VI

ไม่ได้หมายถึงทุกตัวจะลงตามนะครับ

บางตัวก็บวกสวนให้เห็น ติด top gain ไปเลย

นักลงทุนแนว vi ซื้อ ถือ ไม่ขาย ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยน น่าจะมีสัดส่วนน้อย

ส่วนนักลงทุนที่เน้น ขายก่อน (เสียดาย เพราะคิดว่าขึ้นแน่ๆ) เพราะกลัวมันลงตามตลาด

คงจะคิดว่า ถ้าตัวนี้ไม่ลง ก็ยังมีตัวอื่นตั้งเยอะที่ลง และที่สำคัญ ถือเงินสดไว้ก่อน ปลอดภัย

นี่คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นลง ไปพร้อมๆกัน

ยกเว้นบางตัวที่ผลประกอบการณ์แรงจริงๆ ก็บวกสวน ยกเว้นบางตัวที่ขึ้นแบบไม่มีเหตุผล (เจ้าที่แรง)

หุ้นผมยังอยู่ทุกตัว ไม่หายไปซักหุ้นเดียวครับ แม้ตอนนี้หุ้นบางตัวเริ่มกลายเป็นสีแดง จะลองดูครับ ที่ว่าหุ้นดีๆเดี๋ยวราคามันก็กลับมาได้ มันจะจริงไหม
เงินสดยังเหลือ 50% แต่ตั้งใจไว้ว่าถ้าไม่เกิดcrisisจริง ไม่ซื้อเพิ่มแล้ว กลัวถัวซื้อขาลงไปเรื่อยๆเหมือนกัน บางทีเราก็ต้องอดทนทั้ง 2 ขา ทนไม่ซื้ออะไรและทนไม่ขายอะไรด้วย จนกว่าเหตุการณ์มันจะกระจ่าง

สมมติผมมีหุ้นสองตัว ทุกอย่างดีเท่ากัน ราคาเท่ากัน

ถ้าตัวนึงลง อีกตัวไม่ลง ผมก็ขายตัวที่ยังไม่ลง ไปซื้ออีกตัวสิครับ

เหตุผลก็คงเป็นเพราะ
ราคาหุ้นเป็นไปตาม demand-supply
"ราคาหุ้นระยะสั้นตามอารมณ์ตลาดและข่าว ระยะยาวตามผลประกอบการ"

มีคนขายมากกว่าคนซื้อ หุ้นก็ลงเป็นธรรมดา
แม้ว่า "หุ้นดีๆ" อาจมีชาว vi ถือไม่ขาย แต่มันมีคนอื่นขายเยอะแยะ คนซื้อน้อยกว่า ก็ลงธรรมดา (คนขายก็คงมีวิธีคิดของเขา เช่น อารมณ์ตลาดแบบนี้ถือเงินสดปลอดภัยกว่า, ไม่อยากขายเป็นคนสุดท้าย, ...)
เหตุผลสามัญเกิดขึ้นเสมอกับหุ้นสามัญ

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเพื่อรับมือกลับภาวะวิกฤตศก.โลก(ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้ง)เท่าที่ผมได้เจอมาอยู่ในคลิปที่ผมบังเอิญโชคดีได้ดูมาเลยขอนำมาฝากนะคับ



ปล.บางทีถ้าเกิดวิกฤตศก.ขึ้นอีกครั้ง ตลาดหุ้นบ้านเราอาจจะเหมือนตลาดหุ้นบ้านเขา(dow jonesกลับขึ้นไปได้เรื่อยๆซะงั้น)ตอนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งก็ได้คับ